Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2920 ให้จบที่ข้า
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 2920 ให้จบที่ข้า
ตอนที่ 2920 ให้จบที่ข้า
ในน่านฟ้าที่หก ที่ตั้งของตระกูลเหวินอยู่ใกล้กับแคว้นเทพนภาครามที่ตระกูลเผิงอยู่ที่สุด
ด้วยเหตุนี้จึงได้รับประโยชน์ก่อนใคร ตลอดสิบแปดปีนี้พื้นที่และอิทธิพลที่ตระกูลเผิงเสียไปทั้งหมด ถูกตระกูลเหวินยึดครองมากที่สุด
ยามราตรี
ในเขาเทพเมฆวารีที่ตั้งของตระกูลเหวิน แสงเทียนในโถงใหญ่ส่องสว่าง
เหล่าคนใหญ่คนโตตระกูลเหวินมากมายรวมตัวกันที่นี่ ร่ำสุราอย่างเบิกบาน กินอาหารโอชะสำราญใจ
“พี่ใหญ่ ถ้าไม่ผิดคาด อย่างมากตระกูลเผิงก็ยืนหยัดได้อีกแค่สามปี ช่วงนี้พวกเราตระกูลเหวินต้องเร่งมือสักหน่อย ชิงเขาเทพชะตาสวรรค์มาไว้ในมือ เช่นนี้แคว้นเทพนภาครามในภายหน้าก็จะกลายเป็นพื้นที่ของพวกเราตระกูลเหวิน”
ผู้อาวุโสรองของตระกูลเหวิน เหวินเซียวอิ่นยกจอกพลางหัวเราะลั่น
“เจ้ารอง เจ้าดื่มมากไปแล้ว”
ในฐานะผู้นำตระกูลเหวิน เหวินเทาจิ่งรักษาสติให้แจ่มชัด
เพียงแต่สีหน้าได้ใจเสี้ยวหนึ่งยังคงฉายอยู่ในดวงตาของเขา สิบแปดปีมานี้ แค่กลืนกินอำนาจของตระกูลเผิงก็ทำให้อิทธิพลของพวกเขาตระกูลเหวินเพิ่มขึ้นมาก ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรฝึกปราณมหาศาลที่ยึดมาได้ยิ่งทำให้ตระกูลเหวินเหมือนเสือติดปีก อิทธิพลและพื้นที่ครอบครองขยายกว้างอย่าพลิกฟ้าพลิกดิน
เป็นเช่นที่เหวินเซียวอิ่นว่า ขอเพียงยึดเขาเทพชะตาสวรรค์ของตระกูลเผิงมาได้อีก แคว้นเทพนภาครามทั้งหมดก็จะเป็นใต้หล้าของพวกเขาตระกูลเหวิน!
“ฮ่าๆๆ หลินสวินนั่นคงคิดไม่ถึงสักนิดว่าเพราะเกี่ยวข้องกับเขา ทำให้พวกเราตระกูลเหวินฉวยโอกาสนี้คว้าลาภลอยมาได้” มีคนหัวเราะลั่น
เมื่อพูดถึงหลินสวิน นัยน์ตาผู้นำตระกูลเหวินเทาจิ่งก็เผยแววเยียบเย็น “เจ้าปีศาจนี่ตอนนี้แม้เป็นรองหัวหน้าหอคนหนึ่งในลัทธิแรกกำเนิด แต่เขาก็ล่วงเกินพันธมิตรสงครามสิบตระกูลไปแล้ว วันหน้าเขาต้องประสบเคราะห์และสิ้นชีพแน่!”
หลายปีก่อนตระกูลเหวินก็ผูกแค้นกับหลินสวินแล้ว แต่ระหว่างเคลื่อนไหวจัดการหลินสวินในช่วงนั้นกลับทำให้เสียหายไปมาก
นี่ทำให้พวกเขาแค้นหลินสวินเข้ากระดูก
“ใช่แล้ว เจ้าสวะนี่ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย! พวกเราก็รอฟังข่าวการตายของเขา…”
ตอนที่เหวินเซียวอิ่นกำลังยกจอกยิ้มกล่าว จู่ๆ แสงกระบี่สายหนึ่งก็วาบผ่าน คำพูดที่เหลือของเขาหายลงไปในลำคอทันที ดวงตาทั้งคู่เบิกโพลง
เหล่าคนใหญ่คนโตตระกูลเหวินตกตะลึง ในครรลองสายตารอยเลือดสายหนึ่งปรากฏขึ้นบนคอเหวินเซียวอิ่น จากนั้นรอยเลือดก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนท้ายสุดทั้งศีรษะก็ร่วงลงพื้น น้ำพุเลือดพุ่งขึ้นฟ้า
กระทั่งพลังจิตยังถูกฟันขาด!
“รอฟังข่ายการตายของข้าหรือ ข้าเกรงว่าพวกเจ้าจะรอไม่ไหว”
เสียงเย็นเยียบสายหนึ่งดังมาจากประตู
ยามเสียงนี้ดังขึ้น ทุกคนต่างตกตะลึงไปทันที
ที่นี่เป็นอาณาเขตตระกูลเหวิน การป้องกันแน่นหนา เดิมทีทุกคนกำลังดื่มสุราเบิกบาน จู่ๆ แสงกระบี่ก็วาบขึ้น จากนั้นหัวของเหวินเซียวอิ่นก็หล่นลงมา ภาพนี้เพียงพอให้คนหวาดผวาแล้ว
สาวใช้บางส่วนที่รับใช้อยู่แทบจะกรีดร้องออกมา
เมื่อทุกคนหันไปมอง ก็เห็นนอกประตูทางเข้ามีชายสวมชุดขาวพรจันทร์คนหนึ่งยืนไพล่หลังอยู่ นัยน์ตาลุ่มลึกดุจหุบเหว
คนผู้นี้เป็นใคร!?
ในใจคนส่วนใหญ่ประหลาดใจ
คนที่เคยเห็นหลินสวินจริงๆ ในน่านฟ้าที่หก สุดท้ายแล้วก็เป็นคนส่วนน้อย ต่อให้คนตระกูลเหวินเกลียดหลินสวินเข้ากระดูก แต่ก็ไม่แน่ว่าจะจำหน้าหลินสวินได้
มีเพียงผู้นำตระกูลเหวินเทาจิ่งกับพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าไมกี่คนที่สั่นไปทั้งร่าง ใบหน้าปรากฏสีหน้าหวาดผวาราวเจอผี เผยแววยากจะเชื่อ
“บังอาจ! เจ้าเป็นใครถึงกล้าบุกเข้ามาฆ่าคนตระกูลเหวินของข้า!”
ฮูหยินของเหวินเทาจิ่งก็อยู่เช่นกัน นี่เป็นหญิงที่นิสัยขี้โมโหรูปโฉมงดงาม นางลุกขึ้นมาด่าทอตรงๆ
สมกับเป็นฮูหยินผู้นำตระกูล เจอเหตุน่าตกใจเช่นนี้หน้าก็ยังไม่เปลี่ยนสี กลับยังแสดงความห้าวหาญมองตรงมาที่หลินสวินอย่างเย็นเยียบ
“ทำไมจะไม่กล้า ตระกูลเหวินของเจ้าไม่ใช่ถ้ำเสือวังมังกร ข้าอยากมาก็มา อยากไปก็ไป”
หลินสวินสองมือไพล่หลัง เอ่ยปากเรียบๆ
“เจ้าหนุ่ม เจ้าบุกเข้ามาตระกูลเหวินของข้าอย่างไร้สุ้มเสียง บางทีอาจมีความสามารถไม่เลว เพียงแต่ลำพังเจ้าคนเดียวก็กล้ารังแกตระกูลเหวินของข้า นี่ไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตาย คนไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นต่ำอย่างเจ้าข้าเจอมาเยอะแล้ว จะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง พูดออกมาว่าเป็นใครส่งเจ้ามา พวกเราจะให้โอกาสเจ้าชดใช้ความผิดสักครั้ง”
ฮูหยินผู้นำตระกูลกล่าวเย็นชา
นางใจกล้ามากยิ่งยวด ทั้งเห็นชัดว่าผ่านประสบการณ์มาโชกโชน พบเห็นเรื่องราวมามากมาย ดังนั้นไม่เพียงไม่กลัวสักนิด กลับยังข่มขู่หลินสวินได้ด้วย
“ชดใช้ความผิดหรือ”
ริมฝีปากหลินสวินเหยียดขึ้นเย้ยหยัน “พวกเจ้าตระกูลเหวินคิดจะให้ข้าชดใช้อย่างไร”
ยามเขาพูดคุย เหวินเทาจิ่งและพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าคนอื่นทั้งหมดจำเขาได้แล้ว กลัวจนตัวแข็งทื่อ ใบหน้าขาวซีด บนหน้าผากปรากฏเหงื่อเม็ดใหญ่ ไม่กล้าแสดงความโกรธใดๆ
แต่ก็ยังมีคนบางส่วนที่ไม่รู้จัก ตอนนี้ล้วนสงสัยเช่นกัน สังเกตเห็นว่าสถานการณ์คล้ายมีบางอย่างไม่ชอบกล
อย่างเช่นฮูหยินผู้นำตระกูลก็สังเกตเห็นความผิดปกตินี้แล้ว แต่นางยังคงรักษาความสงบไว้ กล่าวเสียงเย็นว่า “เกรงว่าเจ้าคงยังไม่รู้ว่ารากฐานตระกูลเหวินเราเกรียงไกรแค่ไหน ทั่วน่านฟ้าที่หกพวกเราตระกูลเหวินจัดอยู่ในห้าอันดับแรก คนที่เมื่อก่อนล่วงเกินตระกูลเหวินล้วนไม่มีจุดจบที่ดี…”
แม้นางจะพูดเช่นนี้ แต่น้ำเสียงกลับค่อยๆ แผ่วลง เพราะนางเห็นสีหน้าหวาดหวั่นของเหวินเทาจิ่งกับสัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้น ทั้งยังส่งสัญญาณทางสายตามาให้นางไม่หยุด
เวลานี้นางก็รู้สึกผิดปกติอย่างที่สุดแล้ว
“เหวินเทาจิ่งคาราวะรองหัวหน้าหอหลิน”
เหวินเทาจิ่งระงับความหวาดผวาในใจ ยืดตัวขึ้นอย่างสั่นเทา คารวะไปทางหลินสวิน
รองหัวหน้าหอหลินหรือ
รองหัวหน้าหอหลินไหน
คนบางส่วนยังคงงงงวย
แต่ก็มีคนเข้าใจขึ้นมาทันที ร้องเสียงหลงดังลั่น “เป็นเขา หลินสวินรองหัวหน้าหอแรกนภาของลัทธิแรกกำเนิด!”
หลินสวิน!
คำสั้นๆ สองคำ หนักหน่วงยิ่งยวด กระแทกลงไปในใจทุกคนอย่างรุนแรง พวกเขาลุกขึ้นตามจิตใต้สำนึก ใบหน้าเผยความตกตะลึง มองไปทางหลินสวินอย่างหวาดผวา
“เป็นหลิน… หลิน… หลินสวินคนนั้นหรือ”
สีหน้าฮูหยินผู้นำตระกูลเปลี่ยนไปอย่างยิ่ง ทั้งร่างเหมือนลูกหนังที่ถูกปล่อยลม ฟันสั่นกระทบกัน เบื้องหน้าสายตาดำมืดแทบเป็ฯลม
นี่เป็นถึงพวกตัวร้ายยิ่งยวด!
สี่ตระกูลตงหวงในน่านฟ้าที่เจ็ด ว่ากันว่าล้วนถูกเขาผู้เดียวเหยียบย่ำ!
“เจ้าคือผู้นำตระกูลเหวิน ในใจเจ้ารู้ดีว่าความบาดหมางของข้ากับตระกูลพวกเจ้าไม่อาจคลีคลายได่แล้ว เหตุใดตอนนี้ยังต้องคารวะข้า”
หลินสวินมองเหวินเทาจิ่งที่ค้อมตัวอยู่ตรงนั้นโดยตลอด “หรือว่าเจ้าคิดว่าทำเช่นนี้แล้วจะสามารถช่วยตระกูลเหวินของพวกเจ้าสลายความแค้นบางส่วนได้หรือ”
“ในสายตาข้าคนแซ่เหวิน บุญคุณความแค้นในโลกล้วนลบล้างได้ อย่างเช่นในตอนนี้ ขอเพียงรองหัวหน้าหอหลินต้องการ หากเป็นสิ่งที่ตระกูลเหวินของข้าทำได้ย่อมไม่ขมวดคิ้วสักนิด”
เหวินเทาจิ่งสีหน้าแข็งทื่อ ฝืนแย้มยิ้มออกมาเสี้ยวหนึ่ง
ต่อหน้าคนผู้นี้ที่สามารถทำลายสี่ตระกูลตงหวงได้ เทียบกับสี่ตระกูลหวงแล้ว พวกเขาตระกูลเหวินไม่มีค่าให้มองดูแม้แต่น้อย
“เช่นนั้นหรือ”
หลินสวินคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
ในใจเหวินเทาจิ่งกระตุกวูบ ฝืนข่มความไม่สงบในใจกล่าวว่า “ขอเพียงรองหัวหน้าหอหลินเมตตา ไม่ว่าเรื่องอะไรพวกเราล้วนรับปาก!”
“ปล่อยพวกคนตระกูลเผิงที่พวกเจ้าจับมา” หลินสวินเอ่ยง่ายๆ
เหวินเทาจิ่งถึงค่อยเข้าใจว่าเหตุใดวันนี้หลินสวินถึงมาหาถึงที่ ที่แท้ก็มาเพื่อตระกูลเผิง!
“ขอรับ!” เหวินเทาจิ่งขานรับรวดเร็ว นี่ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่สักนิด
“มอบชีวิตของพวกเจ้ามา” หลินสวินเอ่ยปากอีกครั้ง
เหวินเทาจิ่งตัวแข็งทื่อทันใด เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลเข้าตาแต่เขาไม่กล้าเช็ดแม้แต่น้อย ได้แค่เพียงกล่าวอย่างสั่นเทา “รองหัวหน้าหอหลิน หากท่านต้องการทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเหวินของข้า ข้าล้วนรับปากได้ แต่ถ้าไม่มีชีวิตแล้ว…”
หลินสวินกล่าว “ข้าพูดเรื่องพวกนี้ไม่ใช่จะหารือกับพวกเจ้า ไม่ว่าพวกเจ้าจะตอบรับหรือไม่ วันนี้ทุกคนที่นี่ย่อมไม่มีใครสามารถรอดชีวิตออกไปจากโถงใหญ่นี้ได้”
“หลินสวิน เจ้าอย่ารังแกกันให้มากเกินไป!”
คนผู้หนึ่งตวาดเดือดดาล
ชิ้ง!
น้ำเต้าเขียวที่ห้อยไว้ข้างเอวหลินสวินพุ่งออกมา ปราณกระบี่สายหนึ่งฟันออกไป ตัดหัวคนผู้นั้น ณ เดี๋ยวนั้นจนเลือดไหลนองเต็มพื้น
“รองหัวหน้าหอหลิน ไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ หรือ”
เหวินเทาจิ่งดวงตาแดงก่ำ
“พวกผู้อาวุโสชั้นสูงเล่า เหตุใดไม่ออกมาช่วยเหลือ” ฮูหยินของเหวินเทาจิ่งร้องเสียงแหลม
หลินสวินยิ้มน้อยๆ ทันทีที่โบกแขนเสื้อ ศีรษะอาบเลือดสามหัวก็กลิ้งลงพื้น “เจ้าหมายถึงพวกเขาหรือ ล่วงหน้าพวกเจ้าไปก่อนก้าวหนึ่งแล้ว”
พวกเหวินเทาจิ่งตะลึงไปโดยสมบูรณ์ หัวคนทั้งสามนั่นเป็นสามผู้อาวุโสชั้นสูงของพวกเขาตระกูลเหวินจริงๆ ล้วนเป็นเฒ่าชราระดับอมตะ แต่ตอนนี้ดันถูกฆ่าไปแล้ว!
ชั่วขณะหนึ่งแรงกำลังทั่วร่างพวกเขาคล้ายถูกสูบออก ทรุดลงบนเก้าอี้ทั้งหมดเหมือนเสียหลักยึด
เหวินเทาจิ่งยิ่งมีท่าทางเหมือนวิญญาณหลุดลอย เอ่ยพึมพำ “ฟ้าทำลานตระกูลเหวินของข้า… ฟ้าทำลายตระกูลเหวินของข้า…”
หลินสวินกล่าวด้วยสายตาเย็นชา “ใช่ว่าฟ้าอยากทำลายพวกเจ้า แต่เป็นข้า จำไว้ให้ดี”
ฟุ่บ!
กระบี่เทพสีม่วงสายหนึ่งพุ่งออกมาจากน้ำเต้าเขียว กลายเป็นรุ้งยาวพุ่งทะยานสายหนึ่ง โคจรอึงอลในโถงใหญ่
พริบตาหลังจากนั้นก็ย้อนกลับมาตรงหน้าหลินสวิน
คนตระกูลเหวินทั้งหมดตัวค้างแข็งอยู่ตรงนั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
พรูด!
จากนั้นศีรษะของพวกเหวินเทาจิ่งก็กลิ้งลงพื้นพร้อมกัน น้ำเลือดพุ่งออกจากคอราวกับน้ำพุสีเลือด
เลือดนองราวภาพวาด
ยามหลินสวินเดินออกจากเขาเทพเมฆวารีที่ตระกูลเหวินตั้งอยู่ เพลิงนาดผใหญ่ก็ลุกโชนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว กลืนกินยอดเขานั้นไปสุดสายตา
เผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลเหวินที่ยืนตระหง่านในน่านฟ้าที่หกมาไม่รู้นานเท่าไร ก็ถูกหลินสวินย่ำทำลายลงเช่นนี้
แน่นอนว่าเป็นเหมือนที่ทำกับตระกูลเหยา หลินสวินไม่ได้สังหารหมดสิ้น ฆ่าเพียงพวกรุ่นอาวุโสที่มีปราณระดับบรรพจารย์จักรพรรดิขึ้นไปทั้งหมด และทำลายปราณของระดับจักรพรรดิทั้งหมด
ส่วนสาวใช้และข้ารับใช้ที่ไร้ความผิดเหล่านั้น ต่างหนีเตลิดไปก่อนเขาเทพเมฆวารีจะย่อยยับนานแล้ว
ไกลออกไปหลินสวินเอามือไพล่หลัง มองดูเพลิงยักษ์ที่เผาไหม้รุนแรงนั้น นัยน์ตาดำไร้คลื่นอารมณ์
ไม่นานเขาก็หมุนตัวจากไป
ประตูเขาตระกูลเหวินพังทลาย รากฐานพลังถูกกำจัด ต่อให้ยังเหลือรอดก็ต้องกลายเป็นแพะอ้วนในสายตาขุมอำนาจอื่น
สิ่งที่รอคอยพวกเขาอยู่คือการซ้ำเติมคราวเคราะห์ ตกเป็นอาหารบนจานที่ถูกขุมอำนาจอื่นแบ่งส่วน
มองดูสถานการณ์ตระกูลเผิงในตอนนี้ ก็รู้แล้วว่าตระกูลเหวินที่ล่มจมในวันนี้หมดหวังจะพลิกฟื้นขึ้นมาได้อีก!
การทำลายตระกูลเหวิน สำหรับหลินสวินแล้วเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น
พวกที่ลงมือกับตระกูลเผิงในสิบแปดปีมานี้ไม่ได้มีแค่ตระกูลเหวินเท่านั้น
ลำพังตระกูลเหวินตระกูลเดียว ย่อมไม่มีทางบีบให้ตระกูลเผิงมาถึงจุดนี้ได้ ถึงอย่างไรในปีนั้นตระกูลเผิงก็เป็นขุมอำนาจใหญ่ระดับต้นๆ
‘ในเมื่อเรื่องนี้เกิดเพราะข้า ก็ให้มันจบที่ข้า บัญชีนี้ต้องสะสาง ใครก็หนีไม่พ้น!’
หลินสวินเงยมองไปฟ้ายามค่ำคืนไกลออกไป หยุดเท้าครู่หนึ่งก่อนที่ร่างจะเปลี่ยนเป็นลำแสงสายหนึ่งหายลับไปในขอบฟ้าเวิ้งว้าง
……………………