Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 3029 ไร้ซึ่งศัตรู
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 3029 ไร้ซึ่งศัตรู
ตอนที่ 3029 ไร้ซึ่งศัตรู
จี้เป่ยเฟิง
ขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์ เฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับนิรันดร์ที่ชื่อเสียงเลื่องลือทั่วน่านฟ้าที่เก้า ในสายตาของผู้คนมากมายเขาไม่ต่างอะไรกับเทพไร้เทียมทานในตำนาน
แต่ตอนนี้กลับถูกหลินสวินจับในการโจมตีเดียว!
ไม่ว่าใครที่เห็นภาพนี้ต่างตะลึงยิ่ง หัวสมองว่างเปล่า ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าระดับนิรันดร์คนหนึ่งเหตุใดจึงอ่อนแอขนาดนี้
ยิ่งไม่สามารถจินตนาการได้ว่าหลินสวินจะต้องมีพลังต่อสู้ที่น่ากลัวแค่ไหน จึงสามารถทำได้ถึงขั้นนี้อย่างง่ายดาย
ทุกอย่างล้วนดูน่ากลัวเกินไป!
ปัง!
หลินสวินชูมือขึ้นยัดจี้เป่ยเฟิงที่สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและงุนงงเข้าไปในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง สายตามองไปทางจี้เซียวอวิ๋นที่อยู่ห่างออกไป
จี้เซียวอวิ๋นในตอนนี้หน้าเปลี่ยนสีอย่างสิ้นเชิงแล้ว ยิ่งรู้สึกถึงความเย็นเยียบและหวาดกลัว
ความแข็งแกร่งของหลินสวินทำลายการคาดเดาของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้เขารู้สึกถึงความไม่เข้าทีของสถานการณ์
เกิดความเคลื่อนไหวระดับนี้ เหตุใดจี้เหอกลับไม่ปรากฏตัว
ในใจจี้เซียวอวิ๋นกระวนกระวาย
ไม่มีจี้เหอก็ไม่สามารถควบคุมระเบียบระดับเทพของตระกูลไปสังหารศัตรูได้ และด้วยพลังของเขาย่อมไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของหลินสวินได้!
กลับเห็นหลินสวินพูดอย่างเรียบเฉย “เจ้ารอสมบัตินี้อยู่หรือ”
พูดพลางในมือเขามีบรรทัดหยกสีเขียวมรกตเล่มหนึ่งเพิ่มเข้ามา แผ่กลิ่นอายระเบียบที่แข็งแกร่งหาใดเปรียบ
สีหน้าของจี้เซียวอวิ๋นขาวซีดทันที ร้องลั่นว่า “ต้นกำเนิดระเบียบระดับเทพตระกูลข้า ถูกเจ้าควบคุมได้อย่างไร หรือว่า…”
เขาหนังหัวชาวาบ เดาออกว่าที่จี้เหอไม่ปรากฏตัวเสียทีเป็นไปได้สูงมากว่าจะถูกหลินสวินกำราบไปแล้ว!
ตูม!
ยามจี้เซียวอวิ๋นจิตใจสั่นไหวหลินสวินก็ลงมือแล้ว บรรทัดหยกสีเขียวในมือซัดผ่านห้วงอากาศ แสงเทพสายหนึ่งควบรวมกลายเป็นเมฆอสนีสีเขียวหนาหนัก แผ่กลิ่นอายทำลายล้างฟ้าดิน
พลังต่อสู้ของหลินสวินแข็งแกร่งถึงขั้นเย้ยฟ้าแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยามนี้ที่ใช้พลังของระเบียบระดับเทพ
ชั่วขณะนี้จี้เซียวอวิ๋นสัมผัสถึงภัยคุกคามรุนแรงถึงชีวิต ไม่ลังเลอีกต่อไป สำแดงไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งไม่ยอมใช้มาโดยตลอด
วู้ม!
ไม้ใบเขียวมรกตใบหนึ่งปรากฏกลางอากาศ ใบไม้เดิมทีขนาดประมาณนิ้วมือ แต่ยามปรากฏกลางอากาศพลันขยายขึ้นหลายเท่า เหมือนกลายเป็นโลกสีเขียวแห่งหนึ่ง
และตอนนี้กลางโลกที่แปลงจากใบไม้นี้ปรากฏเงาร่างหนึ่งในชุดเขียว ศีรษะสวมหมวก สง่าราวกับเซียนในเมฆา กลิ่นอายนิรันดร์ที่ละโลกีย์ล่องลอยพลุ่งพล่านรอบตัว
จี้ชิงเฟิง!
ระดับนิรันดร์ขั้นไร้ขอบเขตของตระกูลจี้ เพียงแต่สิ่งที่ปรากฏตอนนี้เป็นรูปจำลองเจตจำนงสายหนึ่งของเขา
เมื่อเขาปรากฏตัวก็กวาดนิ้วออกไป
ตูม!
เมฆอสนีสีเขียวที่กำราบเข้ามาพลันสลายไป
ดวงตาจี้ชิงเฟิงกวาดมองรอบๆ มองไปทางหลินสวิน ในดวงตาเผยความเย็นเยียบน่ากลัว “คิดไม่ถึงว่าเศษเดนคีรีดวงกมลคนหนึ่งกลับบุกมาถึงตระกูลจี้ของข้า ทั้งยังชิงต้นกำเนิดระเบียบตระกูลข้าไป!”
เห็นชัดว่าเขารู้ฐานะของหลินสวิน
ตอนนี้เหล่าผู้แข็งแกร่งที่อยู่ห่างไกลล้วนมองเห็นจี้ชิงเฟิงเช่นกัน แต่ละคนสูดหายใจสะท้าน
หากบอกว่าจี้เป่ยเฟิงเป็นเทพผู้สูงส่งไม่อาจเอื้อมในสายตาผู้คนบนโลก เช่นนั้นขั้นไร้ขอบเขตอย่างจี้ชิงเฟิงก็คือยักษ์ใหญ่ในระดับนิรันดร์ เป็นนายเหนือหัวไร้เทียมทานที่ก้าวสู่จุดสูงสุดของมรรคานิรันดร์!
แม้เขาในตอนนี้เป็นเพียงรูปจำลองเจตจำนง อานุภาพเช่นนั้นก็แข็งแกร่งถึงขั้นสามารถทำให้ขั้นล่วงกฎรู้สึกสิ้นหวังได้
คนตระกูลจี้ต่างฮึกเหิม ความเดือดดาลและความอึมครึมในใจหายเกลี้ยง คนไม่น้อยขอบตาแดงเรื่อ ดีใจจนหลั่น้ำตา มองเห็นความหวังในการพลิกสถานการณ์
“ผู้อาวุโส ขอท่านโปรดลงมือสังหารเดรัจฉานนี่!”
จี้เซียวอวิ๋นประสานหมัดพูด
“ข้าย่อมไม่ให้เจ้าหมอนี่รอดชีวิตได้!”
กลิ่นอายของจี้ชิงเฟิงน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม เพียงยืนอยู่ตรงนั้นก็สะท้อนเงามายาของโลกมากมาย ขับเน้นให้เขาดูเหมือนยอดราชันบนสวรรค์
“จริงหรือ เช่นนั้นข้าก็อยากดูฝีมือสักหน่อย”
หลินสวินเผยสีหน้าดูถูกบางๆ
ตอนนั้นรูปจำลองเจตจำนงของหยางสวินเทียนก็เคยพูดทำนองนี้ แต่สุดท้ายรูปจำลองเจตจำนงของหยางสวินเทียนกลับถูกเขาสังหาร!
“โอม!”
จี้ชิงเฟิงไม่ได้เอ่ยมากความ แขนเสื้อสะบัดโบก
ที่นี่พลันฟ้าพลิกดินคว่ำ มหามรรคปั่นป่วน ราวกับกาลเวลาถูกย้อนทวน ทุกอย่างปรากฏสภาพทรุดทลายดั่งแรกกำเนิด
เพียงแค่พลังของระดับนิรันดร์ขั้นไร้ขอบเขต สามารถทำให้จี้เซียวอวิ๋นหายใจติดขัด หนีไปไกลในทันที ในใจยิ่งตื่นเต้นฮึกเหิม
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หลินสวินจะมีโอกาสลงมือต่อไปได้อย่างไร
ต้องถูกสังหารแน่!
ในฟ้าดินพังทลายดั่งแรกกำเนิด เบื้องหน้าจี้ชิงเฟิงมีเจตกระบี่สี่สายควบรวม แบ่งเป็นสีเขียว สีแดง สีขาวและสีดำ
เจตกระบี่สี่สายโคจรไปตามกระบวนค่ายกลสี่ลักษณ์ แผ่อานุภาพน่ากลัวที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
นี่ควบรวมจากกฎเกณฑ์ขั้นไร้ขอบเขต ไม่ต่างกับกฎระเบียบกระบี่มรรค!
“ไป!”
จี้ชิงเฟิงสะบัดแขนเสื้อ
ชิ้ง!
เจตกระบี่สีเขียวพวยพุ่ง ในเจตกระบี่ไพศาลนั่นเหมือนมีมังกรเขียวถือกำเนิด ยามขดตัวเคลื่อนไหวปั่นป่วนท้องฟ้า บดขยี้หมื่นมรรค
หลินสวินตาเป็นประกาย
จากระบี่นี้เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ปะทะเข้ามา แต่เขาไม่ได้หวาดกลัวกลับยินดี
ครั้งก่อนยามจัดการรูปจำลองเจตจำนงของหยางสวินเทียน ร่างต้นและสี่กายมรรคของเขาโจมตีเต็มกำลังพร้อมกันถึงจัดการอีกฝ่ายได้
เขาในตอนนั้นมีมรรควิถีขั้นล่วงกฎขั้นต้น
แต่ตอนนี้เขามีปราณขั้นล่วงกฎขั้นปลายแล้ว พลังต่อสู้แข็งแกร่งกว่ายามสังหารรูปจำลองเจตจำนงของหยางสวินเทียนหนึ่งเท่ากว่า!
“ไป!”
หลินสวินใช้พลังต่อสู้เต็มกำลังโดยไม่ลังเล ฝ่ามือประสาน เจตกระบี่สายหนึ่งควบรวมระหว่างนิ้ว โฉบพุ่งออกมาโดยพลัน
กระบี่นี้ประทับกฎเกณฑ์นิรันดร์ทั้งหมดของเขา สิ่งที่สั่งสมอยู่คือนัยเร้นลับนิพพาน ยามพุ่งออกมาเหมือนลำแสงเทาหม่นกลุ่มหนึ่ง แต่กลับสะท้อนอานุภาพทำลายล้างทุกสิ่ง แข็งแกร่งไม่อาจต้าน
ปัง!
เจตกระบี่สองสายปะทะกันในอากาศ ราวกับกฎระเบียบนิรันดร์ไร้เทียมทานสองชนิดต่อสู้อย่างดุเดือด เสียงอึงอลน่ากลัวกึกก้อง พลังกฎเกณฑ์ที่พลุ่งพล่านตลบม้วนแผ่ขยายปานภูเขาไฟแสนลูกปะทุ
และภายใต้สายตาตกใจของจี้ชิงเฟิง เจตกระบี่สีเขียวของเขากลับสลายสิ้นภายใต้เสียงระเบิดปึงปังระลอกหนึ่ง!
สีหน้าของเขาเคร่งขรึมลง พลันสะบัดแขนเสื้อ
ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!
เจตกระบี่สีขาว สีแดงและสีดำสามสายทะยานออกไปพร้อมกัน เจตกระบี่สีขาวสะท้อนภาพเสือขาวยักษ์ตัวหนึ่ง เท้าเหยียบฟ้าดารา คำรามกึกก้อง เจตกระบี่สีแดงคือวิหคชาดร่ายรำตัวหนึ่ง กระพือปีกงดงามหลอมหมื่นลักษณ์ทั่วหล้า ส่วนเจตกระบี่สีดำมีเต่าดำตัวหนึ่งพุ่งออกมา ยามเงยหน้าสะบัดหาง ฟ้าดินสั่นไหว มหามรรคล่มสลาย…
เจตกระบี่ชั้นเลิศสามชนิด ล้วนประทับพลังกฎระเบียบ สะท้อนปรากฏการณ์ประหลาดเหนือจินตนาการ
ในเขาเทพตั้งต้นล้วนถูกกลิ่นอายทำลายล้างที่น่ากลัวปกคลุม
ยามสามกระบี่นี้ฟันออกไป ผู้แข็งแกร่งทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ล้วนเจ็บปวดในใจ ภาพตรงหน้าขาวโพลน ทั้งร่างราวกับร่วงหล่นลงเหวลึก เกิดความรู้สึกสิ้นหวังไร้ที่พึ่ง
นี่น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ราวกับนายเหนือหัวบนสวรรค์บันดาลโทสะ หมายจะกวาดล้างโลกมนุษย์!
และในเวลาเดียวกันหลินสวินทะยานขึ้นห้วงอากาศ ไม่ถอยกลับรุก ร่างกายปลดปล่อยแสงเจิดจ้า ส่องสว่างเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน
และพร้อมกับที่เขารวบนิ้วกรีดออกไม่ไม่หยุด
ชิ้งๆๆ!
ปราณกระบี่สายแล้วสายเล่าควบรวมราวกับกระแสน้ำ จากนั้นทะยานผ่านห้วงอากาศออกไปอย่างแน่นขนัด ราวกับฝนห่าใหญ่ที่กระหน่ำใส่อย่างเหิมหาญ ทั้งคล้ายมหาสมุทรซัดสาด
นัยเร้นลับนิพพานที่มหัศจรรย์เร้นลับก็ถูกหลินสวินสำแดงออกมาถึงขั้นที่ไม่มีมาก่อน ผสานเข้าไปในปราณกระบี่ทั้งหมด
ชั่วขณะหนึ่งปราณกระบี่ราวกับพายุฝน โจมตีทั่วหล้า!
ตูม โครมๆ…
ฟ้าดินแถบนี้พังถล่ม เจตกระบี่กับปราณกระบี่เข้าปะทะ ราวกับพลังกฎระเบียบไร้เทียมทานมากมายเข้าประชันดุเดือด ห้วงอากาศทรุดตัว หมื่นลักษณ์พินาศ ทุกอย่างล้วนราวกับจะไม่คงอยู่
และในการประชันดุเดือดน่าตระหนกนี้ เสือขาวหัวขาด วิหคชาดร้องครวญ เต่าดำอาบเลือด… เจตกระบี่ชั้นเลิศสามชนิดล้วนถูกบดขยี้สลายไป!
แม้แต่รูปจำลองเจตจำนงของจี้ชิงเฟิงยังโดนการโจมตีอันน่ากลัว ถูกปราณกระบี่ไร้สิ้นสุดฟันใส่ร่าง ปรากฏรอยกระบี่น่าสยดสยอง
แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นรูปจำลองเจตจำนงของระดับนิรันดร์ขั้นไร้ขอบเขต แม้พบเจอการจู่โจมของปราณกระบี่ทั่วฟ้า ก็ยังแข็งแกร่งอย่างที่สุด ทำลายฝนกระบี่เหล่านั้นทั้งอย่างนั้น ทั้งยังโจมตีเข้าใส่หลินสวิน
ตูม!
รูปจำลองเจตจำนงของเขาเปลี่ยนเป็นสูงใหญ่ขึ้น เดือดดาลอย่างสิ้นเชิงแล้ว ยามลงมือปลดปล่อยอานุภาพยิ่งยงประหนึ่งพลังกฎระเบียบหอบม้วน
หากเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นล่วงกฎคนอื่นคงถูกสังหารไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
แต่หลินสวินไม่หลบไม่หนี เรียกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งออกมาอย่างไม่ลังเล เป็นฝ่ายพุ่งเข้าไปปะทะ
“ฆ่า!”
ทั้งสองต่อสู้อย่างดุเดือดบนห้วงฟ้า สู้จนฟ้าพลิกดินคว่ำ สุริยันจันทราอับแสง
และเมื่อมองอย่างละเอียด ภายใต้สถานการณ์ที่หลินสวินไม่ได้ใช้ร่างแยกมหามรรค กลับได้เปรียบในการต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างที่สุดนี้
ทุกกระบี่ที่เขาฟันออกไปล้วนโจมตีใส่รูปจำลองเจตจำนงของจี้ชิงเฟิงอย่างรุนแรง ส่วนพลังกฎระเบียบที่จี้ชิงเฟิงใช้ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนล้วนถูกกำราบอย่างมั่นคง
ถึงขั้นที่ว่าในสายตาจี้เซียวอวิ๋น รูปจำลองเจตจำนงของจี้ชิงเฟิงที่ถูกเขามองว่าเป็นไพ่ตายช่วยชีวิต กลับถูกอานุภาพของหลินสวินปกคลุมไว้โดยสมบูรณ์!
“เป็นไปได้อย่างไร…”
สีหน้าจี้เซียวอวิ๋นเปลี่ยนไป ตกตะลึงเดือดดาลถึงขีดสุด
ขั้นล่วงกฎคนหนึ่ง กลับเย้ยฟ้าจนสามารถข่มรูปจำลองเจตจำนงของขั้นไร้ขอบเขตได้ นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันอย่างแน่นอน หากกระจายออกไประดับนิรันดร์เหล่านั้นย่อมไม่เชื่อแน่!
“ฆ่า!”
เพียงครู่เดียวเท่านั้นรูปจำลองเจตจำนงของจี้ชิงเฟิงก็เริ่มสู้เต็มกำลังแล้ว สีหน้าคล้ำเขียวน่ากลัว ออกโจมตีโดยไม่สนสิ่งใด ท่าทางเหมือนหมายจะพินาศไปพร้อมกับหลินสวิน
แต่หลินสวินจะให้เขาสมปรารถนาได้อย่างไร
เขาสูดหายใจลึกคราหนึ่ง กายมรรคทั้งสี่พุ่งออกมาพร้อมกัน ร่วมมือกับร่างต้นเข้าล้อม สำแดงฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา
“ตาย!”
หลินสวินกับร่างแยกของเขาส่งเสียงตะโกนพร้อมกัน
ตูม!
รูปจำลองเจตจำนงของจี้ชิงเฟิงโดนการโจมตีที่อันตรายถึงชีวิตทันที ร่างแตกเป็นเสี่ยงๆ ระเบิดออกโดยพลัน กลายเป็นละอองแสงทั่วฟ้า
รูปจำลองเจตจำนงของขั้นไร้ขอบเขตคนหนึ่ง ถูกซัดระเบิดในการปะทะนี้!!
ครั้นหันมองหลินสวินอีกครา กลับไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิด อานุภาพราวกับเทพ
เมื่อเทียบกับความยากลำบากยามสังหารรูปจำลองเจตจำนงของหยางสวินเทียนครั้งก่อน ครั้งนี้เห็นชัดว่าง่ายกว่ามาก หากไม่ใช่เพราะกังวลว่าพลังยามสู้สุดชีวิตของจี้ชิงเฟิงจะเป็นภัยคุกคามเกินไป หลินสวินไม่ต้องใช้ร่างแยกอื่นๆ ก็สามารถซัดรูปจำลองเจตจำนงของเขาให้ระเบิดได้
และตอนนี้ยามได้เห็นภาพนี้ จี้เซียวอวิ๋นที่อยู่ห่างออกไปลูกตาแทบหลุดออกมา ร้องเสียงหลง “ผู้อาวุโส!!”
ในเสียงเผยความตกตะลึง เดือดดาล งุนงง ไม่จำยอม และหวาดกลัว
เขาไม่อาจเชื่อได้ว่ารูปจำลองเจตจำนงของจี้ชิงเฟิงจะถูกทำลายง่ายดายเช่นนี้ และไม่อาจรับทุกสิ่งนี้ได้!
——