Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 3030 เวลาหรือ โชคชะตาหรือ
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 3030 เวลาหรือ โชคชะตาหรือ
ตอนที่ 3030 เวลาหรือ โชคชะตาหรือ
ระเบียบระดับเทพถูกช่วงชิงไป จี้เหอไม่รู้เป็นตาย
จี้เป่ยเฟิงถูกจับเป็น
และตอนนี้รูปจำลองเจตจำนงของจี้ชิงเฟิง ระดับนิรันดร์ขั้นไร้ขอบเขตถูกซัดระเบิด!
แรงโจมตีทั้งหมดนี้ทำให้ระดับนิรันดร์อย่างจี้เซียวอวิ๋นยังรู้สึกพังทลาย
เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร
เป็นไปได้อย่างไร
เผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลจี้ เป็นห้าอันดับแรกในเผ่าเทพนิรันดร์แห่งน่านฟ้าที่เก้า ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมาประหนึ่งเทพผู้สูงส่งมาโดยตลอด มองลงมายังผู้คนเบื้องล่าง
แต่ตอนนี้…
กลับมีความเป็นไปได้ว่าจะล่มสลาย!
และทั้งหมดนี้ล้วนมาจากฝีมือของคนผู้เดียว…
หลินสวิน!
ตอนนี้ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนที่อยู่ห่างออกไปล้วนอึ้งงันอยู่ตรงนั้น จิตวิญญาณหลุดลอย สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและงุนงง
ไม่มีใครคิดว่ารูปจำลองเจตจำนงของของคนเช่นจี้ชิงเฟิงจะถูกทำลายเช่นนี้
และไม่มีใครคิดว่าหลินสวินคนเดียวก็กดข่มทั้งตระกูลจี้ได้แล้ว
นี่เหลือเชื่อเกินไป
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น เพราะที่นี่คือน่านฟ้าที่เก้า เป็นอาณาจักรของเผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูล!
แต่ตอนนี้การปรากฏตัวของหลินสวินกลับเหมือนทำลายการรับรู้ที่ผ่านมา ล้มล้างสถานการณ์ของน่านฟ้าที่เก้าอย่างสิ้นเชิง!
“นี่… นี่จะฟ้าเปลี่ยนหรือ”
ผู้คนไม่รู้เท่าไรประหลาดใจ
“น่ากลัวเกินไปแล้ว บนโลกนี้มีคนเช่นหลินสวินได้อย่างไร…”
ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นตระหนก หลินสวินก้าวเดินกลางอากาศ มองจี้เซียวอวิ๋นที่อยู่ห่างออกไปจากไกลๆ แล้วเอ่ยว่า “วางใจเถอะ ตระกูลจี้จะไม่ถูกฆ่าล้างตระกูลไปเช่นนี้ แต่สิ่งที่ต้องแลกกลับไม่น้อย”
คำพูดของเขาเรียบง่าย ทว่ากลับแทงเข้าไปในใจของจี้เซียวอวิ๋นอย่างรุนแรงปานเหล็กแหลม
“ตระกูลจี้ของข้าไม่มีทางถูกทำลาย!!” ดวงตาของจี้เซียวอวิ๋นเต็มไปด้วยเลือด คำรามออกมา
หลินสวินยิ้มน้อยๆ “ที่เจ้าพูดไม่ผิด คนที่สมควรตายเป็นเพียงคนส่วนหนึ่งของตระกูลจี้”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” จี้เซียวอวิ๋นสีหน้าคล้ำเขียว
“หากข้าบอกว่ามาครั้งนี้เพื่อระบายแค้นให้ผู้อาวุโสซี เจ้าเชื่อหรือไม่” หลินสวินพูด
“ซีหรือ”
จี้เซียวอวิ๋นอึ้งไปก่อน จากนั้นเอ่ยอย่างยากจะเชื่อ “จี้ซีตระกูลข้า!?”
“ไม่ผิด” หลินสวินพยักหน้า “เพื่อผูกสัมพันธ์กับตระกูลไท่เฮ่า เฒ่าชราอย่างพวกเจ้าบีบให้ผู้อาวุโสซีแต่งงาน ต่ำช้าและไร้ยางอายแค่ไหน ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะข้ามาทัน ทั้งชีวิตของผู้อาวุโสซีคงถูกเฒ่าชราอย่างพวกเจ้าทำลาย!”
พูดถึงตอนท้ายในดวงตาลินสวินมีไอสังหารพวยพุ่งแล้ว
จี้เซียวอวิ๋นอึ้งงันอย่างสิ้นเชิง…
เดิมทีเขาคิดว่าหลินสวินมาคราวนี้เพื่อแก้แค้น ใครจะคิดว่านี่กลับเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จี้ซีจะแต่งงาน
“เพราะเหตุนี้เจ้าจึงเปิดฉากเข่นฆ่าครั้งใหญ่ในตระกูลจี้หรือ”
จี้เซียวอวิ๋นพูด
หลินสวินส่ายหน้า “ผิดแล้ว ตระกูลจี้ของพวกเจ้าควรรู้สึกโชคดี หากไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสซี วันนี้ตระกูลเจ้าต้องถูกถอนรากถอนโคน ถูกลบชื่อออกจากโลก”
จี้เซียวอวิ๋นหน้าเปลี่ยนสีไม่สามารถสงบได้ ครู่ใหญ่ถึงพูดอย่างหดหู่ “พูดเช่นนี้ ตระกูลข้ายังต้องขอบคุณเจ้าเช่นนั้นหรือ”
หลินสวินกล่าว “นี่ไม่จำเป็น ขอเพียงเฒ่าชราอย่างพวกเจ้าตาย ก็เป็นเรื่องที่โชคดีที่สุดสำหรับตระกูลจี้ของพวกเจ้าแล้ว”
จี้เซียวอวิ๋นพูดอย่างจิตใจเลื่อนลอย “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้…”
หากหลินสวินมาเพื่อแก้แค้นเท่านั้น เขาย่อมไม่เสียใจภายหลังแน่ แต่ยามรู้ว่าหลินสวินมาเพราะเรื่องของจี้ซี เขากลับไม่อาจไม่เสียใจภายหลัง!
หากรู้ตั้งแต่แรกว่าความสัมพันธ์ของจี้ซีกับหลินสวินดีขนาดนี้ ตระกูลจี้… จะเกิดคราวเคราะห์เช่นนี้ได้อย่างไร
ทั้งใครจะปฏิบัติเช่นนั้นกับจี้ซี
เพียงแต่…
ตอนนี้ไม่ว่าจะเสียใจภายหลังอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว!
“หลินสวิน”
จู่ๆ จี้เซียวอวิ๋นก็เงยมองหลินสวิน สีหน้าสงบผิดปกติ “ครั้งนี้ไม่ว่าเจ้ามาเพื่ออะไร ความแค้นในวันนี้ก็ถูกกำหนดให้ไม่สามารถคลี่คลายได้ อย่าลืมว่าตระกูลจี้ของข้ามีผู้ยิ่งใหญ่มากมายมุ่งหน้าไปแหล่งสถานคุนหลุนนานแล้ว บางทีอาจมีคนโชคร้ายประสบเคราะห์ แต่ก็ต้องมีคนที่ปลอดภัย หากพวกเขารู้เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ทุกอย่างล้วนไม่อาจปรองดองกันได้แล้ว!”
หลินสวินพยักหน้าพูด “ยามข้าเหยียบทำลายตระกูลหยางพวกเขาก็เคยพูดเช่นนี้”
ทำลายตระกูลหยาง!
หลินสวินเผยความจริงเรื่องหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ ทำให้ความยึดมั่นสุดท้ายในใจจี้เซียวอวิ๋นพังทลาย
หากเป็นก่อนต่อสู้จี้เซียวอวิ๋นย่อมไม่เชื่อคำพูดนี้ แต่ตอนนี้… เขาไม่เชื่อไม่ได้แล้ว
แม้แต่พวกเขาตระกูลจี้ยังประสบเคราะห์ใหญ่เช่นนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตระกูลหยางที่เทียบพวกเขาไม่ได้
ชั่วขณะหนึ่งจี้เซียวอวิ๋นเงียบไป
ครู่ใหญ่เขาถึงถอนหายใจยาว “ฝึกปราณมาทั้งชีวิต เดิมคิดว่าเผ่าเทพนิรันดร์อย่างตระกูลจี้ของข้า ค้นหาทั่วหล้า ศัตรูก็มีเพียงเคราะห์แห่งยุคสมัยเท่านั้น ไม่เคยคิดว่าบนโลกนี้กลับมีคนเช่นเจ้าหลินสวิน…”
“ที่น่าขันคือหากไม่ใช่เพราะเคราะห์แห่งยุคสมัย หากไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสเหล่านั้นไปแหล่งสถานคุนหลุนแล้ว ตระกูลจี้ของข้า… จะประสบเคราะห์อย่างวันนี้ได้อย่างไร”
“เวลาหรือ โชคชะตาหรือ”
น้ำเสียงเจือความเปล่าเปลี่ยว โศกเศร้า และขมขื่นดังขึ้นกลางฟ้าดิน
หลินสวินคล้ายสัมผัสถึงบางอย่าง พลันยื่นมือคว้าไปทางจี้เซียวอวิ๋นผ่านห้วงอากาศ แต่กลับช้าไปก้าวหนึ่ง
ก็เห็น…
เงาร่างของจี้เซียวอวิ๋นสลายไปอย่างไร้สุ้มเสียง กลายเป็นละอองแสงพร่างพรม ดับสิ้นถึงขีดสุดกลางห้วงอากาศ
หลินสวินอดเลิกคิ้วไม่ได้
ส่วนผู้คนที่จับตามองจากไกลๆ มาตลอดล้วนอึ้งงัน
จี้เซียวอวิ๋น!
ขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์คนหนึ่งกลับเลือกจบชีวิตตนเองในตอนท้ายสุด ในใจเขาต้องสิ้นหวังเพียงใดถึงได้ทำเช่นนี้
หากมีความหวังในการพลิกสถานการณ์แม้สักเสี้ยว เขาจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร
จี้เซียวอวิ๋นเข้าใจอย่างที่สุดแล้วโดยไม่ต้องสงสัย ว่าการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้เช่นหลินสวิน เขาไม่มีความเป็นไปได้ในการรอดชีวิตเลย
ดังนั้นเขาจึงเลือกจบชีวิตตัวเอง!
บางทีอาจเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีเสี้ยวสุดท้ายของตนยามสิ้นชีพก็เป็นได้
ชั่วขณะหนึ่งฟ้าดินเงียบกริบ
ล้วนตกใจกับภาพนี้ ในใจทุกคนมีความรู้สึกที่พูดไม่ออกกำลังบ่มตัว
แต่เมื่อพอมองดูหลินสวินอีกครั้ง…
ในดวงตา สีหน้า และจิตใจของพวกเขาล้วนแฝงความเคารพและสะท้านสะเทือนที่ไม่สามารถควบคุมได้
วันนี้หลินสวินมาคนเดียว บุกเข้าคฤหาสน์เทพใจกลางเพียงลำพัง เปิกฉากเคราะห์สังหารทั่วฟ้า
พวกแขกสูงศักดิ์จากเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลอื่นๆ ล้วนตายทั้งหมด
ระดับอมตะของตระกูลจี้ต่างประสบเคราะห์พินาศย่อยยับ
แม้แต่คฤหาสน์เทพใจกลางก็ถูกทำลายในชั่วพริบตา!
หากบอกว่าเรื่องพวกนี้ยังไม่สะท้านสะเทือนพอ เช่นนั้นหลังจากจี้เป่ยเฟิงถูกจับเป็น รูปจำลองเจตจำนงของจี้ชิงเฟิงถูกระเบิด จี้เซียวอวิ๋นจบชีวิตตนเอง…
เรื่องเหล่านี้ล้วนสามารถสะเทือนหมื่นกาลได้ ทำให้ทั่วหล้าตะลึง เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่อดีต!
หลินสวิน!
ผู้สืบทอดคีรีดวงกมล หัวหน้าหอของลัทธิแรกกำเนิดคนนี้ ใช้พลังของตนคนเดียวก็เอาชนะเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลจี้ ทำลายสถานการณ์ทั่วหล้า!
……
อาจเพราะมีประสบการณ์จากการทำลายเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยาง หลินสวินจึงไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายกับเรื่องนี้นัก
หลังจากเห็นจี้เซียวอวิ๋นเลือกจบชีวิตตัวเอง ในใจเขาถึงขั้นมีความเสียดายเล็กน้อย
หากจับตัวเฒ่าชรานั่นได้แล้วหลอมด้วยนัยเร้นลับของห้าระเบียบแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ก็น่าจะได้วัตถุดิบนิรันดร์มากมาย…
หลินสวินส่ายหน้าไม่คิดมากอีก
เพราะทั้งหมดนี้ยังไม่ถึงตอนจบอย่างแท้จริง
วู้ม…
หลินสวินยืนอยู่กลางอากาศ เสื้อผ้าโบกสะบัดจนเกิดเสียง เมื่อความคิดขยับไหว บรรทัดหยกสีเขียวทะยานอากาศ พลันกลายเป็นระลอกคลื่นระเบียบแผ่ออกไป
ชั่วขณะนี้ทุกพื้นที่ของเขาเทพตั้งต้น ภาพของทุกมุมล้วนปรากฏในใจหลินสวินอย่างหมดจด
จากเรื่องเล็กมองเห็นภาพรวม จากสถานการณ์โดยรวมมองเห็นรายละเอียดเล็กๆ
เขาเทพตั้งต้นใหญ่โตอย่างยิ่ง ครองพื้นที่ไกลสามหมื่นลี้
แต่ในใจหลินสวินก็เหมือนกระบะทรายที่ขอบเขตประมาณฉื่อกว่า ทุกสิ่งในกระบะทรายเขาเข้าใจกระจ่างแจ้งแล้ว
ด้วยระดับของเขาในตอนนี้ แม้เผชิญกับโลกใหญ่ใบหนึ่ง เพียงแค่อาศัยพลังกฎระเบียบฟ้าดินของโลกใหญ่นั้นก็สามารถมองเห็นทุกสิ่งในโลกได้ในชั่วพริบตาแล้ว!
แน่นอนว่าต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า พลังกฎระเบียบของโลกใหญ่นี้ไม่ได้สะท้อนกลับสัมผัสของเขา
ตอนนี้ในพื้นที่แต่ละส่วนของเขาเทพตั้งต้น คนตระกูลจี้มากมายจิตใจตื่นตระหนก วุ่นวายอลม่านโดยสมบูรณ์
มีหลายคนพยายามหนีออกจากเขาเทพตั้งต้น แต่กลับพบอย่างสิ้นหวังว่าภายใต้การปกคลุมของระเบียบระดับเทพ พวกเขาไม่มีที่ให้หนีไปได้
“ทำอย่างไรดี หรือสวรรค์หมายจะทำลายตระกูลจี้ของเรา”
มีคนร้องอย่างเศร้ารันทด
“สมควรตาย เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร… เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร…”
มีคนสีหน้าตกตื่น
“เจ้าหลินสวินสมควรตายนั่นต้องกรรมตามสนองสักวัน!”
มีคนกัดฟันสาปแช่ง
…แต่ละภาพล้วนถูกหลินสวินมองเห็น
เขาไม่เกรงใจใดๆ ใช้ระเบียบระดับเทพเปิดฉากชำระล้างในเขาเทพตั้งต้น
ก่อนหน้านี้หลินสวินได้รู้เรื่องมากมายจากในความทรงจำของพลังจิตจี้โม่เหลยแล้ว คนที่สังหารตอนนี้ล้วนเป็นพวกผู้แข็งแกร่งตระกูลจี้ที่เป็นปรปักษ์กับผู้นำตระกูลจี้หวังถู
แน่นอนว่าหลินสวินไม่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ เขาเพียงทำลายปราณของผู้ฝึกปราณระดับจักรพรรดิขึ้นไปเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่นาน
คนตระกูลจี้ทั้งหมดที่กระจายอยู่ในเขาเทพตั้งต้นและถูกหลินสวินมองเป็นเป้าหมายล้วนถูกกวาดล้าง
จากนั้นหลินสวินเก็บต้นกำเนิดระเบียบของบรรทัดหยกสีเขียว ขณะกำลังจะกลับที่พักของซีจู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่ง
ครู่ต่อมาเสียงของหลินสวินดังขึ้นกลางฟ้าดิน
“ทุกท่าน คงต้องให้พวกเจ้าลำบากสักระยะ รอพรุ่งนี้หลังขบวนรับเจ้าสาวของตระกูลไท่เฮ่ามาถึง ข้าคนแซ่หลินจะปล่อยพวกเจ้าไป”
แขกที่มาร่วมยินดีในตระกูลจี้ครั้งนี้มีหลายพันคน ต่างตกใจกับภาพนองเลือดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จนขวัญหนีดีฝ่อนานแล้ว จิตใจหวาดหวั่นเหมือนมดในกระทะร้อน ไม่รู้ว่าหลินสวินจะจัดการพวกเขาอย่างไร
ตอนนี้หลังจากได้ยินเสียงของหลินสวิน พวกเขาแต่ละคนประหนึ่งรอดชีวิตหลังประสบเคราะห์ ผ่อนคลายไปทั้งตัวราวกับยกภูเขาออกจากอก
“ที่แท้หัวหน้าหอหลินไม่ได้เหี้ยมโหดเย็นชาอย่างที่โลกภายนอกลือกัน”
“หากฆ่าคนบริสุทธิ์เกรงว่าคงไม่มีทางได้รับการยอมรับจากหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด นี่เรียกว่าทำในสิ่งที่ควรทำ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่ควรทำ ด้วยฐานะของหัวหน้าหอหลินในตอนนี้ จะถือสาคนตัวเล็กๆ อย่างพวกเราได้อย่างไร”
…ทุกคนต่างพูดคุยกัน ในคำพูดมีความเคารพต่อหลินสวินโดยไม่มีปกปิด แม้แต่สัตว์ประหลาดเฒ่าที่มีชีวิตอยู่มาไม่รู้นานเท่าไรบางส่วน ยังเรียกเขาอย่างยกย่องว่า ‘ผู้อาวุโสหลิน’ ‘หัวหน้าหอหลิน’ ‘ใต้เท้าหลิน’…
‘วันนี้ในที่สุดก็นับว่าข้าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว เป็นพยานในเหตุการณ์ใหญ่ที่สามารถสะเทือนหมื่นกาล เล่าขาดหมื่นสมัย!’ เฒ่าชราชุดงูยิ่งตื่นเต้นจนยากจะควบคุม
เขาเป็นคนพาหลินสวินเข้าเขาเทพตั้งต้น ก่อนหน้านี้ยังกังวลว่าจะเดือดร้อนเพราะหลินสวิน
แต่ตอนนี้…
เขากลับรู้สึกถึงความตื่นเต้นอันแปลกประหลาดที่บอกไม่ถูก
……………………