CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 3044 มาถึงกะทันหัน

  1. Home
  2. Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
  3. ตอนที่ 3044 มาถึงกะทันหัน
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 3044 มาถึงกะทันหัน

จี้ป๋อเหวินร่างสูงใหญ่ องอาจดุจภูผา สวมชุดม่วงทั้งตัว เยื้องย่างดุจมังกรพยัคฆ์
เขากุมอำนาจของตระกูลมาในกาลเวลาไร้สิ้นสุด ตนเองยังเป็นระดับนิรันดร์ขั้นล่วงกฎขั้นปลายคนหนึ่ง
ส่วนคนที่ตามมาข้างกายจี้ป๋อเหวิน ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตของตระกูลจี้ ในจำนวนนั้นก็มีผู้อาวุโสขั้นล่วงกฎสองคน
ทั้งตระกูลจี้ถึงตอนนี้มีขั้นสรรสร้างสี่คน ขั้นล่วงกฎสิบสองคน!
ในบรรดาร้อยกว่าอารยธรรมยุคสมัยในแหล่งสถานศุภโชค รากฐานพลังระดับนี้สามารถก้าวขึ้นเป็นสามอันดับแรกอย่างมั่นคง
ราตรีดั่งสีหมึก
จี้ป๋อเหวินยืนนิ่งอยู่หน้าเสาหินสีดำสองต้นนั้น สายตาพิจารณาหลินฝานกับซูไป๋ที่ถูก ‘โซ่กักเทพ’ พันธนาการอยู่ กล่าวเสียงเบาทอดถอนใจ “คนหนึ่งมีสายเลือดหุบเหวกลืนกิน สามารถสืบทอดมรดกวิชาของจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ได้ อีกคนมีกระดูกกระบี่แห่งยุค พรสวรรค์ของคนหนุ่มสองคนนี้ล้วนโดดเด่นไม่น้อยกว่าคนรุ่นเดียวกันในตระกูลเรา”
พวกคนใหญ่คนโตที่อยู่ข้างกายก็กำลังสังเกตหลินฝานกับซูไป๋ที่กำลังสลบไสลไม่ได้สติเช่นกัน สายตากำเริบเสิบสานราวกับสำรวจเหยื่อ
“ผู้นำตระกูลพาพวกเรามากลางดึก คงไม่ใช่เพื่อวิจารณ์พรสวรรค์ของเจ้าตัวจ้อยสองคนนี้กระมัง” มีคนกล่าวยิ้มๆ
คนผู้นี้สวมชุดเขียว หนวดเคราโบกพลิ้ว มีนามว่าจี้ฉางซาน เป็นขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์คนหนึ่ง
“แน่นอนว่าไม่ใช่”
จี้ป๋อเหวินยิ้ม “มีตัวประกันสองคนนี้ในมือ รวมกับฝีมือของผู้อาวุโสกุยเจิน ย่อมพาหลินสวินนั่นมาอาณาเขตของพวกเราได้”
เขาเว้นช่วงไปแล้วกล่าวต่อ “ส่วนที่พาทุกท่านมายามนี้เพราะมีเรื่องหนึ่งต้องทำ”
“เชิญผู้นำตระกูลชี้แจง” จี้ฉางซานกล่าว
จี้ป๋อเหวินแววตาวาบวาว “เมื่อวานเฒ่าชราบางส่วนของตระกูลเกาหยางและตระกูลเจียงพากันมาเยือน เพื่อแบ่งศุภโชคบนร่างหลินสวินกับพวกเรา นัยเร้นลับที่ควบคุมเมืองเทพศุภโชคอาจจะแบ่งได้ ทว่าเรือนิรันดร์กลับมีเพียงชิ้นเดียว”
นัยน์ตาพวกคนใหญ่คนโตพลันเปลี่ยนเป็นลุ่มลึก
“ผู้นำตระกูลคิดจะเตรียมการบางอย่างล่วงหน้าหรือ”
หญิงชราผมเงินทั้งศีรษะ ท่าทางกระฉับกระเฉงคนหนึ่งเอ่ยปาก นางมีนามว่าจี้ฉางอวิ๋น มีมรรควิถีขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์
“ไม่ผิด”
สายตาจี้ป๋อเหวินมองไปทางหลินฝาน “บนร่างเด็กนี่มีพรสวรรค์หุบเหวกลืนกิน ทุกท่านล้วนรู้ชัด ในข่าวลือมีเพียงพลังพรสวรรค์เช่นนี้ถึงจะควบคุมนัยเร้นลับทั้งหมดในเรือนิรันดร์ได้”
“ข้าเข้าใจแล้ว ผู้อาวุโสคิดจะชิงพลังพรสวรรค์บนร่างเจ้านี่มา ก่อนที่กำลังพลของตระกูลเกาหยางและตระกูลเจียงจะมาถึง”
จี้ฉางอวิ๋นเอ่ยหัวเราะเบาๆ “เช่นนี้ดียิ่ง เช่นนี้ดียิ่งแล้ว”
นางใบหน้านางเมตตา แต่รอยยิ้มนั่นกลับเต็มไปด้วยความน่าสะพรึงชัดเจนภายใต้แสงโคมไฟ
คนอื่นๆ เองก็หัวเราะออกมาเช่นกัน เข้าใจในทันที
“เอากระดูกกระบี่บนร่างเจ้าหมอนี่มาด้วยเสียเลย”
สายตาจี้ฉางซานมองไปทางซูไป๋ เจือแววร้อนแรง “ต่อให้พรสวรรค์ของเหลนข้าคนนั้นจะแข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็เทียบกับกระดูกกระบี่ฟ้าประทานนี่ไม่ได้ หากมีพรสวรรค์เช่นนี้ ไม่เกินหมื่นปี เหลนคนนั้นของข้าต้องครอบครองโอกาสทะลวงระดับนิรันดร์แน่”
“ถ้าตระกูลเกาหยางกับตระกูลเจียงสังเกตเห็นเรื่องนี้แล้วไม่พอใจจะทำอย่างไร”
มีคนกล่าวอย่างลังเล
จี้ป๋อเหวินสีหน้าเรียเฉยกล่าว “ครั้งนี้ใต้เท้าผู้อยู่เบื้องหลังเคราะห์แห่งยุคสมัยผู้นั้นเลือกพวกเราตระกูลจี้เป็น ‘ทูต’ ทั้งมอบรูปปั้นไท่ชูให้ตระกูลจี้ของพวกเรา ต่อให้พวกเขาไม่พอใจก็ทำได้เพียงข่มเอาไว้เท่านั้น”
พวกคนอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
“ทุกท่าน ตั้งแต่อดีตพวกเราตระกูลจี้ต้องผ่านภัยพิบัติมาไม่รู้เท่าไรและอยู่รอดมาถึงปัจจุบัน และตอนนี้โอกาสเปลี่ยนโชคชะตาของตระกูลเราอยู่ตรงหน้า! ขอแค่คว้าไว้ได้ ภายหน้าพวกเราตระกูลจี้อาจจะไม่ต้องถูกพันธนาการในแหล่งสถานศุภโชคนี้อีกต่อไป!”
แววตาจี้ป๋อเหวินวาววาม
คำพูดนี้ล้วนทำให้ความรู้สึกของคนอื่นๆ ปั่นป่วน
ไม่ว่าจะเป็นเรือนิรันดร์หรือนัยเร้นลับควบคุมเมืองเทพศุภโชค ล้วนเรียกได้ว่าเป็นศุภโชคชั้นเลิศ แต่เมื่อเทียบกับโอกาสในการเปลี่ยนโชคชะตาของตระกูลพวกเขา กลับล้วนไม่สำคัญ
ครั้งนี้ขอเพียงพวกเขาทำตามคำสั่งของนายเหนือหัวหลังม่านเคราะห์แห่งยุคสมัยผู้นั้นได้สำเร็จ ตระกูลจี้ของพวกเขาก็ไม่ต้องถูกพันธนาการในแหล่งสถานศุภโชคอีก และสามารถเดินออกจากโลกยุคทวยเทพนี้ได้อย่างแท้จริง!
นี่จึงจะเป็นสิ่งที่พวกเขาเฝ้าฝันที่สุด!
เมื่อสงบจิตใจลงแล้ว สายตาจี้ป๋อเหวินมองไปทางหลินฝานอีกครั้ง “ผู้อาวุโสฉางอวิ๋น ขอเชิญท่านลงมือด้วย นำพรสวรรค์หุบเหวกลืนกินบนร่างเจ้านี่ออกมา”
จี้ฉางอวิ๋นที่คล่องแคล่วกระปรี้กระเปร่ายิ้มตอบรับ พุ่งไปข้างหน้าโดยไลนแล้วยื่นแขนขวาออกมา นิ้วทั้งห้าที่คมกริบผอมบางดุจกรงเล็บไก่ปักเข้าไปในทรวงอกของหลินฝานโดยพลัน
พรูด!
หลุมโลหิตหลุมหนึ่งปรากฏ เลือดสดๆ สาดกระจาย หลินฝานที่สลบอยู่พลันร้องครวญเจ็บปวด ได้สติขึ้นมาแล้ว
เขามองไปยังเหล่าคนที่อยู่ไกลๆ จากนั้นก้มมองมือที่แทงเข้าหน้าอกตน ใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนเป็นซีดขาวแล้ว เหงื่อเย็นไหลผุดเต็มหน้าผาก
ความเจ็บปวดรุนแรงประหนึ่งอกแหวกทรมานจิตใจเขาไม่หยุด ทว่าภายใต้ความทรมานอันโหดร้ายและนองเลือดเช่นนี้ สีหน้าเขากลับยังสงบหาใดเปรียบเช่นเดิม
“เด็กดี เจ็บแค่ครู่เดียว รอข้าตัดพลังพรสวรรค์ของเจ้าออกมาเรียบร้อยก็จะช่วยรักษาบาดแผลของเจ้า”
จี้ฉางอวิ๋นหน้าตามีเมตตา ยิ้มแย้มบางๆ น้ำเสียงเองก็อบอุ่นยิ่ง
เพียงแต่การกระทำที่มือของนางกลับเรียกได้ว่าโหดเหี้ยม นิ้วมือปักเข้าไปในหน้าอกหลินฝาน ห้านิ้วปลดปล่อยพลังนิรันดร์อหังการ ทำการตัดแยกชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดของหลินฝาน
เลือดสดคล้ายน้ำตกไหลนองออกมาไม่หยุด
“เจ้าเฒ่า มีฝีมืออะไรก็สำแดงออกมาให้หมดเป็นพอ”
เสียงหลินฝานแหบแห้ง กัดฟันอย่างเอาเป็นเอาตาย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นเย็นชา “ครั้งนี้ขอเพียงข้าหลินฝานไม่ตาย วันหน้าต้องมาฆ่าพวกเจ้าทุกคน!!”
“เหอะๆ ทุกท่านดูเอาเถิด เดรัจฉานน้อยนี่ยังข่มขู่พวกเราด้วย” จี้ฉางซานที่อยู่ไกลๆ อดขำขึ้นมาไม่ได้
คนอื่นๆ เองก็ล้วนหัวเราะเช่นกัน
การข่มขู่ของผู้อ่อนแอ แต่ไหนแต่ไรล้วนเป็นเสียงร้องแห่งความสิ้นหวังก็เท่านั้น
คนโง่เท่านั้นถึงจะใส่ใจ
“เกรงว่าเด็กน้อยนี่จะไม่รู้ว่าบิดาของเขาก็ประสบเคราะห์ไปแล้วเช่นกัน โลกหล้านี้ใครจะยังช่วยเขาได้อีก”
มีคนกล่าวเนิบๆ
“อะไรนะ ท่านพ่อก็ประสบเคราะห์ไปแล้ว” ในใจหลินฝานพลันสะท้าน หน้าเปลี่ยนสีแล้ว
เขาที่แม้จะเจ็บปวดและทรมานเพียงใดก็ยังไม่ขมวดคิ้ว กลับไม่อาจไม่สนใจความเป็นความตายของบิดาตนได้ “คงไม่ใช่เป็นพวกเจ้าทำร้ายท่านพ่อข้ากระมัง… ต้องเป็นเช่นนี้แน่ พวกเจ้าจับข้าไม่ใช่เพื่อจะจัดการกับท่านพ่อหรือ”
ชั่วขณะหนึ่งนัยน์ตาหลินฝานเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าหล่อเหลาล้วนเปลี่ยนเป็นดุดันหาใดเปรียบ ตะโกนลั่น “ท่านพ่อข้าไม่มีทางประสบเคราะห์แน่นอน!!!”
เสียงตะโกนนั้นราวกับเสียงคำรามของสัตว์ป่า เต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว
เพียงแต่สิ่งที่ได้มากลับเป็นเสียงหัวเราะเฉยชาระลอกหนึ่ง ไม่มีใครใส่ใจเรื่องนี้
ที่นี่คือที่ไหน
เขตแดนมหาวัฏจักรของโลกยุคทวยเทพ!
เป็นเขาเทพเฟิ่งฉีที่อยู่ของพวกเขาตระกูลจี้!
อย่าว่าแต่หลินสวิน หากเปลี่ยนเป็นระดับนิรันดร์คนอื่นก็ไม่ต่างอะไรกับมารนหาที่ตาย
“อืม ช่างเถอะ ให้ข้าเอากระดูกกระบี่ของเจ้านี่ไปแล้วกัน” จี้ฉางซานทนไม่ไหวอีกต่อไป พุ่งตัวมาเบื้องหน้าซูไป๋แล้วกรีดนิ้ววาดลงไปเบาๆ
ซูไป๋พลันถูกผ่าท้อง!
ซ่า…
เลือดสดๆ ไหลทะลักปานน้ำตก ภายใต้ความเจ็บปวดรุนแรง ซูไป๋ก็ได้สติขึ้นมาเช่นกัน เขามองจี้ฉางซานที่อยู่ตรงหน้ากับพวกจี้ป๋อเหวินที่อยู่ไกลออกไปก็พลันเข้าใจสถานการณ์ของตนแล้ว บนใบหน้าเย็นชาเต็มไปด้วยไอสังหาร
ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่ปริปากสักคำ ทว่าความเย็นเยียบในแววตากลับทำให้ระดับนิรันดร์ยังล้วนรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง
“มองอะไร ถ้ามองอีกข้าจะควักลูกตาเจ้า!”
เพียะ!
จี้ฉางซานอับอายจนพาลโกรธ ฟาดฝ่ามือใส่หน้าซูไป๋ทันที
การตบที่ปวดแสบปวดร้อนนั่นยังไม่อาจสร้างคลื่นอารมณ์ใดๆ ให้ซูไป๋ได้ เขาจ้องจี้ฉางซาน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเฉยเมย
“ศิษย์พี่ซูไป๋ คิดไม่ถึงว่าท่านก็ถูกสารเลวพวกนี้จับมาด้วย…”
เสียงแหบแห้งของหลินฝานดังมาจากด้านข้าง
ซูไป๋สะท้านไปทั้งร่าง มองไปยังหลินฝานที่อยู่ด้านข้างและถูกพันธนาการบนเสาหินสีดำเหมือนตนอย่างยากจะเชื่อ สีหน้าที่เดิมทีเย็นชาไร้คลื่นอารมณ์ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง “หลินฝาน เป็นเจ้าได้อย่างไร!”
สิ่งที่เขามองเห็นคือหน้าอกของหลินฝานถูกฝ่ามือจี้ฉางอวิ๋นแทงทะลุ เลือดไหลลงมาไม่หยุด ภาพเหี้ยมโหดนองเลือดนั่นกระตุ้นจนเขาเดือดดาล ตวาดลั่น “ปล่อยเขาไป แล้วข้าจะให้พวกเจ้าจัดการได้ตามใจ!”
ในน้ำเสียงเผยแววร้อนรน
เขาไม่กลัวตาย แต่กลับไม่อาจมองดูลูกของอาจารย์ถูกทรมานจนกลายเป็นเช่นนี้ได้ตาปริบๆ
“เหอะๆ เจ้านับเป็ฯตัวอะไร เทียบกับเด็กนี่ได้หรือ”
จี้ฉางซานเหยียดหยาม
“ศิษย์พี่ซูไป๋ อย่าพูดไร้สาระกับเดรัจฉานเฒ่าพวกนี้เลย พวกเขาไม่กล้าสู้กับท่านพ่อข้าซึ่งๆ หน้า ทำได้แค่ใช้อุบายต่ำช้าไร้ยางอายเช่นนี้มาทรมานพวกเรา”
เสียงหลินฝานแหบพร่า ทั่วร่างสั่นเทิ้มรุนแรง เขารู้สึกว่าชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดกำลังถูกตัดชิงไปทีละนิด ความเจ็บปวดเสียดแทงใจนั่นทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นซีดเผือดหาใดเปรียบ
จี้ป๋อเหวินส่งเสียงหยันเย็นชา “ปิดปากพวกเขาซะ จะได้ไม่ระคายหูพวกเรา”
“ดี”
จี้ฉางอวิ๋นกับจี้ฉางซานต่างยิ้มขานรับ
ก้เป็นตอนนี้…
ไอสังหารเย็นเยียบเสียดกระดูกราวกับคมดาบอุบัติขึ้น ทำเอาจี้ฉางอวิ๋นกับจี้ฉางซานแข็งทื่อไปทั้งร่าง สีหน้าล้วนเปลี่ยนไป
ที่นี่เป็นเขตผนึกของตระกูลจี้ของพวกเขา จี้ฉางอวิ๋นและจี้ฉางซานจึงไม่ได้ระแวดระวังใดๆ เห็นได้ชัดว่าผ่อนคลายยิ่ง
ใครจะคิดว่าจะเกิดอันตรายขึ้นในบ้านของตนได้
ทว่าไอสังหารนี้มาอย่างรวดเร็ว คล้ายว่าปรากฏขึ้นกลางอากาศ พริบตาเดียวก็จับจ้องมาที่พวกเขา!
แย่แล้ว!
เฒ่าดึกดำบรรพ์ขั้นล่วงกฎสองคนนี้หลบหนีด้วยพลังทั้งหมดอย่างแทบจะเป็นไปตามสัญชาตญาณ ความเร็วของการตอบสนองเรียกได้ว่าน่าตกตะลึง
ตูม!
ในตอนที่ร่างพวกเขาออกไปจากจุดเดิม เงาร่างสองสายก็แยกกันปรากฏอยู่เบื้องหน้าหลินฝานกับซูไป๋แล้ว
ย่อมเป็นร่างต้นและกายมรรคไม้เขียวของหลินสวิน
เหตุการณ์กะทันหันนี้ทำให้พวกจี้ป๋อเหวินทั้งหมดล้วนไม่ทันตั้งตัว แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสี
“เป็นไปได้อย่างไร”
“สมควรตาย! มีคนบุกเข้ามาได้อย่างไร”
“นี่…”
ในที่นั้นล้วนลนลาน พวกจี้ป๋อเหวินต่างรับมือไม่ทันอยู่บ้าง
ที่นี่คือเขาเทพเฟิ่งฉี
เป็นเขตผนึกของตระกูลพวกเขา!
ปกคลุมด้วยพลังระเบียบระดับเทพไม่ใช่แค่หนึ่งชนิด ใครจะกล้าจินตนาการว่าภายใต้ความมืดยามราตรีเช่นนี้กลับมีคนลอบเข้ามาอย่างไร้สุ้มเสียง ทั้งยังบุกเข้ามาอย่างไม่คาดคิดเช่นนี้
นี่กะทันหันเกินไป ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึง ถึงขั้นล้วนตกตะลึง
“ท่านพ่อ!”
“อาจารย์!”
และในเวลาเดียวกันนี้ หลินฝานกับซูไป๋เบิกตาโต มองเงาร่างสูงสง่าที่คุ้นเคยนั้นซึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าอย่างยากจะเชื่อ รู้สึกประหนึ่งเหมือนฝันไป
……………………..

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 3044 มาถึงกะทันหัน"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์