Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 3111 ยกภูเขา
- Home
- Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
- ตอนที่ 3111 ยกภูเขา
ตอนที่ 3111 ยกภูเขา
สี่วันก่อน หลินสวินฆ่ากู่เชาจือและสังหารจอมมารหูยงที่หน้าด่านนภาสี่ลักษณ์แห่งนี้
ในวันนั้นข่าวแพร่กระจาย เรียกคลื่นลมลูกใหญ่ขึ้นในโลกบัวชะตา
และวันนี้ในอีกสี่วันต่อมา หลินสวินมาปรากฏตัวหน้าด่านนภาสี่ลักษณ์อีกครั้งพร้อมกับพวกสิงเจี้ยนสยา นี่ไม่อยากเรียกเสียงฮือฮายังยาก
“สิงเจี้ยนสยา ครั้งนี้พวกเจ้ามาอีกทำไมกัน”
มีคนอดถามไม่ได้
สิงเจี้ยนสยากล่าวด้วยรอยยิ้มชอบใจ “แน่นอนว่าต้องมาท้าทาย”
ในที่นี้โกลาหลอีกระลอก
คนเมื่อครู่เอ่ยถามอีกครั้ง “หรือว่า… เจ้าหลินสวินนี่ยังจะตัดสินเป็นตายอีกหรือ”
“ฮ่าๆ พวกอิงเทียนเซิงล้วนป้องกันไว้หมดแล้ว เลือกตัดสินเป็นตายในเวลานี้จะไม่โง่เกินไปหน่อยหรือ”
สิงเจี้ยนสยากล่าว สายตามองด่านนภาสี่ลักษณ์แล้วเอ่ยปากราบเรียบ “ในครั้งนี้ย่อมเป็นตัดสินแพ้ชนะ”
ตัดสินแพ้ชนะ!
เมื่อได้ยินคำนี้คนไม่น้อยล้วนลอบถอนหายใจโล่งอก
“ตัดสินแพ้ชนะหรือ ฮ่าๆ…”
บนด่านนภาสี่ลักษณ์มีคนหัวเราะเย็นชา
หากเลือกตัดสินเป็นตาย ผู้ชนะสามครั้งรวดก็สามารถชิงอำนาจปกครองด่านนภาได้
อย่างคราวก่อนหากหลินสวินชนะอีกครั้งก็จะสามารถยึดครองด่านนภาสี่ลักษณ์ กลายเป็นเจ้าของด่านนี้ได้
แต่หากตัดสินแพ้ชนะ จำเป็นต้องชนะหกครั้งติดจึงจะสามารถยึดด่านได้
อีกทั้งตัดสินแพ้ชนะไม่ตัดสินเป็นตาย ย่อมหมายความว่าไม่มีการตายเกิดขึ้น
ฉะนั้นเมื่อรู้จุดประสงค์การมาของพวกหลินสวิน ในใจพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าบนด่านนภาสี่ลักษณ์เหล่านั้นจึงสงบลงมาก ผ่อนคลายไม่น้อย
ทว่าสิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ พวกหลินสวินมาครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อชิงด่านนภาสี่ลักษณ์สักนิด
“สิงเจี้ยนสยา เจ้ารู้หรือไม่ว่าในโลกบัวชะตาตอนนี้มีคนอยากฆ่าเจ้าหลินสวินนี่มากขนาดไหน”
จู่ๆ อิงเทียนเซิงเอ่ยปาก
สิงเจี้ยนสยากล่าวง่ายๆ “หากข้าเดาไม่ผิดย่อมมีไม่น้อยแน่”
อิงเทียนเซิงเอ่ยด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “แล้วเหตุใดเจ้ายังพาเจ้าหมอนี่มาปรากฏตัวที่นี่อย่างเปิดเผยอีก ไม่กลัวถูกศัตรูบางส่วนทะยานมาจับพวกเจ้าทั้งหมดหรือ”
สิงเจี้ยนสยาหัวเราะ “ถ้ากลัวพวกข้าคงไม่ปรากฏตัวหน้าด่านนภาสี่ลักษณ์แห่งนี้หรอก”
อิงเทียนเซิงแค่นเสียงเย็น “เช่นนั้นข้าก็อยากเห็นจริงๆ ว่ายามอันตรายปรากฏ พวกเจ้าจะแก้ไขอย่างไร!”
หลินสวินก้าวขึ้นหน้างพลางกล่าวเรียบๆ “อิงเทียนเซิง กล้าตัดสินแพ้ชนะกับข้าหรือไม่”
ทั่วลานอึ้งค้าง ใครต่างไม่คาดคิดว่าหลินสวินจะระบุชื่อตรงๆ เริ่มมาก็ท้าทายอิงเทียนเซิงทันที!
อิงเทียนเซิงโมโหจนหัวเราะ “เจ้าหนุ่ม อยากท้าทายข้าหรือ เจ้ายังขาดคุณสมบัติอยู่”
หลินสวินยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ช่างเถอะ ในเมื่อเจ้าตั้งใจเป็นเต่าหดหัวไม่ยอมออกมา เปลี่ยนให้คนอื่นลงสนามก็ได้ ไม่ว่าคู่ต่อสู้เป็นใครข้าล้วนไม่มีความเห็น”
กล่าวพลาวเงาร่างเขาลอยตัวขึ้นไป หนึ่งหมัดเคาะบนป้ายศิลามหามรรค ‘ตัดสินแพ้ชนะ’ ที่อยู่ฝั่งขวาประตูใหญ่ด่านนภาสี่ลักษณ์ผ่านอากาศ
วู้ม!
ละอองแสงพลังกฎระเบียบแปลกประหลาดระลอกหนึ่งลอยกระเซ็น
จากนั้นลานประลองที่ปล่อยกลิ่นอายนองเลือดเย็นสะท้านแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ พาดขวางกลางฟ้าดิน
“เจ้าหมอนี่ใจกล้าดีจริงๆ ประกาศศึกตรงๆ เลย!”
“สังหารจอมมารหูยงได้มีหรือจะเป็นพวกธรรมดา จำไว้ อย่ามองเขาเป็นเพียงขั้นสรรสร้างอีกเด็ดขาด!”
“คราวนี้มีเรื่องสนุกให้ชมแล้ว”
ในพื้นที่ใกล้เคียงพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ สายตาที่มองทางหลินสวินล้วนเจือแววแปลกไป
พวกสิงเจี้ยนสยาก็ลอบเตรียมตัวในเวลานี้เช่นกัน
“ใครอยากไปเล่นตัดสินแพ้ชนะกับเจ้าหมอนี่สักหน่อยไหม”
บนด่านนภาสี่ลักษณ์อิงเทียนเซิงเอ่ยปากเรียบๆ
“ให้ข้าไปเอง”
ฉิวเฟิ่งฉือลุกออกมา เขารูปร่างซูบผอม สวมชุดดำทั้งชุด แก้มตอบเว้า สะพายค้อนทองแดงใหญ่ยักษ์คู่หนึ่ง กร้าวแกร่งดุดัน
สี่วันก่อนเขาก็เคยท้าทายสิงเจี้ยนสยา แต่กลับถูกสิงเจี้ยนสยาทำให้กลายเป็นตัวตลก
“ไม่ได้”
อิงเทียนเซิงส่ายหน้า “แค่ตัดสินแพ้ชนะเท่านั้น ไม่คุ้มให้เจ้าเหล่าฉิวลงมือด้วยตัวเอง”
ไม่ใช่ไม่คุ้ม หากแต่เขากังวลว่าฉิวเฟิ่งฉือจะบาดเจ็บสาหัส!
ในฝั่งพวกเขา ฉิวเฟิ่งฉือเป็นมือขวาของเขาเช่นเดียวกับจอมมารหูยง
และตอนนี้จอมมารหูยงตายแล้ว เขาไม่หวังให้ฉิวเฟิ่งฉือลงมืออีก
ต่อให้แค่บาดเจ็บก็ไม่ได้
เพราะหลายวันต่อจากนี้เขายังต้องให้ฉิวเฟิ่งฉือจัดการคู่ต่อสู้คนอื่นๆ ถึงขั้นยามเริ่มชิงแท่นมรรคบัวชะตาอย่างแท้จริงก็ไม่อาจขาดความช่วยเหลือจากฉิวเฟิ่งฉือได้
แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากให้ฉิวเฟิ่งฉือบาดเจ็บสาหัสจะต้องเกิดเหตุเหนือคาดได้ง่ายมาก
นี่ไม่ใช่สิ่งที่อิงเทียนเซิงอยากเห็น
“ข้าเข้าใจแล้ว”
ฉิวเฟิ่งฉือใคร่ครวญครู่หนึ่งแล้วถอนใจเบาๆ ถอยกลับไป
“นิ่งปู้ชวี”
อิงเทียนเซิงเลื่อนสายตามองนิ่งปู้ชวี “คราวก่อนจอมมารหูยงออกสู้แทนเจ้า เชื่อว่าในใจเจ้าก็ต้องรู้สึกผิดต่อเรื่องนี้เป็นแน่ ตอนนี้โอกาสมาแล้ว”
นิ่งปู้ชวีพยักหน้าน้อยๆ “ข้าจะทุ่มสุดความสามารถ”
“ไม่” อิงเทียนเซิงกล่าว “เป้าหมายของเจ้าไม่ใช่จะเอาชนะเขาอย่างไร หากแต่ผลาญพลังเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามไม่ให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บรุนแรงเกินไป”
นิ่งปู้ชวีสีหน้าแข็งทื่อน้อยๆ ในใจผุดความรู้สึกอัปยศอย่างบอกไม่ถูก
เขาก็เป็นเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่เคยข้ามเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพห้าครั้งเช่นกัน มีหรือจะไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของอิงเทียนเซิง
อิงเทียนเซิงไม่คิดว่าตนเป็นคู่ต่อสู้ของหลินสวินชัดๆ!
แต่ความจริงเช่นนี้กลับทำให้นิ่งปู้ชวีไม่อาจโต้แย้ง
เพราะพลังต่อสู้ของเขาไม่แข็งแกร่งเท่าจอมมารหูยง อย่างมากที่สุดก็แค่สูสีกับกู่เชาจือ และยามกู่เชาจือถูกหลินสวินฆ่าตายยังไม่เคยทำให้หลินสวินได้รับบาดเจ็บด้วยซ้ำ…
สิ่งที่อิงเทียนเซิงพูดผิดหรือ
ไม่เลย
ทว่าแต่ไรมาความจริงเช่นนี้ทำร้ายคนมากที่สุด
“ด้วยประสบการณ์การต่อสู้ของเจ้าย่อมรู้ดีว่าควรทำอย่างไร ไปเถอะ”
เสียงอิงเทียนเซิงเพิ่งสิ้นสุด
ฮูม…
คลื่นกฎระเบียบคลุมเครือแปลกประหลาดระลอกหนึ่งปิดครอบเงาร่างของนิ่งปู้ชวี
ครู่ต่อมานิ่งปู้ชวีก็ปรากฏตัวบนลานประลองแพ้ชนะนั่น
คนที่ปรากฏตัวในเวลาเดียวกันยังมีหลินสวินด้วย
และสายตาทั่วลานล้วนหันมองทางพวกเขาสองคนเป็นจุดเดียว
“ฮ่าๆ”
หลินสวินหัวเราะออกมา แววตาเจือไอเย็นชารางๆ “นึกไม่ถึงว่าเจ้ายังมีความกล้าต่อสู้กับข้า ผิดจากที่ข้าคาดไว้จริงๆ”
คราวก่อนเขาเคยประกาศศึกกับนิ่งปู้ชวี กลับถูกอิงเทียนเซิงลอบสลับตัวให้จอมมารหูยงมาแทน
และตอนนี้นิ่งปู้ชวีกลับออกมาเป็นคนแรก
ทว่านี่ไม่ใช่ตัดสินเป็นตาย แต่เป็นตัดสินแพ้ชนะ
รอยยิ้มเยาะและความเหยียดหยันที่ไม่ปกปิดแต่อย่างใดของหลินสวินทำให้ในใจนิ่งปู้ชวียิ่งไม่สบอารมณ์ขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าเขาเย็นชา กล่าวว่า “เจ้าหนุ่ม เรื่องผิดคาดในโลกนี้มีถมไป ข้ากลับกังวลยิ่ง เกรงว่าเจ้าจะมีชีวิตอยู่ไม่นานแล้ว”
หลินสวินยิ้มโดยไม่เอ่ยวาจา
หรือกล่าวอีกอย่างคือคร้านจะโต้เถียง
พริบตาที่พลังกฎระเบียบซึ่งกดทับบนตัวหายไป หลินสวินก็เคลื่อนไหวทันที
ตูม!
เขาทะยานตัวเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ นิ้วมือดุจกระบี่ ซัดเจตกระบี่ไพศาลอันคลุมเครืออัศจรรย์แถบหนึ่งฟันใส่นิ่งปู้ชวี
ท่าทีแข็งกร้าวอหังการนั้นทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าในที่นี้ที่เห็นการต่อสู้ของหลินสวินเป็นครั้งแรกล้วนอดตกใจไม่ได้
“ทะยาน!”
นิ่งปู้ชวีตะโกนลั่น เบื้องหน้าปรากฏรุ้งเทพสีม่วงนับพันหมื่นสาย พาดขวางตัดสลับ กลายเป็นเงามายาโลกสามสิบหกชั้นขวางต้านอยู่ตรงหน้า
แม้ว่าในใจเขาจะไม่ยินยอม แต่ก็รู้ดีว่าหากปะทะซึ่งหน้าย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้หลินสวินแน่นอน
ฉะนั้นเขาจึงใช้วิธีต่อสู้แบบป้องกันเป็นหลักตั้งแต่เริ่ม
จากที่นิ่งปู้ชวีคิด แม้สู้อีกฝ่ายไม่ได้ แต่ขอเพียงตนต้านทานสุดชีวิตย่อมสามารถยืนหยัดในการต่อสู้ครั้งนี้ได้นานขึ้น!
ตูม โครม! ตูมโครม!
เจตกระบี่ไพศาลฟันลงไปเงามายาโลกที่แปลงมาจากรุ้งเทพสีม่วงเป็นชั้นๆ นั่นจนพังถล่มเป็นเสี่ยง ละอองแสงดุจกระแสน้ำปลิวกระจายไร้สิ้นสุด
“เจ้าหมอนี่แข็งแกร่งอย่างที่ลือกันดังคาด!”
นอกลานฮือฮา สัตว์ประหลาดเฒ่ามากมายเผยสีหน้าตื่นเต้น
ทันทีที่หลินสวินลงมือ พลังระดับนั้นทำให้พวกเขาล้วนรู้สึกสะทกสะท้าน
และเมื่อเห็นวิธีต่อสู้ของนิ่งปู้ชวี อิงเทียนเซิงอดพยักหน้าเงียบๆ ไม่ได้
“ทะยาน!”
เมื่อเห็นเงามายาโลกสามสิบหกชั้นใกล้ถูกทำลายสิ้น นิ่งปู้ชวีโบกแขนเสื้อคราหนึ่งโดยไม่ลังเลใดๆ
ในห้วงอากาศปรากฏเสาสำริดสิบสองต้นโดยพลัน เสาสำริดแต่ละต้นล้วนสลักแผนภาพลายมรรคที่เร้นลับคลุมเครือ ราวเสาหลักที่ค้ำยันฟ้าดิน ปลดปล่อยกลิ่นอายซึ่งไม่อาจสั่นคลอนออกมา
สิบสองเสาสยบสวรรค์!
นี่คือศาสตรามรรคนิรันดร์ชุดหนึ่ง มีประโยชน์ทั้งรับและรุก
‘เจ้าเฒ่านี่ใช้การป้องกันเป็นการโจมตี นี่ตั้งใจจะยื้อกับข้าต่อไปหรือ…’ หัวคิ้วหลินสวินเลิกขึ้น มองแผนการของนิ่งปู้ชวีออกในปราดเดียว
‘เช่นนั้นข้าก็อยากเห็นนัก ว่าเจ้าจะต้านพลังการโจมตีของข้าได้หรือไม่!’
นัยน์ตาหลินสวินผุดจิตต่อสู้แรงกล้า
ในสายตาเขา นิ่งปู้ชวีในเวลานี้เหมือนเป้ามีชีวิตชัดๆ สามารถให้เขาลงมือได้อย่างไร้เกรงกลัว
ตูม!
ครู่ต่อมาเงาร่างหลินสวินส่องแสง พุ่งพรวดขึ้นไปดุจสายฟ้าแลบ ทั้งซัดหมัดสะบัดฝ่ามือ ทั้งกระแทกทุบ รวบนิ้วฟันกระบี่…
ปล่อยพลังต่อสู้ในตัวสุดกำลัง
ภายใต้การโจมตีระดับนี้ สิบสองเสาสยบสวรรค์ล้วนครวญคร่ำสั่นโคลงรุนแรง ประกายแสงซัดสาด เสียงมรรคสะท้านฟ้า
แค่ชั่วอึดใจสิบสองเสาสยบสวรรค์ก็ถูกซัดล้มระเนระนาดกระเด็นออกไป
กลับเห็นนิ่งปู้ชวีไม่สะทกสะท้น สองมือทำมุทรา ใช้อภินิหารสูงสุด
ตูม!
วังวนสายฟ้าอันบ้าคลั่งปั่นป่วนนับไม่ถ้วนปรากฏ เบียดเสียดแน่นขนัด แผ่ครอบฟ้าดิน ปลดปล่อยกลิ่นอายทำลายล้างน่าสะพรึงไร้สิ้นสุดออกมายามประจุสายฟ้าเจิดจรัสบาดตาไหลทะลวง
วังวนอสนีหมื่นกระแส!
นี่คืออภินิหารชั้นเลิศที่แปลงมาจากกฎระเบียบอสนีและกฎระเบียบวารี เต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้างที่สามารถแหวกเวิ้งฟ้า กลืนกินสรรพสิ่ง อหังการถึงขีดสุด
ขณะเดียวกันเงาร่างหลินสวินพริบไหว กายมรรคไม้เขียวและเพลิงแดงปรากฏตัวกลางอากาศ พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับร่างต้น
ตูม โครม!!
พายุสายฟ้าซัดสะเทือน สายฟ้าเจิดจ้าดุจงูสีเงินระบำคลั่ง พลังผลาญฟ้ากำจัดศัตรูนั่นทำเอาสัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยนอกลานหนังศีรษะชาหนึบ
แต่อภินิหารชั้นเลิศเช่นนี้กลับถูกหลินสวินและกายมรรคของเขาซัดทำลายตรงๆ
ใช้แข็งปะทะแข็ง!
บดขยี้วังวนอสนีคลั่งนับไม่ถ้วนนั่นตรงๆ จนกลายเป็นเส้นทางสายหนึ่ง
พรูด!
ภายใต้การถูกพลังสะท้อนกลับ นิ่งปู้ชวีกระอักเลือด สีหน้าซีดขาว ในใจปรากฏความหวาดกลัวยากบรรยาย พลังต่อสู้ของเจ้าหมอนี่แข็งแกร่งกว่าไม่กี่วันก่อนอย่างเห็นได้ชัด!!
“มา!”
นิ่งปู้ชวีไม่กล้าคิดมากความ ส่งเสียงตะโกนลั่น
ตูมโครม!
ภูเขาใหญ่ที่ไอแรกกำเนิดคละคลุ้งลูกหนึ่งร่วงลงมาจากฟากฟ้า กดทับใส่หลินสวิน
เขาสุเมรุผนึกสวรรค์!
ศาสตรามรรคนิรันดร์ที่มีอดีตประหนึ่งตำนานชิ้นหนึ่ง เคยขังสังหารมารเทพ กดทับหนึ่งแดน!
ทว่าครู่ต่อมา…
เขาสุเมรุผนึกสวรรค์ลูกนี้ก็เริ่มสะเทือนไหวรุนแรง ถึงกับถูกร่างต้นของหลินสวินและสองกายมรรคร่วมกันยกขึ้นทั้งอย่างนั้น!
ภาพนี้ทำเอาคนไม่รู่เท่าไรมองจนปากอ้าตาค้าง
นี่ออกจะร้ายกาจไปหน่อยแล้วกระมัง
แม้แต่นิ่งปู้ชวียังอึ้งงัน เบิกตากว้าง นี่เป็นไปได้อย่างไร
“คืนให้เจ้า!”
ก็เห็นเงาร่างหลินสวินดุจเทพสวรรค์สูงใหญ่เจิดจ้า ยกเขาสุเมรุผนึกสวรรค์ที่ไอแรกกำเนิดคละคลุ้งนั่นทุ่มใส่นิ่งปู้ชวีแรงๆ