Black Tech Internet Cafe System - ตอนที่ 444 : พลังของเจ้าตัวเล็ก!
ตอนที่ 444 : พลังของเจ้าตัวเล็ก!
“สุดยอด!” สาวกที่ยืนอยู่รอบตัวหนานกงชูวออกเสียงด้วยความตื่นเต้น “นี่คือหัตถ์มอหยุนหรอ?”
“หัตถ์มอหยุน! นายท่านเลือกใช้เทคนิคขั้นสูงในการโจมตีครั้งแรก ข้าแน่นอนว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ต้องได้รับบทลงโทษอย่างหนักแน่นอน” สาวกอีกคนกล่าว
ก่อนที่จะจบประโยค สายตาเขาเหลือบไปเห็นเจียงเสี่ยวหยูยืนนิ่งพร้อมกดหยกในมือโดยไม่สะทกสะท้านใดๆ
นอกจากจะไม่ได้รับบาดเจ็บแล้วมือซ้ายของเธอยังถือหยกนิ้วเรียวเล็กของเธอละเลงคําพูด ลงบนหยกด้วยข้อความว่า [ตอนนี้ยุ่งมากตอบไม่ได้ มีคนกําลังพยายามจะขโมยหยกสื่อสารของข้า!]
ขณะเดียวกันเธอโบกมือซ้ายเป็นวงกลมและผลักกระแทกออกไปด้วยพลังมหาสาร คล้ายกับคลื่นเกลี้ยวสายฟ้า
พลังงานพุ่งขึ้นกระแทกเกราะพลังชั่วร้ายของหนานกงชูวถูกเปิดออกทันที
“อะไร!?”
“นายท่าน!”
เหล่าสาวกของตระกูลหนานกงดูตื่นตนกวิตกกงวัล
ใบหน้าของหนานกงชูวเปลี่ยนสีทันที่เขารู้สึกเลือดขึ้นหน้าด้วยความอัปยศ “นี่มันเป็นเพียงพลังหนึ่งในสิบที่ข้าโจมตี ช่างน่าประหลาดใจนักที่เด็กหญิงตัวเล็กๆ เช่นเจ้ามีความแข็งแกร่งในการฝึกฝนสูง ไม่แปลกใจทําไมถึงได้เย่อหยิ่งนัก”
หนานกงชูวผสานมือไว้ที่หน้าอกและเอื้อนเอ่ยด้วยน้ําเสียงเย็นชาว่า “นี่คือผนึกดาบสายฟ้าของตระกูลหนานกง เจ้าควรจะรู้สึกเป็นเกียรติที่ข้าใช้มันกับเจ้า!”
เปลวไฟลุกโชนขึ้นต่อหน้ามันพุ่งผล่านขึ้นสูงเฉียดฟ้าคล้ายมังกรกําลังพ่นไฟ ทันใดนั้นมันก่อตัวกลายเป็นดาบเพลิงขนาดใหญ่เหนือหวของผู้คนลอยบินโฉบเฉียวอยู่บนท้องฟ้าสร้างเสียงหวาดกลัว
หลี่หลันเหลียวเห็นมือเล็กๆ เอื้อมมาหาเธอ “ศิษย์พี่หลันเหลียวส่งต่อพลังให้ข้า!”
หลันเหลียว “!??”
เธอร่ายพลังผนึกเทคนิคทางจิตวิญญาณขั้นสูงซูฉางชิงของกลุ่มภูเขาชูและบ่นว่า “มาดูกันว่าข้าจะขัยบได้มั้ย ”
เธอหันหยกสื่อสารไปข้างหน้า
“เผามัน!” เสียงตะโกนของหนานกงชูวก้องดัง เปลวไฟตกลงมาจากท้องฟ้าตามคําสั่งมันซัดลงมาราวกับคลื่นทะเล
เปลวไฟกลื่นกินพวกเธอ ..
สาวกยังคงจดจ้องอย่างใจจดใจจ่อ “หึ เด็กน้อยคนนั้นยังจะกล้าท้าทายเจ้านายอยู่หรือไม่?”
ความร้อนแผ่กระจายไปทั่งทุกทิศทาง เปลวเพลิงยังคงพุ่งขึ้นจากจุดที่เจียงเสี่ยวหยูยืนอยู่ สาวกหลายคนมีทีท่าประหลาดใจ เปลวไฟที่คล้ายม่านถูกแหวกออกด้วยหมัดของเคียวคุซานากิ! เปลวเพลิงค่อยๆพร่ามัวเผยให้เห็นเงาหมัดความเร็วสูงหมัดขยับเร็วมากจนเกิดจินตนาการ
หนานกงชูวประหลาดใจอีกครั้ง แต่เขายังคงความเย่อหยิ่งและเย็นชา “แม้ว่าเจ้าจะทําลายผนึกดาบของข้าได้ แต่เจ้านั้นเป็นเพียงแค่เด็กวัยรุ่นช่องว่างของความแข็งแกร่งในการฝึกฝนของเรานั้นยังต่างกัน ”
ก่อนจะพูดจบประโยค
เงาหมัดที่ดูมืดมัวตอนนี้กลับไม่คลุมเครืออีกต่อไป
ตุบ! ตุบ! ตุบ! มันกระแทกเข้ากับเสื้อคลุมของหนานกงชูวคล้ายว่ากําลังตีกลองชุด นี่เป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นของพลังที่เจียงเสี่ยวหยูแสดงก็เท่านั้น!
อั้ก! หนานกงชูวกระอักเห็นได้ชัดว่าหน้าอกของเขามีร่องรอยราวจากการถูกทุบอยู่ เธอพุ่งขึ้นไปบนอากาศอีกครั้งพร้อมกับส่งพลังกระแทกส่งเขาไปด้านหลัง
เจียงเสี่ยวหยูตกลงบนพื้นเธอปัดฝุ่นออกจากมือ “พี่หลันเหลียวพี่ว่าข้าดูห้าวไปมั้ย?”
“เทคนิคนี้เรียกว่าการโยกย้ายของมูชิกิ” เสี่ยวหยูอธิบาย “ถ้าข้ามีประสบการณ์ในการใช้เทคนิคมากกว่านี้เสื้อคลุมเกราะของพวกเขาคงโดนทําลายไปกว่าพันตัว!”
สาวกของวังดาบและผู้ฝึกฝนของหนานกงต่างเงียบงันพร้อมสีหน้าที่มืดมน
“นายท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” สาวกกรูเขามาหาเขา
หนานกงชูวกระอักเลือดออกมาใบหน้าของเขาแสดงถึงความแต้นที่ฝังในใจ
“มันกําลังแสวงหาความตาย!” อึ้ก! เขาพูดพร้อมกระอักเลือดออกมา ดาบสีดําแวววาวขนาดเล็กออกมาจากฝามือเขามันพุ่งออกไปตามด้วยเสียงฟ้าร้อง
“นายท่านนี่คือ !?” เหล่าสาวกมองด้วยสายตาหวาดกลัวมันมีขนาดเล็กแต่แฝงไปด้วยอันตราย
ดาบเล็กเล็กดูเหมือนจะมีพลังปีศาจที่น่ากลัวสามารถดูดซับวิญญาณของผู้คนได้ พวกเขารู้สึกวิตกคล้ายว่าปีศาจหลายร้อยตัวกําลังสะกดจิตกระซิบของหูทําให้เกิดความบ้าคลั่งของจิตใจ
ท้องฟ้าค่อยๆ มีดลงคล้ายฉุดทุกคนให้ลงขุมนรกไปพร้อมๆ กัน
ห่างออกไปห้าร้อยเมตรด้านเด็กหญิงชุดเขียว เธอตะโกนขึ้นด้วยความตื่นตนก “ไม่นะ! พี่หนานกงชูกําลังใช้ดาบเล่มนั้นอยู่”
หนานกงชูวอาจไม่ได้มีพรสวรรค์เท่าอัจฉริยะคนอื่นๆ แต่เขามีดาบจิตวิญญาณอันทรงพลังที่เกิดมาพร้อมกับเขา
ดาบเล่มนี้ของเขาไม่มีใครขว้างกั้นได้ ย้อนไปเมื่ออายุสิบเก้าเขาใช้ดาบเล่มนี้เพื่อฆ่าอสูรสามหัวในทะเลนรกซึ่งนั่นทําให้คนทั้งโลกตกตะลึง
“ไปให้พ้น!” หญิงสาวในชุดคลุมลัทธิเต๋าสีขาวตะคอกด้วยใบหน้าเย็นชา
ผู้ฝึกฝนชั้นยอดหลายสิบคนขวางทางเธอ
“ข้าขอโทษ” หัวหน้ากลุ่มเอ่ย “นายท่านสั่งว่าไม่ให้ใครไปที่นั่น”
อีกด้านหนึ่งผู้คนรอบตัวหนานกงชูวเปล่งออร่าสีแดง สายตาของพวกเขาพุ่งไปที่เจียงเสี่ยวหยู สายตาบ่งบอกถึงพลังที่ไร้มนุษยธรรมอยากจะเข้าไปขยําเธอเต็มแก่
หากจะอธิบายในตอนนี้ภาพตรงหน้าก็คล้ายกับเหตุการณ์ของฟางฉีที่ต่อสู้กับผีทาสดาบ
ขณะที่กําลังบันทึกการต่อสู้ด้วยหยกสื่อสารหลี่หลันเหลียวตะโกนขึ้น “จงสงบเยือกเย็นไว้”
เธอดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบใด ใบหน้าของหนานกงชูวกระตุก
อย่างไรก็ตามเขาพอใจกับผลงานและพูดเย้ยหยัน “ข้าอยากจะเห็นว่าเจ้าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง!”
ผู้ฝึกฝนเริ่มสติแตกจากการถูกโจมตี ความแข็งแกร่งของพวกเขาเพิ่มขึ้นเหมือน ได้รับพลังวิเศษ
เจียงเสี่ยวหยูใช้กระโดดขึ้นไปบนอากาศเพื่อเก็บอักษรรูน เธอประกอบอักษรรูนเข้าหากันเพื่อเรียกกิเลนออกมา มันถือเป็นสัตว์ร้ายหายากตัวของมันใหญ่เท่าตึกสองชั้น
สาวกของตระกูลหนานกงพุ่งเข้าใส่มันอย่างสติแตก
ตุ้ม!
สาวกสองคนบินหลุดไปในอากาศหลายร้อยกิโล ไม่แค่นั้นพวกเขากรูกันเข้ามาอย่างบ้าคลั่งพร้อมร่ายเทคนิคอันชั่วร้ายโดยไม่สนใจผู้คนหน้าไหน
พวกเขาสร้างบาดแผลให้กับสัตว์ร้ายมากมาย เจียงเสี่ยวหยูร่ายเวทย์เพิ่มการป้องกัน คลื่นแสงปรากฏขึ้นบนหัวเจ้ากิเลนยักษ์ เพื่อทําการรักษามันคือคาถาบําบัด!
บาดแผลบนร่างกายของมันหายไปในพริบตา
หนานกงชูว “ !!??”
นี่มันอะไรกัน!?