Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 107
ตอนที่ 107 คัดเลือก
“เร็วเข้า! นําสีย้อมนั้นมาเร็วๆ! ไม่ ไม่ใช่สีขาวทอง! ข้าต้องการสีขาวบริสุทธิ์!”
ในห้องแต่งตัวของโรงละครไวเซนาสเช่ตั้งแต่เช้าตรู่ เซอร์ไวเซนาสเช่ยุ่งมากอยู่กับคนรับใช้ของเขา
ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงนี้เซอร์ไวเซนาสเช่ได้สูญเสียสีย้อมไปนับไม่ถ้วน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเครื่องสําอางมากจนสามารถใช้วาดภาพทั้งหมดได้ เขาไม่เคยตื่นเต้นมากขนาดนี้
แม้แต่ในวัยหนุ่มของเขาเมื่อเขาทําการทดสอบในสถาบันศิลปะของฟารัคซี่ เขาก็ไม่สง่างามเช่นนี้
เหตุผลก็คือเพราะวันนี้เป็นวัน “คัดเลือก” ของเขา ภาพยนตร์เรื่องต่อไปของโจชัวจะเริ่มถ่ายทําในโรงแรมนกพิราบดําในถนนกระรอก ในฐานะนักแสดงที่ได้รับการคัดเลือกล่วงหน้า เขาได้รับเชิญจากโจชัวให้ไปทําการคัดเลือก
สถานที่สําหรับการคัดเลือกจะเป็นที่พํานักของแกรนดัชเชสแห่งป่าดํา เซอร์ไวเซนาสเช้ได้ยินมาว่าแกรนดัชเชสแห่งปาดําเป็นคนเลือกสถานที่สําหรับการคัดเลือกด้วยตัวเอง กล่าวอีกนัยหนึ่งแกรนดัชเชสก็จะมีส่วนร่วมในการคัดเลือกด้วย
นับตั้งแต่ “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” เริ่มฉาย เซอร์ไวเซนาสเซ่ตั้งตารอวันที่เขาจะกลายเป็นนักแสดงในภาพยนตร์มาตลอด ในที่สุดความฝันของเขาก็เป็นจริงในวันนี้
“เร็วเข้า! เราไม่มีเวลาแล้ว! ขึ้นรถม้า! เรากําลังจะไปที่พักของแกรนดัชเชสแห่งป่าดํา!”
หลังจากแต่งหน้าจนพอใจแล้ว เซอร์ไวเซนาสเชก็วิ่งออกจากโรงละครทันทีและตะโกนใส่คนใช้ที่ดูแลรถม้า
โจชัวกําหนดให้มีการคัดเลือกตอนเที่ยงวันพอดี เซอร์ไวเซนาสเช่หวังว่าจะสามารถไปถึงที่นั่นได้ทันเวลา ท้ายที่สุดคู่ต่อสู้ของเขาในการคัดเลือกคือผู้คนจากคณะละครห่านดําในตํานาน!
ด้วยเหตุนี้เซอร์ไวเซนาสเช่จึงรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ในฟารัคซี่คณะละครห่านดําได้ไปถึงจุดสูงสุดของละครเวที พวกเขาเป็นคณะละครที่โดดเด่นที่สุด สมาชิกของพวกเขาก็มีผลงานที่โดดเด่นไม่แพ้กัน พวกเขาไม่ใช่คนที่เขาสามารถจับคู่ได้
ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องไปที่นั่นก่อนที่คณะละครห่านดําจะไปถึง เขาต้องการดูว่าเขาจะได้รับหนึ่งหรือสองบทบาทในภาพยนตร์ล่วงหน้าหรือไม่ เขาไม่ได้หวังว่าจะได้รับบทบาทสําคัญ เขาต้องการอะไรก็ได้ แม้ว่าจะเป็นตัวประกอบเล็กน้อยที่ปรากฏตัวเพียงสองครั้งในภาพยนตร์ก็ยังดี
คนขับรถม้าถูกเซอร์ไวเซนาสเช่เร่งเร้า หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง รถม้าก็หยุดลงอย่างช้าๆ พวกเขามาถึงที่หมายแล้ว
เซอร์ไวเซนาสเช่ลงจากรถมาทันที เขาใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก อาการเหงื่อออกของเขาเป็นมานานแล้ว มันเป็นอย่างนี้ตลอดเวลาที่เขาประหม่า
แต่การเช็ดเหงื่อออกทําให้เครื่องสําอางหลุดไป เป็นไปไม่ได้ที่เซอร์ไวเซนาสเช่จะแต่งหน้าใหม่ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ เขาจึงทําได้เพียงรวบรวมความกล้าเพื่อก้าวเข้าไป
“เซอร์ไวเซนาสเช่? ขออภัยมาดามโครเดอร์ไม่รับแขกใด ๆ ในวันนี้”
ผู้คุมประจําการอยู่ที่ทางเข้าจําเซอร์ไวเซนาสเช่ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเซอร์ไวเซนาสเช่เป็นชนชั้นสูงจากฟารัคซีนอกจากนี้เขายังเป็นคนที่มีชื่อเสียงอยู่บ้าง
“ ข้าได้รับเชิญจากท่านโจชั่วให้มาที่นี่ ข้ามีหลักฐา นี้ไง”
เซอร์ไวเซนาสเช่หยิบจดหมายที่เขาได้รับจากโจชัวออกมา พร้อมกับตราสัญลักษณ์พิเศษของป่าดํา นั่นคือการพิสูจน์ตัวตนมาดามโครเดอร์ที่มอบให้โจชัว เนื่องจากโจชัวคุ้นเคยกับผู้คนใน คฤหาสน์แห่งนี้อยู่แล้ว เขาจึงตัดสินใจมอบตราสัญลักษณ์นี้ให้เซอร์ไวเซนาสเช่
ผู้คุมได้รับจดหมายทันทีและอ่านผ่านๆ มีที่โจชัวแนะนําเซอร์ไวเซนาสเช่อยู่
ปัจจุบันโจชัวมีสถานะสูงในคฤหาสน์ ไม่มีผู้คุมคนใดกล้าที่จะล้ำเส้นเขา นอกจากนี้พวกเขาทุกคนต่างก็รู้จักเซอร์ไวเซนาสเช่ เนื่องจากนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาที่บ้านของมาดามโครเดอร์
ด้วยเหตุนี้ผู้คุมจึงหลีกทางและยอมให้เซอร์ไวเซนาสเช่เข้าไปในคฤหาสน์
คนใช้เข้ามารับเซอร์ไวเซนาสเช่ คนใช้นําทางเขาไปยังสนามซ้อมของคณะละครห่านดํา
สถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับสวนในร่มของคฤหาสน์ เซอร์ไวเซนาสเช่เดินตามคนใช้ไปรอบ ๆ สวนและมาถึงห้องที่เปิดกว้าง
ทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ อารมณ์ของเขาก็พลุ่งพล่าน
มีใบหน้าที่คุ้นเคยมากเกินไปที่นี่ เซอร์ไวเซนาสเช่เป็นแฟนตัวยงของคณะละครห่านดํา แต่เขาสามารถระงับอารมณ์ได้ เขามองไปที่ตรงกลางห้อง
เดิมห้องนี้เป็นสถานที่สําหรับฝึกซ้อมของคณะละครท่านดํา มีโต๊ะสองตัววางอยู่ที่มุมห้องมาดามโครเดอร์นั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่ง ในขณะที่โจชัวและซิรินั่งอยู่ที่โต๊ะอีกตัว
ตรงกลางห้องมีหุ่นมนุษย์
“บาโรก ข้าเขียนบทของเจ้าลงในกระดานนี้แล้ว เริ่มได้” โจชัวกล่าว
หลังจากคําพูดของโจชัว เซอร์ไวเซนาสเช่ก็หันไปมองที่กลางห้อง มีชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น เซอร์ไวเซนาสเช่จํานักแสดงคนนั้นได้
นอกจากแกลโลลี่แล้ว เขาเป็น “เสาหลัก” อีกคนหนึ่งของคณะละครห่านดํา เขาเป็นคนที่เล่นบทนําชายหลายบทในละครเวทีของคณะละครห่านดํา
ตามบท บาโรกแสร้งทําเป็นว่าหุ่นมนุษย์เป็นคนที่เขาแสดงด้วย และเริ่มการคัดเลือกรอบแรกของเขา
“ หยุด”
แต่ก่อนที่บาโรกจะแสดงเสร็จ โจชัวก็เรียกให้หยุด บาโรกโกรธเล็กน้อยที่โจชั่วขัดจังหวะ เขาไม่พอใจที่โจชั่วมาตรวจสอบทักษะการแสดงของเขา ถ้ามาดามโครเดอร์ไม่อยู่ที่นี่ เขาจะไม่มีวันเชื่อฟังชายหนุ่มคนนี้
“การแสดงของเจ้าปลอมเกินไป นี่ไม่ใช่ละครเวที ทําตัวให้สมจริงกว่านี้!”
ปลอม? ตลอดหลายปีที่ผ่านมาบาโรกได้แสดงบนเวที นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับการประเมินอย่างนี้ บาโรกหันไปมองมาดามโครเดอร์
แกรนดัชเชสไม่ได้พูดอะไร นี่หมายความว่าเขาต้องแสดงต่อไป
ดังนั้น บาโรกจึงระงับความโกรธในใจ และเริ่มรอบคัดเลือกรอบที่สอง แต่ในไม่ช้าเขาก็ถูกโจชัวหยุดอีกครั้ง
“ข้าเชื่อว่าข้าได้ระบุไว้ในบทที่ข้าให้เจ้าว่าตัวละครของเจ้าคือสแตนฟิลด์ ซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายที่ไม่ถูกควบคุม คาดเดาไม่ได้ เพี้ยน แต่เป็นคนบ้า..ศิลปะ เจ้าต้องแสดงโดยคํานึงถึงภาพลักษณ์ของตัวละครนั้น! ต้องสนิทสนมเหมือนอยู่กับคนรัก! พูดง่ายๆ ก็คือ แสดงพฤติกรรมรักร่วมเพศ”
คําพูดของโจชัวไม่เพียงแต่ทําให้บาโรกตกตะลึงเท่านั้น แต่ยังทําให้นักแสดงคนอื่นๆ จากคณะละครห่านดําตกตะลึงอีกด้วย
พวกเขาสามารถยอมรับคนบ้าศิลปะได้อยู่บ้าง แต่สิ่งที่เขาพูดหลังจากนั้น?
หุ่นควรจะเป็นตัวแทนของชายในวัยสี่สิบ เขาต้องการให้บาโรกทําตัวใกล้ชิดกับชายวัยกลางคนเนี้ยนะ?
“ขอโทษที ข้าแสดงตัวละครนั้นไม่ได้!”
ในที่สุดบาโรกก็ถึงขีดจํากัด หลังจากได้ยินความต้องการที่มากเกินไปของโจชัว เขาเลือกที่จะปฏิเสธ
“อย่างนั้นหรอ? คนต่อไป โอ้ เซอร์ไวเซนาสเช่ มาลองดูสิ”
โจชัวไม่ได้คาดหวังว่าจะพบผู้สมัครที่เหมาะสมกับตัวละครนี้ในทันที คณะละครห่านดํามีความรู้สึกเย่อหยิ่งของตัวเอง ถ้ามาดามโครเดอร์ไม่อยู่ที่นี่ พวกเขาจะไม่เชื่อฟังและยอมรับการคัดเลือกของเขา
อายุแสดงถึงประสบการณ์ สําหรับพวกเขาโจชัวยังเด็กเกินไป โจชัวมีผู้สมัครที่เหมาะสมอีกคนหนึ่งสําหรับบทบาทนี้อยู่ในใจ