Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 116
ตอนที่ 116 โรงเตี้ยม
ด้วยความประหม่า ไทลีนมาถึงย่านธุรกิจหน้าโรงละครแห่งชาตินอร์แลนด์
นอกจากจะต้องคุยเรื่องสัญญากับปีศาจแล้ว นางรู้สึกไม่สบายใจเพราะสถานที่ที่โจชัวบอกให้นางมาหานั้นคือโรงเตี้ยม
ไทลีนรู้สึกว่าโรงเตี้ยมเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและอันตราย พวกขี้เมาที่มึนเมามักจะไม่มีเหตุผล นอกจากนี้โรงเตี้ยมยังมีแต่บุคคลอันตรายทุกประเภทที่มีภูมิหลังที่น่าสงสัย
เอลฟ์ไม่ค่อยปรากฏในร้านเหล้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงเอลฟ์หญิงคนเดียวในตอนกลางคืน ไทลีนถึงกับคิดที่จะปกปิดรูปร่างหน้าตาของนางก่อนจะเข้าไปในร้านเหล้า
แต่เมื่อนางมาถึงทางเข้าโรงเตี้ยมใจหิน นางพบว่าความกังวลทั้งหมดของนางนั้นไม่จําเป็นสักนิด ทางเข้าโรงเตี้ยมนี้ไม่ได้อยู่ในตรอกลึกลับและน่าขนลุก แต่อยู่ตรงข้ามกับถนนธุรกิจที่พลุกพล่าน
ไทลีนยืนอยู่หน้าโรงเตี้ยมและไม่ผลักประตูเข้าไป ผ่านหน้าต่าง นางได้ยินเสียงบรรยากาศที่อึกทึกข้างใน นางยังสามารถเห็นได้ว่าโรงเตี้ยมเต็มไปด้วยแสงสือบอุ่น
“เจ้ามาสายเกินไปแล้ว! ต้องไม่มีที่นั่งว่างอีกแล้วแน่ๆ”
จหินตัวจริงไม่เคยกลัวว่าจะไม่มีที่นั่ง
จอมเวทย์สองคนสวมชุดคลุมผู้วิเศษสีน้ําเงินเดินผ่านไทลีน
จากรูปลักษณ์และลักษณะท่าทางของพวกเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นผู้วิเศษที่รอบรู้มาก แม้ว่าพวกเขาจะสังเกตเห็นไทลีนแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่แปลกใจเลยที่นางเป็นเอลฟ์ แต่เขาเพียงพยักหน้าทักทายนางก่อนจะเข้าไปในโรงเตี้ยม
ไทลีนไม่เคยคาดหวังว่าโรงเตี้ยมจะสามารถดึงดูดผู้วิเศษได้ ที่แห่งนี้ควรจะเต็มไปด้วยพวกขี้เมาที่ไม่มีรสนิยมไม่ใช่หรอ? หรือไม่ก็ควรจะมีโจรกับพวกอันธพาลปะปนกันในหมู่ฝูงชนด้วยสิ?
เมื่อรู้สึกสับสนไทลีนก็เข้าไปในโรงเตี้ยมตามหลังผู้วิเศษทั้งสอง เมื่อนางผลักประตูเปิด สิ่งที่นางได้กลิ่นไม่ใช่กลิ่นเหม็นของแอลกอฮอล์ แต่ค่อนข้างเป็นกลิ่นหอมที่ไม่รู้จัก กลิ่นหอมคล้ายกับกลิ่นข้าวสาลีปรุงสุก มันให้ความรู้สึกสบาย
รูปแบบภายในของโรงเตี้ยมก็แตกต่างจากที่นางคาดไว้เช่นกัน ผลึกส่องสว่างที่เปล่งแสงอบอุ่นฝังอยู่ในเพดาน มีภาพวาดดอกไม้และต้นไม้อยู่บนผนัง สถานที่แห่งนี้ทําให้หัวใจผ่อนคลาย มากกว่าโรงเตี้ยมที่มืดมิดและวุ่นวาย
แต่แขกในโรงเตี้ยมก็ตรงกับที่ไทลีนคาดไว้ พวกเขาเสียงดังมาก ส่วนใหญ่เป็นคนแคระ พวกเขาจะจับกลุ่มสามหรือสี่รอบโต๊ะและตะโกนเสียงดัง ด้วยเหตุนี้ จึงได้ยินเสียงตะโกนหยาบๆดังทั่วทั้งโรงเตี้ยม
ในฐานะคนที่เพิ่งเข้ามาในโรงเตี้ยมและไม่คุ้นเคยกับบรรยากาศที่เสียงดัง ไทลีนรู้สึกว่าเสียงของคนแคระนั้นดังเกินไป
ดังที่กล่าวไว้ ไทลีนยังสามารถเห็นมนุษย์จํานวนมากในหมู่คนแคระ และสิ่งที่ทําให้ไทลีนไม่เชื่อมากที่สุดก็คือนางมองเห็นเหล่านักรบเทมพลาร์
เดี๋ยวก่อน… โรงเตี้ยมนี้เป็นที่อยู่ของปีศาจไม่ใช่หรอ? เป็นไปได้ไหมที่เหล่านักรบเทมพลาร์ค้นพบว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่หลบภัยของปีศาจ และส่งคนมาตามล่าเขา?
ความคิดนั้นหายไปจากใจของไทลีนในวินาทีต่อมา เหตุผลนั้นเป็นเพราะนางสังเกตเห็นว่าเหล่านักรบเทมพลาร์กําลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะที่มีลักษณะพิเศษตัวหนึ่งในโรงเตี้ยม แสงจักแผดเผา “เจ้า!” 1 เสียงตะโกนดังขึ้น และตามด้วยเสียงเชียร์เบาๆ
นั่นไม่ใช่การปรากฏตัวของเหล่านักรบเทมพลาร์ในการทําภารกิจอย่างแน่นอน ในทางกลับกันนางดูเหมือนแขกของโรงเตียมแห่งนี้มากกว่า และดูจะเป็นแขกประจําซะด้วย
ถ้าเหล่านักรบเทมพลาร์อยู่ที่นี่ มันจะไม่หมายความว่าปีศาจโจชัวซ่อนตัวอยู่หรอกหรอ?
ไทลีนมองไปรอบๆ นางหวังว่าจะพบคนที่จะสามารถให้ข้อมูลเพื่อที่นางจะได้ติดต่อกับโจชั่วได้ แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดของนางคือปีศาจนั่นนั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์และดื่มอะไรบางอย่างอย่างเปิดเผย!
เมื่อไทลีนเห็นเขา โจชัวก็โบกมือให้นางอย่างกระตือรือร้น
ในเวลานี้ ไทลีนตระหนักว่านางพบว่าตัวเองติดมาอยู่ในการต่อสู้ระหว่างเทมพลาร์กับปีศาจ
นางเดินเข้าไปหาโจชั่วทันที
“เจ้ามาเร็วกว่าที่ข้าคาดไว้”
การที่เอลฟ์สาวมาปรากฏตัวในวันเดียวนี่ค่อนข้างน่าสนใจ
โจชัวบอกพนักงานเสิร์ฟให้นําน้ําผลไม้ที่เหมือนกันมาอีกแก้ว
“ข้าเลี้ยง ลองดื่มดู ไม่มีพิษและไม่ปนเปื้อนด้วย”
โจชัวมั่นใจว่าโลกนี้ไม่มีสารเคมีทางการเกษตร วัตถุเจือปนอาหารและสิ่งอื่นๆเช่นนั้น แต่มีบางอย่างที่อันตรายยิ่งกว่าพวกนั้น…คําสาป
“ท่านโจชัว ตรงนั้น”
ไทลีนไม่มีอารมณ์จะดื่มน้ําผลไม้ นางกําลังชี้ไปที่ตําแหน่งที่เมสซาอยู่
ไทลีนรู้สึกว่าเหตุผลเดียวที่โจชัวสงบอยู่เพราะเขาไม่ได้สังเกตเทมพลาร์ นอกจากนี้นางเชื่อเหตุผลเดียวที่ว่าทําไม เหล่านักรบเทมพลาร์จึงสามารถสนุกอยู่ที่นี่ได้เป็นเพราะนางไม่ได้สังเกตเห็นปีศาจโจชั่วเช่นกัน
เทมพลาร์และปีศาจเป็นปฏิปักษ์ที่เข้ากันไม่ได้มาโดยตลอด ไทลีนเชื่อว่าโรงเตี้ยมจะกลายเป็นสนามรบทันทีที่พวกเขาสังเกตเห็นกัน
“เมสซา? นางทําไมหรอ? เอลฟ์น้ําแข็งมีอคติบางอย่างต่อเหล่าเทมพลาร์ด้วยหรอ?”
“ไม่ใช่พวกเราเอลฟ์! แต่ท่านเป็นปีศาจ ปีศาจควรมีอคติกับเหล่านักบวชเทมพลาร์!”
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างไทลีนรู้สึกเหมือนโจชัวคุ้นเคยกับเหล่านักรบเทมพลาร์จากน้ําเสียงของเขา
“ข้า ข้าเดาว่าข้าเข้าใจสิ่งที่เจ้าต้องการจะสื่อแล้วล่ะ”
โจชั่วเห็นว่าเอลฟ์น้ําแข็งกําลังโบกมือเขาไม่หยุดหย่อน ดูเหมือนนางจะกระตุ้นให้เขารีบเก็บของและหนีไป
“ให้ข้าแนะนําตัวกับเจ้าก่อน ข้าเป็นนักลงทุนของโรงเตี้ยมนี้ สรุปคือข้าเป็นคนเปิดโรงเตี้ยมนี้เองแหละ”
โจชั่วให้คําอธิบายที่ง่ายมาก แต่คําอธิบายของเขาทําให้เอลฟ์ตกใจอีกครั้ง
“แล้ว… ทําไมเหล่านักรบเทมพลาร์ถึงอยู่ในโรงเตี้ยม…?”
“พวกเขาเป็นแขก มันง่ายมาก ไทลีนโรงเตี้ยมแห่งนี้ยินดีต้อนรับแขกทุกท่าน ตราบใดที่เจ้าไม่แสดงความเป็นปรปักษ์ใดๆ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นเทมพลาร์หรือปีศาจก็ตาม ที่นี่ยินดีต้อนรับทุกคน”
หากเป็นเมื่อก่อน นางคงไม่เชื่อว่าเทมพลาร์กับปีศาจจะสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติในที่เดียวกันได้อย่างแน่นอน แต่นางได้เห็นกับตา
“ท่านโจชัว ข้าต้องบอกว่าโรงเตี้ยมนี้ค่อนข้างเกินจินตนาการของข้า”
“ถ้าเจ้ายินดีที่จะร่วมมือกับข้า ข้าจะให้เจ้าเห็นสิ่งที่เหนือจินตนาการมากกว่านี้ ที่ทํางานของข้าอยู่ชั้นบน ถ้าเจ้าไม่รังเกียจ เราสามารถขึ้นไปชั้นบนเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของเจ้าได้”
โจชั่วอุ้มชิริที่เมามากจนหมดสติขึ้นจากที่นั่งของนาง แม้ว่านางจะหลับอยู่ แต่ซิริก็วางมือของนางรอบคอของโจชัวโดยไม่รู้ตัวเมื่อเขาอุ้มนาง
ไทลีนเห็นสิ่งนี้ นางรู้สึกว่ามนุษย์หญิงมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างพิเศษกับโจชั่ว
นางมองขณะที่โจชัวเดินขึ้นบันได นางใช้นิ้วปัดสร้อยข้อมือเพื่อทําให้จิตใจสงบ ด้วยเหตุนี้นางจึงเดินตามโจชัวและเดินขึ้นไปที่ชั้นสองของโรงเตี้ยมใจหิน