Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 119
ตอนที่ 119 นักร้อง
ไทลีนลืมตาขึ้น นางลุกขึ้นจากเตียงพลางหาว และบิดขี้เกียจ
เมื่อคืนนางหลับสบายมาก หลังจากที่นางหาวและจัดผมสีทองยาวยุ่งๆ ของนางเสร็จ นางค่อยๆ ขยับไปจับหวีข้างเตียงของนาง และสูดอากาศที่ว่างเปล่า
ในเวลานี้เองที่ไทลีนตระหนักว่านางไม่ได้อยู่ในห้องของนางในคฤหาสน์ของมาดามโครเดอร์!
เมื่อนางมองไปรอบๆ ตัวนาง นางเริ่มนึกได้ว่าเมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้น
เมื่อนึกได้ว่านางหมดสติไปต่อหน้าปีศาจ ไทลีนก็ตื่นทันที และเริ่มตรวจร่างกายของนาง
เสื้อผ้าของนางยับเล็กน้อยจากการนอน แต่ไม่มีวี่แววว่าจะถูกใครบางคนถอดออก
สิ่งสําคัญที่สุดคือไม่มีบาดแผลบนร่างกายของนาง ไทลีนมองที่มือของนาง ไม่มีร่องรอยของรอยประทับแปลก ๆ เลย
นางเริ่มใช้พลังเวทย์ที่เหลืออยู่เพื่อตรวจร่างกาย ไม่มีร่องรอยของคําสาปบนร่างกายของนางเช่นกัน
“ในที่สุดเจ้าก็ตื่น”
จู่ๆ ก็มีเสียงมาจากข้างๆ ไทลีน เสียงนั้นขัดจังหวะความคิดของนาง รูนสลัวปรากฏขึ้นในมือของนาง กลิ่นอายเย็นเริ่มแผ่ออกมาจากร่างกายของนาง
“เจ้าจะไม่สามารถจับกระต่ายได้ด้วยเวทมนตร์น้ําแข็งขั้นต่ํานั่น เก็บแรงไว้กินข้าวเช้าเถอะ”
ด้วยการโบกมือของนาง ซิริกระจายลมที่ “เย็นและสดชื่น”
เอลฟ์ควรมีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์มากกว่ามนุษย์ น่าเสียดายที่เอลฟ์น้ําแข็งคนนี้อ่อนแอเกินไป นางอ่อนแอมากจนไม่สามารถแม้แต่จะสร้างเวทมนตร์ขั้นต่ําได้
เวทมนตร์ที่นางใช้ก่อนหน้านี้จะได้ผลมากที่สุดเท่าความเย็นของตู้เย็นเท่านั้น
ซิริวางจานที่เต็มไปด้วยผลไม้ไว้บนโต๊ะข้างเตียง
เอลฟ์น้ําแข็งมองไปที่ผลไม้สดบนจาน ในที่สุดหัวใจที่ตื่นตระหนกของนางก็สงบลง
ความหิวจากการไม่กินอะไรเลยทั้งคืนทําให้นางต้องลุกจากเตียง นางหยิบผลไม้ขึ้นมาและลังเลเล็กน้อยก่อนจะกินในที่สุด
“เมื่อคืนเจ้าเป็นลมกระทันหัน ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยให้เจ้านอนที่นี่ ตอนนี้เจ้าตื่นแล้ว เจ้ารู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”
โจชัวเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง เขามองไปที่เอลฟ์น้ําแข็งที่เพิ่งกินผลไม้เสร็จ
“ดีมาก ข้ารู้สึกขอบคุณมากที่เจ้าอนุญาตให้ข้าอยู่ที่นี่เมื่อคืน”
ไทลีนต้องยอมรับว่าการนอนเมื่อคืนนี้เป็นการนอนหลับที่สบายที่สุดของนาง
ในอดีตเมื่อใดก็ตามที่นางหมดสติจากการกัดเซาะของหมอกเทา นางก็มักจะจบลงด้วยฝันร้ายที่น่าสะพรึงกลัว ทว่าเมื่อคืนนางนอนหลับสบายมาก
ด้วยการนอนหลับที่ปลอบโยนจิตใจของนาง ไทลีนเริ่มเชื่อเรื่องราวของ “โฉมงามกับเจ้าชายปีศาจ” ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ บางที ปีศาจที่อยู่ตรงหน้านางอาจเป็นคนดี?”
“ในกรณีนั้น ข้าคิดว่าเราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับเงื่อนไขการจ้างงานของเจ้าได้แล้ว แต่ก่อนหน้านั้นขาสงสัยมากว่าทําไมเจ้าถึงเป็นลมเมื่อคืนนี้?”
โจชัวหยิบเก้าอี้และนั่งลงตรงหน้าเอลฟ์น้ําแข็ง
เพื่อช่วยให้เมล็ดพันธุ์ต่อสู้กับหมอกดํา โจชัวใช้เวลานานและเสริมด้วยอักษรรูน ในที่สุดเมล็ดพันธุ์นั้นก็ยอมรับระบบที่โจชัวรวบรวมโดยใช้อักษรรูน
ระบบนี้เป็นรุ่นที่มีไฟร์วอลล์ แต่โจชัวต้องการเวลามากกว่านี้เพื่อทําให้ระบบนั้นสมบูรณ์ และเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ให้เป็นเซิร์ฟเวอร์
แต่การจะทําเช่นนั้นได้ เขาต้องแน่ใจว่าเมล็ดพันธุ์นั้นจะสามารถอยู่รอดได้ น่าเสียดายที่เมล็ดนั้นแสดงอาการเหี่ยวแห้ง แม้ว่าซิริจะหาของมารดน้ํา แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการเหี่ยวแห้งของเมล็ดได้เลย
“เหตุผลที่ข้าเป็นลม? นั่นเป็นเรื่องยาว ท่านโจชัว อยากฟังไหมล่ะ?”
โจชัวประหลาดใจที่ไทลืนไม่ได้แสดงเจตนาที่จะปกปิดเรื่องวของนาง หลังจากที่โจชัวพยักหน้า เอลฟ์น้ําแข็งก็เริ่มเล่าเรื่องที่ไม่ยาวมากเท่าไหร่
เรื่องราวสามารถสรุปได้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับ เจ้าหญิงเอลฟ์ที่จะฟื้นฟูประเทศของนาง” แต่สิ่งที่โจชัวกังวลคือเหตุผลที่ว่าทําไมไทลีนถึงอยากมีชื่อเสียง
เมื่อคนอื่นชื่นชมนาง ต้นไม้โลกของเผ่าพันธุ์ของพวกนางจะได้รับ ‘การบํารุง’ กัน
โจชัวรู้สึกว่ามีความคล้ายคลึงกันมากกับความสัมพันธ์ระหว่างเทพกับผู้ที่ศรัทธา
“พูดอีกอย่างก็คือ เจ้าต้องการที่จะทําให้ต้นไม้โลกของเผ่าพันธุ์ของเจ้างอกเงย และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเป็นคนมีชื่อเสียง?”
โจชัวสรุปสั้นๆ ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงว่าทําไมเอลฟ์น้ําแข็งจึงตามหาเขา
“ต้นไม้โลกเป็นรากฐานของทุกเผ่าพันธุ์เอลฟ์ ข้าไม่ต้องการให้เผ่าพันธุ์ของเราตาย ด้วยมือของข้า แม้ว่ามันอาจจะฟังดูไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ข้าก็ยังอยากจะลอง”ไทลีนกล่าว
ในโลกนี้ต้นไม้โลกของเผ่าเอลฟ์ทั้งหมดได้รับการบํารุงเลี้ยงดูโดยความเชื่อจากรุ่นก่อนๆ ของเอลฟ์ที่ได้รับการปกป้องโดยต้นไม้โลก
ไทลีนไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าต้นไม้โลกสามารถหล่อเลี้ยงด้วยความเชื่อของมนุษย์ได้
แต่ไทลีนเชื่อว่านางน่าจะเป็นเอลฟ์น้ําแข็งเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในโลกนี้ ถ้านางเป็นคนเดียวที่เชื่อในต้นไม้โลกของเอลฟ์น้ําแข็ง มันคงไม่เพียงพอต่อการบํารุงเลี้ยงดู
“ถ้าเงื่อนไขของต้นไม้โลกที่จะเติบโตเป็นอย่างที่เจ้าจินตนาการไว้ ข้ามีวิธีที่จะทําให้เจ้าโด่งดัง แต่การที่ผู้ชมจะจําชื่อของเจ้าได้นั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าเอง”
โจชัวมีวิธีเพียงพอที่จะทําให้ไทลืนเป็น “นักร้อง” ที่มีชื่อเสียงในนอร์แลนด์ อย่างไรก็ตามมันขึ้นอยู่ที่เสียงร้องของไทลีนเองด้วย
โลกนี้ไม่มีเครื่องปรับเสียงหรือคนออกแบบดนตรี ด้วยเหตุนี้โจชัวจึงต้องให้ไทลีนใช้วิธีที่จะมีชื่อเสียงด้วยเสียงของนางเท่านั้น สําหรับการพิชิตใจผู้ชมและดึงดูดใจของพวกเขาเพื่อทําให้พวกเขาเชื่อในต้นไม้โลกนั่นเป็นสิ่งที่เอลฟ์น้ําแข็งต้องทําด้วยตัวเอง
“ ข้ามั่นใจในเสียงร้องของข้า”
ไทลีนตอบด้วยความมั่นใจอย่างแน่วแน่
ย้อนกลับไปเมื่อเผ่าพันธุ์เอลฟ์น้ําแข็งของนางยังคงมีอยู่ นางเป็นหนึ่งในเอลฟ์ไม่กี่คนที่สามารถเรียกจิตสํานึกของต้นไม้โลกด้วยเสียงร้องเพลงของนาง
ผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ของเอลฟ์น้ําแข็งได้บอกกับนางว่าเสียงร้องเพลงของนางสามารถชําระจิตใจให้บริสุทธิ์ได้
“อย่างนั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้น ไทลีน เจ้าอยากจะสาธิตในโรงเตี้ยมของข้าดูไหม?”
โจชัวอาจจะรู้สภาพของเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลกนั้นดีกว่าไทลีนด้วยซ้ํา มันต้องการสารอาหารอย่างเร่งด่วน ด้วยเหตุนี้ โจชัวจึงตัดสินใจทําการทดสอบเล็กน้อย
“ไม่มีปัญหา แต่ข้าขออาบน้ําก่อนได้ไหม”
ไทลีนจับผมยาวสีทองของนาง หากมีกระจกอยู่ นางมั่นใจว่าผมของนางคงจะยุ่งมาก
ไม่มีผู้หญิงคนไหนเต็มใจที่จะให้คนอื่นเห็นพวกนางในลักษณะที่ยุ่งเหยิงเช่นนี้ นี่เป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่กําลังจะขึ้นเวที
“ที่มุมซ้ายของชั้นนี้มีผลึกออริจินั่มที่ผลิตน้ํา ปริมาณพลังเวทย์ในผลึกออรินั้นน่าจินั่มจะเพียงพอสําหรับเจ้าที่จะอาบน้ํา ข้าสามารถจัดหาเสื้อผ้าให้เจ้าเปลี่ยนได้”
ตอนที่ไทลีนกําลังต่อสู้กับหมอกเทาเมื่อคืนนี้ ร่างกายของนางเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ด้วยเหตุนี้ ร่างกายของนางจึงเหนียวมากในตอนนี้
ไทลีนเดินไปที่ห้องที่ใช้อาบน้ํา ซิริตามไปเพื่อหาเสื้อผ้าให้นาง
สําหรับโจชัว เขาลงไปชั้นล่างเพื่อเตรียมคอนเสิร์ตครั้งแรกของเอลฟ์น้ําแข็ง