Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 138
ตอนที่ 138 ขาซ้ายเสร็จสิ้น
แต่นี่เป็นเพียงการเตือนความจําเท่านั้น เขาไม่รบกวนหมอทั้งสองและส่งสัญญาณมือให้คนที่เหลือเงียบ แต่กู้จวินและลุงต้านไม่หยุด “ประมาณหนึ่งชั่วโมง” เป็นแค่ค่าเฉลี่ย…เอาง่ายๆมันเป็นแค่ตัวเลขโดยประมาณ
พวกเขายังสามารถดําเนินการผ่าตัดต่อไปได้อีกหลายนาที นอกจากนี้ยังเหลือเพียงแค่สองบาดแผลถ้ารีบยังไงก็ทัน!
หลังจากผ่านไปอีกหกนาที ในที่สุดทั้งสองก็ทิ้งปรสิตตัวสุดท้ายที่มองเห็นได้ลงในภาชนะ
จากนั้นลุงต้านก็รีบถอดสายรัดออกจากขาขวาของหลินต่อทันที มิฉะนั้นต่อให้เขาไม่เสียชีวิต จากอาการช็อกจากการเสียเลือด ขาของเขาก็ยังคงต้องตัดออกแม้ว่าจะได้รับการทําความสะอาดปรสิตแล้วก็ตาม
“ ฟิ้ว…” ลุงต้านถอนหายใจและรีบผ่อนคลายหลังจากที่พยายามมานานจนมีเหงื่อท่วมตัว “ ฮ่าวฮ่าวเช็ดเหงื่อฉันที?”
การผ่าตัดที่เร่งด่วนยิ่งกว่าการแย่งคิวรถแท็กซี่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาเป็นหมอมาเกือบทั้งชีวิต! ในขณะที่เขาโอดครวญ.กู้จวินที่อยู่เคียงข้างเขาไม่ได้หยุด เขาได้เริ่มงาน “เย็บปักถักร้อย” แล้ว
นี่สินะ “ความงดงามของวัยเยาว์!”
ลุงแดนสูดลมหายใจเร็วๆ แล้วมัดสายรัดกลับเข้าไป จากนั้นเขาก็ช่วย “เย็บปักถักร้อย” สิ่งนี้ง่ายกว่ามากสําหรับหมอที่เหน็ดเหนื่อยทั้งสองคน
พวกเขาทํางานเร็วมาก พวกเขาใช้เครื่องเย็บกระดาษเย็บที่ชั้นหนังกําพร้า และด้วยเหตุนี้ กระบวนการทั้งหมดจึงใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงและบาดแผลทั้งหมดที่ขาขวาได้รับการเย็บเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดทั้งสองก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
ส่วนที่เหลือพวกเขาก็ต้องรอผลจากแพทย์ด้วยการดูอาการหลังผ่าตัดอย่างใจจดใจจ่อ พวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าปฏิบัติการผ่าตัดของพวกเขาสําเร็จหรือไม่ เพราะ “การทํางานล่วงเวลา ครั้งนี้มันได้เพิ่ม “องค์ประกอบ” อันตรายและ “อุปสรรค” มากมายที่ยังไม่รู้จัก แถมยังทําในสถานที่ที่ไม่สะอาดอีก
“ แล้วผลมันเป็นยังไงบ้าง” หลินมอเอ่ยปากถามด้วยน้ําเสียงแผ่วเบา ใบหน้าของเขาซีดลง เมื่อเทียบกับก่อนการผ่าตัด แต่มีประกายแห่งความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ในดวงตาของเขาอย่างแรงกล้า
“ ลุงต้าน…” เสวี่ยป้ามองลุงต้านด้วยสายตาสื่อความหมาย ไม่ว่าจะยังไงก็ตามพยายามหาสิ่งที่เป็นบวกมาพูด เข้าใจมั้ยยยย!”
“อ่า! ในทางเทคนิค เราประสบความสําเร็จ” ลุงต้านตอบตามความเป็นจริงและพยายามรักษาน้ําเสียงให้เบาที่สุด “ แต่ไม่ว่าจะสําเร็จหรือไม่ เราจะบอกได้หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน ไม่มีอะไรให้คุณต้องกังวลมากหรอกเด็กน้อย อย่างน้อยที่สุดขาที่สามของเธอก็ไม่ได้รับบาดเจ็บนี่?”
“ ลุงต้าน ลุงแน่ใจเหรอ?” ลู่เสี่ยวหนิงตกใจ “ แต่ XXX อันนี้สั้นจนน่าตกใจ และฉันคิดว่าครึ่งหนึ่งของมันถูกกัดโดยสัตว์ประหลาด”
สมาชิกในทีมหัวเราะเบาๆ มันทําให้อารมณ์ของทุกคนสดใสขึ้น หลินมอเองก็หัวเราะตามเขาดูอีกเหิมมากกว่าเมื่อก่อน
แต่ใครจะหัวเราะ…กู้จวินไม่สน!
มันก็เหมือนกับนักเรียนที่กําลังรอผลสอบอีกสามวัน นักเรียนคนอื่นต่างรอผลกันเงียบๆ และฉลองล่วงหน้าอย่างสนุกสนานในขณะที่นักเรียนฉ้อโกงอย่างกู้จวินแอบงัดเข้าห้องเก็บคะแนนแล้วไปดูเฉลย..
กู้จวินหลับตาและรีบเปิดใช้งานอินเทอร์เฟซของระบบอย่างเงียบๆในใจของเขา และคลิกที่รายการงานผ่าตัด
ในรายการมีการบันทึกการผ่าตัดใหม่นั่นก็คือ
“การผ่าตัดกําจัดปรสิตของหนอนยักษ์” แบบสองดาวและ “ผลลัพธ์” ที่ปรากฏคือ …
“การผ่าตัดกําจัดปรสิตตัวอ่อนของหนอนยักษ์ใต้ดิน” ระดับสองดาว [ประสบความสําเร็จ ผลงานส่วนตัว 55% / อันดับ 1
ลุงต้านที่เป็นถึงหัวหน้าทีมผ่าตัดได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับสองจากผลงานสี่สิบเปอร์เซ็นต์ อันดับสามคือจางฮั่วฮั่วด้วยคะแนนสามเปอร์เซ็นต์ และสมาชิกทั้งสี่คนที่ถือไฟผ่าตัดชั่วคราว แม้พวกเขาจะไม่มีความรู้อะไรเลย แต่พวกเขาก็มีผลงานรวมสูงถึงสองเปอร์เซ็นต์
“เยสสสส! สําเร็จ!?
เมื่อกู้จวินเห็นผลลัพธ์นั้นเขาก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ทุกอย่างทําสําเร็จ นั่นทําให้เขารู้สึกได้ถึงความสนิทสนมกันของหน่วยนักล่าอสูรที่แม้เพื่อนร่วมจะบาดเจ็บแต่พวกเขาก็ให้กําลังใจและดูแลกันเต็มที่
เมื่อทุกอย่างลงรอยแล้วรอยยิ้มอันอ่อนโยนของกู้จวินก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาที่มีหน้ากากปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง แม้เห็นไม่ชัดแต่ผู้คนก็รับรู้ได้
“ อาจวิ้น เธอมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?” ในขณะที่กู้จวินกําลังดื่มต่ําอยู่กับความรู้สึกแห่งความตื้นตันและบรรยากาศของกลิ่นอายมิตรภาพ มันทําให้ลุงต้านที่เพิ่งวางตะขอเสร็จหันมามองกู้จวินด้วยความกังวล
จริงๆแล้วลุงท่านเป็นคนกังวลเรื่องผลการผ่าตัดมากที่สุด ดังนั้นเมื่อเห็นกู้จวินนิ่งเฉย เขาก็นึกว่ากู้จวินจะต้องมีความกังวลเหมือนกับเขา…เขาก็เลยรู้สึกเศร้าใจขึ้นมาทันที การผ่าตัดเมื่อครู่นี้เป็นเขาเองที่ไร้ความสามารถ ไม่อาจเป็นผู้นําทีมการผ่าตัดได้ทําให้กู้จวินต้องคอยแบบรับทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ของหัวหน้าทีมหรือว่าการดําเนินการผ่าตัดด้านเทคนิค…. ดังนั้น เมื่อเห็นชายหนุ่มตกอยู่ในสภาพนั้น เพราะความไร้สามารถของตัวเอง ลุงต้านก็อดที่จะไม่สบายใจไม่ได้
“ ไม่ครับ! ผมมีลางสังหรณ์ว่าการผ่าตัดครั้งนี้จะต้องประสบความสําเร็จและลางสังหรณ์ของผมก็ค่อนข้างแม่นยําอยู่เสมอ วางใจได้ครับ!” กู้จวินบอกคนที่เหลือและให้กําลังใจหลินม่อที่กําลังนอนหน้าซีด พร้อมกับรายการการผ่าตัดตามมารยาท
“ ระหว่างการผ่าตัดไม่มีการค้นพบถุงในเนื้อเยื่อใดๆ และตัวหนอนทั้งหมดถูกผ่าออกและทําความสะอาดแล้วเรียบร้อยครับ ดังนั้นกรุณาวางใจ” กู้จวินอธิบายสถานการณ์ของขาข้างขวาที่ปลอดภัยให้หลินม่อฟัง จากนั้นทั้งคู่เบนสายตามาที่ขาข้างซ้าย!
จากนั้นเขาและลุงต้านก็ทําการผ่าตัดต่อ และการผ่าตัดที่เหลืออยู่ก็คือ การตัดน่องซ้ายล่างของหลินม่อ
ขาซ้ายข้างนี้เต็มไปด้วยเลือดและได้รับบาดเจ็บหนักที่สุด บนขามีแต่รอยฟกช้ําและกําลังจะเน่าได้ในอีกไม่นาน จางฮ่าวฮ่าวที่เป็นพยาบาลได้แกะสายรัดออกไว้หนึ่งนาทีก่อนที่จะใส่สายรัดกลับเข้าไปอีกครั้ง นั่นก็เพื่อป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดดําส่วนลึกหรือเส้นเลือดอุดตันในปอด และเนื่องจากอาการบาดเจ็บไม่ถึงสะโพกแพทย์ทั้งสองจึงตัดสินใจตัดต้นขาซะ
โดยปกติแล้วมันเป็นเรื่องยากที่จะทําเช่นนั้นในสภาพแวดล้อมที่ย่ําแย่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นแบบนี้ แต่เมื่อเทียบกับการผ่าตัดวิบากก่อนหน้านี้ พวกเขาก็ไม่จําเป็นต้องกลัวอีกต่อไป อีกทั้งพวกเขายังมีเครื่องมือที่เพียงพอ มีชุดของยามากมายสําหรับการนี้ แม้จะน่าเศร้าไปหน่อย.. แต่การตัดแขนขาเป็นการผ่าตัดที่พบบ่อยที่สุดในทีมสํารวจที่มักออกนอกพื้นที่
เมื่อเตรียมการพร้อมและทําการทําความสะอาดขั้นพื้นฐานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลุงต้านก็เริ่มฉีดยาชาที่เอวของหลินมอเพื่อระงับความเจ็บปวดก่อนที่จะตัดขาข้างนี้ทิ้ง ท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่สําหรับจิตใจของคนไข้ ดังนั้นเขาจึงพูดจาติดตลกให้กับหลินมอได้ฟัง เพื่อให้อีกฝ่ายได้คลายเครียดและไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ การผ่าตัดครั้งนี้ง่ายมาก ประการแรกเธอเลือกสถานที่ที่ดีในการรับบาดเจ็บ ดังนั้นเราจึงไม่จําเป็นต้องตัดเนื้อเธอมากเกินไป เรามีผ้าพันแผลมากมายเพื่อหยุดการไหลเวียนของเลือด นอกจากนี้กล้ามเนื้อใกล้ก้นของเธอก็ไม่ใหญ่คับฟ้าเหมือนเสี่ยวหนิงและหัวหน้าเสวี่ย ดังนั้นก้นเธอคงไม่แหว่งหรอก”
“ ฮ่าฮ่า” หลินม่อหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ “ ก่อนหน้านี้ฉันเคยอิจฉาที่หัวหน้าเสวี่ยมีก้นที่แข็งแรงในการนั่งได้ทั้งวัน แต่ปรากฏว่าก้นของฉันที่แหละที่ดีกว่าอย่างแท้จริง”
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงเรื่องตลก หลังจากฉีดยาชาแล้วขนาดของก้นก็ไม่สําคัญเลย แต่กู้จวินก็รู้ว่าลุงต้านนั้นไม่ได้แค่พูดเรื่องไร้สาระ นี่เป็นการทดสอบสภาพจิตใจของผู้ป่วย แม้จะเห็นจากภายนอกว่าหลินม่อนั้นค่อนข้างมีสติและทําใจได้ แต่สภาพจิตใจนั้นแท้จริงจะเป็นอย่างไรก็ยากที่จะได้รู้ และถ้าหากมีอาการดิ้น…มันก็คงแย่ พวกเขาไม่อยากลงเอยด้วยการระงับความรู้สึกให้หลินต่อทั้งตัว ท้ายที่สุดแล้วการตัดแขนขาจะส่งผลกระทบทางจิตใจอย่างมากต่อผู้ป่วย
ภายใต้การพิจารณาของผู้คนรอบข้างและเสวี่ยป้าที่มองมาจากระยะไกล กู้จวินและลุงต้านก็จําต้องคว้ามีดผ่าตัดและเริ่มลงมือผ่าตัดครั้งใหญ่อีกครั้ง
ก่อนอื่นพวกเขาสองคนต้องทําการตัดผิวเนื้อในแนวตั้งด้านล่างทางซ้ายมือประมาณยี่สิบเซนติเมตรก่อน ตามเหตุผลแล้วนี่ไม่ใช่ตําแหน่งที่เหมาะสม แต่ถ้าพวกเขาเคลื่อนย้ายตําแหน่งต่ําลงมันก็จะถึงบาดแผลทันทีซึ่งตมปกติไม่มีใครเขาผ่าตรงนั้นกันหรอก..
พวกเขาเปิดผิวหนังและแหวกมันออกมา จากนั้นพวกเขาก็เห็นเส้นเอ็นที่ผิวอย่างชัดเจน และในเวลาเพียงชั่วครู่พวกเขาก็ตัดเส้นเลือดซาฟินัสใหญ่ออก ….
คราวนี้เป็นลุงต้านที่เป็นหมอผ่าตัดหลัก แต่แน่นอนว่ากู้จวินก็ช่วยได้มากเช่นกัน หลังจากจัดการกับการผ่าตัดตัดแขนประมาณยี่สิบครั้งกับเหยื่อของโรคต้นไทรมนุษย์ที่ผิดปกติ และด้วยการทําภารกิจฝึกฝนจากระบบมากมายนับไม่ถ้วน มันรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้ทําการผ่าตัดไปแล้วกว่าหนึ่งร้อยครั้ง
และมันก็หมายความว่าการตัดแขนตัดขาแบบนี้มันทําได้ง่ายเหมือนกับการมองหาช้างในห้องเล็กๆ
และคราวนี้ลุงต้านเองก็ไม่ได้แย่แล้ว เขาสามารถมองเห็นแผลและจุดที่ต้องผ่าตัดได้ชัดเจน ดังนั้นเขาจึงโหมทํางานอย่างสุดความสามารถแต่กาลเวลาไม่เคยคอยใคร ท้ายที่สุดเขาก็เหนื่อยอ่อน และเนื่องจากความเหนื่อยล้า เขาจึงต้องส่งงานให้กู้จวินมากขึ้น
สิ่งนี้ทําให้สมาชิกในทีมโดยรอบตกใจอีกครั้ง ฝีมือของกู้จวินแม่นยํายิ่งกว่าตอนที่เขาจัดการกับปรสิตตัวน้อยเมื่อครู่เสียอีก โดยเฉพาะการตัดและจัดการกับหลอดเลือดต้นขาเส้นเลือดซาฟีนัสและเส้นประสาท ดูเหมือนว่ามีดของกู้จวินจะสามารถหาตําแหน่งที่แม่นยําด้วยแรงที่แม่นยําที่สุดได้เสมอ บางทีอาจเป็นเพราะปรสิตเข้าไม่ถึงบริเวณนี้การผ่าตัดจึงดําเนินไปโดยไม่ติดขัด
การตัดเข้ากล้ามเนื้อประมาณสามเซนติเมตรเพื่อลงไปที่กระดูกนั้นถูกมอบหมายให้กับกู้จวินอัตโนมัติเช่นเดียวกับการตัดลงไปที่กระดูกเชิงกราน เพราะเขามีความเข้าใจเกี่ยวกับชั้นกล้ามเนื้อและรูปแบบของมนุษย์เป็นอย่างดี จากนั้นก็มาถึงส่วนสําหรับการเลื่อยกระดูก หลังจากตัดโคนขาออกแล้ว ขาที่เป็นโรคข้างนี้ก็จะถูกตัดออก
“ อาจวิ้นเรื่องนี้ฉันฝากเธอด้วย!” ลุงต้านพูดอย่างจริงจังกับเด็กหนุ่มเมื่อวานซืนอย่างกู้จวิน
โคนขาเป็นหนึ่งในกระดูกทรงท่อที่ใหญ่และหนาที่สุดในร่างกายของมนุษย์ และเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถใช้เลื่อยไฟฟ้าได้เพราะไม่ได้พกมา การตัดขาในครั้งนี้จึงต้องอาศัยพละกําลังมือของศัลยแพทย์อย่างเดียว
และมันเป็นไปไม่ได้ที่คนแก่อย่าง….ลุงต้านจะทําไหว