Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 147
ตอนที่ 147 ขอบเขต
ดาร์คเอลฟ์บินผ่านท้องฟ้าของนอร์แลนด์ นางกําลังบินไปยังพรมแดนของนอร์แลนด์
เมื่อมองลงมาจากด้านบน นอร์แลนด์ดูเหมือนวงกลม ศูนย์กลางของวงกลมคืออาคารที่โอ่อ่าที่สุด นั่นคือ หอคอยนักปราชญ์จากนั้นมันก็ขยายต่อไปเรื่อย ๆ ถึงสี่ยอดแหลมสร้างเส้นขอบรูปสี่เหลี่ยม นี่เป็นเขตกลางแห่งแรกของนอร์แลนด์ คฤหาสน์ของฟารัคซี่สร้างขึ้นในเขตนี้
เมื่อดาร์คเอลฟ์บินผ่านเขตนี้และมาถึงย่านการค้าข้างโรงเตี้ยมใจหิน นางมองเห็นว่าสัญญาณเครือข่ายเวทย์มนตร์ลดลงสองแท่ง
ย่านการค้าที่โรงเตี้ยมใจหินอยู่ในเขตภาคกลางแห่งที่สองของนอร์แลนด์ มหาวิทยาลัยเวทมนตร์ขั้นสูงทั้งสี่แห่งถูกสร้างขึ้นในเขตนี้ โรงละครสองแห่งของนอร์แลนด์ ได้แก่โรงละครแห่งชาตินอร์แลนด์ และโรงละครไวส์เซนาสเช่ก็อยู่ในย่านนี้เช่นกัน
ในตอนกลางคืน ย่านนี้จะเต็มไปด้วยแสงไฟจากเวทมนตร์ส่องสว่าง ด้วยเหตุนี้ความมืดของกลางคืนจึงแทบไม่มีให้เห็นในเขตนี้
เมื่อดาร์คเอลฟ์บินผ่านโรงละครไวเซนาสเช่ เสียงพูดคุยจากฝูงชนก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงอันดังก้องของอะไหล่อาร์คาโนเทคและค้อนเหล็ก
โดยที่โรงละครไวเซนาสเช่เป็นเส้นแบ่ง หากต้องการเดินทางต่อไปทางใต้ไปยังเขตที่อยู่นอกเมือง ก็จะต้องไปโรงงานอาร์คาโนเทค เขตนี้ถูกตัดผ่านโดยแม่น้ําที่ไหลผ่านนอร์แลนด์ที่เรียกว่า ” แม่น้ําใหญ่”
แหล่งที่มาของแม่น้ําไม่ใช่ภูเขาหรือแม่น้ําสายอื่นที่ใหญ่กว่า แต่แม่น้ําโผล่ออกมาจากใต้ดิน อาจกล่าวได้ว่า แม่น้ําสายนี้ทําหน้าที่พิสูจน์การมีอยู่ของอารยธรรมเวทมนตร์โบราณที่อยู่ใต้นอร์แลนด์
น้ําในแม่น้ําถูกขับออกมาจากใต้พื้นดินด้วยเวทมนตร์ที่ไม่มีใครรู้จัก มันยังคงไหลผ่านเขตมหัศจรรย์ของนอร์แลนด์ และต่อไปยังใจกลางเมืองนอร์แลนด์
เริ่มจากเขตนี้จะเห็นคนแคระและเผ่าพันธุ์อื่นๆ บนท้องถนนได้บ่อยครั้ง…
เมื่อดาร์คเอลฟ์ค่อยๆ บินเข้าไปในเขตอุตสาหกรรมอาร์คาโนเทค แสงสว่างรอบๆ ก็ค่อยๆ เริ่มหายไป ในท้ายที่สุดเหลือเพียงเปลวไฟจากเตาหลอม และอนภาคเวทย์มนตร์ที่พ่นออกมาจากโรงงานอาร์คาโนเทคเท่านั้น
เขตนี้ได้รับการจัดการร่วมกันโดยคนแคระและนักเล่นแร่แปรธาตุที่เป็นมนุษย์ ทันทีที่ดาร์คเอลฟ์บินผ่านแม่น้ําใหญ่ นางเห็นสัญญาณของเครือข่ายเวทย์มนตร์หายไปอย่างสมบูรณ์
ด้วยเหตุนี้นางจึงต้องบินลงบนยอดห้องเล่นแร่แปรธาตุ นางหลีกเลี่ยงปล่องควันและมองไปยังย่านการค้าที่อยู่ห่างไกลจากแม่น้ําใหญ่ เมื่อมองดูย่านการค้าที่สดใสจากที่ไกล นางรู้สึกเหมือนกับเห็นภาพวาดที่ฝังอัญมณีทุกชนิด
จากนั้นนางก็มองไปทางด้านหลังของเขตอุตสาหกรรม ที่นั้นเป็นพรมแดนของนอร์แลนด์ ถนนกระรอกอยู่ที่นั่น มันมืดมากจนมองไม่เห็นโครงร่างของอาคาร
ดาร์คเอลฟ์ไม่ได้อยู่นิ่งๆ หลังจากยืนยันขีดจํากัดของระยะที่สัญญาณเครือข่ายเวทมนตร์ครอบคลุมแล้ว ดาร์คเอลฟ์เริ่มกระพือปีก และเริ่มบินกลับไปยังเขตภาคกลางของนอร์แลนด์
สัญญาณของเครือข่ายเวทมนตร์ค่อยๆ กลับมาเต็ม นางกลับไปที่คฤหาสน์ของฟารัคซี่ และลงที่ขอบขอบหน้าต่าง
“เป็นยังไงบ้าง?”
โจชัวเดินไปที่ขอบหน้าต่างเพื่อถามอีกา
“หลังจากผ่านแม่น้ําใหญ่สัญญาณของเครือข่ายเวทมนตร์ก็หายไปอย่างสมบูรณ์” ดาร์คเอลฟ์กล่าว
“แม่น้ําใหญ่?”
โจชัวจําได้ว่าตอนเขาได้พบกับไฮแลน พี่สาวของซิริ ห้องเล่นแร่แปรธาตุนางอยู่ติดกับแม่น้ําสายนั้น
“แม่น้ําสายสําคัญของเมืองนอร์แลนด์ ถ้ามันไปถึงที่นั่นได้…ขอคิดดูก่อน ข้าคิดว่าควรจะเป็นอย่างนั้น”
ซิริอาศัยอยู่ที่นอร์แลนด์กับครอบครัวของนางเป็นเวลาห้าหกปี ดังนั้นนางจึงถือได้ว่าเป็นคนท้องถิ่นเช่นกัน
นางหยิบกระดาษวาดรูปสีขาวออกมาแล้ววาดวงกลมทับกันห้าวง ในวงกลมเหล่านั้น นางวาดภาพร่างของอาคารและระบุชื่อสถานที่ จากนั้น นางลากเส้นแนวนอนระหว่างวงกลมที่สองและวงกลมที่สาม
“โดยประมาณจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งในสามของพื้นที่ทั้งหมด? มันยังแคบเกินไป…”
โจชัวอ้างอิงโดยดูแผนที่ที่ซิริวาด เครือข่ายเวทย์มนตร์ที่สร้างโดยต้นไม่โลกซึ่งเพิ่งงอกเป็นต้นกล้าสามารถครอบคลุมหนึ่งในสามของนอร์แลนด์เท่านั้น
หากต้นไม่โลกถูกปลูกขึ้นที่ใจกลางนอร์แลนด์ในหอคอยนักปราชญ์ พวกคนแคระที่อาศัยอยู่ในเขตที่ไม่มีสัญญาณจะยกค่อนประท้วงอย่างแน่นอน
“แต่เมื่อต้นไม่โลกเติบโตมันต้องครอบคลุมพื้นที่มหาศาล มันสามารถครอบคลุมหนึ่งในสามของนอร์แลนด์ได้ตอนเป็นต้นกล้าอ่อน เมื่อมันเติบโตเป็นต้นไม่โบราณ มันควรจะสามารถครอบคลุมทั้งประเทศได้อย่างไม่มีปัญหา”
โจชัวไม่กังวลเกี่ยวกับขอบเขตของเครือข่ายเวทย์มนตร์ หากขอบเขตไม่เพียงพอ เขาก็สามารถใช้เซิร์ฟเวอร์รากได้
ในทางทฤษฎี มันควรจะเป็นไปได้ที่เขาจะเปลี่ยนโลกนี้ให้เป็นสถานที่ที่สามารถรับสัญญาณไวไฟได้ทุกที่ แต่เพื่อจะทําเช่นนั้น โจชัวจะต้องแชร์อินเทอร์เน็ตให้ได้ก่อน
“ต้นไม่โลกสามารถเติบโตได้ในเวลาอันสั้นจริงหรอ?” ดาร์คเอลฟ์ตั้งคําถาม
ต้นไม่โลกทั้งหมดเติบโตเป็นต้นไม่โบราณผ่านการบํารุงเลี้ยงของเอลฟ์รุ่นต่อรุ่น
จากช่วงชีวิตของดาร์คเอลฟ์ประมาณหนึ่งพันปี ต้นไม่โลกจะต้องใช้ในการเติบโตจากต้นกล้า
“มันเป็นไปได้ นั่นคือสมมติว่าเราสามารถเผยแพร่สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง”
โจชัวถามไทลีนเกี่ยวกับรายละเอียดของต้นไม่โลก แม้แต่ในช่วงที่เผ่าอยู่ในจุดสูงสุด พวกนางก็ยังมีคนไม่ถึงหมื่นคน เนื่องจากเอลฟ์อายุยืนยาว ความสามารถในการสืบพันธุ์ของพวกนางจึงเป็นสองรองจากมังกร – มีบุตรยากอย่างมาก
“เผยแพร่?”
ดาร์คเอลฟ์ครุ่นคิดเกี่ยวกับคําพูดของโจชัว หากพวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไม่มีจอมเวทย์คนไหนจะเต็มใจที่จะยอมรับเวทย์มนตร์ที่ไม่คุ้นเคยเข้ามาในจิตใจของพวกเขา นอกจากนี้แม้ว่าผู้วิเศษส่วนใหญ่ในนอร์แลนด์จะเชื่อในเทพแห่งกฎ แต่ผู้วิเศษบางคนไม่ใช่…
“อินอร์และแกลโลลี่จะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้” โจชั่วกล่าว
“เอ่อ…“
อินอร์ที่กําลังหลับอยู่สะดุ้งตื่นทันทีที่ได้ยินโจชั่วพูดถึงชื่อของเขา
อินอร์จัดกระโปรงด้วยความตื่นตระหนก และลุกขึ้นจากโซฟา เขามองไปรอบ ๆ อย่างไม่สบายใจเหมือนกระรอกที่ตกใจ
เมื่อโจชัวพูดถึงชื่อ “แกลโลลี่” มีเสียงบางอย่างกระทบกับบางสิ่งที่ด้านนอกประตู ดูเหมือนมีคนล้มลงกับพื้น
“ท่านหญิงแกลโลลี่ โปรดอย่าแอบฟังด้านนอก ท่านเข้ามาข้างในได้” โจชั่วพูด
ลูกบิดประตค่อยๆ หมุน แกลโลลี่ยังคงสวมชุดของมาทิลด้เดินเข้ามาจากประต เอลฟ์ป่าด่าก็เข้ามาพร้อมกับนางด้วย
“ท่านโจชัว ขอโทษที่รบกวนเวลาของท่าน”
แม้ว่าแกลโลลี่จะสวมชุดของมาทิลด้ แต่นางก็ยังคงประพฤติตนอย่างเหมาะสมกับการเป็นดอกไม้แห่งฟารคซี่
โจชัวสังเกตว่าหน้าผากของนางแดงเล็กน้อย ดูเหมือนว่านางจะเป็นคนที่ลื่นล้มก่อนหน้านี้
“ข้าขอถาม… มีอะไรให้ข้าช่วยไหม?
การแอบฟังไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงที่ฉลาดและมีศีลธรรมควรทํา
น่าเสียดายที่ความอยากรู้มีมากกว่า ตอนนี้เมื่อโจชัวจับได้แล้ว นางจึงตัดสินใจเข้ามาในห้อง
“ท่านหญิงแกลโลลี่ ท่านเคยได้ยินเรื่องเทพแห่งกฎไหม?” โจชัวถาม
หากเทพแห่งกฎมีอยู่จริง โจชัวจะเรียกร้องค่านายหน้าจากผู้เผยแพร่ศาสนาคนนั้นแน่!