Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 158
ตอนที่ 158 ไดอารี่
เมืองแสงศักดิ์สิทธิ์ของประเทศแห่งศาสนจักร
ไม่ว่านางจะใช้มันกี่ครั้ง เชอรี่รู้สึกเสมอว่าวงเวทย์เคลื่อนย้ายทางไกลนั้นสะดวกมาก ด้วยวงเวทย์เคลื่อนย้ายนางสามารถกลับไปยังศาสนจักรจากนอร์แลนด์ได้ภายในวันเดียว
แต่การกลับมาครั้งนี้ของนางไม่ใช่การกลับมาอย่างมีชัยหลังจากทําภารกิจสําเร็จแต่นางกลับถูกคุ้มกันโดยเหล่านักบุญเทมพลาร์
ศาลนอกรีตยังคงเหมือนเดิมกับตอนที่เชอรี่จากไป เมื่อเทียบกับศาสนจักรสถานที่นี้ดูเหมือนคุกใต้ดินมากกว่า
กลิ่นธูปแปลก ๆ เต็มทั่วไปทั้งสถานที่กลิ่นธูปสามารถสงบจิตใจของผู้สอบสวนที่กลับมาได้เล็กน้อย
อย่างไรก็ตามเชอรี่ไม่ได้รู้สึกว่าจิตใจของนางสงบลงมากนักจากการดมกลิ่นธูป ปัจจุบันนางกําลังรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติภารกิจต่อบาทหลวงของศาลนอกรีต
เชอรี่อยู่ในพื้นที่หลักของโบสถ์ศาสนอกรีตนางชําเลืองมองบาทหลวงที่นั่งเหนือศาล
ขณะที่พวกเขาทั้งหมดสวมหน้ากากหิน เชอรี่ไม่สามารถระบุได้ว่าพวกเขามีลักษณะอย่างไร
นอกจากเจ้าแล้ว ผู้สอบสวนที่ถูกส่งไปทั้งหมดถูกปีศาจตัวนั้นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมอย่างงั้นหรอ?
ขออนุญาติแก้ไข ปีศาจโกลาหลนั้นเจ้าเล่ห์มาก
ด้วยความกลัวในสายตาของนาง เชอรี่จ้องไปที่บาทหลวงทั้งสามบนบัลลังก์พิพากษา ขณะที่นางอธิบายสิ่งที่นางพบในนอร์แลนด์
แน่นอนว่านางกําลังเพิ่มรายละเอียดในงานของนาง แต่นางไม่ได้โกหกกับคําอธิบายว่า ‘เจ้าเล่ห์
ท้ายที่สุด นางตกหลุมพรางของปีศาจโกลาหลโจชั่วที่ให้ซื้อซองการ์ดโดยใช้ทองคําแท้
และที่อันตรายกว่านั้น แม้ว่านางจะรู้ว่ามันเป็นวิธีการของปีศาจตัวนั้นที่จะโกงเงินออมของนาง แต่นางก็ไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้
นั่นเป็นข่าวที่น่าเศร้าอย่างแท้จริง เราสูญเสียผู้สอบสวนที่ยอดเยี่ยมไปอีกสามคน…
บาทหลวงทั้งสามไม่สงสัยเรื่องราวของเชอรี่
ดูเหมือนว่าแม้หัวหน้าบาทหลวงดีไซเลสจะ หยาบคาย กับเชอรี่แต่เขาก็ไม่ได้รายงานพฤติกรรมชั่วร้ายของเชอรี่ในโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ขณะอยู่ในนอร์แลนด์
ผู้สอบสวน ท่านถอนตัวได้แล้ว คณะนักร้องประสานเสียงพร้อมที่จะชําระล้างหัวใจของท่าน
เราจะส่งผู้สอบสวนใหม่ไปลงโทษปีศาจที่ซ่อนตัวอยู่ในนอร์แลนด์
โปรดรอก่อน! ท่านบาทหลวง…
เชอรี่เริ่มตื่นตระหนกทันทีที่นางได้ยินว่าบาทหลวงทั้งสามกําลังวางแผนที่จะส่งผู้สอบสวนกลุ่มใหม่ไปยังนอร์แลนด์
มีอะไรหรือ ผู้สอบสวน
ท่านบาทหลวง การตายของหัวหน้าผู้สอบสวนได้นําความโศกเศร้ามาสู่ข้าอย่างใหญ่หลวง ด้วยเหตุนี้ข้าจึงไม่สามารถให้อภัยปีศาจตนนั้นได้ไม่สามารถปล่อยให้มันก่ออาชญากรรมต่อไปได้!
เชอรี่โกหก ท้ายที่สุดนางไม่รู้แม้แต่ชื่อของผู้สอบสวนที่ร่วมปฏิบัติภารกิจกับนาง
อย่างไรก็ตาม นางพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทําให้น้ําเสียงของนางดูเหมือนเต็มไปด้วยความคับข้องใจและความโกรธ
อย่าปล่อยให้ตัวเองถูกควบคุมด้วยความโกรธ เชอรี่ ท่านต้องสงบสติอารมณ์ไว้… การขับร้องอันศักดิ์สิทธิ์ของคณะนักร้องประสานเสียงจะทําให้จิตใจของท่านสงบ หนึ่งในสามบาทหลวงแนะนํานาง
ข้าไม่จําเป็นต้องฟังเพลง! แค่ต้องเล่นใจหินสักรอบเท่านั้น!
แน่นอนว่านั่นคือสิ่งที่เชอรี่คิดอยู่ในใจ แต่นางก็ไม่ได้พูดออกไป
ในท้ายที่สุดบาทหลวงทั้งสามไม่อนุญาตคําร้องของเชอรี่ นางถูกนําตัวออกจากศาล
หลังจากออกจากศาลเชอรี่มาถึงห้องสวดภาวนาที่คณะนักร้องประสานเสียงของศาสนจักรกําลังร้องเพลงสวดอยู่
เมื่อเทียบกับบรรยากาศที่มืดและน่าขนลุกของศาสนอกรีต สถานที่นี้อบอุ่นกว่ามาก แม้จะมืดมิด แต่ยังคงมีแสงส่องผ่านแก้วห้าสีและส่องลงมาบนม้านั่ง
เพลงสวดภาวนาที่ร้องโดยคณะนักร้องประสานเสียงค่อย ๆ ก้องไปทั่วทั้งห้องสวดภาวนา ราวกับได้ยินเสียงพึมพําของเหล่าทวยเทพภายใต้แสงแดด มันเป็นความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์
ในอดีตเชอรี่จะไม่เหนื่อยแม้ว่าจะนั่งอยู่ที่นี่ทั้งวัน ท้ายที่สุดมีเพียงการฟังเพลงสวดที่ผ่อนคลายในห้องสวดภาวนาเท่านั้นที่ทําให้นางสามารถผ่อนคลายจิตใจได้
แต่คราวนี้เชอรี่นอนราบบนม้านั่งอย่างสมบูรณ์
เฮ้อ…ข้าคิดถึงการเล่นใจหิน
ในขณะที่คณะนักร้องประสานเสียงกําลัง อวยพร นางด้วยเพลงสวด สิ่งเดียวที่เชอรี่คิดคือใจหิน ไม่นานหลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง การร้องเพลงก็ค่อยๆ จบลง
ด้วยเหตุนี้เชอรี่จึงลุกขึ้นจากม้านั่ง หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดนางก็มาถึงห้องของนางในศาลนอกรีต
หลังจากที่คนหนึ่งเข้าร่วมศาสนอกรีตแล้ว บุคคลนั้นจะอยู่ในศาสนอกรีตของเมืองแสงศักดิ์สิทธิ์ไปตลอดกาลและดําเนินชีวิตแบบเดียวกับนักบุญ
ผู้สอบสวนหลายคนใช้ความเชื่อของตนเพื่อช่วยเหลือตัวเอง สําหรับเชอรี่นางเป็นคนที่จดจ่ออยู่กับการรักษาตัวเองจากการพึมพําอย่างบ้าคลั่งนั่น
การร้องเพลงของคณะนักร้องประสานเสียงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการลบเสียงพึมพําเหล่านั้นออกจากใจนอกเหนือจากการฟังคณะนักร้องประสานเสียง เชอรี่ยังเขียนไดอารี่ทุกวันเพื่อบันทึกสิ่งที่นางทําในแต่ละวัน
วันนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น แต่เมื่อเชอรี่มาถึงโต๊ะและดึงลิ้นชักออก นางพบว่าไดอารี่ของนางเสียหายอย่างหนัก
หนู?!
นางเปิดสมุดไดอารี่สีเหลืองเล่มเล็ก มันเป็นหนังสือที่ เก่า บันทึกความทรงจําทั้งหมดของนางตั้งแต่เป็นผู้สอบสวน
ส่วนใหญ่ของหนังสือหนา เล่มนี้ดูเหมือนจะถูกสัตว์บางชนิดกัดแทะ
ข้ารู้แล้ว ข้าไม่ควรทิ้งมันไว้ที่นี่ พวกบ้านั่นคงลืมทิ้งศพอีกแล้ว
เชอรี่ได้กลิ่นอากาศโดยรอบ มีกลิ่นเลือดเล็กน้อย
สถานที่แห่งนี้เป็นมุมที่มืดมนที่สุดในเมืองฐานศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด ใครจะรู้ว่าสถานที่แห่งนี้มีคนไร้เดียงสาหรือพวกนอกรีตที่โชคร้ายจํานวนเท่าไร เชอรี่คุ้นเคยกับชีวิตประจําวันแบบนี้แล้ว
อย่างไรก็ตามนางอดไม่ได้ที่จะโกรธหลังจากเห็นไดอารี่กว่าครึ่งที่นางใช้เวลาหลายสิบปีในการบันทึกถูกแทย
อย่างไรก็ตามความโกรธในหัวใจของนางก็สลายไปจากการร้องเพลงที่ดังขึ้นข้างหูของนาง..
เกิดอะไรขึ้น? เชอรี่มองไปรอบๆ ไม่สิ เป็นไปได้สําหรับนางที่จะได้ยินเสียงสวดของคณะนักร้องประสานเสียงในที่มืดมิดแห่งนี้ นอกจากนี้การร้องเพลงนี้ไม่เหมือนเพลงสวดของคณะนักร้องประสานเสียงด้วย
ภาษาเอลฟ์?
ใบไม้สีเขียวอ่อนปรากฏขึ้นในมือของเชอรี่ หน้าต่างพิเศษก็โผล่ออกมาในขอบเขตการมองเห็นของนาง
ระบบเครือข่ายเวทมนตร์… ของขวัญที่นางได้รับจากปีศาจโกลาหลก่อนออกเดินทางจากนอร์แลนด์ ในการเดินทางกลับเชอรี่ได้ใช้เวลาค้นหาว่ามันเป็นเวทมนตร์ประเภทใด
เสียงร้องเพลงที่สงบนิ่งดังมาจาก เสียงแห่งนอร์แลนด์ที่เชอรี่ยังไม่ได้ปิด
เอลฟ์น้ําแข็ง ไทลืน…
เชอรี่เหลือบมองที่คําบรรยายใต้ภาพใน เสียงแห่งนอร์แลนด์ จากนั้นนางก็หยิบผลึกออริจินั่มสีดําสนิทออกมาเป็นของขวัญที่นางได้รับจากเมสซา อัลบั้มเพลง นักร้องชื่อไทลืน
ถ้านางถูกพากลับมาที่เมืองศักดิ์สิทธิ์ ผู้หญิงเลวคนนั้นจะต้องออกไป…
เชอรี่เริ่มฟังมหากาพย์เอลฟ์อย่างจริงจัง เสียงร้องที่เปล่งออกมาโดยตรงในจิตสํานึกของนางมีประโยชน์มากกว่าบทเพลงของคณะนักร้องประสานเสียง
ในไม่ช้านางเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของนางเป็นแอปพลิเคชั่น นั่นคือกระทูจอมเวทย์
เชอรี่ได้ลงทะเบียนบัญชีในกระทูจอมเวทย์ระหว่างทางกลับมาที่เมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์นางยังคิดหาวิธีใช้กระทูจอมเวทย์
บางที…ข้าสามารถเขียนไดอารี่ของข้าในกระทู้นี้ได้ไหม
เชอรี่เหลือบมองไดอารี่สภาพยับเยินที่นางถืออยู่ในมือถ้านางกลับมาช้ากว่านี้อีกสักสองสามวันสมุดบันทึกของนางคงถูกหนูกัดแทะไปจนไม่เหลืออะไรแล้ว