Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 163
ตอนที่ 163 เติบโต
วันที่สามนับตั้งแต่เสียงแห่งนอร์แลนด์เริ่มเผยแพร่สู่สาธารณะ
จีนี่ผู้ทรงพลังได้รับการปลดปล่อยจากตะเกียงวิเศษ หลังจากได้รับอิสรภาพแล้วจีนได้มอบพรให้อาละดินขอได้สามข้อ…
เอลฟ์น้ําแข็งไทลืนกําลังนั่งอยู่ในห้องไร้เสียง นางกําลังถือบทที่โจชั่วเขียนและอ่าน
ตามปกติแล้วโจชัวและซิริยืนจะอยู่นอกห้องไร้เสียงและฟังเรื่องราวของไทลีนอย่างเงียบๆ ผ่านเครือข่ายเวทย์มนตร์
หลังจากสามวันไทลืนก็ค่อยๆ พัฒนาทักษะด้านการแพร่ภาพกระจายเสียง
แม้ว่านางจะห่างไกลจากการเป็นมืออาชีพ แต่นางก็มีเสียงที่ไพเราะน่าฟังมาก บางทีมันอาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากต้นไม่โลก โจชัวมักจะรู้สึกผ่อนคลายมากเมื่อพูดคุยกับนาง
ตะเกียงวิเศษนั้นมีอยู่จริงหรือ?
เมื่อได้ฟังเรื่องที่ไทลืนบรรยายในเสียงแห่งนอร์แลนด์แล้ว ซิริก็อดไม่ได้ที่จะหันไปถามโจชั่วคนที่เล่าเรื่องนี้ให้ไทลีนฟัง
ข้าแค่บอกเล่าเรื่องราวนี้ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตะเกียงวิเศษนั้นมีจริงหรือไม่
โจชัวไม่ต้องการให้รายการของเสียงแห่งนอร์แลนด์ซ้ําซากจําเจเกินไป ดังนั้นนอกเหนือจากการร้องเพลงกล่อมในเวลากลางคืน เอลฟ์น้ําแข็งยังจะเล่าเรื่องราวให้ผู้ชมฟังและบรรยายชีวประวัติสองสามวันต่อสัปดาห์ แน่นอนโจชัวเป็นคนจัดหาเนื้อหาทั้งหมดให้นาง
มันไม่สมจริงเลยที่จะมีเอลฟ์น้ําแข็งเป็นผู้ประกาศเพียงคนเดียว ด้วยเหตุนี้โจชัวจึงกําลังไตร่ตรองว่าจะห คนที่มีความสามารถใหม่ๆ อยู่
จากต้นฉบับที่เจ้าเขียน ดูเหมือนว่าเจ้าจะใช้พร็อพของเวทมนตร์แห่งความปรารถนา ยังมีถ้วยนั่นที่คนเจ็ด คนสู้กันแย่งชิงหุ่นเชิดเวทมนตร์สองหัวสีฟ้า และลูกบอลเจ็ดลูกที่สามารถเรียกมังกรได้ เจ้าบอกข้าหน่อยว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของปลอมหรือไม่?
ซิริยกนิ้วของนางและนับเรื่องราวต่างๆ ด้วย เวทมนตร์แห่งความปรารถนา ในฐานะแฟนหมายเลขหนึ่งของโจชัวนางจะเป็นคนแรกที่อ่านผลงานใหม่ของโจชัว
พวกมันทั้งหมดเป็นเรื่องปลอม ถ้ามีเวทมนตร์แห่งความปรารถนาจริงๆ มันก็ไม่ใช่เวทมนตร์ในตํานานสําหรับจอมเวทย์
โจชัวปัดอินเทอร์เฟซเครือข่ายเวทย์มนตร์ด้วยนิ้วของเขา เขาได้เปิดกระทู้ย่อยใหม่สําหรับเสียงแห่งนอร์แลนด์ โดยเฉพาะ เขาทําทุกอย่างเพื่อดึงดูดผู้คนให้มาดูและติดตามเสียงแห่งนอร์แลนด์มากขึ้น
ในสามวันสั้นๆ กระทู้จอมเวทย์มีผู้ใช้มากกว่าสี่หมื่นเจ็ดพันคน แม้ว่าจะยังเป็นเพียงตัวเลขน้อยๆ ในเมืองอย่างนอร์แลนด์ แต่ก็เป็นเวลาเพียงสามวันเท่านั้น
ปัจจุบันจํานวนผู้ฟังเสียงแห่งนอร์แลนด์ เพิ่มขึ้นเป็นประมาณแปดพันคน ดูเหมือนว่าการเล่าเรื่อง ‘อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ’ ของไทลืนจะดึงดูดจอมเวทย์จํานวนมากที่ต้องการสํารวจสิ่งที่ไม่รู้จักในโลกนี้
ประเทศโบราณที่ปกคลุมไปด้วยทรายสีเหลือง มันควรจะเป็นทะเลทรายอนาล็อกที่อยู่ทางใต้สุดของโลก มีประเทศในอาณาจักรแห่งความตายนั้นจริงหรอ? ผู้โพสต์: นกฮูกสีเทา
ทุกคน ถ้าได้ครอบครองตะเกียงวิเศษจะขออะไร? ข้าอยากให้สาวสวยทุกคนตกหลุมรักข้า ผู้โพสต์: นาคตาเดียว
ขนาดมหึมาและมีสีน้ําเงิน ครึ่งล่างคล้ายกับผี ตามคําอธิบายจีนี่นั้นเป็นผีก็อบลินอย่างแน่นอน! ผู้โพสต์: นิ้วกระดูก
โจชัวกําลังอ่านข้อความที่ปรากฏในย่านพิเศษนอร์แลนด์ ดูเหมือนว่าผู้วิเศษเหล่านี้ไม่ได้มองว่าเรื่องราวของไทลีนเป็น ‘เทพนิยาย’ แต่พวกเขากลับมองว่ามันเป็นชีวประวัติบางประเภท บางอย่างที่เคยเกิดขึ้นจริงในอดีต
โจชัวไม่รู้ว่าผลลัพธ์นี้ดีหรือไม่ดี เมื่อไทลีนกําลังจะพูดเกี่ยวกับอะลาดินโดยใช้ตะเกียงเพื่อขอพร นางก็หยุดทันที เมื่อเห็นเช่นนั้น โจชัวก็ปิดอินเทอร์เฟซเครือข่ายเวทย์มนตร์ทันทีและมองไปที่ไทลีนในห้องไร้เสียง
ในไม่ช้าดวงตาของโจชัวก็หันไปมองที่โต๊ะ มองไปที่ต้นไม่โลกที่ไทลืนใช้เป็น ไมโครโฟน ของนาง
ต้นไม่โลกเปล่งแสงสีเขียวจางๆ
แม้ว่าจะมีอักษรรูนอยู่บนกระจกรอบๆ ห้อง แต่โจชั่วยังคงสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่ปล่อยออกมาจากต้นไม่โลก
ต้นกล้าก็เริ่มโต ต้นไม่โลกเติบโตจากความยาวเท่านิ้วชี้เป็นเท่าฝ่ามือ
ใบไม้สีเขียวอ่อนสามใบบานเหมือนดอกไม้
ความเร็วในการเติบโตของต้นไม่โลกนํามาซึ่งความตื่นเต้นอย่างมากต่อเอลฟ์น้ําแข็งจนนางต้องการจะกระโดดกรี๊ด แต่นางสามารถระงับความตื่นเต้นได้ด้วยการควบคุมตนเองได้ นางหยิบบทพูดกลับมาและอ่านเรื่องราวของ อะลาดิน ต่อ
นี่คือสิ่งที่เจ้าบอกว่า ‘ผลิตหมื่นใบต่อเอเคอร์?’ หรอ?
แรกที่ซิริได้เห็นการเติบโตของต้นไม่โลก ตามหลักเหตผล พืชควรเติบโตที่ละน้อย แต่ตนไม่โลกไม่เป็นตามกฎนั่น
บางที… เครือข่ายเวทย์มนตร์อาจทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
โจชัวหวังว่าตนไม่โลกจะสารารถพัฒนาไปให้เป็นปัญญาประดิษฐ์ได้ หากเป็นเช่นนั้น จะสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดในโปรแกรมของเขาได้
แต่ความจริงได้เปิดเผยว่าต้นไม่โลกไม่สนใจการรวบรวมอักษรรูนเลย
ไทลืนยังคงเล่าเรื่องราวของ อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ อยู่ ทันใดนั้นนกฮูกตัวหนึ่งก็บินเข้ามาจากหน้าต่าง
เครือข่ายเวทย์มนตร์ขณะนี้อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเผยแพร่เท่านั้น ผู้อยู่อาศัยในนอร์แลนด์ส่วนใหญ่ ยังคงคุ้นเคยกับการใช้นกเพื่อแลกเปลี่ยนจดหมายเป็นช่องทางในการสื่อสาร
นกฮูกวางจดหมายในมือของโจชั่วอย่างชํานาญ แล้วมันก็บินออกไปนอกหน้าต่าง
โจชั่วเหลือบมองตราประทับขี้ผึ้งบทจดหมาย มันเป็นต้นไม้โบราณสีดําสนิท
มันเป็นจดหมายจากดัชเชสแห่งป่าดํา นับตั้งแต่การถ่ายทํา ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ เสร็จสิ้น ดัชเชสคนนี้ดูเหมือนจะถือว่าโจชั่วเป็น ‘ผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ ทันที
นางยังคงหวังว่าจะได้ร่วมมือกับเขาอีกครั้ง
แต่โจชัวไม่รีบร้อนที่จะสร้างภาพยนตร์เรื่องอื่น ท้ายที่สุดแล้ว ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ ได้เข้าฉายในโรงละครไวเซนาสเช่เป็นเวลาแค่สี่วันเท่านั้น มันยังคงได้รับความนิยมสูงสุดอยู่
นอกจากนี้ เขารู้ว่าความทะเยอทะยานของมาดามโครเดอร์ไม่ได้จํากัดอยู่ที่นอร์แลนด์ ในไม่ช้นางจะนําภาพยนตร์เรื่องนี้ออกจากนอร์แลนด์ และฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก
จดหมายที่นางส่งให้โจชั่วเป็นจดหมายเชิญ
ขบวนการเคลื่อนย้ายข้ามชาติที่เปิดในนอร์แลนด์จะปิดในวันพรุ่งนี้ เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น มันจะยากและลําบากมากสําหรับนางที่จะกลับไปที่ฟารัคซี่
นอกจากกล่าวคําอําลาแล้ว นางยังเขียนในจดหมายด้วยว่านางหวังว่าจะได้พบโจชั่วอีกครั้ง นอกจากนี้นางต้องการถามเขาเกี่ยวกับเหตุผลที่ว่าทําไมลูกสาวของนางจึง แปลกๆ ไปในช่วงนี้
ดูเหมือนว่ามาดามโครเดอร์ได้เรียนรู้พฤติกรรมล่าสุดของแกลโลลี่ในการหมกมุ่นอยู่กับกระทูจอมเทย์
โจชัวสงสัยว่านางจะทําตัวเหมือนพ่อแม่บนโลก และพยายามขจัดปัญหาการติดอินเทอร์เน็ตของลูกสาวหรือ
อักษรรูนจุดไฟปรากฏขึ้นบนมือของโจชัว นั่นเป็นหนึ่งในเวทย์มนตร์ที่ง่ายที่สุดในระบบเวทย์มนตร์ไฟ
ในไม่กี่วินาทีจดหมายก็ถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
เราจะไปที่คฤหาสน์ของมาดามโครเดอร์เพื่อรับประทานอาหารเมื่อไทลีนเล่าเรื่องของนางเสร็จ
เนื่องจากมีคนเสนอเลี้ยงอาหารแก่เขา โจชัวจึงไม่อาจปฏิเสธได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นชนชั้นสูง กลุ่มคนที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความฟุ่มเฟือย