Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 35
การส่งเสริมวิดิโอเกมในโลกนี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนของโจชัว แต่ทว่า ความคืบหน้าของโจชัวกับระบบการผลิตนั้นเสร็จไปแค่ประมาณ 20% เห็นได้ชัดว่ามันยังเป็นความฝันที่ห่างไกลกับการสร้างเกมขนาดใหญ่ด้วยระบบปัจจุบัน
เช่นนั้น แนวคิดเริ่มต้นของโจชัวคือการสร้างเกมพิกเซลง่ายๆที่คล้ายกับป็อง เหมือนซูเปอร์มาริโอ้ และอื่นๆ แต่อุปกรณ์เวทมนตร์ของไฮร์แลนก็ได้มอบแผนใหม่ให้เขา
แผนนั้นคือการสร้างเครื่องอาร์เคด
บทนำของโจชัวเกี่ยวกับวิดิโอเกม นอกจากเกมคลาสสิกต่างๆแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นแนวอาร์เคด
เขาอยากสร้างเครื่องเกมอาร์เคดที่สามารถดล้น Hearthstoneได้ จากนั้น เขาก็จะหาวิธีสร้างระบบลงทะเบียนก่อนใส่ระบบสุ่ม ที่การซื้อซองการ์ดเพิ่มเติมจะต้องใช้เหรียญ
ราคาของซองการ์ดหนึ่งซองจะถูกกำหนดไว้ที่หนึ่งเหรียญทอง
เมื่อโจชัวได้สัมผัสกับเกมHearthstoneเป็นครั้งแรก เขารู้สึกว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ดื่มเบียร์สักขวดก่อนเล่นเกม
แผน’โรงเตี๊ยมใจหิน’ต้องเป็นไปได้แน่ โจชัวเชื่อว่าเกมไพ่ที่เรียบง่ายแต่สนุกต้องได้รับความนิยมบนโลกนี้แน่
ก่อนโจชัวจะได้สร้างโรงเตี๊ยมใจหิน เขาต้องเจอกับปัญหาน่าอับอายที่สุด…เขาไม่มีเงิน
“ไฮร์แลน ตามที่ซิริพูด ฉันเป็น..ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรม และมาเมืองนี้เพื่อเยี่ยมชมโรงละคร”
โจชัวพบว่าเจ้าชายปีศาจไม่รู้เรื่องแนวคิดสกุลเงินเพราะฐานะเขาในฐานะเจ้าชายสามทำให้เขาอยากได้อะไรก็ต้องได้โดยไม่ต้องใช้เงิน
แต่ทว่า ในโลกมนุษย์ ฐานะของโจชัวไร้ประโยชน์ เขาจึงตกอยู่ในสภาพนี้
ไม่มีใครในโลกนี้ตายจากความยากจน และพื้นฐานการลงทุนคือการมีทุน เงินทุนของโจชัวนั้นอยู่ในกระเป๋าเดินทางเขา
ตอนนี้ โจชัวได้เตรียมเพิ่มมูลค่าของ’โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ให้ถึงขีดสุด
“โรงละคร…นายวางแผนพาซิริไปแสดงงั้นเหรอ?”
ไฮร์แลนกวาดตามองซิริกับโจชัว เธอเฝ้าดูซิริเติบโต และรู้ว่านิสัยแข็งกระด้างของซิริทำให้เธอชอบใครสักคนได้ยาก
แต่เมื่อเห็นซิริยืนอยู่ข้างโจชัวและยังประจบเขา มันก็แสดงชัดว่าน้องสาวคนเล็กของเธอชมชอบเขา
“ไม่ ไม่ใช่เพื่อเข้าร่วมการแสดง แต่เพื่อคุยธุรกิจกับเจ้าของโรงละคร ไฮร์แลน เธอรู้ไหมว่าโรงละครแห่งใดในเมื่อที่เป็นของพวกดัลค์?”
“ดัลค์..ข้าคิดว่าเจ้ากำลังหมายถึงโรงละครวินเซนาสเช่”
โจชั่วได้บอกไฮร์แลนถึงมูลค่าที่เป็นไปได้ของอุปกรณ์นาง และเขาก็สามารถดึงดูดให้นางทำข้อตกลงร่วมมือชั่วคราวกับเขาได้
แถม ไฮร์แลนยังไม่อยากให้มรดกของแม่นางถูกเก็บไว้ในห้องน้อยนี้
“มันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ แค่ข้ามแม่น้ำ”
ไฮร์แลนเปิดประตูห้องขณะเตรียมรับบทผู้นำทาง
ย่านฝั่งตรงข้ามแม่น้ำคือตอนบนของนอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถาบันเวทมนตร์ของนอร์แลนด์เกือบทั้งหมด
ก่อนโจชัวจะมาถึง ไฮร์แลนได้วางแผนปิดสตูดิโอนางและกลับไปสถาบันเพื่อศึกษาต่อ แต่คำพูดของโจชัวก็ทำให้นางมีความหวังอีกครั้ง
“ตามข้ามา”
ด้วยไฮร์แลนนำทาง โจชัวกับซิริจึงมาถึงย่านตอนบนของนอร์แลนด์
ระหว่างทาง ไฮร์แลนยังแนะนำโครงสร้างเมืองให้โจชัวฟัง
นอร์แลน เมืองแห่งเวทมนตร์สามารถแบ่งออกได้เป็นสองระดับ พื้นผิวและใต้ดิน สิ่งที่อาศัยบนพื้นผิวส่วนใหญ่คือจอมเวทย์มนุษย์ ส่วนสิ่งมีชีวิตที่อาศัยใต้ดินคือคนแคระ
ในความเป็นจริง คนแคระเป็นผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมของนอร์แลนด์ พวกเขาใช้ชีวิตในซากปรักหักพักโบราณใต้นอร์แลนด์ และเผ่าก็ได้ขุดอุโมงค์ใต้ดินจำนวนนับไม่ถ้วนรวมทั้งเหมืองเพื่อสำรวจซากโบราณ
หลังจากนั้นไม่นาน มนุษย์ก็ถูกดึงดูดด้วยซากโบราณ แม้คนแคระจะมีร่างกายแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ พวกเขาก็ด้อยกว่าในแง่พรสวรรค์ด้านเวทมนตร์และความเข้าใจด้านอักษรรูนซับซ้อนภายในซากปรักหักพัง
เช่นนั้น คนแคระจึงตกลงรับความช่วยเหลือจากมนุษย์และต้องใช้เวลากว่าร้อยปีสำหรับจอมเวทย์มนุษย์เพื่อสร้างเมืองที่เจริญรุ่งเรืองสุดบนผืนดินเหนือเมืองคนแคระ
ความอยากรู้และความอ่อนน้อมของจอมเวทย์ทำให้พวกเขาได้รับความเคารพจากคนแคระและความสัมพันธ์เป็นมิตรก็ดำรงมาจนถึงทุกวันนี้ หนึ่งในสมาชิกของสภาทั้งเจ็ด องค์กรที่ปกครองนอร์แลนด์ยังเป็นคนแคระ
โจชัวยังเห็นคนแคระมากมายตามท้องถนนและมีร้านค้ามากมายที่ตั้งโดยคนแคระด้วย
“นี่คือโรงละครไวเซนาสเช่ ดูเหมือนวันนี้จะไม่มีคณะละครมาแสดงที่นี่”
ไฮร์แลนหยุดหน้าอาคารหลังใหญ่ เมื่อเทียบกับคนมากมายบนท้องถนน โรงละครด้านหน้าเขาดูร้างไปเลย
“ไม่มีการแสดง?”
ถ้าโจชัวพูดถูก มันน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ครึกครื้นสุดในนอร์แลนด์เพราะนิทรรศการโลกที่จะจัดในสองเดือนหน้า
จากมุมมองของนักธุรกิจ นี่คือช่วงเวลาแห่งโอกาสทางธุรกิจอันไร้ขีดจำกัดและถ้าบริษัทละครมีการแสดงตอนนี้ มันก็จะดึงดูดความสนใจของผู้ชมทั่วโลกได้อย่างไม่ต้องสงสัย
“ถ้าเจ้าอยากชมการแสดง ก็ไปโรงละครแห่งชาตินอร์แลนด์บนถนนเบลซิค!บริษัทโรงละครห่านดำจากฟารัคชี่ ประเทศแห่งศิลปะกำลังจะแสดง!เจ้ายังมีโอกาสได้พบกับท่านหญิงกัลโลลี่ ดอกไม้แห่งฟารัคชี่ที่นั่นด้วย!”
จู่ๆ เด็กชายตัวน้อยที่ถือใบปลิวก็วิ่งมาหาโจชัวและอุทาน
“บริษัทโรงละครห่านดำ?”
โจชัวหยิบใบปลิวที่เด็กน้อยส่งมา ใบปลิวดูเหมือนจะเขียนด้วยลายมือและที่อยู่ของโรงละครอีกแห่งก็ถูกระบุไว้ชัดพร้อมรายการจัดแสดง
มันดูเหมือนการแข่งขันจะมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย
โจชัวกำลังจะถามรายละเอียดเฉพาะของโรงละคร แต่เด็กหนุ่มก็หายไปแล้ว ทำงานประชาสัมพันธ์ของเขาต่อไป
นั่นทำให้โจชัวล้มเลิกความคิดที่จะวางตามเด็กหนุ่มไปถาม เขากลับเดินขึ้นบันไดของโรงละครไวเซนาสเช่พร้อมกระเป๋าเดินทางในมือ
มันร้าง วินาทีที่โจชัวก้าวเข้าไป เขาก็พบว่าแม้ภายในจะตกแต่งอย่างหรูหรา แต่โถงโรงละครกลับว่างเปล่า
“ขออภัย..เราไม่มีงานแสดงในขณะนี้ ถ้าท่านมาที่นี่เพื่อเยี่ยมชม ท่านสามารถเดินดูได้”
พนักงานต้อนรับโรงละครเห็นโจชัวเข้ามาแล้วรีบต้อนรับ
“ข้ามาที่นี่เพื่อพบผู้จัดการ”
โจชัวนำตราที่ดยุคแห่งกระดูกมอบให้เขาและพลิกมันระหว่างนิ้ว ถ้ามันเป็นคนที่ไม่รู้ต้นกำเนิดของตรานี้พวกเขาคงคิดว่าโจชัวกำลังเล่นเหรียญ แต่ทว่า พนักงานกลับจำสัญลักษณ์บนนั้นได้ และสีหน้าของเขกา็เปลี่ยนไป
“ทางนี้ครับท่าน…”
พนักงานรีบเปลี่ยนวิธีเรียกโจชัว และนำเขาไปทางเดินลับข้างโรงละคร