Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 77
‘ข้อควรระวัง! ชาวนอร์แลนด์! ปีศาจได้แทรกซึมเข้ามาในเมืองนี้!”
“ โปรดระวังตัว! สิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ ของโรงละครไวเซนาสเช่คือแผนการสมคบคิดของเหล่าปีศาจ! ตัวตนที่แท้จริงของนักแสดงนำหญิงเบลล์คือปีศาจที่น่ารังเกียจและต่ำต้อย!”
โจชัวรับคำสอนจากผู้สอนศาสนาของศาสนจักร คำสอนถูกเขียนในกระดาษสมัยเก่า
เกี่ยวกับคำสอนเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาของศาสนจักร ส่วนบนของคำสอนมีคำสอนของศาสนจักร ส่วนส่วนล่างนั้นทำหน้าที่แจ้งความจริงเบื้องหลัง ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’
โจชัวได้คาดหวังไว้แล้วว่าว่าศาสนจักรจะสร้างความฮือฮา หลังจากที่พวกเขาตระหนักถึงตัวตนที่แท้จริงของอินอร์
ศาสนจักรไม่มีอิทธิพลมากนักในนอร์แลนด์ โดยปกติไม่มีใครอยากอ่านคำสอนที่ผู้สอนศาสนาถ่ายทอดออกไป
แต่มันต่างออกไปเนื่องจากคำสอนนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับ “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” และ “เบลล์”
แม้ว่าจะเป็นสื่อที่แตกต่างกัน แต่ผลของคำสอนก็คล้ายกับคำว่า ‘ตกตะลึง! นักแสดงหญิง…จริงๆ’พาดหัวข่าวที่พบในโลก
จอมเวทย์สาวและสตรีผู้สูงศักดิ์แห่งนอร์แลนด์กำลังจมอยู่กับความนิยม และความคลั่งไคล้ที่เกิดจากภาพยนตร์เรื่อง ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนา หรือข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับ ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ‘
ข่าวที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ‘เบลล์เป็นปีศาจ’ ถ้านี่คือโลกนั่นจะสามารถกลายเป็นพาดหัวข่าวสำคัญสำหรับหนังสือพิมพ์นับไม่ถ้วนได้อย่างแน่นอน
เมื่ออ่านคำสอนโจชัวรู้สึกเหมือนเห็นหนังสือพิมพ์ การจัดตั้งบริษัทข่าวเป็นสิ่งที่เขาวางแผนจะทำ เพียงแต่โจชัวไม่มีผู้สมัครที่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าบรรณาธิการในขณะนี้
กล่าวได้ว่าโจชัวเป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ ถึงกับทำให้ผู้เผยแพร่ของศาสนจักรประกาศคำสอนอย่างกะทันหันเพื่อพยายามกดดันเขา แต่พวกเขาทำผิดอย่างร้ายแรง
“ไฮร์แลน อินอร์กลับมาด้วยกันกับเจ้า ใช่ไหม?”
อินอร์ไปที่มหาวิทยาลัยเวทมนตร์เดียวกันกับไฮร์แลน เพียงแต่ไฮร์แลนอยู่ในชั้นเรียนสูงกว่าอินอร์
“ ฝ่าบาท ข้าอยู่นี่”
เมื่อได้ยินโจชัวเรียกชื่อ ซัคคิวบัสก็เดินออกมาจากด้านหลังไฮร์แลน
หลังจากที่อินอร์เห็นคำสอน เขารู้สึกกระสับกระส่ายตลอดเวลา เขากลัวอย่างมากว่าคนรอบข้างจะปฏิบัติกับเขาเหมือนที่คนชั้นสูงปฏิบัติกับซัคคิวบัสในอาณาจักรปีศาจ หากพวกเขาค้นพบตัวตนของเขา
“ ใช่ ข้าคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะได้เจอกับแฟน ๆ ของเจ้า”
โจชัวเคาะโต๊ะ คำสอนทำให้จุดยืนของศาสนจักรชัดเจนมาก พวกเขาไม่ได้ทำให้ตัวเองกลายเป็นศัตรูของปีศาจ แต่พวกเขาได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาต่อต้านแฟน ๆ ของภาพยนตร์เรื่อง ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’
“ พบกับ…แฟน ๆ ของข้า?”
อินอร์สามารถเข้าใจความหมายของ “แฟน ๆ ” ได้ แต่เขาเคยเจอกับแฟนตัวยงคนหนึ่งของ ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ ในมหาวิทยาลัยของเขา นั่นก็คือซานซ่าเพื่อนของไฮร์แลน
เด็กผู้หญิงจากศาสนจักรแต่ไม่ได้แสดงความรังเกียจต่ออินอร์หลังจากค้นพบตัวตนของเขา แต่นางกลับตีสนิทกับเขาเหมือนคนทั่วไป
“ เจ้าอาจคิดว่ามันเป็นการแสดงสดของ ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ได้ ในช่วงเวลานั้นเจ้าจะสามารถโต้ตอบกับผู้ชมและตอบคำถามของพวกเขาได้” โจชัวอธิบาย
“ เจ้าสองคนจะเปิดเผยตัวตนหรอ? เป็นเรื่องดีหรือที่จะเปิดเผยตัวเองต่อหน้าคนเหล่านั้นในเวลาแบบนี้”
ก่อนที่จะพบกับโจชัวซิริไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับปีศาจ นางคิดว่านางจะไม่มีวันได้เจอปีศาจไปตลอดชีวิต
แม้ผู้วิเศษจำนวนมากในนอร์แลนด์จะมีจุดยืนเป็นกลางต่อปีศาจ แต่มนุษย์ยังคงรู้สึกปฏิเสธต่อปีศาจที่อาศัยอยู่ในโลกที่แตกต่างออกไป รวมถึงสัตว์ร้ายที่ป่าเถื่อนและเร่ร่อน สิ่งนี้แตกต่างจากคนแคระและเอลฟ์ที่มนุษย์ต้อนรับ
การจะผลักดันให้อินอร์เผชิญหน้ากับมนุษย์ในเวลาแบบนี้? มันจะแตกต่างอะไรจากการผลักแกะน้อยไร้เดียงสาไปให้ฝูงหมาป่า?
“ เปิดเผย? ข้าคิดว่ายัง โดยทั่วไปผู้คนจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นเท่านั้น ข้าแค่ต้องการให้ทุกคนรู้จักเบลล์ตัวจริง ไม่ว่าพวกเขาจะเชื่อว่าเบลล์เป็นปีศาจหรือไม่ก็ตาม”
ไม่มีเหตุผลที่โจชัวจะกลัวคำ”ใส่ร้าย” ท้ายที่สุดเขายังคงเป็นคนที่ดำรงตำแหน่งเดินเกม
โดยพื้นฐานแล้วแฟน ๆ มีแนวโน้มที่จะเข้าหานักแสดงที่พวกเขาชื่นชมมากกว่า โจชัวเชื่อว่าจะมีคนจำนวนมากที่เต็มใจจะเชื่อว่าเบลล์เป็นเด็กสาวชนบทที่ไร้เดียงสา บริสุทธิ์ และมีจิตใจเมตตา และศาสนจักรพยายามทำให้เบลล์เสื่อมเสียให้เป็นปีศาจที่ทรยศและหลอกลวง!
“ ดังนั้นอินอร์เจ้าเพียงแค่ต้องแสดงบทบาทของเบลล์อย่างเหมาะสมในระหว่างการพบปะและทักทาย หากศาสนจักรยืนยันว่าเจ้าเป็นปีศาจให้ปฏิเสธที่จะยอมรับว่ามันเป็นความจริงตรงๆ ในสถานที่อย่างนอร์แลนด์ มีคนไม่มากนักที่จะเชื่อผู้เผยแพร่เหล่านั้น!”
โจชัวไม่เชื่อว่าศาสนจักรจะสามารถให้หลักฐานที่เป็นรูปธรรมได้ พวกเขาทำได้แค่จับอินอร์และแห่เขาไปในกรงรอบ ๆ ถนนเท่านั้น แต่มีกฎบางอย่างเกี่ยวกับการกดขี่ข่มเหงที่จะไม่ได้รับอนุญาตในนอร์แลนด์
ยิ่งไปกว่านั้นถ้ามันเกิดขึ้น คนแคระจะต้องโกรธมาก พวกเขาจะรีบไปที่โบสถ์ของศาสนจักรในนอร์แลนเพื่อทำลายมันทิ้ง
“ นี่…มันจะไม่ใช่การโกหกเหรอ?”
หลังจากได้รับการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเวทมนตร์ ไฮร์แลนก็ไม่สามารถยอมรับพฤติกรรมแบบนี้ … สิ่งที่โจชัวเสนอคือการหลอกลวงคนจำนวนมาก
“ ถ้าคน ๆ หนึ่งไม่โกหกสองสามครั้งในชีวิต พวกเขาก็ถือว่าไม่ได้ใข้ชีวิตจริงๆ”
โจชัวปฏิเสธที่จะเชื่อว่าไม่มีใครเคยโกหกในโลกนี้ นอกจากนี้สิ่งที่โจชัวต้องการในครั้งนี้คือการพบปะ และทักทายสำหรับภาพยนตร์ ไม่ใช่การพบปะและทักทายนักแสดงหญิง
อินอร์จะมีส่วนร่วมในการพบปะและทักทายในฐานะตัวละคเบลล์…
ในบทภาพยนตร์ของโจชัว เบลล์เป็นเด็กผู้หญิงธรรมดา ๆ การทำให้ผู้หญิงจิตใจดีคนนี้มัวหมองโดยการบอกว่าเป็นปีศาจนั้นเป็นเพียงสิ่งที่ไร้สมอง
“ ผู้คนจากสนจักรส่งเสริมแนวคิดที่หลอกลวงมวลชนมาโดยตลอด พวกเขามักจะพูดสิ่งต่างๆอย่างเช่นถ้าใครเชื่อในเทพเจ้าก็จะสามารถได้รับการคุ้มครองจากเทพเจ้า ข้าไม่เคยเห็นเทพเจ้าที่ข้าเชื่อมาก่อน”ซิริกล่าว
โจชัวรู้สึกว่าสาเหตุส่วนใหญ่น่าจะเป็นเพราะความเชื่อของซิริไม่หนักแน่นพอ …
ทัศนคติของซิริยังเป็นทัศนคติที่ผู้วิเศษส่วนใหญ่ของนอร์แลนด์คิด พวกเขามองว่าเทพเจ้าเป็นเครื่องมือที่ทำให้พวกเขาใช้เวทมนตร์ได้
“ อินอร์จงใช้เวลาหลายวันนี้เตรียมตัว ข้าจะติดต่อเซอร์ไวเซนาสเซ่…และเรียกผู้ช่วยของข้ามาที่เมืองนี้”
เนื่องจากเบลล์กำลังจะปรากฏตัวบนเวที นักแสดงนำชายของภาพยนตร์เรื่องเจ้าชายปีศาจก็จะต้องปรากฏตัวบนเวทีด้วยเช่นกัน
โจชัวรู้สึกว่านี่จะเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างละครเวทีตอนจบที่สวยงามสำหรับ ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะดึงดูดแฟน ๆ จำนวนมากให้เข้ามาชม หลังจากนั้นพวกเขาจะเริ่มพบปะ และทักทายกับแฟน ๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่โจชัวใช้สื่อบันเทิงเพื่อดำเนินการกับศาสนจักร และความเชื่อแบบดั้งเดิม น่าเสียดายสำหรับศาสนจักรประวัติศาสตร์ของโลกได้พิสูจน์แล้วว่า เมื่อเทียบกับความเชื่อลวงตา ความบันเทิงมีผลกระทบต่อผู้คนมากกว่า