Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 80
“ การทักทายแฟนภาพยนตร์?”
เซอร์ไวเซนาสเช่จัดท่าทางใหม่ และฟังแผนของโจชัวจนเสร็จ เขาทำงานในอุตสาหกรรมการผลิตละครมาหลายสิบปี กระนั้นเขาไม่เคยได้ยินเรื่อง “การทักทายแฟน” เลยสักครั้ง
โดยทั่วไปหากใครต้องการเห็นนักแสดง พวกเขาเพียงแค่ต้องนัดหมายล่วงหน้า แน่นอนว่าผู้ที่นัดหมายได้ส่วนใหญ่จะเป็นขุนนาง
สำหรับการนัดหมายพวกเขาจะใช้การชวนดื่มน้ำชายามบ่ายกับนักแสดง เซอร์ไวเซนาสเช่ปกป้องนักแสดงของเขาเป็นอย่างมาก เมื่อขุนนางที่มีชื่อเสียงไม่ดีมาขอนัดหมายกับนักแสดง เขาจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปฏิเสธพวกเขา
โดยทั่วไปแล้วนักแสดงของคณะละครจะไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชม เซอร์ไวส์เซนาสเช่ยังรู้สึกว่าไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะทำเช่นนั้น ท้ายที่สุดงานของพวกเขาคือการแสดง
เขาเชื่อว่าเงินจะทำลายจิตวิญญาณของศิลปิน นักแสดงเท่านั้น มันเหมือนกับการแสดงละครเร่ร่อนที่เขาเคยทำ ทุกคนจะสนใจแต่เงินและอำนาจ
“ ข้าเชื่อว่าต้องมีคนมากมายที่อยากเจอเบลล์ใช่ไหม?”
โจชัวหยิบตารางการแสดงของโรงละครไวเซนาสเช่จากโต๊ะ
ขณะนี้โรงละครไวเซนาสเช่กำลังฉายเฉพาะ “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” ดังนั้นตารางการแสดงจึงเต็มไปด้วย “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” โดยธรรมชาติ
“ใช่ ท่านโจชัว ประตูห้องทำงานของข้าถูกคนพวกนั้นผลักเปิดมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว”
เซอร์ไวเซนาสเช่เล่าถึงการเผชิญหน้าที่เขาพบในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาสามารถนับจำนวนขุนนางที่มีตำแหน่งดยุคหรือดัชเชสที่เขาต้องจัดการกับวันนี้ได้โดยใช้นิ้วของเขา
ก่อนหน้านี้เขาจะไม่สามารถเข้าพบคนใหญ่คนโตแม้แต่คนเดียวตลอดทั้งปี แต่คราวนี้พวกเขาเป็นคนที่มาหาเขา
บางคนสงสัยในเทคโนโลยีเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ บางคนไม่พอใจกับเนื้อเรื่อง
เนื่องจากเขาไม่ใช่ผู้สร้าง “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร”เซอร์ไวเซนาสเช่จึงสามารถตอบข้อเรียกร้องของพวกเขาได้อย่างชัดเจน
“ การพบปะและทักทายแฟนภาพยนตร์จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นให้เจ้า เซอร์ไวส์เซนาสเช่เจ้าเพียงแค่ต้องเตรียมจดหมายเชิญ และนำเสนอให้กับคนที่เจ้าเชื่อว่าเป็นแฟนภาพยนตร์ที่ซื่อสัตย์”
โจชัวยกเลิกการฉายภาพยนตร์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันมะรืนนี้ เขาเลือกเวลานั้นสำหรับการพบปะและทักทาย
ผู้สอนศาสนาของศาสนจักรกำลังจัดเตรียมคำสอนอยู่แล้ว อีกไม่นานข่าวลือเรื่องเบลล์เป็นปีศาจจะแพร่กระจายออกไป ในช่วงเวลาเช่นนี้เบลล์จำเป็นต้องออกมายุติข่าวลือด้วยตัวเอง
“ ท่าน ท่านหมายความว่า…นักแสดงจากเรื่อง ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ จะมาร่วมแสดงด้วยนะหรอ?”
เซอร์ไวเซนาสเช่เองก็เป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกเหนือจากผู้กำกับภาพยนตร์อย่างโจชัวแล้ว เขายังต้องการพบกับนักแสดงคนอื่น ๆ ของภาพยนตร์มาโดยตลอด
“ เจ้าจะมีโอกาสได้พบกับพวกเขา ก่อนหน้านั้นช่วยข้าเชิญผู้โชคดีสามพันคนมาพบปะทักทายกันก่อน”
“ แต่ ท่าน…มีคนชอบถาพยนตร์เรื่องนี้มากกว่าสามพันคน ข้าควรเพิ่มการพบปะทักทายอีกสองสามครั้งดีไหม”
ในขณะนี้เซอร์ไวเซนาสเช่รู้สึกเสียใจที่โรงละครของเขามีขนาดเล็ก เพียงไม่กี่พันที่นั่ง รองรับแฟน ๆ จำนวนมหาศาลของ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ ไม่ได้
“ ไม่จำเป็นสำหรับเรื่องนั้น คนอื่น ๆ จะได้รับชมการบันทึกเสียงนอกโรงละคร”
ตอนนี้ โจชัวยังไม่ได้ค้นหาวิธีการที่จะทำให้ผลึกออริจินั่มถ่ายทอดสดได้ แต่ปัญหาเกี่ยวกับการถ่ายทอดสดจะได้รับการแก้ไขไม่ช้าก็เร็ว
ท้ายที่สุดแล้วโจชัวก็ไม่พอใจกับโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กอย่างแน่นอน เป้าหมายสูงสุดของเขาในด้านภาพยนตร์ ทีวี และความบันเทิงคือการสร้างสถานีโทรทัศน์
แต่ในการทำเช่นนั้นเขาจะต้องหาสื่อที่สามารถใช้เป็นเซิร์ฟเวอร์อินเทอร์เน็ตได้
“ ข้าจะจัดเตรียมสิ่งต่างๆให้เรียบร้อย” เซอร์ไวส์เซนาสเช่กล่าว
……
ซีนาร์ทกำลังเดินอยู่บนถนนในนอร์แลน คนที่นำทางให้เขาคือผู้อาวุโสสูงสุดของคนแคระ ฟรอสแอ็ก
นี่เป็นครั้งแรกของซีนาร์ทที่เดินบนถนนของมนุษย์ในลักษณะที่เปิดกว้างเช่นนี้ นอกจากนี้เขาไม่ได้ถืออาวุธใด ๆ
ด้วยร่างกายขนาดใหญ่ของเขาคนอื่นๆจะสังเกตุเห็นซีนาร์ทได้เด่นชัด บางคนแสดงปฏิกิริยาเหมือนรู้จักเขา และพยายามเข้ามาใกล้ อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดถูกคนแคระที่อยู่รอบ ๆ ซีนาร์ทผลักออกไป
ฝ่าบาทวางแผนจะทำอะไรกันแน่?
ซีนาร์ทครุ่นคิดถึงคำถามนี้ตลอดเวลา ด้วยประสบการณ์ที่ได้รับจากปีศาจบาปที่รับใช้ราชวงศ์ปีศาจมาหลายชั่วอายุคน ความปรารถนาที่จะเข้าสู่โลกมนุษย์จึงลดน้อยลงอย่างมาก ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดราชวงศ์ปีศาจจะพยายามใช้วิธีการต่างๆเพื่อยึดครองโลกมนุษย์
ซีนาร์ทเชื่อว่าเจ้าชายสามที่เขารับใช้ต้องมีความคิดเดียวกัน แต่วิธีการที่เขาใช้นั้นแตกต่างไปเล็กน้อย
ในเวลาไม่กี่นาทีฟรอสแอ็กก็พาซีนาร์ทมาถึงโรงเตี๊ยมใจหิน
ปีศาจบาปคนนี้รู้สึกว่าโรงเตี๊ยมนี้ต้องเป็นที่หลบภัยของพวกเขา
แต่การที่จะพาเขามายังสถานที่แห่งนี้ ในลักษณะเปิดเผยแบบนี้มันไร้เหตุผลเกินไป ปีศาจบาปไม่เก่งในการปกปิดกลิ่นอายของพวกเขา แม้แต่ขนาดของเขาก็ยังสะดุดตามาก
“ ทำไมเจ้ายังยืนอยู่ข้างนอกล่ะ? เข้ามาเลย”
ด้วยการต้อนรับอย่างกระตือรือร้นของฟรอสแอ็ก ทำให้ซีนาร์ทไม่มีทางเลือกนอกจากก้มหัวลง แล้วเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยม
ทันทีที่เขาเข้ามาในโรงเตี๊ยม สัญชาตญาณนักรบของซีนาร์ททำให้เขาเข้าสู่สภาวะพร้อมรบ เขารู้สึกได้ว่ามีศัตรูที่ทรงพลังอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
ในเวลาเดียวกันเมสซาที่จัดไพ่ในมือได้ก็เงยหน้าขึ้น นางเห็นร่างขนาดใหญ่ของซีนาร์ทที่ยืนอยู่ข้างทางเข้าทันที
ปี…ปีศาจบาป?!
แม้ว่านางจะเป็นนักรบที่มีประสบการณ์ และตัดสินใจได้ทันทีว่าร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นปีศาจ แต่นางก็ยังไม่สามารถช่วยตัวเองให้หายจากความประหลาดใจได้
อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์การต่อสู้มากมายของนางทำให้สัญชาตญาณนักรบเข้ามาแทนที่สภาพจิตใจที่ตื่นตกใจของนาง โดยไม่รู้ตัวนางพยายามคว้าดาบที่เอวด้านขวาของนาง
น่าเสียดายที่เมสซาคว้าได้แต่อากาศเท่านั้น !
นางลืมไปว่านางได้ส่งมอบชุดเกราะและอาวุธให้กับคนแคระไปแล้ว เพราะนางได้ตัดสินใจมาที่โรงเตี๊ยมเพื่อต่อสู้กับปีศาจผ่านใจหิน
ให้ตายเถอะ…ปีศาจตัวนั้นที่อยู่ข้างประตู ไม่ว่านางจะมองยังไงมันก็ดูไม่เหมือนเพื่อนที่จะใช้ใจหินพูดกันได้
ปีศาจบาปเป็นสัตว์ประหลาดที่ดุร้าย!
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมสิ่งที่อันตรายอย่างปีศาจบาปจึงมาปรากฏขึ้นในนอร์แลนด์?
ที่น่าขันที่สุดการ์ดที่เมสซาเพิ่งดึงมานั้นเป็นการ์ดอาวุธที่มีชื่อว่า ‘Truesilver Champion ‘
จะดีแค่ไหนถ้า Truesilver Champion สามารถปรากฏตัวออกมาจากการ์ดได้ นางจะใช้ดาบนั้นเพื่อปราบปีศาจบาปตัวนั้นอย่างแน่นอน
แม้ว่านางจะไม่มีอาวุธ แต่อัศวินของศาสนจักรก็ยังคงจับตาดูอยู่ว่าปีศาจจะฆ่ามนุษย์ที่ไร้เดียงสาหรือเปล่า
ดังนั้นเมสซาจึงลุกขึ้นยืนจากโต๊ะของนาง เผื่อเกิดการปะทะขึ้น นางหยิบเก้าอี้ไม้ขึ้นมาและด้วยความเป็นปรปักษ์นางจึงเริ่มเดินไปที่ซีนาร์ท
กรงเล็บอันแหลมคมของซีนาร์ทปรากฏออกมาจากมือของเขาทันที เขาก็เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้เช่นกัน
ในช่วงเวลาที่การต่อสู้ดูเหมือนจะใกล้จะปะทุขึ้นในโรงเตี๊ยม ฟรอสแอ็กยืนคั่นอยู่ระหว่างทั้งสองคน
“ เจ้าลืมกฎของโรงเตี๊ยมนี้ไปแล้วหรือไง?!”ฟรอสแอ็กตะโกน
ใช้ใจหินพูด!
นั่นเป็นกฎของโรงเตี๊ยม เมสซาเหลือบไปเห็นหัวหน้าบาทหลวงดีไซเลสที่นั่งอยู่มุมโรงเตี๊ยม เมื่อนางมอง เขาก็ส่ายหัวเบา ๆ เพื่อบอกให้นางสงบลง