Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 84
แน่นอนว่าคำตอบของอินอร์ทำให้ผู้ชมหันมาสนใจซีนาร์ท
เมื่อถูกมองโดยผู้คนหลายพันคนในคราวเดียว ปีศาจบาปก็พบว่าตัวเองค่อนข้างไม่มั่นใจ
ก่อนหน้านี้ซีนาร์ทมุ่งเน้นไปที่วิธีการเต้นรำเพื่อให้ฝ่าบาของเขาพอใจกับซัคคิวบัส
ตอนนี้เมื่อดนตรีหยุดลงพร้อมกับการเต้นรำ ซีนาร์ทก็ยืนอยู่บนเวที และถูกจับตามองจากสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแออย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ปีศาจบาปต้องการที่จะแยกเขี้ยวอันแหลมคมของเขา เนื่องจากโจชัวไม่อนุญาตให้เขาใช้เปลวเพลิงแห่งบาป การใช้เขี้ยวของเขาเพื่อคุกคามมนุษย์เหล่านี้ และบังคับให้พวกเขาเลิกมอง จึงเป็นสิ่งเดียวที่เขาคิดได้
สามารถได้ยินเสียงจอแจจากผู้คนทั่วทุกสารทิศ ขณะที่พวกเขาแสดงความคิดเห็นกัน ในที่สุดจอมเวทย์หญิงที่นั่งอยู่ในสามแถวแรกก็ลุกขึ้นยืน นางดูเหมือนจะไม่แก่มาก ดูเหมือนนางจะลุกขึ้นยืนเพราะเพื่อนที่มาด้วยมายุยงให้นางทำเช่นนั้น
เมื่อยืนขึ้น ทันใดนั้นนางก็สงวนท่าทีเล็กน้อย จากชุดคลุมสีฟ้าที่นางสวมอยู่ ใคร ๆ ก็บอกได้ว่านางเชื่อในเทพเจ้าแห่งสายน้ำและการเยียวยา พี่สาวของเทพองค์ที่ซิรินับถือ
“ เจ้าปีศาจ ข้าขอถามหน่อยได้ไหม…ว่าพวกปีศาจเป็นเหมือนที่ศาสนจักรบอกทั้งหมดไหม…?
เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นจอมเวทย์วิชาการ ผู้ที่ศึกษาเวทมนตร์ในมหาวิทยาลัยมาเป็นเวลานาน แต่ไม่เคยสามารถใช้เวทมนตร์ในการต่อสู้จริงได้ นางแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับจอมเวทย์ป่าเถื่อนที่ฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งผ่านการต่อสู้อย่างซิริ
ด้วยเหตุนี้ความรู้เกี่ยวกับปีศาจของนางจึงมาจากหนังสือ และคำบรรยายต่างๆที่เผยแผ่โดยผู้เผยแพร่คำสอนของศาสนจักร
ความจริงก็คือผู้คนกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ในโลกนี้ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับปีศาจ นอกเหนือจากประเทศแห่งน้ำแข็งและศาสนจักรที่เป็นศัตรูกับปีศาจแล้ว ความรู้เกี่ยวกับปีศาจของประเทศต่าง ๆ ส่วนใหญ่มาจากคำบรรยายของผู้สอนศาสนาจากศาสนจักร
ด้วยเหตุนี้ภาพปีศาจที่ศาสนจักรนำเสนอภาพที่ปีศาจดุร้าย และชั่วร้ายจึงกลายเป็นความประทับใจแรกที่มนุษย์มีต่อปีศาจ
ไม่ว่าซีนาร์ทจะเหมือนกับภาพนั้นหรือไม่ …โจชัวสามารถบอกกับจอมเวทย์คนนี้ได้อย่างมั่นใจว่า‘ชั่วร้าย’ จะไม่เหมาะกับซีนาร์ทแต่ ‘เลวทราม’ ก็จะเหมาะเจาะเกินไป
กระดูกของมนุษย์ที่ซีนาร์ทฆ่าอาจกองรวมกันเป็นภูเขาลูกเล็ก ๆ นอกจากนี้ปีศาจบาปไม่เคยรู้สึกเสียใจกับคนที่เขาฆ่า
หลักการที่อยู่เบื้องหลังนั้นก็เหมือนกับการที่มนุษย์ทั่วไปจะไม่รู้สึกเสียใจในการฆ่าไก่
แต่ในนิทานเรื่อง “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” ปีศาจไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่จะฆ่ามนุษย์ได้ มันคล้ายกันในแนวคิดที่ว่าปีศาจทั้งหมดเป็นโจรที่ชั่วร้าย นอกจากการไถ่บาปในคำสอนของศาสนจักร
“ ประเทศนั้นมีอคติต่อเผ่าพันธุ์ของเรามาโดยตลอด แต่เมื่อยืนอยู่ที่นี่ ข้าสามารถรับประกันได้ว่าพวกเราปีศาจก็เหมือนคนอื่น ๆ ที่นี่ เราปรารถนาความสงบสุขจากก้นบึ้งของหัวใจ”
ในช่วงเวลาที่ปีศาจบาปกำลังครุ่นคิดถึงวิธีการตอบคำถาม ‘วงจรทอง’ที่โจชัวมอบให้ก็กลับมาใช้ได้อีกครั้ง บทที่โจชัวเตรียมไว้สำหรับเขาปรากฏในกล่องแชท
บางทีชนชั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับการเมืองจะไม่เชื่อซีนาร์ท แต่คนส่วนใหญ่ที่นั่งอยู่บนที่นั่งผู้ชมธรรมดาเป็นเยาวชนที่ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการเมือง
ต่อหน้าคนเหล่านี้ซีนาร์ทประสบความสำเร็จในการนำเสนอตัวเองว่าเป็นปีศาจที่น่ารัก
เมื่อจอมเวทย์หญิงสาวผู้กล้าหาญถามคำถามแรก บรรยากาศของการพบปะและทักทายก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
ในท้ายที่สุดเซอร์ไวเซนาสเช่ถูกบังคับขึ้นไปปรากฏตัวบนเวที เพื่อจัดการคำถาม และควบคุมผู้ชม
เซอร์ไวเซนาสเช่สั่งลูกน้องของเขาให้ฉายแสงทรงกลมส่องสว่างลอยอยู่เหนือโรงละคร เมื่อแสงทรงกลมนั้นส่องไปหาใคร บุคคลนั้นจะเป็นผู้โชคดีที่ได้รับอนุญาตให้ถามคำถามกับนักแสดงบนเวที
คำถามและคำตอบง่ายๆดำเนินไปอย่างราบรื่น คำถามถัดไปล้วนไม่เกี่ยวข้องกับศาสนจักรศัและปีศาจ ตัวอย่างเช่น “เบลล์และเจ้าชายปีศาจลงเอยด้วยการแต่งงานกันหรือไม่?” ชีวิตหลังแต่งงานของพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง? “พวกเขาวางแผนที่จะมีลูกกันหรือไม่?
คำถามเหล่านั้นฟังดูเหมือนคำถามที่ป้าแก่ ๆ จะถาม เมื่อได้ยินคำถามเหล่านั้นอินอร์ก็ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง ซัคคิวบัสไม่เคยคิดเรื่องการมีลูก
สำหรับซัคคิวบัสเขาการมีกิจกรรมทางเพศเป็นเพียงวิธีหนึ่งที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขและสนุกสนาน แต่ต้องยอมรับว่าเผ่าพันธุ์ซัคคิวบัสมีความสามารถในการสืบพันธุ์ที่แข็งแกร่งมาก
เมื่อถูกถามคำถามเหล่านั้นใบหน้าของอินอร์ก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ในท้ายที่สุดเขาก็ทำพูดตามบทของโจชัว และตอบคำถามยาก ๆ เหล่านั้น
หลังจากนั้นไม่นานแสงทรงกลมก็ฉายจากฝูงชนด้านหลังมายังฝูงชนที่อยู่ด้านหน้า มันลอยกลับมาที่จอมเวทย์หญิงสาวที่ถามคำถามแรก นางลุกขึ้นยืนและถามคำถามที่สองภายใต้แรงกดดันของฝูงชน
“ เจ้าปีศาจข้าขอ…สัมผัสอุ้งเท้าบนมือเจ้าได้หรือไม่?”
คำถามที่สองที่จอมเวทย์สาวถามทำให้ซีนาร์ทลำบากใจอีกครั้ง
อุ้งเท้า? ซีนาร์ทเหลือบมองไปที่มือบุนวมของเขา เขาฟาดฟันผู้คนนับไม่ถ้วนจนตายด้วยกรงเล็บนี้ แต่มนุษย์ผู้หญิงคนนี้ต้องการสัมผัสมัน?
เมื่อพูดถึงแมว มนุษย์จะไม่สามารถต้านทานเส้นขน กรงเล็บ หรืออุ้งเท้าของพวกมันได้
เนื่องจากผู้วิเศษหญิงต้องการสัมผัสมัน…โจชัวจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธนาง
ด้วยเหตุนี้ซีนาร์ทจึงพยักหน้า และยอมรับคำขอของนาง
หลังจากได้รับอนุญาตจอมเวทย์หญิงก็ขึ้นไปบนเวทีโดยมีเซอร์ไวส์เซนาสเช่คอยจัดแจง นางมาถึงตรงหน้าซีนาร์ท
ซีนาร์ทจ้องมองไปที่จอมเวทย์ที่เป็นมนุษย์อ่อนแอ ในอดีตเขาจะสามารถเอาชีวิตนางด้วยกรงเล็บของเขาได้อย่างง่ายดาย แต่มนุษย์คนนี้ไม่ได้ยืนอยู่ต่อหน้าเขาในฐานะศัตรู แต่นางกลับมายืนอยู่ตรงหน้าเขาในฐานะแฟนคลับ
ปีศาจบาปยื่นมือไปหามนุษย์สาว หญิงสาวยื่นมือออกไปแตะที่อุ้งเท้าของซีนาร์ท นางบีบมันเบา ๆ
“ มัน…เหมือนกับแมวของข้า” เสียงของนางถ่ายทอดผ่านรูนที่เพิ่มพลังเสียงที่ซีนาร์ทเพิ่มให้ ด้วยเหตุนั้นผู้ฟังจึงสามารถได้ยินมันอย่างสมบูรณ์
ตั้งแต่ช่วงเวลานั้นการพบปะและทักทายเริ่มไม่อยู่ในการควบคุม โชคดีที่นอกเหนือจากนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเวทมนตร์แห่งนอร์แลนด์แล้ว คนอื่น ๆ ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการพบปะและทักทายนั้นล้วนเป็นนักธุรกิจ และชนชั้นสูงที่มีการศึกษา ด้วยเหตุนี้เซอร์ไวเซนาสเช่จึงสามารถควบคุมได้อย่างไม่ยากลำบากมากนัก
การพบปะและทักทายกินเวลานานถึงสิบชั่วโมง รวมการฉายภาพยนตร์เรื่อง ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ ในท้ายที่สุดผู้ชมก็พอใจอย่างสมบูรณ์แบบ
โจชัวเชื่อว่าผู้ชมที่เข้าร่วมในการพบปะและทักทายจะไม่เชื่อเมื่อพวกเขาอ่านคำสอนของศาสนจักนครั้งหน้า
วันนี้โจชัวหว่ายเมล็ดพันธุ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน แต่นี่ยังไม่ถึงเวลาที่โจชัวจะต่อต้านศาสนจักรอย่างเปิดเผย