Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 96
เมื่อเวลาใกล้เที่ยง งานนิทรรศการโลกก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
เหล่าชนชั้นสูงหยุดการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของพวกเขา พวกเขามาที่ใจกลางของวังผลึกและหันไปมองบนเวที ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าอาจมีการจัดแสดงอุปกรณ์อาร์คาโนเทคที่อาจส่งผลกระทบต่อโลกใบนี้บนเวที พวกเขาทั้งหมดจะกลายเป็นพยานในการเปลี่ยนแปลงของโลกนี้
มันเป็นช่วงเวลาแห่งความยิ่งใหญ่ที่น่าตื่นเต้น ความตื่นเต้นส่งผลกระทบต่อทุกคนในปัจจุบัน รวมถึงอาจารย์หนุ่มริคาร์ดที่อยู่ด้านหลังเวที
ริคาร์ดมาจากฟารัคซี่และศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเวทมนตร์ขั้นสูงในต่างประเทศ ด้วยความช่วยเหลือของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเขาสามารถเข้าร่วมนิทรรศการได้สำเร็จด้วยอุปกรณ์อาร์คาโนเทคที่เขาประดิษฐ์ขึ้น
“จงเชื่อมัน! ริคาร์ด พ่อแม่ของเจ้าและชนชั้นสูงจากทั่วทุกมุมโลกจะได้เห็นเจ้าบนเวที นี่เป็นโอกาสที่หายากมาก”
ศาสตราจารย์สูงอายุตบไหล่ริคาร์ด ชายหนุ่มจากฟารัคซี่คนนี้ดูเหมือนจะกลัวเวที
ริคาร์ดเป็นลูกชายของตระกูลชนชั้นสูงจากฟารัคซี่ แต่ครอบครัวของเขามีอิทธิพลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อเทียบกับชนชั้นสูงคนอื่น ๆ ที่ได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมงานงานนิทรรศการโลก อาจกล่าวได้ว่าเขานั้นไร้ตัวตน
ริคาร์ดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ หากอุปกรณ์อาร์คาโนเทคที่เขาสร้างขึ้นถูกฝูงชนคลั่งไคล้ มันจะเป็นโอกาสที่ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสสำหรับเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงครอบครัวของเขาที่จะมีอำนาจเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ผู้วิเศษชราสวมชุดคลุมสีขาวยืนอยู่ตรงกลางเวทีของวังผลึก
ทุกคนรู้ว่าจอมเวทย์เสื้อคลุมขาวคนนี้เป็นใคร สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเขาเป็นหนึ่งในคนที่มีอำนาจสูงสุดในนอร์แลนด์ซึ่งเป็นสมาชิกของสภาทั้งเจ็ด เขายังเป็นหนึ่งในบุคคลที่สร้างกฏของนอร์แลนด์
เขาเพิ่มพลังเสียงด้วยเวทมนตร์ และแนะนำสั้น ๆ จากนั้นเขาก็ประกาศเริ่มงานงานนิทรรศการโลกอย่างเป็นทางการ
ริคาร์ดโชคดีมาก เขาได้ขึ้นโชว์เป็นอันดับแรก ตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่ตั้งสติ ในขณะที่เขาผลักอุปกรณ์อาร์คาโนเทคของเขาขึ้นไปบนเวที
เขาได้เตรียมการแนะนำอุปกรณ์อาร์คาโนเทคของเขาไว้แล้ว แต่ในขณะที่เขาขึ้นไปบนเวที และเห็นผู้ชมด้านล่าง หัวของเขาก็ว่างเปล่า
นายกรัศมนตรีเหล็กกล้าจากประเทศแห่งเหล็ก ดัชเชสแห่งป่าดำจากประเทศของเขาเอง และแม้แต่เจ้าหญิงจากประเทศแห่งน้ำแข็ง…
ด้วยสถานะของริคาร์ด คนเหล่านี้คือคนที่เขาสามารถมองเห็นได้จากระยะไกลในการเฉลิมฉลองวันแห่งชาติของฟารัคซี่เท่านั้น ทว่าตอนนี้เขากำลังถูกพวกเขาจับตามองอยู่
สิ่งที่ริคาร์ดรู้สึกนั้นคล้ายกับนักเรียนฟิสิกส์ที่เดินขึ้นไปบนเวทีเพื่อนำเสนอและพบว่าเซอร์ไอแซกนิวตัน อัลเบิร์ตไอน์สไตน์ แม็กซ์พลังค์ และนักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่คนอื่น ๆ กำลังมองเขาอยู่
ความกังวลใจไม่เพียงพอที่จะอธิบายอารมณ์ของริคาร์ดในขณะนี้ ขาของเขาเริ่มสั่น หัวของเขาว่างเปล่าไปหมด ด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านริคาร์ดลืมบทที่เขาเตรียมไว้ไปโดยสิ้นเชิง
ในความเงียบงันริคาร์ดดึงผ้าม่านลงเพื่อปิดโอกาสของครอบครัวของเขา เขาไม่มีโอกาสแนะนำอุปกรณ์อาร์คาโนเทคด้วยซ้ำ เขานำ ‘phonograph’ลงจากเวทีเพื่อมอบเวทีให้กับรายการนิทรรศการถัดไป
ทันทีที่ริการ์ดมาถึงหลังเวที เขาสามารถจินตนาการได้ว่าชื่อเสียงของเขาในนอร์แลนด์จะพังทลายลงยังไง
การทำให้ตัวเองอับอายในวังผลึก ไม่ต่างจากการทำให้ตัวเองอับอายต่อหน้าคนทั้งโลก
หรือบางทีริคาร์ดน่าจะดีใจที่เขาเป็นคนเดียวในมหาวิทยาลัยเวทมนตร์ขั้นสูงที่มีโอกาสเข้าร่วมงานงานนิทรรศการโลก
แต่ในไม่ช้าความคิดนั้นก็ถูกร่างที่คุ้นเคยดับความคิดนั้น
“ ไฮร์…ไฮร์แลน…เจ้า…ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่?”
ริคาร์ดเรียกหญิงสาวที่เดินผ่านมา เขาไม่ได้จำผิด แม้ว่าไฮร์แลนจะสวมเสื้อคลุมของจอมเวทย์ฝึกหัดที่เรียบง่าย แต่รูปร่างและความงามที่มีเสน่ห์ของนางก็ยังสามารถมองเห็นได้ผ่านเสื้อคลุม
ริคาร์ดพยายามไล่ตามไฮร์แลนด้วยทุกวิธี
“ …”
ไฮร์แลนไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอเพื่อนร่วมชั้นของนางในสถานที่แห่งนี้ แต่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้นางก็นึกได้ว่ามหาวิทยาลัยเวทมนตร์ขั้นสูงของนอร์แลนด์สามารถแนะนำนักเรียนดีเด่นให้เข้าร่วมงานงานนิทรรศการโลกได้ นางเองก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้ตำแหน่งนั้นมา น่าเสียดายที่นางพ่ายแพ้ให้กับผู้ชายคนนี้จากตระกูลชนชั้นสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้านาง
ไฮร์แลนไม่อยากคิดถึงเลยว่านางแพ้เพราะอะไร เพราะตอนนี้นางสามารถมายืนอยู่บนเวทีงานงานนิทรรศการโลกได้แล้วด้วยความช่วยเหลือของโจชัวแล้ว ไม่มีเหตุผลที่นางจะรู้สึกทุกข์ใจหรือเสียใจที่พลาดตำแหน่งจากมหาวิทยาลัย
“ ข้ามาที่นี่เพื่อเข้าร่วมในนิทรรศการ”
แม้ว่าไฮร์แลนและริคาร์ดเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน แต่พวกเขาก็เป็นเพียงเพื่อนร่วมชั้นเท่านั้น หลังจากที่นางตอบคำถามของเขาแล้วนางก็ค่อยๆเดินไปที่เวทีกลางของวังผลึก
ซิริตามหลังไฮร์แลนใช้ มือเวทย์ซึ่งเป็นคาถาจากอักษรรูน นางถือเครื่องอาร์เคด ‘ใจหิน’ และขึ้นไปบนเวที
ยังไง! ริคาร์ดจำได้อย่างชัดเจนว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยของพวกเขาวิพากษ์วิจารณ์อุปกรณ์อาร์คาโนเทคของไฮร์แลนอย่างหนัก! เป็นไปไม่ได้ที่นางจะได้เข้าร่วมงานงานนิทรรศการโลก
น่าเสียดายที่ความเป็นจริงถูกวางไว้ตรงหน้าเขา ริคาร์ดวิ่งไปที่หน้าเวทีกลางของวังผลึกอย่างรวดเร็ว เขาเห็นหญิงสาวผมสีเทายาวสองคนยืนอยู่บนเวที
ในขณะนี้…ทั้งโลกกำลังจดจ่ออยู่ที่พวกนาง
ไฮร์แลนหายใจเข้าลึกเพื่อสงบสติอารมณ์ นางกวาดสายตาไปทั่วฝูงชน นางเห็นโจชัวยืนอยู่ที่มุมหนึ่งโบกมือให้นาง น้องสาวของนางก็ยืนอยู่ข้างๆนางเช่นกัน ความมั่นใจเพิ่มขึ้นในหัวใจของไฮร์แลน นางใช้เวทย์มนตร์เพื่อเสริมเสียงและเริ่มแนะนำตัว
“ ข้าชื่อไฮร์แลน ลอยด์”
หลังจากที่ไฮร์แลนเอ่ยชื่อของนางโดยเน้นนามสกุล ท่าทางของชนชั้นสูงหลายคนในที่นั่งฟังก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชนชั้นสูงจากประเทศแห่งน้ำแข็ง
ลอยด์ไม่ใช่นามสกุลธรรมดาในประเทศแห่งน้ำแข็ง แต่ไม่มีใครเคยเห็นไฮร์แลนคนนี้บนเวทีมาก่อน นางดูเหมือนคนธรรมดาสามัญ
“ สิ่งที่ข้าจะจัดแสดงคือผลงานที่ท่านแม่ผู้ล่วงลับของข้าทิ้งไว้!”
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ถ้าเทพเจ้ามีอยู่จริง ถ้าแม่ของนางสามารถมองเห็นสิ่งนี้ได้จากสถานที่ห่างไกลนางจะต้องรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมาก
ในที่สุดนางก็สามารถนำเสนออุปกรณ์อาร์คาโนเทคที่รอคอยมานานนี้สู่สายตาชาวโลก
น่าเสียดายที่หลังจากที่ไฮร์แลนได้แนะนำการใช้งานอุปกรณ์อาร์คาโนเทคแล้วกลับไม่ค่อยมีใครสนใจมัน
การจัดเก็บภาพเป็นหน่วยบนผลึกออริจินั่ม? สำหรับอุปกรณ์อาร์คาโนเทคที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบได้ อุปกรณ์อาร์คาโนเทคของไฮร์แลนนั้นคล้ายกับของเด็กเล่น
ผู้เข้าร่วมงานงานนิทรรศการโลกไม่ได้มาที่นี่เพื่อซื้อภาพวาด
ริคาร์ดสังเกตปฏิกิริยาของผู้วิเศษและชนชั้นสูงที่ไม่มีความสนใจใดๆ เขาคิดเอาไว้อยู่แล้ว
ผู้จัดงานงานนิทรรศการโลก สำนักงานสิทธิบัตรของนอร์แลนด์รู้ดีว่าจะนำสิ่งของที่ยอดเยี่ยมที่สุดไว้เป็นอันดับสุดท้าย อุปกรณ์อาร์คาโนเทคที่ชนชั้นสูง นายกและนักการทูตต่างให้ความสนใจคือ– เครื่องยนต์อาร์คาโนเทค เครื่องอาร์คาโนเทคที่สามารถแทนที่รถม้า หุ่นอาร์คาโนเทคที่สามารถทำฟาร์มได้ด้วยตัวเอง และอุปกรณ์อาร์คาโนเทคที่น่าสนใจอื่น ๆ ทั้งหมดถูกวางไว้ที่การจัดแสดงช่วงท้าย
อุปกรณ์อาร์คาโนเทคที่แสดงก่อนนั้นไม่มีนัยสำคัญ รวมถึงสิ่งประดิษฐ์ของเขาเอง
ในตอนนี้ริคาร์ดเริ่มรู้สึกเสียใจแทนไฮร์แลน เขาเชื่อว่าไฮร์แลนจะเหมือนกันกับเขา ได้รับคำสั่งจากสำนักงานสิทธิบัตรว่าเวลาของนางหมดแล้ว และบอกให้ลงจากเวที
น่าเสียดายที่สิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ริคาร์ดคิด
“ นี่คืออุปกรณ์อาร์คาโนเทคอีกชิ้นที่สร้างขึ้นโดยใช้ผลงานมรณกรรมของแม่ข้า อีกสักครู่จะมีผู้อาวุโสที่น่าเคารพนับถือสองคนขึ้นมาบนเวทีเพื่อสาธิตอุปกรณ์อาร์คาโนเทคเหล่านี้”
สายตาของไฮร์แลนไม่ได้อยู่ที่ผู้ชมเลย แต่สายตาของนางกลับจดจ่ออยู่ที่ “กล่องสนทนา” ตรงหน้านาง โจชัวกำลังสั่งให้ทำอะไรผ่านกล่องสนทนา
ด้วยเหตุนี้ไฮร์แลนจึงเชิญผู้ช่วยที่ทรงพลังทั้งสองขึ้นมา
เมื่อผู้อาวุโสทั้งสองที่ไฮร์แลนพูดถึงขึ้นมาบนเวที ผู้วิเศษและชนชั้นสูงที่พูดคุยกันเบา ๆ ต่างก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
หัวหน้าบาหลวงดีไซเลสจากศาสนจักรและผู้วิเศษเทา ประธานสำนักงานสิทธิบัตรของนอร์แลนด์ …
หลังจากที่พวกเขาเดินไปที่อุปกรณ์อาร์คาโนเทคของไฮร์แลนแล้ว พวกเขาก็นั่งลงบนที่นั่งทั้งสองฝั่ง เมื่อได้เห็นภาพนี้ริคาร์ดไม่รู้ว่าจะอธิบายถึงความตกใจที่เขารู้สึกอย่างไรดี
ในมหาวิทยาลัยเวทมนตร์ ไฮร์แลนเป็นเพียงนักเรียนที่มีความโดดเด่นในระดับหนึ่ง นอกเหนือจากวิชาการแล้วนางก็เป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
แต่จอมเวทย์ในตำนานสองคนกำลังสาธิตอุปกรณ์อาร์คาโนเทคของนาง!
สำนักงานสิทธิบัตรคงไม่กล้าเรียกร้องให้ไฮร์แลนยุติการจัดแสดงของนางในตอนนี้ ท้ายที่สุดประธานของพวกเขากำลังสาธิตอุปกรณ์อาร์คาโนเทคของไฮร์แลนให้ผู้ชมได้เห็น
การปรากฏตัวของดีไซเลสและผู้วิเศษเทาดึงดูดความสนใจของฝูงชนได้ในทันที
ในขณะที่พวกเขากำลังครุ่นคิดถึงวิธีใช้เครื่องอาร์คาโนเทคของไฮร์แลน จู่ๆก็มีการฉายภาพปรากฏขึ้นบนไวท์บอร์ดที่เป็นฉากหลังของเวที
ในพื้นหลังสีดำ ชุดตัวอักษรภาษาอังกฤษสีทองปรากฏขึ้นต่อหน้าชนชั้นสูงและผู้วิเศษในโลกนี้อย่างโอ่อ่า
‘บริซซาร์ด!’ มันเป็นโลโก้ของ Blizzard Entertainment!
ในช่วงเวลาที่ฝูงชนกำลังครุ่นคิดถึงความหมายเบื้องหลังคำว่า “บริซซาร์ด” และภาพนั้นฉายลงบนไวท์บอร์ดได้อย่างไรเสียงที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นก็ดังมาจากด้านบนของวังผลึก
“ ยินดีต้อนรับสู่ ใจหิน!”
หน้าจอสแตนด์บายของใจหินปรากฏต่อหน้าผู้ชมผ่านการฉายภาพ แต่นั่นยังไม่จบเพียงเท่านี้
ดีไซเลสใส่ชุดการ์ดของเขาซึ่งเขาใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการสร้างเข้าอุปกรณ์อาร์คาโนเทค สำหรับผู้วิเศษเทาเขาหยิบชุดการ์ดที่โจชัวให้เขายืมมาด้วยความปรารถนาดี และใส่เข้าไปในอุปกรณ์อาร์คาโนเทคด้วยเช่นกัน
“ อันดูอิน ปะทะ ไจน่า!”
“ เจ้ากำลังรนหาที่!” 1
“ แสงสว่างจะนำมาซึ่งชัยชนะ!” 1
หลังจากที่พวกเขาเลือกคลาสเสร็จแล้ว ฮีโร่ทั้งสองก็เปล่งเสียงเปิดเกม จากนั้นการแข่งขันรอบแรกจึงเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการท่ามกลางการจับตามองจากผู้คนในวังผลึก
สิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอคือทิวทัศน์ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน แม้ว่าชนชั้นสูงส่วนหนึ่งที่เข้าร่วมงานงานนิทรรศการโลกจะได้ดู ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’มาแล้ว แต่สิ่งที่ถูกฉายออกมานั้นแตกต่างจาก’โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’อย่างสิ้นเชิง
การจับคู่ระหว่างหัวหน้าบาทหลวงดีไซเลสของศาสนจักรกับผู้วิเศษเทาที่มีชื่อเสียงของนอร์แลนด์ และอุปกรณ์อาร์คนาโนเทคแบบพิเศษได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนอย่างเต็มที่
แม้ว่าชนชั้นสูงหลายคนจะรู้สึกว่าอุปกรณ์อาร์คาโนเทคเป็นเครื่องให้ความบันเทิงที่ฉูดฉาดแต่ไร้ประโยชน์ แต่ก็มีชนชั้นสูงหลายคนที่ชื่นชอบสิ่งที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้ ที่สำคัญที่สุดคือมันสามารถนำความบันเทิงรูปแบบใหม่มาให้พวกเขาได้
การจับคู่ระหว่างนักบุญและผู้วิเศษแสดงกฎของ “ใจหิน” ต่อฝูงชนอย่างชัดเจน
ชนชั้นสูงบางคนที่ชอบเล่นเกมถึงกับเริ่มวางเดิมพัน โดยปกติแล้วพวกเขาเดิมพันว่าหัวหน้าบามหลวงหรือผู้วิเศษเทาจะเป็นผู้ชนะ
“ เจ้าไม่ได้วางแผนจะเชียร์อาจารย์ของเจ้าหรอกหรือ?”
โจชัวยืนอยู่ที่มุมด้านล่างเวที อัศวินหญิงได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบหน้าที่ในการเฝ้าติดตามเขา นางยืนอยู่ข้างๆเขาและจ้องมองเขา
“ ข้าเชื่อว่าพลังของแสงศักดิ์สิทธิ์จะไม่พ่ายแพ้ให้กับเวทมนตร์”
เมสซากวาดสายตามองไปที่การแข่งขันบนเวที และตอบกลับปีศาจเจ้าเล่ห์ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม นางยังตื่นตัวต่อคำพูดของโจชัว
“แต่อาจารย์ของเจ้ากำลังเล่นนักบวชเงา ไม่สิ นักบวชขโมย เขาไม่เพียง แต่ใช้ร่างเงา เขายังขโมยการ์ดของฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย นั่นยังถือได้ว่าเป็นพลังของแสงศักดิ์สิทธิ์อยู่อีกหรือไม่?”
โจชัวสังเกตการแข่งขันที่กำลังดำเนินอยู่บนเวที วิธีที่ดีไซเลสใช้ตัวละครของเขาได้พลิกโฉมความประทับใจของนักบวชที่คนจำนวนมากมี
แค่การ์ดขโมยก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หลายคนร้องว่า ‘ไร้ยางอาย!’
“ นี่…นี่…นี่คือแสงศักดิ์สิทธิ์! ไม่มีอะไรสกปรก! เจ้ากำลังใส่ร้ายเรา!”
เมสซารู้ว่าเกม ‘ใจหิน’ ถูกสร้างขึ้นโดยปีศาจตัวนี้ที่อยู่ข้างๆนาง ด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถเพิ่มองค์ประกอบให้กับเกมที่จะใส่ร้ายศาสนจักรของพวกเขาได้โดยธรรมชาติ นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสายนักบวช การ์ดสายรักบวชจำนวนมากเกี่ยวข้องกับเงา
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเมซาจึงลำเอียงไปใข้สายพาลาดิน สายพาลาดินเป็นสายที่ต่อสู้อย่างยุติธรรมและเป็นกลาง
“ มีเงาอยู่ใต้แสง เงาและแสงเป็นดุลยภาพ ประชาชนของศาสนจักรไม่เข้าใจสิ่งนั้นหรือ?”
โจชัวต้องการเตือนอัศวินหญิงคนนี้ว่ามีสิ่งที่เรียกว่า ‘ศาล’ ในศาสนจักรของพวกเขา
แต่เมื่อถูกโจชัวหลอกมาหลายครั้งแล้วเมสซาก็ระวังตัวเป็นอย่างดี นางปฏิเสธที่จะรับฟังคำพูดของเขา ไม่ยอมให้จิตใจของนางได้รับผลกระทบจากเขา นางได้กำหนดให้คำพูดทั้งหมดของโจชัวว่าเป็นเสียงกระซิบของปีศาจ!
อย่างไรก็ตามสิ่งที่โจชัวพูดต่อไปทำให้นางลังเลอีกครั้ง
“ ชนชั้นสูงบางคนที่นี่เริ่มเดิมพันการแข่งขัน เพื่อนร่วมงานของเจ้าได้พนันฝ่ายอาจารย์ของเจ้าแล้ว เจ้าไม่คิดจะลองเสี่ยงโชคบ้างหรือ”
โจชัวชี้ไปที่โต๊ะซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พวกเขายืนอยู่ ชนชั้นสูงตัวอ้วนได้ก่อตั้งโต๊ะพนันเล็ก ๆ ขึ้นที่นั่นอย่างเปิดเผย โจชัวเห็นอัศ