Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 130
ตอนที่ 130 ทางเลือก
ไทลีนรู้สึกประหม่ามาก
ขณะที่นางลืมตาขึ้นในเช้าวันนี้ นางเห็นกลุ่มคนที่อยู่รอบตัวนาง นางรู้สึกเหมือนกับว่านางป่วยหนักนอนอยู่บนเตียงกําลังจะตาย และถูกเพื่อนกับครอบครัวของนางจ้องมองอยู่
แต่หลังจากที่ไทลีนตื่นเต็มที่ นางเริ่มจําได้ว่าญาติหรือคนสนิทของนางเสียชีวิตหมดแล้ว นอกจากนี้นางมีเพื่อนเพียงคนเดียวในคฤหาสน์ของมาดามโครเดอร์ เอลฟ์ป่า
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าเฟลย์ไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนที่อยู่ข้างเตียงของนาง
ไทลีนลุกขึ้นจากเตียงของนางทันที นางกําลังจะถามพวกเขาว่านางก่อเหตุร้ายอะไรหรือเปล่า พวกนางก็ลากนางไปที่ห้องลองเสื้อที่อยู่ใกล้ๆโดยไม่บอกอะไร
หลังจากถูกลากไป ไทลีนก็เริ่มได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันจากสาวใช้ พวกนางเริ่มยุ่งกับงานในห้องลองชุด และเริ่มแต่งตัวเอลฟ์ที่เพิ่งตื่น และยังเวียนหัวเล็กน้อยให้โดดเด่นที่สุดในคณะละครห่านดํา-
ไทลีนตื่นตระหนกจนวินาทีสุดท้าย นางยังคงนั่งอยู่ในห้องลองชุด ทันใดนั้นนางก็พบว่าตัวเองอยู่ในอ่างอาบน้ำที่โรยด้วยกลีบดอกไม้
หลังจากที่สาวใช้ทําความสะอาดร่างกายของไทลื่นอย่างฉับไว พวกนางก็หยิบชุดที่สง่างามออกมา สวยจนไทลีนเชื่อว่าทั้งชีวิตนี้นางคงจะไม่มีโอกาสได้ใส่ นอกจากนี้พวกนางยังหยิบผลิตภัณฑ์แต่งหน้าจํานวนหนึ่งออกมาและเริ่มแต่งหน้าให้เอลฟ์สาว
ประมาณสามสิบนาทีต่อมา เอลฟ์น้ำแข็งที่เพิ่งตื่นและมีใบหน้าที่เศร้าหมองและเหนื่อยล้าก็กลายเป็นหญิงสาวสวยที่มีความงามที่สามารถจับคู่ดอกไม้แห่งฟารัคซี่ในตํานาน ถ้านางอยู่บนโลก นางสามารถเป็นนางแบบหน้าปกนิตยสารไทม์ได้
ไทลีนเสร็จแล้วร้อย… นางสง่างามมาก… จากผลงานของสาวใช้
นับตั้งแต่ที่นางเข้าร่วมคณะละครห่านดํา นางเป็นคนที่ไม่สามารถเล่นบทรองได้ ยิ่งกว่านั้นเนื่องจากนางไม่มีนามสกุลหรือภูมิหลังทางตระกูล นางจึงถูกนักแสดงหญิงของคณะละครห่านดําผลักไสและโดดเดี่ยวอยู่ตลอด
สถานะของนางในคณะละครห่านดํานั้นคล้ายกับลูกเป็ดขี้เหร่ ไม่ ลูกเป็ดขี้เหร่ก็ไม่ถูก นางน่าจะเป็นนกโดโดแทน1
แม้ว่านางจะเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเผ่าพันธุ์ของนาง แม้ว่าเผ่าพันธุ์ของนางจะสูญพันธุ์ไปพร้อมกับความตายของนาง แต่ก็ไม่มีใครสนใจนาง
ทุกอย่างกะทันหันจนทําให้ไทลีนรู้สึกว่านางจะถูกนําไปเป็นเครื่องเซ่นไหว้มังกรยักษ์
มีตํานานดังกล่าวในหมู่เอลฟ์ว่า เมื่อหลายร้อยปีก่อนเอลฟ์น้ำแข็งได้ปลุกมังกรยักษ์ที่หลับใหลอยู่ในภูเขาหิมะ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงต้องเซ่นไหว้เอลฟ์สาวให้กับมังกรเป็นระยะๆ เพื่อระงับความโกรธของมังกร
ไทลีนต้องการทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ แต่สาวใช้ไม่ได้เปิดโอกาสให้นางถามคําถามนั้นด้วยซ้ำ พวกนางผลักไทลีนผ่านทางเดิน และพานางไปที่พื้นที่ซ้อมละครของคณะละครห่านดํา
ไทลีนพบว่าสมาชิกส่วนใหญ่จากคณะละครห่านดําอยู่ที่นี่ พวกเขาเริ่มกระซิบเมื่อเห็นไทลีน
ไทลีนไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขากระซิบ นางไม่ได้สนใจที่จะพิจารณาว่าพวกเขากําลังพูดอะไร นางถูกสาวใช้ผลักเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของพื้นที่ฝึกซ้อม
สถานที่นี้เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในคฤหาสน์ของมาดามโครเดอร์ ขนาดพอๆกับเวทีการแสดงเล็กๆ ในคณะละคร
บนเวที ไทลีนเห็นวงออเคสตราที่ดูแลดนตรีประกอบให้กับคณะละครห่านดํา … เมื่อไทลีนก้าวเข้ามาในพื้นที่การแสดงนี้ วงออเคสตราก็หยุดกะทันหัน
ในไม่ช้าไทลีนก็ถูกพาไปที่กลางห้อง นางเห็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ มาดามโครเดอร์ และโจชัวปีศาจโกลาหล
ในเวลานี้ไทลีนก็ตระหนักได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น นางจะไม่กลายเป็นเครื่องบูชามังกร นางจะกลายเป็นเครื่องบูชาปีศาจแทน
เอลฟ์น้ำแข็งถูกผลักไปยืนตรงหน้ามาดามโครเดอร์และโจชัว มาดามโครเดอร์กําลังตรวจสอบไทลีน…
ตามจริงแล้ว เมื่อเอลฟ์ป่าดํานําเอลฟ์น้ำแข็งมาให้นางเป็นครั้งแรก มาดามโครเดอร์ก็มีความคาดหวังต่อไทลีน อย่างไรก็ตาม ความงามของเอลฟ์นั้นชัดเจน หากเอลฟ์น้ำแข็งมีพรสวรรค์เพียงเล็กน้อย นางก็สามารถสร้างอาชีพให้ตัวเองในคณะละครห่านดําได้อย่างแน่นอน
แต่ความจริงเปิดเผยว่าเอลฟ์สาวไม่สามารถแม้แต่จะโกหกได้และแสดงไม่เป็น การพยายามเปลี่ยนนางเป็นนักแสดงอาจเป็นเรื่องยากพอๆ กับการพยายามเปลี่ยนคนแคระให้เป็นช่างตัดเสื้อ
เมื่อพิจารณาถึงเอลฟ์ป่าดําแล้วมาดามโครเดอร์ก็ไม่ได้เข้มงวดกับความคาดหวังเอลฟ์น้ำแข็งมากเกินไป แต่ไม่ว่านกโดโดจะไล่ตามห่านดําอย่างไร มันก็ไม่มีวันบินได้ ตอนนี้มาดามโครเดอร์พบโอกาสที่เหมาะสมที่จะให้เอลฟ์คนนี้ได้ออกจากคณะละคร
“ไทลีน ข้ารู้ว่าเจ้าปรารถนาชื่อเสียงเหมือนคนอื่นๆ แต่คณะละครห่านดําไม่เหมาะกับเจ้า ท่านโจชัวคิดว่าเจ้าคู่ควรที่จะได้รับการดูแล ด้วยเหตุนี้จึงมีทางเลือกสองทางให้เจ้าเลือก เจ้าสามารถอยู่ในคณะละครห่านดําต่อไปหรือจะยอมรับคําเชิญของท่านโจชัว”
“มาดามโครเดอร์!”
ก่อนที่ไทลีนจะพูดอะไร เอลฟ์ป่าดําเฟลย์ได้ยกเลิกรูนล่องหนของนาง และปรากฏตรงหน้าไทลื่น
นางโค้งคํานับมาดามโครเดอร์อย่างเร่งรีบ และก้มหัวลงเพื่อพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน “ได้โปรดอย่าหลงกลปีศาจตนนั้น ไทลีนมีความสําคัญอย่างยิ่งต่อเหล่าเอลฟ์ของเรา”
เมื่อเฟลย์พูดคําว่า “ปีศาจ” ผู้คนจํานวนมากจากคณะละครห่านดําก็อึ้งและไม่เชื่อ
แม้ว่ามาดามโครเดอร์จะทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของโจชัวแล้ว แต่นางก็ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจากคณะละครห่านดําจึงเดาตัวตนของผู้กํากับหนุ่มคนนี้มาโดยตลอด
ขณะถ่ายทํา นักแสดงสาวหลายคนพยายามพูดคุยกับโจชัว น่าเสียดายที่ซิริผู้ช่วยส่วนตัวของโจชัวนั้นโดดเด่นเกินไป นางโดดเด่นมากจนนักแสดงสาวเหล่านั้นเลิกคิดที่จะจีบโจชัว
โจชัวไม่รู้สึกโกรธใดๆ จากการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่เขากลับยิ้มอย่างสง่างามให้กับฝูงชนที่อยู่รอบๆ
ที่โจชัวมาโลกนี้คือการทําให้ปีศาจไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายอย่างที่ศาสนจักรบรรยายไว้
ถ้าแม้แต่โจชัวเองก็รู้สึกว่าเป็นปีศาจที่เป็นสิ่งที่น่าขายหน้า เขาจะไม่สามารถทําให้จุดประสงค์ของเขาก็บรรลุผลได้
นักแสดงที่อยู่รอบๆ เกิดความโกลาหลเพียงเล็กน้อยกับข่าวนี้ พวกเขาไม่ได้ตื่นตระหนกนัก ท้ายที่สุดแล้วหลายคนเป็นแฟนของ โฉมงามกับเจ้าชายอสูร
แม้ว่าคนของศาสนจักรจะอยู่ทั่วฟารัคซี่ แต่มาดามโครเดอร์ก็อยู่ในกลุ่มที่เกลียดพฤติกรรมของศาสนจักร ด้วยเหตุนี้ สมาชิกหลายคนในคณะละครของนางจึงต่อต้านศาสนจักรเช่นกัน
นอกจากนี้ หากไร้ชื่อเสียง สถานะ และความสามารถในการเพลิดเพลินกับชีวิต ความเชื่อในพระเจ้าจะมีความหมายอะไร?
“ใจเย็นๆเฟลย์ ข้าไม่ได้บังคับให้เพื่อนของเจ้าออกจากคณะละคร ข้าแค่ให้โอกาสนางตัดสินใจ” มาดามโครเดอร์กล่าว