Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 131
ตอนที่ 131 ร้องเพลง
ไทลีนรู้ว่าผลของการเข้าไปพัวพันกับปีศาจคืออะไร ตามข่าวลือ นางอาจจะต้องเสียสละชีวิตหรือจิตวิญญาณของตัวเองด้วยซ้ำ ในกรณีที่ไม่ร้ายแรง นางอาจต้องตกเป็นทาสของปีศาจไปตลอดชีวิต
บางที่โจชัวอาจแตกต่างไปจากปีศาจในข่าวลืออย่างสิ้นเชิง แต่ตอนนี้สมาชิกทั้งหมดของคณะละครห่านดํากําลังเป็นพยานในการเลือกของไทลีน
หากไทลีนยอมรับคําเชิญของโจชัว นางจะกลายเป็นศัตรูของ ศาสนจักร ในโลกที่ประกอบด้วยมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ นั่นไม่ใช่ทางเลือกที่สมเหตุสมผล
แต่ไทลีนไม่ได้แสดงท่าที่ลังเลใดๆ ในครั้งนี้ แม้ว่าเพื่อนเอลฟ์ป่าดําของนางจะต่อต้านโดยสิ้นเชิง แต่ไทลีนก็ตัดสินใจแล้ว แน่นอน คําตอบของนางคือ ข้าจะไปกับท่านโจชัว”
“อืม… มาดามโครเดอร์ขอบคุณสําหรับการพิจารณาทั้งหมดที่ท่านมีให้ข้าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้าวางแผนที่จะอยู่ในนอร์แลนด์และยอมรับคําเชิญของท่านโจชัว” ไทลีนกล่าว
“ไทลีน! เชื่อข้า! เขาอันตรายกว่าที่เจ้าจินตนาการมาก!”
“เฟลย์ เรื่องนั้น”
ไทลีนกําลังฟังเพื่อนนางที่พยายามจะหยุดนาง แต่นางได้ตัดสินใจไปแล้ว แม้ว่านางจะต้องเผชิญกับอันตรายจริงๆ ก็ตาม แต่เพื่อเห็นแก่การรวบรวมสารอาหารสําหรับต้นไม้โลก นางไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่าง
ขณะที่ไทลีนกําลังร้องเพลงอยู่ในโรงเตี้ยมใจหิน นางบังเอิญได้พูดคุยกับอินอร์
วิธีที่โจชัวสามารถเปลี่ยนซัคคิวบัสที่ไม่เป็นที่รู้จักให้เป็นนักแสดงที่คนหนุ่มสาวในนอร์แลนด์ต่างก็รู้จัก เบลล์ แค่นั้นก็เพียงพอที่จะโน้มน้าวให้ไทลีนเชื่อว่าโจชัวสามารถเปลี่ยนคนให้มีชื่อเสียงได้จริงๆ
“หยุดได้แล้ว เจ้าควรกลับไปหาคนที่เจ้ามีหน้าที่ปกป้อง นี่ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าควรจะมายุ่ง”
มาดามโครเดอร์พูดกับเอลฟ์ป่าดําด้วยน้ำเสียงสั่งการ เฟลย์ค่อยๆกัดริมฝีปากล่างของนาง นางอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ไทลีนเข้าไปหานาง และจับมือนางไว้ เฟลย์มองไทลีนและเห็นว่านางสายหัวเบาๆ
“หากเจ้ากังวลเรื่องความปลอดภัยของเพื่อน เจ้าสามารถเข้าไปหานางที่โรงเตี้ยมใจหินได้ทุกเมื่อ “โจชัวกล่าว
ต่อหน้าแกรนดัชเชส อํานาจของเฟลย์ยังน้อยไป มีเพียงอาจารย์ของนาง ผู้อาวุโสของเอลฟ์ป่าดําเท่านั้นที่สามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของแกรนดัชเชส
เฟลย์ถอนหายใจ จากนั้นร่างของนางก็หายไปต่อหน้าโจชัว นางกลับไปอยู่เคียงข้างแกลโลลี่
หลังจากที่เฟลย์จากไป ไม่มีใครพยายามหยุดไทลีน เอลฟ์สาวยกชุดที่สวยหรูและค่อนข้างหนักของนางเดินไปที่ด้านข้างของโจชัวอย่างระมัดระวัง
ทันทีที่นางยืนอยู่ข้างโจชัว นางก็บอกลาชีวิตที่สงบสุขของนางอย่างเป็นทางการ และก้าวเข้าสู่สนามรบที่ยังมองไม่เห็น
นางจะไม่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของคณะละครห่านดําอีกต่อไป ศาสนจักรจะเพ่งเล็งนาง เอลฟ์ที่เกี่ยวข้องกับปีศาจ เป็นหนามที่กวนใจพวกเขา
แต่ในขณะเดียวกันกับที่นางสูญเสียการคุ้มกัน ไทลีนก็ได้รับสิ่งที่นางต้องการ!
“เวทีนั้นเตรียมไว้สําหรับเจ้าแล้ว นี่จะเป็นการแสดงครั้งสุดท้ายของเจ้าในคณะละครห่านดําอย่าทําให้วุ่นวายล่ะ”
โจชัวชี้ไปที่เวทีตรงกลางโถงแสดง ดวงตาที่พร่ามัวเล็กน้อยของไทลีนเริ่มส่องแสงตอนที่นางเห็นแสงพุ่งมาจากเวที
คราวนี้นางไม่ลังเลเลย นางยกชุดของนางแล้วเดินไปที่เวที แม้ว่าการเดินของนางจะดูงุ่มง่ามและเคอะเขินมากราวกับเป็ดก็ตาม
นางหยิบผลึกออริจินั่มที่สลักอักษรรูนขยายเสียง และกลายเป็นบุคคลที่ตระการตาที่สุดในห้องโถงแสดงในทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่นางยืนอยู่บนเวทีหลังจากเข้าร่วมคณะละครห่านดํา!
เสียงเพลงเริ่มดังขึ้นจากข้างหลังนาง นี่เป็นครั้งแรกที่คณะละครห่านดําแสดงดนตรี เพื่อนางคนเดียว มันจะเป็นครั้งสุดท้ายด้วย
โจชัวยืนอยู่ที่ด้านล่างเวทีและมองดูหญิงสาวที่โดดเด่นอยู่บนเวที เขาพูดกับมาดามโครเดอร์ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า “มาดามโครเดอร์ ข้าคิดว่าท่านจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจของท่าน”
“ฟารัคซี่ไม่ได้ขาดนักร้องที่โดดเด่นสักหน่อย”
มาดามโครเดอร์ไม่ยอมรับสิ่งที่โจชัวพูด ท้ายที่สุดฟารัคซี่ไม่เคยขาดนักร้อง สิ่งที่พวกเขาขาดอย่างแท้จริงคือดนตรีในตํานานที่สืบทอดมาจากรุ่นก่อน และรุ่นต่อรุ่นในอนาคต
โจชัวไม่ได้พูดอะไรกับคําตอบของนาง เหตุผลก็คือเพราะไทลีนเริ่มร้องเพลง ไทลีนมีความสามารถตามธรรมชาติในการร้องเพลงโอเปร่า นางใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการอ่านโน้ตดนตรีของ “Star Sky เมื่อดนตรีเริ่มขึ้น นางจับระดับเสียงที่ถูกต้องได้ทันที
โจชัวบันทึกการแสดงของไทลีนด้วยผลึกออริจินั่ม ซีดีซิงเกิลแรก ไม่ใช้สิ ผลึกออริจินั่มซีดีถือกําเนิดขึ้นในมือของโจชัว
เพลย์ออกจากห้องโถงแสดง แต่นางไม่ได้ไปไหนไกล เสียงเพลงที่ดังมาจากห้องแสดงรั้งนางไว้ราวกับเชือก นางถูกบังคับให้ต้องหยุด
ภาวะซึมเศร้าที่นางรู้สึกกระจัดกระจายหายไปในทันที ด้วยความอยากรู้อยากเห็น นางจึงไปที่ห้องโถงแสดงและยื่นหัวไปที่ทางเข้าเพื่อฟังการแสดงจากวงออเคสตร้าของท่านดํา
เมื่อการแสดงค่อยๆ ขึ้นสู่จุดสูงสุด แมวดําก็ปรากฏขึ้นบนหัวของเฟลย์
“อา..”
นางยืนตัวตรงทันที นางต้องการอุ้มแมวดําลงจากหัวของนาง
แต่เนื่องจากแมวดําตัวนั้นเป็นวิญญาณต้นไม้โบราณของเอลฟ์ป่าดํา สิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับเส้นชีวิตของเผ่าพันธุ์ของพวกนาง เฟลย์จึงไม่กล้าที่จะสัมผัสมัน
สําหรับเอลฟ์ป่าดํา เราจะต้องผ่านพิธีศักดิ์สิทธิ์หลายครั้งเพื่อสัมผัสวิญญาณของต้นไม้โบราณการสัมผัสโดยตรงโดยไม่ทําพิธีถือเป็นการไม่เคารพอย่างยิ่ง
แมวดําเหลือบมองที่ห้องโถงแสดงก่อนจะหันกลับไปมองที่โถงทางเดินด้านนอกอย่างรวดเร็ว
“ใคร?!”
เพลย์มองไปยังโถงทางเดินหลังจากเห็นแมวดําทําเช่นนั้น ที่ปลายโถงทางเดินปรากฏเงา เมื่อเห็นบุคคลนั้น เฟลย์ก็ตื่นตัวอย่างสมบูรณ์
“ใครจะไปคาดคิดว่าข้าจะสามารถเห็นจิตสํานึกของต้นไม้โลกได้อีกครั้ง”
ที่ปลายโถงทางเดินมีนักแสดงสาวตัวสูง เฟลย์รู้จักนาง นักแสดงหญิงคนนั้นมีสถานะสูงในคณะละครท่านดํา แต่เฟลย์สามารถบอกได้ว่ามีใครบางคนกําลังปลอมตัวเป็นนักแสดงสาวคนนั้น
“ข้ามาที่นี่เพื่อเตือนทุกคน ศัตรูของเอลฟ์ไม่ใช่ปีศาจ แต่มันคือศาสนจักร” นักแสดงสาวกล่าว
“ศาสนจักร?”
เพลย์ตรวจสอบนักแสดงหญิงตรงนั้น นางกําลังตรวจสอบร่างกายของนางซึ่งนางอาจซ่อนอาวุธไว้ ขณะทําเช่นนั้น นางสังเกตเห็นรอยประทับของนกสีดําที่คอของนาง
“ตอบคําถามข้ามาก่อน!”
คนแปลกหน้าแทรกซึมเข้ามาในคฤหาสน์ของมาดามโครเดอร์ นอกจากนี้ยังเป็นคนที่สามารถแปลงร่างเป็นคนอื่นได้ สําหรับผู้คุ้มกันอย่างเฟลย์ ผู้บุกรุกรายนี้ไม่ใช่แขกที่นางสามารถสนทนาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าได้
อย่างไรก็ตามปัญหาอยู่ที่ว่าแมวดําอยู่บนหัวของนาง ด้วยเหตุนี้นางจึงไม่สามารถเอากริชออกมาต่อสู้กับผู้บุกรุกได้
“ข้าแค่เตือนเจ้าด้วยความปรารถนาดีเท่านั้น แม้ว่าข้าจะเกลียดเอลฟ์อย่างเจ้าก็ตาม แต่ข้าเกลียดคนบ้าที่มาจากศาสนจักรมากกว่า อย่าลืมดูแลแมวตัวนั้นให้หลับสบายละ”
หลังจากที่นักแสดงหญิงพูดจบ นางก็เดินผ่านมุมโถงทางเดินและหายตัวไปต่อหน้าเอลฟ์ป่าดํา