Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 142
ตอนที่ 142 โลกใหม่
“วิญญาณของข้า? นั่นเป็นราคาที่มหาศาลมาก”
ดาร์คเอลฟ์รู้ว่าโจชัวต้องทําสัญญากับลิชผู้ทรงพลัง ดังนั้นหากนางมอบวิญญาณให้โจชั่วก็หมายความว่านางกําลังมอบวิญญาณของนางให้กับลิชด้วย
นี่เป็นสัญญาที่ไม่สมเหตุสมผลมากกว่าการบอกให้นางขายร่างของนาง หากนางทําสัญญานางจะกลายเป็นนกพิราบสัตว์เลี้ยงของโจชัวไปตลอดชีวิต
“นั่นเป็นข้อกําหนดพื้นฐานที่สุดที่ข้าจะเชื่อใจเจ้า นอกจากนี้ข้าไม่เชื่อว่าราคานี้จะแพงเกินไปเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้ว “ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ” ไม่ใช่ภาพยนตร์เรื่องเดียวในโลกนี้”
สิ่งที่โจชั่วพูดไม่น่าสนใจสําหรับดาร์คเอลฟ์มากนัก ถ้านางต้องการดูภาพยนตร์จริงๆ นางสามารถซื้อตั๋วเพื่อดูได้
เหตุผลที่นางขโมยผลึกออริจินั่มของ ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ” นั้นเพื่อที่นางจะได้นํามันกลับคืนสู่อาณาจักรปีศาจ เหตุผลหลักที่ทําให้นางลังเลก็เพราะว่า… นางอาจจะไม่สามารถออกจากห้องชมภาพยนตร์แห่งนี้ได้หากนางปฏิเสธโจชั่ว
นางรู้สึกถึงกลิ่นอายมืดมนและเย็นชาเมื่อนางแตะลูกบิดประตูก่อนหน้านี้
อันเดธหนึ่งหรือหลายตัวกําลังเฝ้าประตูอีกด้านหนึ่ง ดาร์คเอลฟ์ไม่มีเวทมนตร์ใด ๆ ที่สามารถขับไล่พวกอันเดธได้ นอกจากนี้ยังมีอัศวินมนุษย์ติดอาวุธครบถึงสิบสองอยู่ด้านนอกด้วย..
หากโจชัวเอาจริง ความเป็นไปได้ที่นางจะออกจากคฤหาสน์ฟารัคซี่ทั้งเป็นก็คงจะน้อยมาก ดัง นั้นนางจึงไม่มีสิทธิที่จะเลือก
หลังจากชั่งน้ําหนักตัวเลือกของนางแล้ว ดาร์คเอลฟ์ก็พยักหน้าในที่สุด จุดประสงค์เดียวของนางในการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้คือการแก้แค้นศาลนอกรีตและ… เพื่อตอบแทน “มาทิลด้า” ที่ช่วยชีวิตนางไว้
“เลือกได้ฉลาด… ถ้าอย่างนั้น เรามาจับมือกันเพื่อมิตรภาพปลอมๆ ของเรากันเถอะ”
โจชัวยื่นมือออกไปพร้อมกับรอยประทับของดยุคแห่งกระดูก
ดาร์คเอลฟ์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางต้องการวางมืออีกข้างหนึ่งบนกริช
แต่นางรู้สึกถึงกลิ่นอายเย็นเยือกที่พัดผ่านคอของนาง กลิ่นอายนั้นบังคับให้นางละทิ้งกลอุบายของนาง และจับมือโจชั่ว
ผ่านฝามือของนาง พลังเวทมนตร์เย็นเยียบเข้าครอบงําร่างกาย นางสามารถต้านทานพลังเวทมนตร์จากลิชได้ด้วยพลังเวทมนตร์ของนางเอง แต่เพื่อความอยู่รอด นางเลือกที่จะผ่อนคลายร่างกาย
ในไม่ช้าพลังเวทมนตร์ของลิชก็เติมเต็มแก่นแท้ของจิตวิญญาณของนาง เมื่อนางปล่อยมือนางรู้สึกได้ถึงความรู้สึกมหัศจรรย์
“ข้าต้องทําอะไรให้เจ้า”
ดาร์คเอลฟ์ขยับมือของนาง รอยประทับบนฝ่ามือของนางหายไป
เพื่อทดสอบว่าอาณาเขตที่ป้องกันการใช้เวทมนตร์ยังคงอยู่ในร่างกายของนางหรือไม่ นางเปลี่ยนรูปลักษณ์ของนางหลายครั้งต่อหน้าโจชัว จากนั้นนางก็เปลี่ยนรูปลักษณ์ของนางกลับไปเป็นรู ปร่างหน้าตาของนางเอง
แม้ว่าดาร์คเอลฟ์จะเกลียดศาลนอกรีตของศาสนจักร แต่ความสามารถที่ศาลนอกรีตมอบให้แก่นางนั้นเป็นรากฐานของทักษะของนางในฐานะนักฆ่าและคนขายข้อมูล
“เรื่องแรกที่น่ากังวล เจ้าเคยได้ยินเรื่อง เทพแห่งกฎมาก่อนหรือเปล่า?”
โจชัวถือได้ว่าเป็นผู้เผยแพร่อันดับหนึ่งของ เทพแห่งกฏลอยด์ แม้แต่เอลฟ์น้ําแข็งไทลีนที่เพิ่งเข้าร่วมกิลด์บันเทิงของเขาก็ได้เข้าร่วมศาสนาลอยด์เพื่อเห็นแก่ การออนไลน์
“เทพแห่งกฎลอยด์ เป็นหนึ่งในระบบรูนพื้นฐานที่สุดในโลกนี้ มันเป็นระบบรูนที่ข้าคุ้นเคยที่สุด”
ดาร์คเอลฟ์เขียนอักษรรูนสองสามคําในอากาศ ด้วยอักษรรูนเหล่านั้น ผ้าปูโต๊ะที่วางอยู่ด้านข้างเริ่มลอยอยู่กลางอากาศ
จากนั้นรูนกว่าร้อยรูนก็เริ่มลอยอยู่รอบตัวนาง จํานวนรูนที่นางรู้จักนั้นเทียบได้กับปราชญ์จากหอคอยนักปราชญ์
ดาร์คเอลฟ์คนนี้เป็นนักวิชาการชั้นยอดจริงๆ!
ที่กล่าวว่าในขณะที่พวกเอลฟ์มีอายุยืนยาว ถูกกําหนดว่าพวกเขาจะมีเวลาเรียนรู้ความรู้มากกว่ามนุษย์น่าเสียดายที่อายุยืนยาวของพวกเขาก็ทําให้พวกเขาเติบโตช้าเช่นกัน
ขีดจํากัดสูงสุดของเวทมนตร์ทําให้แม้ว่าพวกเขาจะรู้จักอักษรรูนมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเปิดใช้งานเวทมนตร์ที่สามารถกําหนดผลของการต่อสู้ได้
โจชั่วไม่รําคาญที่จะถามดาร์คเอลฟ์สาวคนนี้ว่านางอายุเท่าไหร่ การถามอายุผู้หญิงโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะคนที่อายุสามหลัก เป็นพฤติกรรมที่ไม่สมเหตุสมผลคล้ายกับการคบหาสมาคมกับ
ความตาย
“ในเมื่อเจ้าเชี่ยวชาญอักษรรูนแล้ว มันก็จะเป็นเรื่องง่ายๆ”
พลังเวทมนตร์ธรรมดาจํานวนเล็กน้อยไหลออกมาจากฝ่ามือของโจชัว ลูกบาศก์หมุนปรากฏขึ้นเหนือมือของเขา
“นี่คือ…. เวทมนตร์จากระบบกฎเกณฑ์? ท่าน โปรดอภัยในความหยาบคายของข้า ข้าเข้าใจเวทมนตร์ระดับห้า และต่ํากว่า เวทมนตร์ระดับหกขึ้นไปพวกมันกลายเป็นเรื่องยากและข้าทําไม่ได้”
ดาร์คเอลฟ์เชื่อว่าเวทมนตร์ของระบบกฎเกณฑ์นั้นมีประโยชน์มากที่สุดสําหรับการลอบสังหาร ความสามารถของนางทั้งหมดขึ้นอยู่กับเวทมนตร์ “มือเวทย์” ซึ่งเป็นหนึ่งในเวทมนตร์พื้นฐานที่สุดด้วยการใช้เวทมนตร์พื้นฐานนั้นดาร์คเอลฟ์สามารถขยายไปสู่การใช้งานต่างๆได้นับไม่ถ้วน
เวทมนตร์ไม่ใช่สิ่งที่ยิ่งซับซ้อนยิ่งดี ในทางกลับกันนางเชื่อว่าการใช้เวทมนตร์จริงนั้นสําคัญกว่ามากด้วยเหตุนี้นางเป็นจอมเวทต่อสู้อย่างซิริ
“พูดอย่างเคร่งครัด สิ่งนี้ไม่ใช่เวทมนตร์”
โจชัวโยนลูกบาศก์สีขาวให้กับดาร์คเอลฟ์ ดาร์คเอลฟ์ยื่นมือไปจับลูกบาศก์ มันเริ่มหมุนบนมือของนางไม่หยุด
“ไม่ใช่… เวทมนตร์?”
ดาร์คเอลฟ์มองโจชัวด้วยท่าทางสับสน นางเห็นโจชั่วทําท่าทางกํามือ ดาร์คเอลฟ์เลียนแบบการเคลื่อนไหวของโจชั่วคว้าลูกบาศก์
ลูกบาศก์แตกเป็นเสี่ยงๆ ทันทีที่ถูกอักษรรูนนับไม่ถ้วนจารึก ราวกับกระแสน้ําอันทรงพลังอักษรรูนพุ่งเข้าสู่ร่างของดาร์คเอลฟ์ นางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ หน้าต่างสีดําสนิทปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตานาง หน้าต่างค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีขาวล้วน
ชุดคํา
Windows XP” ปรากฏขึ้นตรงกลางหน้าต่างสีขาว
นางถอยกลับไปสองสามก้าวเพื่อให้ห่างจากหน้าต่างแปลก ๆ นั้น แต่ในไม่กี่วินาที นางตระหนักว่าหน้าต่างปรากฏขึ้นในสายตาของนางโดยตรง นางไม่สามารถหนีจากหน้าต่างนี้ได้
“นี่คือ…. เวทมนตร์ลวงตา?”
เวทมนตร์ชนิดเดียวที่ดาร์คเอลฟ์รู้ว่าสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่คนเห็นได้ก็คือเวทมนตร์ลวงตาแต่เวทมนตร์ลวงตาไม่ได้อยู่ในระบบกฎเกณฑ์ แต่เป็นระบบรูนที่หายากมาก
“ไม่ พูดอย่างเคร่งครัดนี่คือโลกใหม่”
โจชั่วไม่ได้แปลโปรแกรมระบบปฏิบัติการ Windows XP อย่างสมบูรณ์ อักษรรูนแตกต่างจากไดโอดของคอมพิวเตอร์ เหตุผลเดียวที่เขาตั้งชื่อระบบปฏิบัติการที่เขาสร้างโดยใช้อักษรรูนเป็น Windows Xp ล้วนเป็นเพราะความคิดถึง
“โลกใหม่?”
ดาร์คเอลฟ์ไม่เข้าใจสิ่งที่โจชั่วพูด ท้ายที่สุดสําหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในศตวรรษที่ 18 ระหว่างการปฏิวัติอุตสาหกรรมเวทมนตร์ คอมพิวเตอร์เป็นแนวคิดที่ล้ําหน้ากว่ายุคสมัยมาก
“ข้าเชื่อว่าน่ามีไอคอนที่เรียกว่า “กระทูจอมเวทย์” บนหน้าจอของเจ้า ใช้มือแตะมัน”
โจชั่วใช้มือของเขาแตะ
แม้ว่าดาร์คเอลฟ์จะตกใจกับสิ่งที่ปรากฏต่อหน้านาง แต่ความเป็นมืออาชีพทําให้นางสงบจิตใจได้อย่างรวดเร็ว นางมองข้าม “หน้าจอ” ที่โจชั่วกล่าวถึง มีสามไอคอนพิเศษ พวกมันคือ“ระบบของข้า” ” สถานีวิทยุนอร์แลนด์” และ ”กระทูจอมเวทย์” ตามลําดับ