Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 92
หลังจากที่หัวหน้าบาทหลวงดีไซเลส อาจารย์ผู้เป็นที่เคารพของนางเมสซากำลังเดินบนถนนกระเบื้องปูพื้นที่นำไปสู่วังผลึก
นับตั้งแต่ที่เมสซาได้รับการแต่งตั้งให้เข้าร่วมงานงานนิทรรศการโลกนอร์แลนด์ร่วมกับหัวหน้าบาทหลวงดีไซเลส อัศวินหญิงก็เฝ้ารอให้ถึงวันงานนิทรรศการโลก
นิทรรศการจะรวบรวมชนชั้นสูงจากประเทศต่างๆ เป็นตัวแทนความก้าวหน้าของโลก ความก้าวหน้าของมนุษยชาติ
นำโดยแสงและความรุ่งโรจน์ ศาสนจักรได้นำอุปกรณ์อาร์คาโนเทคใหม่ทั้งหมดมาจัดแสดงในงานงานนิทรรศการโลก
เมื่อวานเมสซาทำความสะอาดและเช็คเกราะของนางหลายครั้งเพื่อไม่ให้ประเทศของนางเสื่อมเสีย นางพยายามอย่างเต็มที่เพื่อลบสิ่งสกปรก คราบเลือด และรอยขีดข่วนที่สะสมมาจากการใช้งานหลายปี
“ มีสติอยู่กับตัวเอง”
เมสซายืดหลังตรง และสั่งอัศวินทั้งสองคนที่อยู่ข้างๆนาง
หัวหน้าบาทหลวงดีไซเลสจะได้พบกับชนชั้นสูงของประเทศต่างๆในไม่ช้า ในขณะที่พวกเขาอัศวินจะยืนอยู่ข้างหลังหัวหน้าบาทหลวงดีไซเลส พวกเขากลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งของประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย
“ อัศวินแห่งดาบ เจ้าแน่ใจหรือว่าสบายดี? ดูเหมือนว่าเมื่อคืนนี้เจ้าจะนอนไม่หลับทั้งคืน” หนึ่งในสองอัศวินถามด้วยเสียงเบาหลังจากได้ยินเสียงเรียกร้องความสนใจของเมสซา เทมพลาร์นั้นมีสถานะเดียวกับเมสซา
พฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติของอัศวินหญิงสาวคนนี้ถูกเพื่อนร่วมงานของนางจับสังเกตได้
ทุกๆสองวันเมสซาจะออกไปทำสิ่งที่ใครๆก็รู้ตลอดทั้งวัน
ที่เมสซามีหน้ามีตาในหมู่อัศวินนั้นส่วนใหญ่เป็นเพราะอัศวินประกอบด้วยผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ ผู้หญิงนั้นหายากจริงๆ…แค่เพศของนางก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เพื่อนร่วมงานผู้ชายหลายคนให้ความสนใจนาง
“ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องนั้น”
เมสซาไม่ได้ตอบคำถามของอัศวินชายคนนั้นโดยตรง แต่นางกลับขู่เขาด้วยน้ำเสียงเตือน
ความจริงก็คือเมสซารู้สึกขาดความมั่นใจเล็กน้อย แม้ว่านางจะสามารถโน้มน้าวตัวเองได้เสมอโดยการบอกตัวเองว่าสิ่งที่นางทำนั้นเป็นภารกิจตรวจสอบกิจกรรมของปีศาจ ซึ่งเป็นสิ่งที่นางไม่มีทางเลือก แต่นางก็ยังคงชอบอุปกรณ์อาร์คาโนเทคที่คิดค้นโดยปีศาจ เครื่องอาร์เคดที่มีชื่อว่า ‘ใจหิน!’
สิ่งที่ทำให้เมสซาอับอายมากที่สุดคือความจริงที่นางกำลังคิดว่า ‘สายพาลาดินจะทำความเสียหายได้มากสุดแค่ไหนในรอบเดียว?’
เมสซาสูดหายใจลึก นางเดินตามอาจารย์ที่นางนับถือเข้าไปในวังผลึก นางตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่คิดถึง ‘ใจหิน’ ในงานงานนิทรรศการโลก และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับความรู้จากประเทศอื่น ๆ
ภายในของวังผลึกมีผู้คนพลุกพล่านมากกว่าที่เมสซาคิดไว้เล็กน้อย ชนชั้นสูงและนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีชื่อเสียงจากประเทศต่างๆมารวมตัวกันที่นี่
บริเวณใจกลางวังผลึกกว้างขวางที่สุด มีเวทีตรงตรงกลาง ในไม่ช้าอุปกรณ์อาร์คาโนเทคจากทั่วทุกมุมโลกจะปรากฏบนเวทีนั้น
กลุ่มของเมสซามาเร็วเกินไป ชนชั้นสูงยังคงรวมตัวกันเป็นกลุ่มสามถึงห้าคนและสนทนากันภายในกลุ่ม คนเสิร์ฟที่ถือไวน์แดงและแชมเปญต่างเดินวนไปมารอบ ๆ ชนชั้นสูง ดนตรีไพเราะดังก้องไปทั่วทั้งวังผลึก นี่เป็นเอกลักษณ์การสังสรรค์ของคนชั้นสูงอย่างแท้จริง
ดีไซเลสเดินนำเมสซาไปยังพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการของศาสนจักร สถานที่แห่งนี้จัดทำขึ้นสำหรับผู้วิเศษที่สนใจอุปกรณ์อาร์คาโนเทค
มีอุปกรณ์อาร์คาโนเทคขนาดมหึมาที่พื้นที่จัดแสดงของศาสนจักร เครื่องนั้นสามารถเก็บพลังงานไว้ในผลึกออริจินั่มได้
แม้ว่าเมสซาจะไม่รู้เรื่องการพัฒนาและการวิจัยอุปกรณ์อาร์คาโนเทค แต่นางก็มั่นใจว่าเครื่องจักรที่อยู่ตรงหน้านางเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทรงพลัง
“ คาร์ลในที่สุดเจ้าก็มาถึงที่นี่ พวกคนแก่คนอื่น ๆ กำลังรอเจ้าอยู่ นี่เป็นโอกาสหายากสำหรับพวกเราผู้ก่อตั้งสมาคมเพื่อนนกฮูกจะได้รวมตัวกัน”
ในขณะนี้ชายชราสวมเสื้อคลุมสีเทามีเครารุงรังยาวถึงหน้าอกสังเกตเห็นดีไซเลส นกฮูกสีขาวบริสุทธิ์เกาะอยู่บนไหล่ของเขา
หลังจากเห็นหัวหน้าบาทหลวงดีไซเลส นกฮูกก็กระพือปีกสองสามครั้งแล้วบินไปหาเขาโดยร่อนลงบนไหล่ของเขา
คาร์ลเป็นชื่อจริงของหัวหน้าบาทหลวงดีไซเลส มีคนเพียงไม่กี่คนในศาสนจักรที่รู้จักชื่อจริงของเขา แม้แต่เมสซายังไม่รู้ ด้วยเหตุนี้เมสซาจึงไม่กล้าดูถูกชายชราสวมชุดสีเทาคนนี้
“ เป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว แม้จะไม่ใช่เวลาที่ยาวนาน แต่ก็ไม่ใช่ช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นกัน ดีจริงๆ … ทุกคนไปเดินดูรอบ ๆ นิทรรศการกันก่อน ข้าขอตัวสักพัก” ดีไซเลสหันกลับมาพูดกับอัศวินทั้งสามที่ติดตามเขา
“ ครับ/ค่ะ”
เมสซาและเพื่อนร่วมงานสองคนพยักหน้า จากนั้นดีไซเลสก็ออกจากห้องโถงจัดแสดงของศาสนจักรพร้อมกับชายชราสวมชุดสีเทา
เมื่ออาจารย์ของนางจากไป เมสซาก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เนื่องจากพวกเขาไม่เข้าใจอุปกรณ์อาร์คาโนเทคในห้องจัดแสดงแต่อย่างใด อัศวินชายทั้งสองจึงหันไปให้ความสนใจกับห้องเต้นรำ ที่มีหญิงสาวสูงศักดิ์มากกว่า
ด้วยความที่พวกเขาดำรงสถานะเช่นเดียวกับเมสซา เมสซาจึงทำได้เพียงแค่มองพวกเขาอย่างเหยียดหยามในความปรารถนาความโลภ ความร่ำรวย และมีความสุขในชีวิต
อัศวินหญิงไม่สนใจแอลกอฮอล์หรือการประจบสอพลอกันของชนชั้นสูงเลย เมื่อเทียบกับสิ่งนั้นนางสนใจอุปกรณ์อาร์คาโนเทคลึกลับที่จัดแสดงอยู่มากกว่า
เมื่อมีเวลาว่างเมสซาก็เริ่มไปดูห้องโถงจัดแสดงของประเทศต่างๆ
แต่หลังจากที่อัศวินหญิงตรวจสอบนิทรรศการจาประเทศแห่งเล็ก บิสมาร์ค และเดินไปที่ห้องจัดแสดงของประเทศแห่งศิลปะ ฟารัคซี่ นางก็ได้ยินประโยคที่คุ้นเคย
“ จงศรัทธาในแสงสว่าง!”
เมสซาคนที่ไม่สนใจละครเวที ดนตรี และภาพวาดหยุดฝีเท้าของนางเมื่อได้ยินวลีนั้น
นางจำวลีนั้นได้ นางจำมันได้เป็นอย่างดี นั่นคือ … การ์ดระดับตำนานที่แข็งแกร่งที่สุดจากสาย ‘พาลาดิน ธีเรี่ยน ฟอร์ดริง!’
เพื่อให้ได้รับการ์ดใบนั้นมา เมสซาแทบจะหมดเงินเก็บทั้งหมดที่นางเก็บไว้ตั้งแต่ยังเด็ก ถึงกระนั้นตอนนี้นางก็ยังไม่สามารถเปิดการ์ดนั้นจากซองการ์ดได้
ย้อนกลับไปที่โรงเตี๊ยมใจหิน นางเคยเห็นคนใช้การ์ดใบนั้นเพียงครั้งเดียว แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้นางคุ้นเคยกับวลีอัญเชิญของธีเรี่ยน ฟอร์ดริง
เหตุใดจึงมีบทสนทนาจาก “ใจหิน” ที่นี่?
สายตาของเมสซาหันไปทางโถงนิทรรศการของฟารัคซี่ผ่านภาพวาด และประติมากรรมที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก และเห็นอุปกรณ์อาร์คาโนเทคสำหรับการเล่น ‘ใจหิน’ ที่ขอบโถงนิทรรศการ
นางยังเห็นเพื่อนที่นางไม่เคยอยากจะเจอที่นี่อีกด้วย…ปีศาจโกลาหล โจชัว!
นางขยับมือไปที่เอวทันทีโดยไม่รู้ตัว แต่นางคว้าอากาศ
วังผลึกไม่อนุญาตให้ผู้ใดนำอาวุธเข้ามาภายใน ชนชั้นสูงทุกคนที่เข้าร่วมงานงานนิทรรศการโลกเป็นบุคคลที่มีความสำคัญ หากใครในพวกเขาต้องเผชิญกับอุบัติเหตุบางอย่าง อาจนำไปสู่วิกฤตทางการทูต และแม้แต่สงครามได้
หรือนี่จะเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของปีศาจ