Bringing Culture to a Different World - ตอนที่ 93
โจชัวและสองพี่น้องเข้ามาในวังผลึกตามคำแนะนำของพ่อบ้านวัยกลางคน
หลังจากมาถึงงานนิทรรศการโลก มาดามโครเดอร์พยายามเชิญโจชัวเข้าร่วมสนทนากับชนชั้นสูง เห็นได้ชัดว่านางพยายามแจ้งชนชั้นสูงจากประเทศอื่น ๆ ว่าโจชัวเป็น ‘ทรัพย์สิน’ ของนางแล้ว
แต่โจชัวปฏิเสธคำเชิญของนางอย่างมีชั้นเชิง
ระหว่างรอการเริ่มงานงานนิทรรศการโลกอย่างเป็นทางการ โจชัวและซิริเห็นม้านั่งและเริ่มเล่นใจหินในห้องโถงนิทรรศการ
สำหรับไฮร์แลน นางเฝ้าดูอยู่ข้างๆอย่างเงียบ ๆ ในฐานะผู้ชม
“ ตอนที่ข้าวาดภาพศิลปะต้นฉบับของการ์ดใบนี้ ข้าเคยคิดกับตัวเองว่า…ผลกระทบของการ์ดใบนี้ไม่แรงเกินไปหน่อยหรือ?”
ซิริจับคู่กับโจชัว ตัวละครของนางคือผู้วิเศษไจน่า ในขณะที่โจชัวรับบทเป็นพาลาดิน อูเธอร์
โจชัวเพิ่งเรียกการ์ดสายพาลาดินที่แข็งแกร่งที่สุดธีเรี่ยน ฟอร์ดริง การ์ดใบนั้นหยุดกระดานของซิริโดยสิ้นเชิง นางไม่สามารถเอาชนะธีเรียนได้ และตายด้วยการ์ดใบนั้น”
“ซิริเจ้าใช้โพลี้มอร์บ(polymorph)เร็วเกินไป” ผู้ชมไฮร์แลนกล่าวด้วยเสียงนิ่งๆ
จริงๆแล้วไฮร์แลนไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับ “ใจหิน” มากนัก นางไม่มีบัญชีด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากกฎของใจหินนั้นง่ายมากไฮร์แลนจึงเข้าใจว่ามันเล่นอย่างไรหลังจากดูรอบเดียวในฐานะผู้ชม
นางไม่ได้คาดหวังว่าอุปกรณ์อาร์คาโนเทคที่นางสร้างขึ้นจะสามารถสร้างเกมไพ่ที่น่าสนใจเช่นนี้ได้
ในขณะที่ไฮร์แลนวางแผนที่จะทดลองใช้ใจหินด้วยตัวเอง ร่างที่พวกนางเกลียดชังเดินเข้ามาในห้องจัดแสดงนิทรรศการของฟารัคซี่
ซิริหยิบไม้เท้าที่นางวางไว้ด้านข้าง และยืนขึ้น ในขณะเดียวกันนางก็หันไปถามพี่สาวว่า“ พี่คิดว่าทักษะโพลี้มอร์บของผู้วิเศษจะสามารถเปลี่ยนเทมพลาร์ให้กลายเป็นแกะได้หรือไม่?”
ผู้วิเศษของโลกนี้ยังมีทักษะเวทมนตร์ที่สามารถเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นสัตว์ได้ แต่โพลี้มอร์บไม่ใช่ทักษะผู้วิเศษธรรมดา แต่มันเป็นความสามารถในการสาปแช่งของเวทมนตร์วูดู
ไฮร์แลนได้ศึกษาถึงวิธีการร่ายเวทย์ที่เป็นอันตรายนั้น
“ ข้าไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ ข้าเคยได้ยินจากศาสตราจารย์ดันส์ว่าโพลี้มอร์บใช้ได้ผลกับคนที่อ่อนแอและโง่มากเท่านั้น”
ไฮร์แลนมองไปที่เหล่านักรบแห่งเมสซา ที่เดินเข้าไปในห้องโถงนิทรรศการของฟารัคซี่ จากความก้าวร้าวของนางนางรู้ดีว่าเทมพลาร์คนนี้ไม่ได้มาที่นี่เพื่อดูนิทรรศการหรือชื่นชมศิลปะและประติมากรรม
เมื่อพิจารณาจากชุดเกราะที่ดูหนัก และอากาศทะมึน นางไม่ได้ดูเหมือนคนอ่อนแอและโง่เขลาแม้แต่น้อย
ตามที่ซิริทำ ไฮร์แลนก็หยิบไม้เท้าของนางเองด้วย ไฮร์แลนรู้แล้วว่าตัวตนที่แท้จริงของโจชัวต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับปีศาจ
นางรู้ด้วยว่าเหล่านักรบเทมพลาร์จะไม่มีวันไว้ชีวิตปีศาจ สำหรับพวกเขาปีศาจเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่พวกเขาไม่สามารถอยู่ร่วมด้วยได้
“ซิริใจเย็น ๆ ภาพวาดเหล่านี้อาจมีราคาสูงเท่ากับเงินเดือนทั้งปีของเจ้า จะเป็นการดีที่สุดถ้าเจ้าไม่ทำลายมัน”
โจชัวเตือนซิริว่านี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับการต่อสู้ ภาพวาดทั้งหมดนี้มาจากจิตรกรชื่อดังของฟารัคซี่ และมาดามโครเดอร์ต้องการให้ผู้คนได้เห็น
“ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?!”
เมสซาหยุดอยู่ไม่ไกลจากโจชัว นางไม่กล้าเข้าไปใกล้อีก
เนื่องจากนางไม่มีดาบติดตัว พลังการต่อสู้ของนางจึงลดลงมากกว่าครึ่ง นอกจากนี้นางมั่นใจว่าโจชัวเป็นปีศาจโกลาหลที่น่ากลัว
หากโจชัวตัดสินใจต่อสู้ เมสซาต้องให้เวลาตัวเองพอสมควรในการหลบหนี
“ ทำไมข้าถึงมาที่นี่? เห็นได้ชัดว่าข้ามาที่นี่เพื่อเข้าร่วมงานงานนิทรรศการโลก”
โจชัวให้คำตอบง่ายๆกับเมสซา คำตอบนั้นเป็นความจริงเช่นกัน น่าเสียดายที่อคติที่อัศวินหญิงคนนี้มีต่อปีศาจทำให้นางไม่สามารถเชื่อในคำตอบของโจชัว
“ ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะวางแผนอะไร อีกไม่นานเหล่านักรบเทมพลาร์ของเราจะมาถึง”
อักษรรูนสีทองปรากฏบนมือของเมสซา รูนนั้นใช้เป็นวิธีของนักรบในการยืนยันสถานะของพวกเขากับคนอื่น ๆ ในสนามรบ รูนมีนัยยะเดียว นั่นคือการค้นพบปีศาจ
โจชัวไม่กังวลที่จะอธิบายสิ่งต่างๆต่อไป สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเป็นเพราะผู้ดูแลจากฟารัคซี่ที่ดูแลห้องโถงนิทรรศการของพวกเขาเดินเข้ามา
“ ต้องขอโทษด้วย กรุณาอย่าใช้เวทมนตร์ในสถานที่นี้ สิ่งที่ท่านกำลังทำคือการแสดงความไม่เคารพต่อศิลปินของฟารัคซี่”
ผู้ดูแลคนนี้ไม่สนใจว่าเมสซาสวมชุดเกราะของเหล่านักรบเทมพลาร์หรืออะไรก็ตาม
ห้องโถงนิทรรศการนี้คล้ายกับอาณาเขตของฟารัคซี่ เวทมนตร์ใดๆล้วนถูกจำกัดไว้ในสถานที่แห่งนี้ หากใครกล้าฝ่าฝืนกฎนั้นจะเท่ากับการยั่วยุฟารัคซี่อย่างเปิดเผย
เมสซาอ้าปาก และต้องการอธิบายว่าเวทมนตร์ของนางไม่มีลักษณะที่น่ารังเกียจใด ๆ แต่ผู้เข้าร่วมหลายคนที่ดูแลความปลอดภัยของห้องจัดแสดงนิทรรศการเดินเข้ามาหานางแล้ว เมื่อเห็นพวกเขา เมสซาถูกบังคับให้ถอนเวทมนตร์
“ เจ้า…เจ้าไม่รู้ตัวตนของเขา เขาเป็นปีศาจ?”
เมสซาชี้ไปที่โจชัวซึ่งนั่งอยู่ข้างๆเครื่องใจหิน นางหวังว่าผู้ดูแลจะมอบโจชัวให้นาง เมื่อรู้ตัวตนของเขา
พวกคนแคระไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อปกป้องโจชัว …
“ ปีศาจ?”
ผู้ดูแลหันไปมองโจชัว จากนั้นเขาก็ส่ายหัวให้เมสซา และแสดงสีหน้าเสียใจ
“ ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน ท่านโจชัวเป็นแขกคนสำคัญของแกรนดัชเชสของเรา คุณหนูถ้าท่านยังแสดงความเป็นปรปักษ์ต่อแขกของเรา เราจะบังคับให้ท่านออกไปโดยใช้วิธีการที่ไม่สุภาพ”
น้ำเสียงของผู้ดูแลสุภาพมาก แต่เขาจะใช้กำลังหากจำเป็น ความสุภาพเป็นเพียงวิธีการพูดเท่านั้น
ปีศาจตนนี้รู้จักกับแกรนดัชเชสจากฟารัคซี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?!
ในขณะนี้เมสซาตระหนักอย่างลึกซึ้งว่านางมีอำนาจเพียงเล็กน้อย สถานะของนางในฐานะอัศวินของเหล่านักรบเทมพลาร์ไม่สามารถเทียบเท่าแกรนดัชเชสของประเทศอื่นได้
ถ้านางเป็นผู้บัญชาการของเหล่าเทมพลาร์นางจะสามารถบังคับให้โจชัวออกจากห้องจัดแสดงได้ในทันที
“ ถ้า คุณหนูเมสซาเป็นห่วงข้า เจ้าจะอยู่ที่นี่และเฝ้าติดตามการกระทำของข้าเหมือนกับที่เจ้ามักทำในโรงเตี๊ยมใจหินก็ได้ ในระหว่างนี้เจ้ายังสามารถเพลิดเพลินกับใจหินได้อีกด้วย เจ้าคิดอย่างไร?”
โจชัวออกคำเชิญปีศาจกับอัศวินหญิงอีกครั้ง
“นี่…”
เมสซากำลังลังเล ในฐานะอัศวินของเหล่านักรบเทมพลาร์นางไม่ทำตามคำแนะนำของปีศาจ
อัศวินหญิงก้าวออกจากพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการของฟารัคซี่ จากนั้นรูนในมือของนางก็ส่องแสงอีกครั้ง นางใช้วิธีนั้นเพื่อแจ้งให้คนอื่น ๆ ในวังผลึกทราบว่ามีศัตรูปรากฏตัว หลังจากนั้นนางก็กลับเข้าไปในพื้นที่จัดงานนิทรรศการของฟารัคซี่
“ ปีศาจ ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าหนีไปได้” เมสซาพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
หลังจากพูดคำเหล่านั้นอัศวินหญิงก็นั่งลงบนที่นั่งตรงข้ามโจชัวด้วยท่าทีที่ดูเป็นธรรมชาติ จากนั้นนางก็หยิบที่เก็บการ์ดของนางออกมา