Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต - ตอนที่ 303.3
บทที่ 303: ดาบมังกรทมิฬ (3)
นักดาบทั้งห้าถือดาบแห่งธาตุทั้งห้าไว้ในมือ นักบวชทั้งสี่นั้นเปิดใช้งานลำแสงศักดิ์สิทธิ์ไว้สำหรับป้องกัน พวกนางสร้างค่ายกลปีศาจขึ้นมาทั้งซ้ายและขวาเพื่อป้องกันซ่งจงจากด้านข้าง พวกนางตั้งรับและพร้อมที่จะคุกคามนักบวชเต๋าปีศาจแล้วในตอนนี้
นักบวชเต๋าปีศาจเห็นภาพเช่นนั้นอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วพร้อมกับถอนหายใจออกมา “ภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้านั้นเป็นสมบัติที่ยอดเยี่ยม แต่กลับอยู่ในมือของเจ้างั้นหรือ ช่างน่าสมเพชจริงๆ!”
เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขากล่าวออกมาทันทีอย่างไม่แยแส “สมบัติชิ้นนี้มีมานานตั้งแต่สมัยโบราณ คนที่มีคุณธรรมเท่านั้นจึงจะได้ครอบครองมัน”
นักบวชเต๋าปีศาจได้ยินเช่นนั้น เขาแทบจะกระอักเลือดออกมาทันที จากนั้นเขาคำรามออกมาเบาๆ “เจ้ามันเป็นอสูรกาย ผู้ที่ดื้อดึงจะฉกฉวยดาบมังกรทมิฬของข้าน่ะหรือมีคุณธรรม? อีกทั้งยังทำลายสาวกของข้าจนหมดสิ้น กลับกลอกในคำพูดของตนเองอย่างง่ายดาย คำพูดของเจ้าไร้ความน่าเชื่อถืออีกต่อไป!”
ซ่งจงนั้นรู้อยู่แล้วว่าตนเองผิด แต่เขาก็ยังโต้เถียงออกไปอย่างไม่พอใจ “ไอ้จิ้งจอกเฒ่า เลิกกล่าววาจาไร้สาระได้แล้ว รับดาบพวกนี้หน่อยเป็นไง!”
จากนั้นซ่งจงโบกมือของเขา ผู้ฝึกตนประเภทดาบทั้งห้าเคลื่อนไหวทันที พวกนางปลดปล่อยปราณดาบออกมามากมาย พลังนับหมื่นที่พุ่งออกมาราวกับอสรพิษได้พุ่งข้าหานักบวชเต๋าปีศาจอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันนักบวชทั้งสี่นั้นเคลื่อนไหวไปพร้อมๆกัน ค่ายกลของพวกนางนั้นเปล่งประกายลำแสงสีทองออกมา แรงกดดันมหาศาลพุ่งออกมาทันที แน่นอนว่าลำแสงศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เป็นปฏิปักษ์กับนักบวชเต๋าปีศาจเพราะเขานั้นอยู่ในเผ่าพันธ์ที่ชั่วร้าย
เมื่อนักบวชเต๋าปีศาจเห็นว่าซ่งจงเริ่มเคลื่อนไหว แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บสาหัสแต่เขาก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรมากนัก เขาเพียงถอนหายใจออกมาและไม่ลืมที่จะเย้ยหยัน “หึ แน่นอนว่าภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้านั้นทรงพลังอย่างยิ่ง เจ้านั้นภูมิใจที่จะนำเสนอมันเหลือเกินสินะ ถ้าเช่นนั้นก็จงมองข้าทำลายมันซะเถิด”
เมื่อกล่าวจบ นักบวชเต๋าปีศาจลูบที่แหวนเบาๆพร้อมกดลงไป พลันเกิดพายุกระหน่ำทันทีทั่วบริเวณ จากนั้นพายุเหล่านั้นได้ปิดกั้นปราณดาบของแม่มดเทวะทั้งหมด พร้อมด้วยลำแสงสีน้ำเงินพวยพุ่งออกมาปิดกั้นการเคลื่อนไหวของแม่มดเทวะเอาไว้อย่างง่ายดาย พลังของแหวนลึกลับนี้น่าเกรงขามอย่างยิ่ง เหล่าแม่มดเทวะถูกคุมขังอยู่ภายในลำแสงสีน้ำเงิน แม้ว่าพวกนางจะเข้าสู่สภาวะไร้รูปร่างก็ยังไม่สามารถหลบหนีออกไปได้
ความจริงแล้วเหตุผลที่แม่มดเทวะถูกขังอยู่ภายในแหวนนั้นไม่ใช่เพราะแม่มดเทวะนั้นอ่อนแอ แต่เพราะว่าซ่งจงนั้นอ่อนแอเกินไปจึงไม่ไม่สามารถปกป้องแม่มดเทวะไว้ได้ ถ้าหากซ่งจงนั้นอยู่ในระดับเฟินเสิน แน่นอนว่าแม่มดเทวะทั้งห้านั้นคงไม่อาจถูกจับได้โดยแหวนหยกเขียวอย่างแน่นอน แต่น่าสงสารที่ซ่งจงเป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับจินตันเท่านั้นจึงไม่สามารถหยุดยั้งสมบัติวิญญาณชิ้นนี้ไว้ได้
หลังจากที่จัดการนักดาบทั้งห้าแล้ว นักบวชเต๋าปีศาจนั้นดึงเอาธงอัสดงจันทราออกมาพร้อมกับจัดการกับนักบวชอีกสี่คนทันทีด้วยลำแสงศักดิ์สิทธิ์ ทันใดนักบวชทั้งสี่ที่น่าสงสารเหล่านั้นไม่มีโอกาสแม้แต่จะหลบหนีหรือขัดขืนใดๆ ทั้งหมดถูกจับกุมไว้อย่างรวดเร็ว
เมื่อนักบวชเต๋าปีศาจสามารถจัดการกับภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้าของซ่งจงได้แล้ว จากนั้นเขาเดินเท้าหนักๆ ค่อยๆก้าวเข้าไปหาซ่งจงพร้อมไม่ลืมที่จะกล้าวเย้ยหยันออกมา “ไอ้ก้อนไขมัน มอบความตายของเจ้ามาให้ข้าซะสิ!”
สิ่งที่ซ่งจงชอบที่สุดคือการต่อสู้แบบระยะประชิด นักบวชเต๋าปีศาจค่อยๆเดินเข้ามาอย่างสบายอารมณ์พร้อมกับยืนอยู่ด้านหน้าของซ่งจงเพื่อรีบทำให้ทุกสิ่งจบสักที แต่ทว่าซ่งจงนั้นกลับเผยรอยยิ้มและหัวเราะออกมา “ไอ้โง่ เรามาดูกันเถิดว่าใครกันแน่ที่จะต้องตาย!”
วินาทีต่อมา บุรุษทั้งสองพบกันอยู่ที่กลางอากาศ กำปั้นที่ทรงพลังของซ่งจงนั้นเทียบเท่ากับพละกำลังของผู้ฝึกตนระดับจินตันนับหมื่นคนได้ปะทะเข้ากับหน้าอกของนักบวชเต๋า แต่ทว่าเขากลับไม่เป็นอะไรเพราะมีลำแสงศักดิ์สิทธิ์จากแหวนออกมาป้องกันเขาไว้ได้อย่างง่ายดาย
ฝ่ามือของนักบวชเต๋าปีศาจนั้นทุบลงบนระฆังทองแดง มันสั่นไหวราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ซ่งจงใช้พลังเจ็ดในสิบภายในอึดใจเดียว ความจริงก็คือผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินนั้นแข็งแกร่ง แต่ทว่าเฟินเสินนั้นแข็งแกร่งมากกว่า ในตอนนี้ทั้งคู่ใช้พลังในระดับเดียวกันเพราะอีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัส แต่ช่องว่างของพลังก็ยังมากเกินไปอยู่ดี ทั้งสองโจมตีใส่กันอย่างดุเดือดและไม่มีผู้ใดยอมแพ้ในตอนนี้
แต่สถานการณ์ในตอนนี้นักบวชเต๋าปีศาจสามารถล้มซ่งจงได้ด้วยเพียงฝ่ามือเดียว อย่างไรก็ตามซ่งจงนั้นรู้เรื่องนั้นดี แต่เขาก็ยังไม่คิดจะยอมแพ้หรือหนีไปไหน เขาเรียกเคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์หยินหยางประสานออกมา จากนั้นแขนทั้งสองข้างของเขาเต็มไปด้วยสายฟ้าหลากสีสัน
นี่เป็นสิ่งที่ซ่งจงได้เรียนรู้เกี่ยวกับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ก่อนอื่นเขาร่ายมันไว้ที่แขนทั้งสองข้าง จากนั้นค่อยๆให้พลังของมันซึมซับเข้าไป หลังจากที่มันควบแน่นจนเหมาะสมแล้ว มันจะสามารถระเบิดออกได้อย่างทรงพลังและไม่ต้องใช้เวลานานเหมือนคราวก่อน
กว่าที่นักบวชเต๋าปีศาจจะรู้ตัวได้ ซ่งจงควบแน่นพลังเสร็จสิ้นแล้ว แขนทั้งสองข้างของเขาทุบเข้าไปที่หน้าอกของนักบวชเต๋าปีศาจอย่างโหดเหี้ยม ในเวลานั้นเองการป้องกันของลำแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เขามีนั้นสั่นไหวจากแรงระเบิด แม้แต่ร่างกายของเขาก็ยังไม่อาจต้านได้ไหว
ก่อนหน้านี้นักบวชเต๋าปีศาจถูกตัดแขนไปหนึ่งข้างเมื่อครั้งหลบหนีเรือมังกรทองคำ อีกทั้งหมัดแรกของซ่งจงเขารับไว้ได้อย่างสวยงาม แต่ในตอนนี้หมัดที่สองของซ่งจงเต็มไปด้วยสายฟ้าควบแน่นหยินหยาง ซึ่งถ้าหากโดนเข้าไปแม้ว่าจะไม่ตายแต่ร่างกายของเขาจะเสียสมดุลอย่างแน่นอน ซ่งจงทำลายเกราะป้องกันของเขาได้แล้ว นักบวชเต๋าปีศาจย่อมไม่อาจทนให้เขารัวหมัดเพิ่มได้อีก เขาคิดในตอนนี้ ต้องหาทางป้องกันและจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด!
แต่ซ่งจงนั้นไม่แยแสและไม่คิดหยุดมือเพียงเท่านี้ มือทั้งสองของเขาทุบตีอย่างต่อเนื่อง นักบวชเต๋าปีศาจนั้นไร้เรี่ยวแรงที่จะโต้ตอบ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าถ้าหากเขารอดพ้นจากตรงนี้ไปได้ ซ่งจงจะไม่มีโอกาสทำเช่นนี้เป็นครั้งที่สอง แต่ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าคนที่จะต้องร้องไห้นั้นกลายเป็นเขาเสียแล้ว!
หลังจากหมัดแรกผ่านไป หมัดสอง สาม สี่ จนไม่สามารถนับได้ นักบวชเต๋าปีศาจนั้นแทบจะยืนไม่ไหว เกราะของเขานั้นแตกสลายไปเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้เขาไม่เหลือสิ่งใดสำหรับป้องกันตนเอง เขาสูญเสียพลังทั้งหมดทันที จากนั้นหมัดสุดท้ายของซ่งจงนั้นทุบลงที่หน้าอกของเขาอย่างโหดเหี้ยม กระดูกบริเวณอกของนักบวชเต๋าปีศาจแตกละเอียดทันที กร๊อบ!
โชคดีที่ร่างกายของนักบวชเต๋าปีศาจนั้นแข็งแกร่งพอสมควร ถ้าหากเป็นผู้ฝึกตนทั่วไป แน่นอนว่าร่างกายของผู้นั้นจะต้องกลายเป็นผุยผงไปแล้ว แต่สำหรับนักบวชเต๋าปีศาจ ตอนนี้เขากำลังบาดเจ็บสาหัส!
อย่างไรก็ตามเคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์หยินหยางประสานนั้นกำลังไหลพล่านไปทั่วร่างกายของเขา มันทำลายเส้นลมปราณและการหมุนเวียนโลหิตในร่างกาย ทำให้ตอนนี้เขาเจ็บปวดอย่างมาก ถ้าหากเป็นคนธรรมดาก็คงจะตายตกไปเพราะพิษบาดแผน แต่ทว่าในตอนนี้นักบวชเต๋าปีศาจยังไม่ตาย แต่ทว่าเขาเจ็บปวดจนต้องคำรามออกมา
ซ่งจงเห็นว่าเขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ซ่งจงยังไม่คิดจะหยุดเพียงเท่านั้น เพราะเขานั้นเป็นถึงผู้ฝึกตนระดับเฟินเสิน เขาอาจจะมีทางออกอื่นอีก เมื่อคิดเช่นนั้นซ่งจงฮึดขึ้นมาอีกรอบทันที พร้อมกับรัวหมัดออกไปอีกครั้ง ซ่งจงทุบตีนักบวชเต๋าปีศาจอย่างไร้ความเมตตา กระดูกทั้งหมดของเขาแตกสลายพร้อมกับหมดสติไปในทันที
ความจริงซ่งจงนั้นไม่คิดที่จะหยุดมือเพียงเท่านี้ แต่ในตอนนี้ฉุ่ยจิ้งบินออกมาจากเรือมังกรทองคำพร้อมกับขอร้องให้เขาหยุดมือ!
แม้ว่าซ่งจงจะไม่พอใจที่นางเข้ามาขวาง แต่เขาก็ไม่ได้ขัดขืนมากนัก พร้อมกับสบถออกมาอย่างหงุดหงิด “เหตุใดศิษย์น้องจึงต้องขัดขวางข้าเช่นนี้? ข้าต้องการสังหารมัน!”
“ไม่ใช่เช่นนั้น!” ฉุ่ยจิ้งกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์พี่ซ่งจงดูสภาพของเขาในตอนนี้เถิด การที่เขามีชีวิตอยู่นั้นเลวร้ายเสียยิ่งกว่าเขาตายแน่นอน อีกอย่างท่านยังต้องไปเยี่ยมท่านอาวุโสตระกูลหงที่สำนักงานใหญ่เสวียนเทียนอีกด้วย ท่านมีของขวัญติดมือไปหรือยังล่ะ? ข้าคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าหากนำสิ่งเหล่านี้ไปให้ ท่านสามารถจับกุมเขาเพื่อเป็นตัวประกัน ด้วยระดับเฟินเสินของเขาแน่นอนว่าสำนักของเขาจะต้องหาสิ่งของมาเพื่อไถ่คืน! เช่นนี้จะมีประโยชน์กับท่านมากกว่า”
“งั้นหรือ?” ซ่งจงได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเขาเปล่งประกายออกมาทันทีพร้อมกล่าวต่อ “อืม เชลยเช่นนี้ก็ดูดีอยู่เหมือนกัน”
“สำนักพันปีศาจนั้นเป็นศัตรูของเรามาเนิ่นนาน ถ้าหากทำเช่นนี้แน่นอนว่าอาวุโสของเราจะต้องมีความสุขอย่างมาก อีกทั้งระดับเฟินเสินอีกด้วย” ฉุ่ยจิ้งกล่าวออกมาพร้อมกับไม่ลืมที่จะหยิบเหรียญชะตาฟ้าดินออกมาเพื่อตัดเส้นลมปราณของนักบวชเต๋าปีศาจอีกด้วย เพื่อทำให้เขาเหมือนกับตายทั้งเป็น เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาเขาจะไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้อีก
“อืม ยอดเยี่ยม” ซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกเห็นด้วยทันที การสังหารเขาไม่ทำให้ความแค้นหายไป หนทางเช่นนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุด แทนที่จะสังหารเขาเพื่อล้างแค้น แต่ในตอนนี้จำเป็นต้องใช้เขาเพื่อลบล้างความผิดที่เขาทำลายหอเฉวียนจี้เมื่อกาลก่อน!
อย่างไรก็ตามแม้ว่านักบวชเต๋าปีศาจจะหมดสติและไร้ศักยภาพในการต่อสู้แล้ว แต่สมบัติวิญญาณทั้งสองของเขายังไม่หยุดยั้ง มันระเบิดพลังออกมาพร้อมกับปลดปล่อยแม่มดเทวะให้เป็นอิสระ จากนั้นมุ่งเป้าหมายมาที่ซ่งจงแทน แหวนหยกเขียวนั้นพุ่งเข้าใส่ซ่งจงพร้อมกับระเบิดพลังอย่างรุนแรง ธงอัสดงจันทรานั้นพุ่งไปที่เรือมังกรทองคำ เป้าหมายของมันคือคิดจะทำลายสมบัติขนาดยักษ์ชิ้นนี้ให้สิ้นซาก
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของสมบัติวิญญาณทั้งสอง ซ่งจงรู้สึกตื่นตระหนกทันที เขาสะบัดมือเพื่อเรียกระฆังทองแดงออกมาเพื่อป้องกันทุกสิ่งไว้อย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลารีบเร่งเช่นนี้ สมบัติทั้งสองปะทะเข้ากับระฆังทองแดงอย่างแรง เกิดเสียงระเบิดขึ้น ตู้ม! ระฆังทองแดงนั้นไร้รอยขีดข่วนและสามารถปิดกั้นการโจมตีไว้ได้อย่างสวยงาม ทันใดนั้นระฆังทองแดงเปล่งเสียงกังวาลออกมาพร้อมด้วยประกายแสงสีทอง ทุกที่ที่แสงสีทองสาดไปถึงทำให้สมบัติวิญญาณทั้งสองสงบลง มันกลับคืนสู่รูปแบบดั้งเดิมของตนเองพร้อมทั้งลอยอยู่ในอากาศอย่างเงียบๆ
เหตุการณ์เช่นนี้ ซ่งจงนั้นไม่แปลกใจสักเท่าไหร่ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาขวานยักษ์ลึกลับนั้นถูกทำให้สงบลงโดยระฆังทองแดง แล้วเหตุใดสมบัติวิญญาณทั้งสองชิ้นนี้จะสามารถดื้อด้านได้กันล่ะ?
แต่ฉุ่ยจิ้งที่เห็นภาพเช่นนั้น นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดสมบัติวิญญาณทั้งสองจึงยอมศิโรราบแก่ซ่งจงอย่างง่ายดาย จึงกล่าวออกมาอย่างประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมสมบัติวิญญาณทั้งสองชิ้นนี้จึงยอมแพ้อย่างง่ายดาย?”
“ใครรู้บ้างล่ะ?” ซ่งจงกล่าวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาเก็บระฆังทองแดงด้วยรอยยิ้ม มือของเขาหยิบเอาสมบัติวิญญาณทั้งสองไว้ในมือและใช้สัมผัสวิญญาณตรวจสอบมันทันที เมื่อเขาเห็นสิ่งของที่อยู่ภายใน เขาอดไม่ได้ที่จะร้องอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น “ด้านในเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ไม่มีร่องรอยอะไรเลย อีกทั้งยังไม่มีตราประทับของนักบวชเต๋าปีศาจอีกด้วย!”