Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต - ตอนที่ 305.4
บทที่ 305: ราชวังเทพหยกไม้ (4)
แต่ความจริงนั้นหงหยิงและซ่งจงเป็นคู่รักกันมาเนิ่นนานแล้ว ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่อยู่ในสายตาของสองสามีภรรยาตระกูลหง เช่นนี้การที่ตระกูลหงจะช่วยเขาย่อมไม่ผิด เพราะทั้งคู่ไม่เคยคิดว่าเขาเป็นคนอื่นไกลเลย
ซ่งจงรู้สึกซาบซึ้งกับตระกูลหงอย่างมาก แม้ว่าเขาจะรู้สึกดีกับทั้งสองสามีภรรยา แต่เขาก็ไม่เคยกล้าที่จะล้ำเส้นหรือทำตัวล่วงเกินแต่อย่างใด เขายังเป็นเพียงสาวกคนหนึ่งเท่านั้นซึ่งนับถือทั้งคู่ในฐานะอาวุโส อีกทั้งเขาไม่ได้แสดงอาการเย่อหยิ่งที่ได้เป็นคนโปรดของสำนักด้วย นั่นทำให้ผู้ฝึกตนมากมายรู้สึกชอบใจในความสุภาพของซ่งจงอย่างมาก ทั้งอาหารและเครื่องดื่มถูกจัดเตรียมไว้อย่างมากมาย ผู้ฝึกตนทั้งหลายแวะเวียนมาพูดคุยกับซ่งจงอย่างต่อเนื่อง เช่นนี้ทำให้ซ่งจงรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างมากราวกับว่าเขาได้กลับมาบ้านแล้วจริงๆ
ถัดมาหงเถิงเฟ่ยพาซ่งจงไปยังราชวังเทพหยกไม้ที่ได้รับมา พื้นที่ของมันไม่กว้างมากแต่โดยรวมแล้วพอดีกับการใช้งาน อีกทั้งทิวทัศน์ยังยอดเยี่ยมอีกด้วย มองออกไปด้านนอกจะเห็นต้นไม้อายุหนึ่งแสนปีสูงใหญ่เป็นสง่าอยู่ มันคือสมบัติล้ำค่าของสำนัก
ต้นไม้นี้สูงใหญ่กว่าสิบจาง ซึ่งมันออกดอกออกผลตลอดทั้งปี ความอุดมสมบูรณ์นี้หาได้ยากยิ่ง แน่นอนว่ามันไม่ใช่ต้นไม้ธรรมดาทั่วไป มันคือบุปผาวิญญาณที่มีอายุมากกว่าสามร้อยปี ซึ่งภายในสามร้อยปีมันจะออกดอกหนึ่งครั้งและดอกนั้นจะเหี่ยวแห้งไปในอีกสามร้อยปี วนไปเช่นนี้ กลิ่นหอมของมันทำให้ประสิทธิภาพของผู้ฝึกตนนั้นยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ความเร็วของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นเมื่อสูดดมเข้าไป อีกทั้งมันยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างมากอีกด้วย ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ส่งกลิ่นหอมตลอดทั้งปีอยู่ภายในราชวังเทพหยกไม้
นอกจากนี้ดอกและรากของมันยังสามารถใช้ทำเป็นยาอายุวัฒนะชั้นเลิศได้อีกด้วย เนื่องจากทุกส่วนของต้นไม้นี้สามารถทำไปเป็นวัสดุสำหรับเล่นแร่แปรธาตุได้อย่างยอดเยี่ยม พวกมันเต็มไปด้วยพลังวิญญาณที่หนาแน่น มันแข็งแกร่งว่าต้นไม้สามัญกว่าสิบเท่าและมีความเป็นเลิศทางวิญญาณมากกว่าร้อยเท่า
ตามกฏของสำนักเสวียนเทียนแล้ว ราชวังเทพหยกไม้นั้นเดิมทีเป็นสถานที่ของวัดเจียนซง แต่ในตอนนี้เมื่อมันถูกมอบให้กับซ่งจง มันจึงกลายเป็นพื้นที่ของตระกูลหงไปเลยปริยาย แม้ว่ามันจะเป็นเช่นนั้น แต่อย่างไรก็ตามมันก็ยังอยู่ภายใต้ชื่อของซ่งจง ถ้าหากตระกูลหงต้องการที่จะใช้งานมัน พวกเขาจะต้องขออนุญาตซ่งจงก่อน
ความจริงแล้วราชวังเทพหยกไม้นั้นไม่ได้เล็กเช่นนี้ แต่มันถูกเรียกอีกชื่อว่าราชวังอมตะ ซึ่งเดิมมันถูกครอบครองโดยผู้ฝึกตนระดับเฟินเสิน แต่ในตอนนี้ตระกูลหงต้องการที่จะครอบครองต้นไม้ใหญ่นี้ ดังนั้นราชวังแห่งนี้จึงถูกทำให้เล็กลงเพื่อประโยชน์ใช้สอยที่มากกว่า หลายปีที่ผ่านมาไม่มีใครรู้ว่าผู้ใดได้รับผลประโยชน์จากต้นไม้ใหญ่ต้นนี้อย่างจริงจังเลย
อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะทำให้ซ่งจงมีความสัมพันธ์อันดีงามกับตระกูลหง เช่นนี้หงเถิงเฟ่ยจึงมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา ในความเป็นจริงแล้วภายในราชวังอมตะขั้นสองนั้นเหลือห้องว่างอยู่สองแห่ง แต่หงเถิงเฟ่ยคิดว่ามันไม่ดีพอสำหรับซ่งจง มันไม่เพียงพอที่จะให้ซ่งจงเห็นว่าเขานั้นสำคัญต่อตระกูลหงอย่างมาก!
จะตีดาบ จะต้องตีตอนที่ยังร้อนอยู่ เมื่อหงเถิงเฟ่ยคิดได้เช่นนี้ ซ่งจงนั้นควรค่าแก่การผูกมิตรไว้อย่างมาก แม้ว่าปากของเขาจะไม่ได้เอ่ยออกมาตรงๆ แต่ภายในหัวใจของเขานั้นยอมรับว่าซ่งจงคือคนของตระกูลหงอย่างแท้จริง
หลังจากที่นั่งลง ซ่งจงพาหานหยู่เฟิง ซูหยู่ และซูหยุนออกมา พวกนางจะต้องอาศัยอยู่ภายในราชวังเทพหยกไม้นี้ด้วยเช่นกัน และสามารถเดินไปได้รอบบริเวณ ซ่งจงไม่คิดปิดบังตระกูลหงว่าเขานั้นมีหญิงสาวติดตามอยู่
เพื่อเห็นแก่ใบหน้าของซ่งจง แน่นอนว่าตระกูลหงย่อมสุภาพกับพวกนางเช่นกัน สำหรับผู้ฝึกตนที่มีระดับสูง แน่นอนว่าเขาจะแต่งงานกับหญิงสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่พวกเขาสามารถมีสนมมากมายได้ตามต้องการ ดั่งเช่นหงเถิงเฟ่ยก็มีภรรยาเพียงหนึ่งแต่เขามีสนมอีกนับสิบ ซึ่งเช่นนี้ทำให้ตระกูลหงไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นและอิสระ
แน่นอนว่ามีหลายคนกังวลว่าหงหยิงนั้นจะไม่พอใจ เขาเกลี้ยกล่อมให้ซ่งจงปล่อยทั้งสามคนนี้ไป แต่ทว่าซ่งจงคัดค้านหัวชนฝา เขายืนยันหนักแน่นว่าเขาจะสามารถจัดการกับหงหยิงได้!
แล้วใครจะเชื่อกันล่ะ? ทุกคนนั้นรู้ดีว่าหงหยิงเป็นบุตรสาวของจ้าวสำนักเสวียนเทียนย่อย ซึ่งแน่นอนว่านางถูกตามใจและไม่เคยโดนขัดใจมากตั้งแต่เล็กแต่น้อย แน่นอนว่านางย่อมพูดไม่เก่งแต่ทว่าการต่อสู้ของนางโหดร้ายมาก ทุกคนมีแผนที่จะจับตาดูว่าซ่งจงจะจัดการกับนางอย่างไร
ในตอนนี้หงหยิงออกมาจากการฝึกฝนแบบปิด นางอยู่ในระดับปฐมภูมิขั้นสุดท้าย หลังจากที่นางออกมาและได้พบกับบิดามารดา จึงทราบข่าวว่าซ่งจงนั้นกลับมาแล้ว ความตื่นเต้นถาโถมจิตใจ นางรีบวิ่งไปหาซ่งจงที่ราชวังเทพหยกไม้ทันที
แต่ในเวลาเดียวกัน… อาวุโสของตระกูลหง ผู้ที่อยู่ในระดับหยวนหยินทั้งสองและเฟินเสิ่นอีกหนึ่ง แอบตามนางไปเงียบๆอย่างหน้าไม่อาย ทั้งหมดต้องการอยากรู้ว่าซ่งจงจะจัดการกับหงหยิงอย่างไรเมื่อนางรู้ว่าซ่งจงมีหญิงสาวติดตามถึงสามคน
อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดตกใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ในตอนแรกเมื่อหงหยิงเดินเข้ามา ซ่งจงนั้นกำลังจิบชาอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่กับหญิงสาวทั้งสามอย่างเพลิดเพลิน มือทั้งสองข้างของซ่งจงนั้นโอบกอดเอวและหน้าอกของหญิงสาวเหล่านั้นไว้อย่างมั่นเหมาะ
เมื่อหงหยิงเห็นว่าแฟนหนุ่มของตนทำเช่นนี้ แน่นอนว่าด้วยอารมณ์ของหญิงสาวไม่อาจทนมองได้ นางเรียกกระบี่เฟิ่งหมิงออกมาพร้อมที่จะสังหารซ่งจงในตอนนั้นทันที!
ทุกคนที่เห็นเช่นนั้นต่างพากันตื่นตกใจกับฉากรักแรกพบของทั้งสองทันที ซ่งจงจะตายตกด้วยมือของหงหยิงจริงๆงั้นหรือ!
ซ่งจงเห็นกระบี่กำลังจ่อที่หอของเขาอยู่ จากนั้นเขายกมือขึ้นพร้อมกล่าวออกมา “ศิษย์น้อง… เจ้ารู้หรือไม่ว่ากระบี่เฟิงหมิงนั้นสามารถหลวมรวมกับดาบมังกรทมิฬเพื่อพัฒนาได้นะ ถ้าหากเจ้าต้องการ พี่ชายคนนี้ยินดีจะช่วยเหลือเจ้าตลอดวันและคืน เจ้ารู้หรือไม่ว่าพี่ชายคนนี้ต่อสู้กับผู้ฝึกตนระดับเลื่อนจือตลอดวันและคืนเพื่อนำดาบมังกรทมิฬเล่มนี้มาให้เจ้านะ!”
คำพูดของซ่งจงนั้นทำให้ผู้ที่ได้ฟังตกตะลึงอย่างมาก พวกเขาทั้งสามถึงกับสบถออกมาภายในหัวใจ “เด็กคนนี้นั้นไม่ธรรมดาจริงๆ! ดาบมังกรทมิฬนั้นไม่มีใครสามารถได้พบเจอโดยง่ายดาย เขาเพียงแค่พยายามอย่างหนักเพื่อนำมันมาให้นาง พลังของเขานั้นน่ากลัวเกินไปจริงๆ! เด็กชายคนนี้เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม หงหยิงจะตกหลุมพรางของเขางั้นเหรอ! ข้าว่าไม่…”
เมื่อความจริงถูกเปิดออกจากคำพูดที่อ่อนโยนของซ่งจง กระบี่เฟิงหมิ่งถูกปล่อยให้ร่วงหล่นสู่พื้นทันที หงหยิงพุ่งเข้าหาอ้อมแขนของเขาและเริ่มร้องไห้ออกมา “พี่ชายช่างดีกับข้าเหลือเกิน ข้าขอโทษที่ทำตัวแบบนั้นกับท่าน!”
“ศิษย์น้องกล่าวเช่นนั้นได้อย่างไรกัน? ความจริงแล้วมันเป็นข้านี่แหละที่ไม่ดีพอ!” ซ่งจงกล่าวออกมาพร้อมกระชับอ้อมแขนของเขาให้แน่นขึ้นและกล่าวต่อ “ข้านั้นไม่ดีเองที่บาดเจ็บสาหัส ไม่ควรจะได้รับความช่วยเหลือจากหญิงสาวทั้งสองคนนี้ เมื่อตื่นขึ้นมาข้าก็ไม่ควรจะหวั่นไหว… ข้า… ข้าไม่ยุติธรรมกับเจ้าเอง ศิษย์น้อง… ข้าสมควรตาย… เจ้าฆ่าข้าได้เลย… ข้ามันไม่ดี!”
เมื่อกล่าวออกมาเช่นนั้น ซ่งจงหยิบกระบี่เฟิงหมิงขึ้นมาเพื่อที่จะเชือดคอตนเอง
แล้วหงหยิงจะทนมองได้อย่างไร? นางรีบกอดซ่งจงไว้พร้อมกล่าวอย่างรวดเร็ว “ศิษย์พี่… ศิษย์พี่ซ่ง! ในเมื่อเรื่องราวมันเป็นเช่นนี้ มีแค่สองคนนี้งั้นหรือ? บุรุษยังไงก็ยังคงเป็นบุรุษวันยังค่ำ ถ้าหากศิษย์พี่ต้องการมีสนมสักสามสี่คน ข้าก็ยอมรับได้!”
“จริงเหรอ? เจ้าเห็นด้วยที่ข้าจะพาพวกเขามาอยู่ที่นี่งั้นหรือ?” ซ่งจงถามออกมาพร้อมกับน้ำตานองหน้า
“อื้อ ข้าพูดจริง!” นางกล่าวรีบกล่าวต่อ “ศิษย์พี่วางใจเถิด!”
“ศิษย์น้องหงหยิง เจ้านั้นเป็นดวงใจของข้าจริงๆ!” ซ่งจงกล่าวออกมาด้วยความดีใจ จากนั้นเขารีบพูดต่อ “มานี่เถิด ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จักพวกนาง นี่คือซูหยู่และนี่คือซูหยุน พวกนางเป็นฝาแฝดน่ะ!”
ซ่งจงแนะนำผู้หญิงทั้งสองให้กับหงหยิง ซึ่งหานหลิงเฟิงนั้นรู้จักกับนางอยู่แล้ว อีกทั้งหานหลิงเฟิงยังรู้สถานะของหงหยิงเป็นอย่างดี เช่นนี้นางจึงเงียบไว้ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา แต่ซูหยู่และซูหยุนนั้นเป็นคนจริงใจและไม่ทราบเบื้องหลังของหงหยิง แน่นอนว่าพวกนางจึงไม่ขวยเขินมากนัก ทั้งหลายคนนั่งลงด้วยกันและเริ่มพูดคุย ซึ่งเช่นนี้ทำให้หัวใจของซ่งจงรู้สึกเบาหวิวอย่างมีความสุข
หงเถิงเฟ่ยเห็นเช่นนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา “เด็กน้อยซ่งจงมันไม่อายบ้างรึไงกันนะ? กลยุทธ์ของเขานั้นช่างราบรื่นเกินกว่าจะคาดเดา ทุกสิ่งนั้นเป็นไปอย่างลื่นไหลเหลือเกิน! ข้านั้นรู้สึกเสียใจที่เห็นหลานของตนเองตกหลุมพรางไอ้อ้วนนี่จริง!”
อย่างไรก็ตามแม้ว่าอาวุโสจะไม่ชินกับความเจ้าเล่ห์ของซ่งจงที่มีต่อหงหยิง แต่ทว่าเมื่อมองไปที่ดาบมังกรทมิฬแล้ว เรื่องนี้สามารถปล่อยผ่านไปได้อย่างง่ายดาย แม้แต่ในตอนแรกที่คู่สามีภรรยาตระกูลหงคิดจะจบความสัมพันธ์ของซ่งจงกับหงหยิง ยังต้องหยุดแผนนั้นเอาไว้เพื่อเห็นข้อเสนอที่จูงใจของซ่งจง
แน่นอนว่าดาบมังกรทมิฬไม่ใช่อุปกรณ์ทั่วไป มันคือสมบัติวิญญาณขั้นห้า ซึ่งสมบัติเช่นนี้มีไม่มากนักในสำนักเสวียนเทียน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากกระบี่เฟิงหมิงได้ผสานรวมกับดาบมังกรทมิฬ ระดับขั้นของมันอาจจะเพิ่มเป็นเจ็ดหรือแปด ถ้าหากเป็นเช่นนั้น มันจะติดอันดับหนึ่งในสามของสมบัติวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนัก!
เมื่อเห็นว่าของกำนัลเช่นนี้ยอดเยี่ยมขนาดไหน แลกกับการมีสนมสักสองถึงสามคน ทุกคนก็รู้สึกว่าข้อเสนอนี้ไม่เลวเลย!
หลังจากที่ซ่งจงจัดการกับหงหยิงได้อย่างง่ายดาย เช่นนี้ชีวิตภายในสำนักเสวียนเทียนของเขาจะปลอดภัยและราบรื่นอย่างมาก เขารู้สึกสดชื่นทันทีเมื่อคิดถึงวันข้างหน้า ทรัพยากรมากมาย สถานที่ที่เหมาะแก่การฝึกฝน หญิงสาวทั้งสี่คนอยู่ข้างกาย อีกทั้งยังได้พบเจอกับฉุ่ยจิ้งอีกด้วย นี่มันราวกับว่าเขาได้ขึ้นสวรรค์อย่างแท้จริง!
แต่อย่างไรก็ตามวันเวลาแห่งความสุขนั้นสั้นนัก… ซ่งจงมีความสุขได้เพียงไม่กี่เดือน จากนั้นก็มีบางสิ่งมาพรากความสุขของเขาไป!