Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต - ตอนที่ 306.3
บทที่ 306: ไข่มุกจันทรา (3)
ก่อนอื่นคือต้องรู้ว่าตระกูลสุ่ยนั้นเป็นหนึ่งในสี่แห่งตระกูลเก่าแก่ของสำนักเสวียนเทียน ซึ่งผู้นำของตระกูลคือสุ่ยเมิ่งหลงซึ่งอยู่ในระดับเลื่อนจือ ถือได้ว่าเป็นผู้ฝึกตนระดับสูง เช่นนี้มันคุ้มค่าอย่างมากถ้าหากบุคคลระดับนี้ยอมที่จะติดหนี้บุญคุณเขา!
แต่อย่างไรก็ตามซ่งจงก็ยังตงวิตกกังวลอย่างมากกับเหตุการณ์เช่นนี้ ถ้าหากมันสามารถทำสำเร็จได้โดยง่ายดาย ทำไมพวกเขาจะต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นด้วยล่ะ? ในตอนนี้ที่เขาต้องมาอาศัยอยู่ที่นี่นั่นเพราะเขาเพิ่งผ่านพ้นสถานการณ์ที่เลวร้ายมาหมาดๆ ถ้าหากเขาไม่สามารถทำได้หรือทำได้ไม่ดีพอ เกรงกว่าเขาอาจจะกลายเป็นไอ้โง่ที่ต้องถูกสังหารทิ้ง! เช่นนี้ทำให้ซ่งจงไม่กล้าที่จะตกปากรับคำอย่างเต็มใจได้เลย
เมื่อเห็นว่าซ่งจงถามออกมาเช่นนั้น สุ่ยเมิ่งหลงนั้นรู้ดีว่าภายในหัวใจของซ่งจงนั้นยังพอมีศีลธรรมอยู่บ้าง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะเปิดปากของตนพร้อมกล่าวต่อ “เอาล่ะ ข้าจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดเมื่อนานมาแล้วให้เจ้าฟัง อาวุโสบางคนในตระกูลของเราหลังจากที่เขาเข้าสู่ระดับต้าเชิงได้แล้ว เขาถูกทัณฑ์สวรรค์ขนาดเล็กเข้าทดสอบ น่าเสียดายที่ในตอนนั้นเขายังไม่พร้อมแม้แต่น้อย สุดท้ายแม้ว่าเขาจะสามารถรอดชีวิตมาได้แต่พลังวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักในการโจมตีสุดท้ายจากทัณฑ์สวรรค์!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซ่งจงตื่นตระหนกในทันที ทุกคนนั้นรู้ดีว่าส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ฝึกตนนั้นไม่ใช่ร่างกายหรือสัมผัสวิญญาณ แต่เป็นวิญญาณ! ถ้าหากว่าร่างกายได้รับบาดเจ็บ แน่นอนว่าสามารถใช้ยาเพื่อรักษาบรรเทาได้ แม้ว่าแขนขาจะหักก็ตาม อีกทั้งสัมผัสวิญญาณก็เช่นกัน การใช้ยาอายุวัฒนะเพื่อรักษามันนั้นง่ายดายอย่างมาก มีเพียงวิญญาณเท่านั้นซึ่งมันเป็นรากฐานสำคัญในตัวบุคคลนั้นๆ มันยากยิ่งที่จะรักษามัน นอกจากนั้นแล้วน้ำอมฤตนั้นก็ยังไม่อาจจะชำระล้างอาการบาดเจ็บเหล่านี้ได้เลย แม้แต่ยาอายุวัฒนะที่ยอดเยี่ยมที่สุดภายในสำนักเสวียนเทียนก็ยังไม่อาจรักษาอาการบาดเจ็บของวิญญาณได้
กล่าวก็คือถ้าหากว่าผู้ใดที่ถูกโจมตีจนวิญญาณได้รับบาดเจ็บ บุคคลผู้นั้นทำได้เพียงนอนรอความตายเท่านั้น
เมื่อซ่งจงได้ยินว่าอาวุโสของสุ่ยเมิ่งหลงบาดเจ็บเช่นนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะถามออกไป “อาวุโส อาการบาดเจ็บทางวิญญาณนั้นไม่มียาตัวไหนที่จะรักษาได้ไม่ใช่หรือ? เหตุใดท่านจึงต้องมองหาไข่มุกจันทราด้วย?”
“อืม!” สุ่ยเมิ่งหลงพยักหน้าพร้อมกล่าวต่อ “ไข่มุกจันทราเป็นสมบัติของราชันหมื่นปีศาจ ในทุกวันเขาดูดซับพลังของจันทราทั้งคืนเต็มดวงและข้างแรม เมื่อเวลาผ่านไปกว่าหลายพันปี ร่างกายของเขาได้กลายเป็นปีศาจ ไข่มุกล้ำค่าค่อยๆควบแน่นถึงพลังที่อยู่ด้านใน มันคือแก่นแท้ของวิญญาณราชัน ทั้งหมดนี้ล้วนเต็มไปด้วยทักษะหลายอย่างหลอมรวมกัน สามารถรักษาวิญญาณที่เสียหายได้ อาวุโสของตระกูลฉันนั้นได้เข้าสู่ระดับต้าเชิงแล้ว แต่กลับถูกสวรรค์เล่นงานจนกลายเป็นผักปลาทั้งที่เข้าสู่ระดับนั้นได้! ทั้งหมดนี้นั้นเพื่อตระกูลของข้าและสำนักเสวียนเทียนทั้งหมด มันคือเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เจ้าเข้าใจหรือไม่?”
“ศิษย์เข้าใจ!” ซ่งจงพยักหน้าพร้อมตอบกลับ
แน่นอนว่าเขารู้ถึงความสำคัญของอาวุโสระดับต้าเชิง บุคคลที่อยู่ในระดับนี้นั้นมีเพียงไม่กี่คนภายในสำนักเสวียนเทียน ในสี่ตระกูลใหญ่ของสำนักนั้นมีเพียงสามตระกูลเท่านั้นที่มีผู้ฝึกตนระดับนี้อยู่ ซึ่งตระกูลสุ่ยเป็นเพียงตระกูลเดียวที่ไม่มีผู้ฝึกตนระดับต้าเชิง แน่นอนว่าตำแหน่งของเขาในสำนักเสวียนเทียนบางส่วนถูกคุกคามและไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด พวกเขาจะถูกยึดอำนาจได้ตลอดเวลาถ้าหากอ่อนแอลงแม้แต่นิดเดียว ถ้าหากว่ามีอาวุโสระดับต้าเชิงเอาไว้ รากฐานของอำนาจก็จะไม่ถูกสั่นคลอนได้โดยง่ายอย่างแน่นอน
การเข้าสู่ระดับต้าเชิงนั้นไม่ใช่จะทำได้โดยง่าย อีกทั้งยังประสบอุบัติเหตุใหญ่ในขั้นสุดท้ายอีกด้วย ถ้าหากเขาไม่สามารถฟื้นคืนสู่อำนาจเช่นเดิมได้ แน่นอนว่าตระกูลสุ่ยจะค่อยๆถูกลดทอนอำนาจลงไปอย่างแน่นอน พวกเขาทั้งหมดล้วนแต่พยายามหาทางออกกับเหตุการณ์เช่นนี้ จนสุดท้ายแล้วได้ค้นพบจากตำราโบราณว่าไข่มุกจันทราสามารถรักษาอาการบาดเจ็บทางวิญญาณได้ สิ่งนี้ทำให้สุ่ยเมิ่งหลงรู้สึกยินดีอย่างมาก แต่ทว่ากลับมีปัญหาที่ยากกว่านั้นตามมา!
เพราะว่าไข่มุกจันทรานี้ไม่สามารถค้นพบได้โดยง่ายและไม่สามารถฉกฉวยมันมาได้อย่างง่ายดายเช่นกัน ประการแรกคือจะต้องเผชิญหน้ากับราชันหมื่นปีศาจ ผู้ซึ่งทะถุทะนอมไข่มุกจันทรามาเนิ่นนานกว่าหมื่นปี อีกทั้งการจะค้นหาเขาพบไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้โดยง่าย เขามักจะหลบซ่อนอยู่ในสถานที่ห่างไกลและเงียบสงัด การจะค้นพบเขานั้นอาจจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เพราะสถานที่ของเขานั้นถือได้ว่าเป็นความลับอย่างถึงที่สุด!
และยิ่งไปกว่านั้นไม่ใช่ว่าราชันหมื่นปีศาจทุกตนจะผลิตไข่มุกจันทรา พวกเขาบางตนนั้นชื่นชอบที่จะสร้างอาวุธสังหารซะมากกว่าเพราะมันรวดเร็วที่จะสังหารผู้ใดก็ตาม มันจะเป็นอุปกรณ์ที่ทรงพลังควรค่าแก่การหลงใหล! แม้ว่าไข่มุกจันทราจะเป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน แต่ทว่าการใช้เวลาฝึกฝนกว่าหมื่นปีนั้นเป็นสิ่งที่ยาวนานอย่างมาก จะต้องใช้ทั้งความอดทน อดกลั้นต่อเรื่องราวมากมาย!
ท้ายที่สุดไข่มุกจันทราจึงได้กลายเป็นสิ่งของหายากทันที อีกทั้งเมื่อมันได้ออกห่างจากราชันหมื่นปีศาจมาแล้ว จะต้องใช้งานมันโดยทันที ไม่เช่นนั้นพลังของมันจะค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆจนสุดท้ายก็มลายหายไป…
แรกเริ่มทุกคนล้วนคิดว่าไข่มุกจันทราเป็นสิ่งของที่ไม่สามารถหาประโยชน์จากมันได้ จนสุดท้ายเมื่อต้องการจะใช้มันจริงๆกลับไม่สามารถค้นพบมันได้ด้วยเช่นกัน!
หลังจากที่สุ่ยเมิ่งหลงกล่าวถึงเหตุผลจำเป็นของตนเองแล้ว เขากล่าวต่อ “ในตอนนี้ข้าได้รับแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้เกี่ยวกับไข่มุกจันทรา!”
“ข่าวอะไรหรือ?” ซ่งจงถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“มันมีชื่อว่านครมรณะ!” สุ่ยเมิงหลงกล่าวออกมา “เจ้าเคยได้ยินหรือไม่?”
“ไม่!” ซ่งจงส่ายหัวอย่างเร่งรีบพร้อมกล่าวต่อ “ศิษย์ขอถามสักหน่อย ท่านได้รับข่าวนี้มาจากไหน?”
“ฮี่ฮี่ เอาล่ะงั้นข้าจะเล่าให้ฟัง!” สุ่ยเมิงหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เขาว่ากันว่านครมรณะนี้เต็มไปด้วยปีศาจมากมาย แต่เดิมมันเคยเป็นประเทศขนาดใหญ่มีประชากรหลายล้านคน!”
จากนั้นสุ่ยเมิงหลงบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนครมรณะให้กับซ่งจง ปรากฏว่ามันเป็นอาณาจักรภูติผีที่กว้างใหญ่กว่าหนึ่งล้านลี้ มันเป็นแคว้นที่ใหญ่มาก จักรพรรดิคนสุดท้ายซัวชาโบนั้นเกรงกลัวความตายและต้องการที่จะมีชีวิตเป็นอมตะ
อย่างไรก็ตาม ผู้ฝึกตนชอบธรรมทั้งหลายล้วนแต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการเหล่านั้นของเขา แต่ทว่าผู้ฝึกตนปีศาจกลับชื่นชอบความชั่วร้ายและสนับสนุนให้เขากระทำการอย่างมั่นคง แต่ใครเล่าจะรู้ว่าสุดท้ายแล้วจักรพรรซัวชาโบนั้นจะได้รับสมบัติปีศาจที่ยิ่งใหญ่ เขาได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาปีศาจที่ไม่ธรรมดา!
ภายใต้การสนับสนุนของผู้ฝึกตนชั่วร้ายหลายพันคน เขาได้สังหารผู้คนนับหมื่นแสนในอาณาจักรของตนเอง สุดท้ายแล้วเขาคลั่งใคล้อำนาจและยอมสละประชากรของตนนับล้านเพื่อขึ้นสู่อำนาจ ส่งผลให้ดินแดนทั้งหมดกลายเป็นเมืองปีศาจ เขาใช้เวทมนตร์ปีศาจที่ได้รับดูดซับพลังวิญญาณของผู้คนและได้กลายเป็นราชันแห่งนครมรณะที่ไม่มีวันตาย!
พฤติกรรมของซัวชาโบนั้นทำให้ผู้ฝึกตนชอบธรรมทั้งหลายโกรธแค้นอย่างมาก ทั้งหมดรวมตัวกันเพื่อที่จะลบล้างประวัติศาสตร์ที่ด่างพร้อยเช่นนี้ ทั้งหมดมุ่งหน้าเข้าสู่นครมรณะและต้องการที่จะกำจัดจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมคนนั้นให้ได้
แต่อย่างไรก็ตามซัวชาโบนั้นรู้ตัวว่าเขาไม่มีทางจะต่อสู้กับกองทัพเหล่านั้นได้อย่างแน่นอน ความฉลาดที่เขามีทำให้เขาหลบซ่อนตัวอยู่ในนครมรณะอย่างเงียบเชียบ เช่นนี้กองทัพขนาดใหญ่ที่ไม่พอใจเขาจึงไม่สามารถค้นพบเขาได้เลย สุดท้ายแล้วนครมรณะนั้นกว้างใหญ่กว่าหนึ่งล้านลี้ อีกทั้งเมืองแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยปีศาจมากมาย แล้วใครกันเล่าจะสามารถหาเขาได้พบ?
นครมรณะนั้นเป็นอาณาจักรที่อยู่ใต้ทะเลลึก ผู้คนอาศัยอยู่ที่นั้นโดยที่ไม่ได้พบเห็นกับแสงตะวัน มนุษย์ทั้งหมดได้กลายเป็นปีศาจ กองทัพนับพันแก่งแย่งฆ่าฟันกันเองและตายกลายเป็นภูติผี อีกทั้งปีศาจจำนวนมากมีพลังที่แข็งแกร่ง แน่นอนว่าเหล่าผู้ฝึกตนที่วิ่งลงไปด้านล่างไม่มีผู้ใดสามารถรอดชีวิตกลับมาได้ สุดท้ายแล้วกองกำลังที่ถ่ดถอยก็จำเป็นต้องกลับบ้านมือเปล่าอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
ท้ายที่สุดแล้วจักรพรรดิซัวชาโบนั้นก็ได้กระทำอย่างต่ำช้า ถ้าหากว่ามีผู้ฝึกตนระดับสูงมาเยือนเมืองแห่งนี้ เขาจะหลบซ่อนตัวไว้ไม่ยอมโผล่ออกมาแน่นอน แต่ถ้าหากว่ามีผู้ฝึกตนระดับด้อยกว่าได้เดินทางมา แน่นอนว่าเขาจะลงมือสังหารผู้นั้นในทันที! ความสนใจของเขาคือคนรุ่นใหม่เท่านั้นที่คู่ควรแก่การลงมือ
ผู้ฝึกตนชอบธรรมต่างพากันไปเยือนนครมรณะแห่งนี้บ่อยครั้งเพื่อที่จะจัดการเขา แต่ทว่าเขาไม่เคยได้พบกันเลยแม้สักครั้ง ซึ่งหลังจากนั้นมาพวกเขาก็ไม่เคยที่จะส่งสาวกของตนเองไปให้ซัวชาโบอีกเลย เพราะเหตุผลเหล่านี้นี่เอง
ในตอนนี้ราชันหมื่นปีศาจซัวชาโบได้อยู่ในระดับหยวนหยินขั้นสุดท้าย เขาฝึกฝนรวบรวมแสงจันทรามาเนิ่นนานกว่าหมื่นปี ซึ่งเขาเข้าใกล้ระดับเฟินเสินขึ้นทุกที ด้วยพลังของไข่มุกจันทราเขาจะสามารถเข้าสู่ระดับเลื่อนจือได้ชั่วคราวอีกด้วย
อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของราชันหมื่นปีศาจได้เพิ่มพูนมากขึ้นตลอดเวลา แต่ก็ยังมีผู้ฝึกตนมากมายต้องการที่จะค้นหาเขาให้พบเนื่องจากสภาพแวดล้อมเหล่านั้นมีความพิเศษอย่างยิ่งต่อการฝึกฝน วัสดุต่างๆมากมายล้วนแต่ล้ำค่าและมีประโยชน์ สมบัติทุกสิ่งล้วนแต่ล่อตาล่อใจของผู้ฝึกตนจำนวนมากให้วิ่งเข้าหานครมรณะแห่งนั้น
ซึ่งปัญหาก็คือถ้าหากว่าผู้ฝึกตนระดับเฟินเสินลงไปในนครมรณะพวกเขาจะไม่มีทางได้พบกับราชันหมื่นปีศาจซัวชาโบแน่นอน แต่ถ้าเป็นบุคคลที่ระดับต่ำกว่าเขานั้นมีแนวโน้มอย่างมากที่จะถูกสังหารโดยเขา! ดังนั้นนครมรณะจึงกลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้ฝึกตนระดับเฟินเสินที่จะกล้าย่างกรายเข้าไป เช่นนี้ราชันหมื่นปีศาจจึงถูกเรียกว่าราชันไร้ไข่ซะมากกว่า!
อย่างไรก็ตาม ซัวชาโบนั้นมีอายุมานานกว่าหมื่นปี ถ้าหากเขาจะต้องต่อสู้กับผู้ฝึกตนระดับเดียวกัน ไม่รู้เลยว่าเขาจะต้องมีกี่ชีวิตถึงจะมีอายุมาได้ยืนยาวเช่นนี้ เพราะฉะนั้นความโจ่งแจ้งในการกระทำของเขาเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ชัดเจนที่สุดและเขาประสบความสำเร็จที่ทำเช่นนี้ด้วย
ในตอนนี้มีเพียงผู้ที่ต้อยต่ำกว่ามันเท่านั้นจึงจะสามารถค้นพบเขาได้ ถ้าหากเป็นสุ่ยเมิงหลงที่มีความแข็งแกร่งระดับเลือนจือลงไปในนครมรณะแห่งนั้น แน่นอนว่าเขาก็คงไม่อาจทำอะไรได้นอกจากกลับบ้านมือเปล่า
แต่เมื่อคิดถึงไข่มุกจันทราแล้ว เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคิดถึงซ่งจงเท่านั้น เนื่องจากซ่งจงสามารถเอาชนะผู้ฝึกตนระดับเฟินเสินถึงสองคนได้ พร้อมจับเป็นได้หนึ่งคน จับตายหนึ่งคน เช่นนี้เขาจะต้องมีความสามารถมากพอที่จะสังหารราชันหมื่นปีศาจได้อย่างแน่นอน อีกทั้งเขายังจะได้รับไข่มุกจันทรานั้นอีกด้วย เพราะว่าเขานั้นอยู่ในระดับจินตันเท่านั้น แน่นอนว่าซัวชาโบจะต้องออกค้นหาเขาแน่นอนเมื่อซ่งจงก้าวเข้าสู่นครมรณะ นี่ก็เป็นเวลาเนิ่นนานแล้วที่เขาไม่ได้ดูดซับพลังวิญญาณ เขาจะต้องไม่พลาดโอกาสครั้งนี้แน่นอน…
เมื่อได้ยินสิ่งที่สุ่ยเมิ่งหลงกล่าวออกมาทั้งหมดแล้ว ซ่งจงเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมต้องเป็นเขา เหตุผลก็คือระดับพลังของเขาจะทำให้ราชันหมื่นปีศาจออกมาไล่ล่าตัวเขาเองโดยที่เขาไม่ต้องเหนื่อยแรงตามหา!
_____________________________________