Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป - บทที่66 ถ้าเกิดเจ็บก็กัดสิ
บทที่66 ถ้าเกิดเจ็บก็กัดสิ
ถ้าวันหนึ่ง บนโลกนี้มีใครคนหนึ่งที่สามารถรบกวนอารมณ์ผมได้ ผมจะเป็นคนทำรู้ความรู้จักกับเธอเอง
นั่นเป็นเสิ่นซิวจิ่นในวัยรุ่น ก็มีความตระหนักรู้แล้ว
ในฐานะทายาทของตระกูลเสิ่น และผู้นำต่อไปในอนาคต เสิ่นซิวจิ่นถูกสอนตั้งแต่เด็ก นับว่าเข้มงวดที่สุด และโหดเหี้ยมที่สุดเหมือนกัน ปู่ของเขา เป็นคนฝึกหลานชายด้วยตัวเอง สอนให้เป็นหุ่นยนต์ที่โหดเหี้ยม และเลือดเย็น
ปู่บอกว่า “ แกต้องไม่มีความอ่อนแอแม้แต่น้อย ถ้าเกิดวันหนึ่ง มีคนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เธอสามารถส่งผลต่อการตัดสินใจของแกได้อย่างง่ายดาย ส่งผลต่ออารมณ์แก งั้นก็แสดงว่า คนคนนี้ ก็คือศัตรูที่น่ากลัวที่สุด อาซิวสำหรับศัตรูแล้ว แกต้องลงมือฆ่าเธอด้วยตัวเอง ”
เมื่อเสิ่นซิวจิ่นและไป๋ยู่สิงพูดประโยคนี้ออกมาในเวลาเดียวกัน
ไป๋ยู่สิงที่ก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่นั้น นอกเหนือจากความตกใจแล้ว รู้สึกได้ว่าเสิ่นซิวจิ่นแค่เพียงพูดไปงั้นๆ ตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นมีใครไม่เคยพูดประโยคที่ตอนนั้นตัวเองรู้สึกว่า “ เจ๋ง ” เมื่อโตแล้วคิดย้อนไป กลับรู้สึกว่าตอนวัยรุ่นกล้าเกินไปแล้ว?
บางที ไป๋ยู่สิงอาจลืมไปแล้วว่าเสิ่นซิวจิ่นเคยพูดเรื่องพวกนี้ หรือไม่ ไป๋ยู่สิงอาจจะคิดว่าคำพูดเหล่านั้นเป็นเรื่องล้อเล่น จึงไม่ได้จำหรือสนใจอะไร
แต่ว่า……ไป๋ยู่สิงคงคาดไม่ถึงมาก่อนแน่ๆ ว่าช่วงเวลาวัยรุ่นคนอื่นกับของเสิ่นซิวจิ่นนั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ทางเตียงหลังใหญ่ นิ้วของเขาล็อกไปที่คอของผู้หญิงบนเตียง……แต่แค่ล็อกไว้ ไม่ได้ใช้กำลังเลยสักนิด
ขาสงสัยว่า ทำไมผู้หญิงเลวๆคนนี้ ถึงสามารถทำให้อารมณ์ของเขาแปรปรวนไปมาได้ง่าย?
ทำไมเธอถึงมักทำให้ตัวเองโกรธ โมโหได้ง่าย?
แล้วทำไมเธอนอนขดตัวด้วยความเจ็บปวด ถึงทำให้ตัวเองควบคุมไม่ได้อยากลุกขึ้นมาดู
เขาพยายามมากที่จะควบคุมแล้ว “ อย่าลุกขึ้นไปดู ”
เขาพยายามควบคุมตัวเองสุดฤทธิ์แล้ว…..เป็นเพราะเธอทั้งนั้น! เป็นเพราะเสียงโอดครวญซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเธอ!
นิ้วอันเรียวยาวของเขา เห็นกระดูกที่เด่นชัด เป็นมือคู่ที่งดงาม บีบไปที่คอของเธอ……เขากัดฟัน ใช้นิ้วกดลงแรงๆทีละนิด……ไม่เป็นไร เพียงแค่ใช้แรงอีกนิด ก็จะสามารถกำจัดผู้หญิงที่สามารถส่งผลกระทบกับอารมณ์ ความรู้สึกของได้อย่างง่ายดายได้แล้ว
ก็จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากเธอแล้ว ก็จะไม่ต้องขับรถพาเธอไปส่งโรงพยาบาลกลางดึกอย่างผิดปกติแล้ว
เซี่ยเวยเหมิงยังไม่เคยสัมผัส ซึมซับกับการรักษานี้เลย
“ …ซี้ด…….ฮื่อ……ฮื่อ…… ” เธอขดตัวเองเป็นวง เธอขมวดคิ้วขึ้นด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง
ทั้งหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ โคมไฟตรงหัวเตียงสาดส่องลงมา ตราตรึงเขาไปในสายตาของเสิ่นซิวจิ่นอย่างแจ่มแจ้ง
มือของเขาบีบไปที่คอของเธอ ทันใดนั้นเอง! ปล่อย! ทำไม่ได้! ทำไม่ลงจริง!
สักครู่ก็กางมือออก เสิ่นซิวจิ่นราวกับคนไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง วางมือลงบนขอบเตียง พยุงร่างใหญ่ของเขาขึ้น หายใจเข้าลึก ถึงจะสงบลงได้
เมื่อเงยหน้าขึ้น เธอคนนั้นบิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวด
เดิมทีแค่เจ็บปวด จากนั้นขดตัวเป็นวง แต่มันยังเจ็บปวดอยู่อย่างนั้น ทำได้เพียงบิดเนื้อตัวไปมา ในที่สุดเจ็บปวดมากขนาดที่กลิ้งไปมาบนเตียง
ทันใดนั้นเองก็ดึงเข็มน้ำเกลือที่หลังมือออก ตามท่าน้ำเกลือมีเลือดไหลกลับออกมาอย่างรวดเร็ว!
เสิ่นซิวจิ่นจับมือข้างหนึ่งของเธอไว้ มือที่เจาะน้ำเกลือดิ้นไม่ได้ ส่วนที่อื่นๆก็ยังดิ้นไปมาไม่หยุด เสิ่นซิวจิ่นไม่รู้จะทำอย่างไง จะทำอะไรก็กล้าๆเกรงๆ แต่เมื่อคิดจะทำแล้วละก็ ฝ่ามืออันใหญ่อีกข้างหนึ่งจับมืออีกข้างของเธอไว้ เขายังใช้ร่างอันใหญ่โน้มลงไปกดทับตัวเธอไว้ ถึงหยุดให้เธอไม่ดิ้นไปมาได้
“ โอ๊ย……ปล่อยนะ…… ”
เสิ่นซิวจิ่นฟังเธอพูดพล่ามไม่หยุด มันเจ็บปวดเกินคำบรรยาย ทันใดนั้นก็สังเกตได้ว่า เธอที่เจ็บปวด และส่งเสียงรวดร้าวต่างๆนานามาตั้งแต่แรก กลับไปเคยตะโกนว่า “ เจ็บ ” ออกมาแม้แต่คำเดียว
ทั้งๆที่เจ็บ แต่กลับไม่ตะโกน……โดยไร้เหตุผล ใจของเขาก็เต้นระรัวขึ้น
“ ตื่นได้แล้ว! ตื่น! ” เขายกมือขึ้น แล้วตบไปที่หน้ากลมมนของเธออย่างหยาบๆ “ นี่! รีบตื่นสิ! เธอจะนอนไปถึงเมื่อไหร่กัน? ”
เจี่ยนถงลืมตาขึ้น และไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แต่ร่างกายของเธอเจ็บปวดมาก และส่งผลไปยังปลายประสาทเป็นอันดับแรก ความเจ็บปวดนั้น……เธอกัดฟัน!
บนริมฝีปากที่ซีดเผือด มีรองไฟเป็นวงอย่างเห็นได้ชัด
เสิ่นซิวจิ่นเหล่มองอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ “ เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? ”
อ๊าก……?
“ ฉันว่าอยู่ที่นี่ได้อย่างไง? ”
“ เธอคิดว่าไงหล่ะ? ” เสิ่นซิวจิ่นเหลือมองไปที่เจี่ยนถง “ ก็บอกเธอตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้ายังป่วยก็อย่าทำงาน ทำงานแล้วเป็นลม แล้วยังมาทำให้ผมเดือดร้อนอีก ”
“ ขอโท…… ซี้ด~โอ๊ย…… ” มันปวดขึ้นมาอีกแล้ว เจี่ยนถงกำลังพูด และกำลังจะขอโทษ ทันใดนั้นก็ต้องเบอกตากว้างด้วยความเจ็บปวด!
“ โอ๊ย! ” ความเจ็บนั้นมันสามารถทรมานคนให้ตายได้ เจี่ยนคงยังคงมีสติ และรู้ว่าตรงหน้าเธอยังมีเสิ่นซิวจิ่นอยู่
ไม่อยากอยู่ต่อหน้าของเสิ่นซิวจิ่น และทำให้เขาเห็นฉากนี้!
ไม่อยากให้เสิ่นซิวจิ่นเห็นเรื่องตลกนี้!
ถึงแม้ว่าเธอ……จะอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว และเคยทำเรื่องตลกไว้มากมายก็ตาม!
ถึงแม้ว่าเธอ……จะอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ทำให้ตัวเองดูเป็นตัวตลก!
พระเจ้ากลับเห็นต่างกับเธอ ทำให้เกิดฟ้าผ่าและฟ้าร้อง อาการปวดที่เอวของเธอทวีขึ้นกว่าเดิม ขาของเธอ ก็ปวดร้าวราวกับว่ามันปวดมาจากกระดูก
เมื่อก่อนอากาศเปลี่ยนไป มันยังคงเจ็บปวดเกินคำบรรยาย ทว่า สามปีแล้ว เธอชินแล้ว หลังจากที่ชินกับความเจ็บนั้น มันก็ไม่รู้สึกยากเหมือนตอนแรกๆที่กว่าจะผ่านไปได้
หลังจากที่ชินกับความเจ็บนั้น เมื่อปวดเข้าไปในกระดูก ก็ขมวดคิ้วแล้วกัดฟัน ทนอย่างอดทนให้มันผ่านไป
แต่วันนี้ ความเจ็บนี้ ทำให้เธอสัมผัสถึงการสูญเสียไตข้างซ้ายไปอีกครั้ง ความทรงจำแรกแบบนั้นมันมักเจ็บปวดเป็นพิเศษเสมอ
ทำไมนะ……ไม่รู้สึกเจ็บแบบนี้มานานแล้ว แล้วทำไมวันนี้
ในหัวเธอรกรุงรังไปหมด เรื่องที่ต้องคิดมากมาย ทั้งสับสนและวุ่นวาย เมื่อคิดทบทวนได้……บางที อาจเป็นเพราะจมน้ำครั้งนี้ เป็นไข้มาหลายวันแล้ว และเป็นลมก็หลายครั้ง
เธอดูเหมือน……ไม่เจ็บแบบนี้มาเป็นเวลานานแล้ว และนานแล้วที่ไม่ได้ถนอมร่างกายไว้เลย……ดูเหมือนว่าจะอย่างนั้น เริ่มตั้งแต่สูญเสียไตด้านซ้ายนั้นไป
เธอใช้ฟันหน้ากัดไปที่ริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว กัดแน่นมากไปที่ริมฝีปาก จนไม่รู้ตัว ว่ามีเลือดแดงสดซึมออกมาจากริมฝีปาก
เสิ่นซิวจิ่นระงับมือและเท้าของเธอได้ แต่ควบคุมฟันของเธอที่กัดริมฝีปากตัวเองไม่ได้ เสิ่นซิวจิ่นไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ปล่อยมือข้างหนึ่ง แล้วปริปากเธอออก จากนั้นรีบเอาแขนของตัวเอง ดันเข้าไปในปากของเธอ
“ ถ้ามันเจ็บมากนักก็ ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ กัดสิ ”
เจี่ยนถงเบิกตากว้าง ไม่พูดอะไร ได้แต่มองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาที่ไร้ความรู้สึก ทันใดนั้น! อ้าปากกัดแรงๆเข้าให้!
เขาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่พูดอะไรออกมา ปล่อยไปให้เธอกัดแขนของเขาต่อไป
เจี่ยนถงไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงกัดเข้าไปจริงๆ คงเป็นเพราะตอนที่เธอตัดสินใจอ้าปาก เธอกำลังโกรธอยู่ ความเจ็บปวดของเธอ เป็นเขาที่ให้ ความเจ็บนี้ มันเจ็บขนาดไหนกัน เธอไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เธอไม่สามารถจะสรรหาคำไหนมาอธิบายมันได้ เธอทำได้เพียงอ้าปากกัด……เสิ่นซิวจิ่น เรามาลองสัมผัสดู ว่าฉันในตอนนี้ มันเจ็บปวดขนาดไหนกัน!
เมื่อกัดแขนของเขาแล้ว กลิ่นสนิมเค็มๆในปาก……เธอก็รู้ว่า นั่นคือเลือดของเขา ทันใดนั้น ตาทั้งคู่ของเธอก็มีน้ำตาเอ่อล้นออกมาเป็นสองสาย