Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป - บทที่85 ความดื้อรั้นและความเข้มแข็งที่ต่ำเข้าไปในกระดูกดำ
- Home
- Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป
- บทที่85 ความดื้อรั้นและความเข้มแข็งที่ต่ำเข้าไปในกระดูกดำ
บทที่85 ความดื้อรั้นและความเข้มแข็งที่ต่ำเข้าไปในกระดูกดำ
ดิ๊ง!
ลิฟต์ได้กลับมาสู่จุดเดิม ประตูลิฟต์เปิดออก เจี่ยนถงไม่แยแสเจี่ยนโม่ป๋าย เธอก้าวเท้าเดินออกไปด้านนอกแล้วถูกดึงแขนไว้อีก “ไม่ได้ เสี่ยวถง ตอนนี้เธอลงไปไม่ได้ เธอ เธอ เธอหาที่หลบซ่อนก่อน”
“คุณชายเจี่ยน กรุณาปล่อยมือด้วยค่ะ ฉันยังมีงานต้องทำอีก”
“ไม่ได้ เสี่ยวถง ถ้าเธอออกไปตอนนี้จะถูกพวกเขาเห็นได้ วันนี้พวกเสี่ยวอู่นัดปาร์ตี้กันที่นี่”เจี่ยนโม่ป๋ายดึงเจี่ยนถงเข้าไปในลิฟต์ “เสี่ยวถง เธอก็คงไม่อยากให้เพื่อนๆที่เคยเล่นด้วยกันมาเห็นสภาพแบบนี้ของเธอมั้ง”
เจี่ยนถงหายใจติดขัด ในแววตามีความหวาดกลัวเอ่อล้นออกมา………
คำพูดของเจี่ยนโม่ป๋าย เหมือนดังอยู่ในหู นี่ก็เป็นปีศาจหัวใจส่วนหนึ่งของเธอ——เธอ ไม่กล้าไปเจอเพื่อนสมัยก่อน ด้วยสภาพที่ต่ำต้อยแบบนี้
เธอไวกว่าเจี่ยนโม่ป๋าย ยื่นมือไปกดปุ่มลิฟต์อย่างลนลาน
“แหม คุณชายเจี่ยนนี่คือหาสาวสวยได้ และกำลังเพลิดเพลินอยู่ในลิฟต์หรอเนี่ย~”เสียงแซวเล่นดังขึ้น ประตูลิฟต์ที่เดิมทีจะปิด ก็ถูกมือที่อยู่หน้าลิฟต์ขัดขวางเบาๆ และเปิดออกอีกครั้ง
พริบตาเดียวเจี่ยนโม่ป๋ายก็กดศีรษะของเจี่ยนถงเข้าไปในอ้อมกอดเขา “เห้ออู่ พอได้แล้ว”มือข้างเดียวของเจี่ยนโม่ป๋ายก็กั้นมือของเห้ออู่ที่จะยื่นมาหาเจี่ยนถง “เด็กผู้หญิงเขาขี้อาย เห้ออู่ ห้องด้านบนเปิดเรียบร้อยแล้ว พวกนายขึ้นไปก่อนเลย”
ระหว่างที่พูดก็ได้กดหน้าของเจี่ยนถงเข้ามาในอ้อมกอด และพาเจี่ยนถงที่อยู่ในอ้อมกอดเดินไปด้านนอก
“คุณชายเจี่ยน นายจะไปไหน? ขึ้นไปด้วยกันสิ”
“ฉันมีธุระส่วนตัวนิดหน่อย พวกนายขึ้นไปก่อน เดี๋ยวฉันตามมา ค่าใช้จ่ายของวันนี้ฉันรับผิดชอบเอง ทุกคนสนุกให้เต็มที่เลยนะ”
เสียงผิวปากก้องมาจากด้านหลังของลิฟต์ “ฟังสิ คุณชายเจี่ยนบอกว่ามีธุระส่วนตัว กับใครเนี่ย? สาวน้อยที่เขาโอบอยู่ในอ้อมกอด คุณชายเจี่ยนนี่ยิ่งอยู่ยิ่งมีคารมและเอาอกเอาใจผู้หญิงเก่งแล้ว”
ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิด เจี่ยนถงยังสามารถได้ยินเสียงหัวเราะ“ฮ่าๆ”อย่างมีความสุขของทุกคน
เจี่ยนโม่ป๋ายพาเธอมาถึงที่มุมอับ “เสี่ยวถง วันนี้เธออย่าทำงานเลยนะ”
หัวใจของเจี่ยนถงเจ็บจี๊ดทีหนึ่ง ตัวเธอเองไม่กล้าสู้หน้าเพื่อนในอดีตเหล่านั้น แต่ว่า แต่ตอนที่ผู้ชายคนตรงหน้าที่เธอเรียก“พี่ชาย”มายี่สิบกว่าปีพูดคำนี้ออกมา มือของเจี่ยนถงได้หยิกไปที่ต้นขาอย่างไม่รู้ตัว นาทีนี้ในใจมีความวู่วามที่อยากจะตะคอกใส่เขา
เจี่ยนถง เธอคือนักโทษคุมประพฤติ เธอไม่มีคนในครอบครัว สามปีก่อนคนของตระกูลเจี่ยนล้วนละทิ้งเธอหมดแล้ว เจี่ยนถง อย่าเศร้าใจไปเลย น้ำตาที่ควรจะไหล หัวใจที่ควรจะเจ็บ สามปีนี้ไหลจนแห้งและเจ็บจนสิ้นแล้ว……เธอพูดเกลี้ยกล่อมตัวเองอยู่ในใจอย่างไม่ขาดสาย ซ้ำไปซ้ำมาสิบกว่ายี่สิบรอบ ในที่สุด………
เจี่ยนถงค่อยๆเงยหน้าขึ้น และยกมือปัดฝ่ามือที่เจี่ยนโม่ป๋ายจับแขนตัวเองไว้ “วันนี้ไม่ทำงาน พรุ่งนี้ล่ะ มะรืนล่ะ ตราบใดที่ตงหวงยังเปิดอยู่ พวกเขาก็จะต้องมาใช้บริการอยู่ดี ไม่แน่สักวันก็ต้องเจอหน้ากันอยู่ดี”
เธอมองหน้าเจี่ยนโม่ป๋ายไว้ อยากได้ยินกับหูตัวเองว่าเวลานี้ คนที่เธอเรียกพี่ชายมายี่สิบกว่าปีคนนี้จะตอบยังไง จะเลือกยังไง
“เสี่ยวถง อย่าอยู่ที่นี่เลย เปลี่ยนงานใหม่เถอะ”
“เปลี่ยนงานใหม่? คุณชายเจี่ยนจะช่วยฉันแนะนำงานอะไรคะ?” เจี่ยนถงถามด้วยรอยยิ้มที่แปลกประหลาด เธอกำลังรอเจี่ยนโม่ป๋ายจะดับไฟเสี้ยวสุดท้ายในใจเธออย่างสิ้นเชิงยังไง
และเธอก็รอว่าเจี่ยนโม่ป๋ายจะตัดสินใจเหนือการคาดการณ์ของเธอ…..ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ
เจี่ยนถงบอกกับตัวเองว่า ถ้าครั้งนี้เจี่ยนโม่ป๋ายทำการการตัดสินใจที่เหนือการคาดการณ์ของเธอ งั้น ไม่ว่าตอนที่อยู่ในคุกเคยผิดหวังหรือเคยเกลียดชังคนของตระกูลเจี่ยนมากแค่ไหน นับแต่นี้ไปจะปล่อยวางความแค้นนี้
เจี่ยนโม่ป๋ายเงียบไปสักพัก “เสี่ยวถง พี่ขอโทษเธอ…..คนอย่างเสิ่นซิวจิ่นโหดเกินไป ตระกูลเจี่ยน….ไม่กล้าไปเดิมพัน”
แววตาของเจี่ยนถงมืดมนลงมา สุดท้ายเธอก็ไม่ได้คำตอบที่เหนือการคาดการณ์ของเจี่ยนโม่ป๋าย
“งั้นก็ต้องขอโทษคุณชายเจี่ยนด้วยค่ะ ฉันไม่สามารถเปลี่ยนงานได้”
เจี่ยนถงปฏิเสธอย่างเรียบเฉย
เจี่ยนโม่ป๋ายกลับโมโหขึ้นมา “เสี่ยวถง เธอกำลังเอาแต่ใจอยู่นะ ทำไมถึงเปลี่ยนงานไม่ได้ ทำไมดันจะต้องอยู่ที่นี่และทำงานแบบนี้ด้วย?”
“คุณชายเจี่ยน ขอฉันเตือนคุณหน่อย ฉันเป็นแค่นักโทษคุมประพฤติคนหนึ่ง เป็นคนที่เคยติดคุก คุณชายเจี่ยนนึกว่าฉันจะสามารถหางานจริงจังอะไรทำได้?”
“เจี่ยนถง คนที่เคยติดคุกออกมาบนโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว ทำไมคนพวกนั้นสามารถทำงานขยันหมั่นเพียรหาเลี้ยงตัวเองได้ แต่เธอดันต้องอยู่สถานที่แบบนี้ มาสร้างความบันเทิงให้คนอื่น? เสี่ยวถง เธอกำลังทำตัวเสื่อมทรามนะ”
ไหล่ของเจี่ยนถงสั่นเทา เธอใช้มือหยิกต้นขาไว้แน่น ถึงจะสามารถอดทนไว้ไม่วู่วามไปตบหน้าเจี่ยนโม่ป๋าย!
จู่ๆเธอแหงนหน้ามองเจี่ยนโม่ป๋าย คนคนนี้คือคนที่เธอเรียกพี่ชายมายี่สิบกว่าปี ความทรงจำที่สวยงามในอดีต ความรักและความเอ็นดูจากพี่ชาย พี่ชายที่ยอมเธอทุกอย่าง……ที่แท้ สามปีมานี้ คนที่เปลี่ยนไปไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว แต่ยังมีเจี่ยนโม่ป๋ายด้วย
เจี่ยนโม่ป๋ายไม่เข้าใจทำไมน้องสาวที่ดีจะกลายเป็นผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าแบบนี้ ทำไมเสี่ยวถงที่มีความมั่นใจ โอ้อวดและหยิ่งในศักดิ์ศรีมากๆ จะกลายเป็นผู้หญิงที่แค่อยากจะเอาใจผู้ชายเพื่อหวังได้ทิปแบบนี้!
“เสี่ยวถง เธอเปลี่ยนไปแล้ว”
เจี่ยนโม่ป๋ายมองเจี่ยนถงที่อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าผิดหวัง “เสี่ยวถง เมื่อก่อนเธอไม่ได้เป็นแบบนี้ ถ้าพ่อกับแม่เห็นสภาพของเธอตอนนี้จะต้องผิดหวังมากแน่ๆเลย อะไรที่ควรพูดพี่ก็พูดแล้ว นับแต่นี้ไป เธอจะใช้ชีวิตยังไง จะต่ำให้ถึงที่สุดเหมือนหนอน หรือว่าจะขยันหมั่นเพียรใช้ชีวิตอยู่ใต้แสงอาทิตย์ ล้วนเธอเป็นคนเลือกเอง”
เจี่ยนโม่ป๋ายพูดไปด้วยพร้อมส่ายหัวอย่างผิดหวังด้วย จากนั้นได้หันหลังเดินออกไปทางหน้าประตูของตงหวงและล้วงมือถือออกมาโทรหาฝั่งนู้นด้วย “เห้ออู่ ฉันมีธุระนิดหน่อย วันนี้ไม่ปาร์ตี้กับทุกคนแล้ว พวกนายสนุกให้เต็มที่เลยนะ บิลจดไว้ในนามของฉันเลย แค่นี้นะ”
มุมเปลี่ยวของห้องโถง เจี่ยนถงยืนตัวตรงอยู่ที่นั่นอย่างโดดเดี่ยว เหมือนรูปปั้นแกะสลักที่ไม่กระดิกตัวเลย
แต่ถ้าเดินเข้าไปใกล้หน่อย จะสามารถมองเห็นว่าไหล่ของเธอกำลังสั่นคลอน มือที่ทิ้งตัวอยู่ข้างกายกำแน่นเป็นหมัด เธอก้มหน้ามองดูปลายเท้า เหมือนที่เท้ามีของล้ำค่ารอให้เก็บอยู่……เธอควบคุมสุดฤทธิ์เพื่อไม่ให้ตัวเองวู่วามแล้วตะคอกออกมา แต่ในลำคอมีเสียงงือๆที่แปลกประหลาดเอ่อล้นออกมาเป็นพักๆ
ใช่ ใช่! เจี่ยนโม่ป๋าย พี่พูดถูกแล้ว บนโลกใบนี้มีคนที่ติดคุกออกมาเป็นพันเป็นหมื่น บางคนทำตัวต่ำเข้าไปกระดูกดำต่อ บางคนใช้บั้นปลายชีวิตอย่างขยันหมั่นเพียร…….พี่นึกว่าฉันไม่อยากเหรอ! พี่นึกว่าฉันอยากเป็นแบบนี้เเหรอ! พี่นึกว่าเรื่องที่ฉันไม่อยากทำก็สามารถไม่ทำได้เเหรอ!
เจี่ยนโม่ป๋าย คนที่เคยติดคุกแล้วออกมามีเยอะเป็นพันเป็นหมื่น แต่พวกเขามีครอบครัว มีฐานะ มีอดีต!
ฉันล่ะ?
แต่ฉันล่ะ!
ฉันมีอะไร!
คนที่ไม่มีอดีต เพิ่งออกมาจากคุก ตอนที่ออกมามีเงินติดตัวอยู่แค่ไม่กี่สิบหยวน ใส่เสื้อฉีกขาดทั้งตัวและมีบัตรประชาชนอยู่ใบเดียว นอกเหนือจากนี้แล้ว ไม่มีอะไรเลย
ครอบครัว บ้าน อดีต เพื่อน ถึงจะย่ำแย่แค่ไหนก็น่าจะมีที่บังลมบังฝนมั้ง แต่เธอล่ะ……ไม่มีอะไรเลย!……เธอเป็นกระดาษขาวใบหนึ่งที่เขียนไว้ว่า“นักโทษคุมประพฤติ” อย่าอื่นไม่มีอะไรเลย
มุมเปลี่ยวนั้น ดูเหมือนปกคลุมด้วยเมฆครึ้ม ภายใต้เมฆครึ้ม มือของผู้หญิงคนนั้นกำลังสั่นเทา เธอได้ล้วงมือถือออกมาดูแว็บหนึ่ง สูดจมูกแล้วเงยหน้าขึ้นมาใหม่ จากนั้นได้ค่อยๆหันหลังเดินไปยังทิศทางของลิฟต์
เธอจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ถึงจะเหลือเวลาอีกแค่สี่สิบนาที เธอก็จะไขว่คว้าจนถึงวินาทีสุดท้าย……..เจี่ยนถงเดินเข้าไปในลิฟต์อย่างขากะเผลก
ใครเล่าที่จะใจแข็งเหมือนหินจริงๆ ใครบ้างจะไม่เสียใจ…..แต่ว่า เธอยังมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องไปทำ คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในนรก ใช่ว่าจะไม่เจ็บ แต่แค่สูญเสียสิทธิ์ที่จะร้องเจ็บ
เหมือนเจี่ยนโม่ป๋ายได้ใช้มีดแทงเข้าไปลึกๆในใจของเจี่ยนถงอีกแผลหนึ่ง ส่วนเธอ ในขณะที่ลิฟต์เปิดใหม่อีกครั้ง เธอเงยหน้ามองไปยังกระจกในลิฟต์ พร้อมยกนิ้วขึ้นมาฉีกรอยยิ้มที่หน้า เสร็จแล้วได้สูดจมูก เก็บความเศร้าและความเจ็บปวดทั้งหมดไว้ จากนั้นได้แหงนหน้าฮึดสู้ขึ้นมา พร้อมบอกกับตัวเองว่า “เธอยังมีห้าแสนหยวน หนี้ก้อนโตรออยู่นะ”