Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป - บทที่88 ปล่อยฉันไปเถอะ
บทที่88 ปล่อยฉันไปเถอะ
ย่าคุนที่นั่งอยู่บนโซฟากำลังโทรศัพท์อยู่ พูดอะไรกับคนในสายได้สักพัก จากนั้นก็ได้เรียกเจี่ยนถงไว้ “เฮ้ย เจี่ยนถง เธอลองทายดูซิว่าเมื่อกี๊ฉันโทรหาใคร?”ย่าคุนยิ้มอย่างร้ายๆ แววตาระยิบระยับ “พี่ชายเธอ เธอทายดูว่าพี่ชายเธอพูดอะไรบ้าง? เขาบอกว่าตระกูลเจี่ยนไม่มีคนที่ชื่อเจี่ยนถง ฮ่าๆ เจี่ยนถงนะเจี่ยนถง เธอช่างน่าสงสารจริงๆ ทำเพื่อนสนิทตัวเองตายมีประโยชน์อะไร? เวยเหมิงซวยมาแปดชั่วโคตรถึงได้มาเป็นเพื่อนกับเธอ!”
ย่าคุนที่พูดคำพูดนี้ แววตามีความโกรธเคืองแว็บผ่าน สายตาที่มองเจี่ยนถงไว้ เหมือนจะสับเจี่ยนถงให้เป็นชิ้นๆ!
เจี่ยนถงก้มหน้าก้มตาไว้ คนอื่นดูสีหน้าแววตาเธอไม่ออก
เธอก็ไม่หักล้าง เธอรู้ว่าย่าคุนชอบเซี่ยเวยเหมิง……เธอไม่ได้อธิบาย มุมปากมีรอยยิ้มที่เยาะเย้ยตัวเอง ใครๆก็ไม่เชื่อเธอหรอก อธิบายแล้วจะมีประโยชน์อะไร?
แต่ในใจลึกๆยังคงเจ็บจี๊ดเพราะคำพูดของเจี่ยนโม่ป๋ายอีกเช่นเคย
เจี่ยนถงหัวเราะเบาๆ ก็ไม่รู้ว่ากำลังหัวเราะตัวเองหรือหัวเราะย่าคุน หรือหัวเราะเจี่ยนโม่ป๋าย เธองอเข่าลงอย่างช้าๆพร้อมรอยยิ้ม
ซูเมิ่งตะโกนเสียงดัง “เจี่ยนถง อย่า!”
“ปัง!”
เสียงหัวเข่ากระแทกพื้นอย่างแรง เจี่ยนถงคุกเข่าลงไปอย่างตัวตรง เศษแก้วได้ทิ่มเข้าไปเนื้อของหัวเข่า ใช่ว่าเธอจะไม่เจ็บ แต่กลับเงยหน้ามองไปที่เห้ออู่ “คุณปล่อยพี่เมิ่ง”
ซูเมิ่งเบิกตากว้าง
เห้ออู่มองดูฉากนี้แล้วหัวเราะขึ้นมาทันที “ฮ่าๆๆๆ…..เจี่ยนถงที่หยิ่งยโสทั่วเมืองS! ฮ่าๆๆ…..เธอคุกเข่าลงมาแล้ว! ฮ่าๆๆๆๆ…..เจี่ยนถง เธอก็มีวันนี้ด้วยเหรอ? เธอยังจำได้มั้ยว่าตอนนั้นฉันทุ่มเทแรงกายมากขนาดนั้นตามจีบเธอ เธอแค่พูดอย่างชิวๆคำหนึ่งว่า‘คุณไม่คู่ควรกับฉัน’ ก็ทำให้ฉันจากไป ตั้งแต่นั้นมาก็ให้ฉันกลายเป็นตัวตลกของเมืองS!”
เขามองหน้าเจี่ยนถง แววตามีความสะใจที่ได้แก้แค้น “เจี่ยนถง เจี่ยนถง เจี่ยนถง! เธอเคยคิดมั้ยว่าเธอก็มีสภาพอย่างวันนี้? เธอเคยคิดมั้ยว่าสวรรค์ไม่ปล่อยให้คนร้ายลอยนวลหรอก ทีนี้กรรมตามสนองแล้วสะใจรึยัง!”
เขาหยิบเช็คที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา และถอยหลังไปสี่ห้าก้าว จากนั้นได้ชูเช็คในมือขึ้น “อยากได้เงินมั้ย? เธอคลานมาเลย เงินอยู่แค่ตรงนี้เอง”
เขายื่นมือชี้ใต้ขาตัวเอง “เธอคลานไปจากที่นี่ เงินห้าแสนนี้ก็จะเป็นของเธอ ฉันเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้น เป็นยังไงบ้าง?”
สมัยนั้น เจี่ยนถงแค่พูดคำเดียวว่า“คุณไม่คู่ควรกับฉัน”ก็ได้ฉีกหน้าเขา วันนี้เห้ออู่ก็จะเอาเงินห้าแสนหยวนนี้มาทำให้เจี่ยนถงขายหน้า
“เจี่ยนถง อย่า!”ซูเมิ่งเสียใจ เธอมาเสียใจภายหลังแล้วจริงๆ!
เจี่ยนถงเงยหน้ามองเช็คห้าแสนหยวนที่อยู่ในมือของเห้ออู่ทีหนึ่ง
ข้างหูคือเสียงของซูเมิ่ง แววตาระยิบระยับ
จู่ๆเจี่ยนถงหันไปมองซูเมิ่งอย่างช้าๆ
ลมหายใจของซูเมิ่งหยุดชะงักไว้ พร้อมกับม่านตาหด!
เจี่ยนถงหันไปมองหน้าซูเมิ่งไว้……ขอโทษค่ะ ฉันมีทางของฉันต้องเดิน ฉันยังมีเรื่องมากมายที่ยังไม่ได้ทำ ฉันจะหนีพ้นจากฝ่ามือมารของผู้ชายคนนั้น
เจี่ยนถงหายใจลึกๆและหลับตาลง……มีอะไรต้องตกใจด้วย เพราะก็ไม่ใช่เพิ่งจะคุกเข่าเป็นครั้งแรกแล้ว เพราะเธอ……ก็ไม่เหลืออะไรตั้งนานแล้ว
ไม่ว่าเป็นใคร แล้วมีความแตกต่างอะไร?
เหอะๆ…….
เสียงแก้วหล่นร่วงลงไปอีกสองที ซูเมิ่งด่าใหญ่เลย “คุณชายเห้อ คุณมีความแค้นใหญ่โตอะไร ถึงต้องต่ำช้าขนาดนี้!”
“เพี๊ยะ!”เห้ออู่ตบซูเมิ่งจนเสพติดแล้ว
หัวใจของเจี่ยนถงกระตุกทีหนึ่ง เธอเงยหน้าขึ้นมาอย่างเย็นชา “อย่าแตะต้องพี่เมิ่ง”
ระหว่างที่เธอพูดหัวเข่าก็ได้เขยิบไปข้างหน้า ทุกครั้งที่เขยิบ เศษแก้วนั้นก็จะทิ่มเข้าไปลึกๆ ทุกครั้งที่ขยับ ก็จะมีเศษแก้วที่มากกว่าทิ่มเข้าไปในเนื้อ ซูเมิ่งจะก้าวไปขัดขวาง แต่กลับถูกคนอื่นขัดขวาง “ผู้จัดการซูดูอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆก็พอ ถ้ายั่วโมโหคุณชายเห้อเข้าจริงๆ เสี่ยวถงคนนี้จะต้องทนทุกข์ทรมานอีกแน่”
เหมือนข่มขู่ เหมือนตักเตือน และเหมือนย้ำเตือน ซูเมิ่งฟังจนร้อนรนใจ แต่กลับไม่กล้าขมับไปซี้ซั้ว
“พวกคุณทำแบบนี้ บอสใหญ่ของพวกเราจะต้องโกรธแน่ๆ”
“โอเค บอสใหญ่ของพวกเธอคือใคร ถ้าเขาโกรธจริงๆ เธอแจ้งชื่อของพวกเราโดยตรงเลย”เขาไม่เชื่อหรอกว่าอยู่ในเมืองSนี้ ถ้าตระกูลของเพื่อนๆที่อยู่ในนี้ร่วมมือกัน ยังจะมีคนกล้าผลีผลามพุ่งออกมาเป็นศัตรูกับพวกเขามั้ย
ใครก็ไม่โง่ถึงขั้นขัดใจตระกูลทั้งหลายในห้องนี้ แค่เพื่อพนักงานบริษัทคนหนึ่งที่เล็กจนไม่มีค่าให้เอ่ยถึง
ถึงแม้มีระยะห่างแค่สี่ห้าก้าว แต่ทุกการขยับเขยื้อนกลับเหมือนคุกเข่าอยู่บนปลายมีดแหลมคม
บนหน้าผากมีเหงื่อซึม ด้านหลังของเสื้อก็เปียกชุ่มไปหมด
เจี่ยนถงเงยหน้ามองเห้ออู่ทีหนึ่ง
“ลอดสิ”
“ลอดสิ”
“ลอดไปสิ”
ในห้องVIP มีคำว่า“ลอดสิ”ทะลุเข้าไปที่หูของเจี่ยนถงอย่างไม่ขาดสาย
ซูเมิ่งแค่พูดคำเดียวว่า“เจี่ยนถง อย่า”ก็ถูกคนพวกนั้นปิดปากเอาไว้
“ลอด! ลอด! ลอด! รีบลอดสิ!”
เสียงเร่งรัดแต่ละคำที่มีความสุขบนความทุกข์คนอื่น แววตาที่อดใจรอไม่ไหวดหมือนดั่งหมาป่า แผ่นหลังของเจี่ยนถงยืดตัวตรง กลับเกร็งไปทั้งเนื้อทั้งตัว……ห้าแสน ห้าแสน! แค่ลอดใต้ขาครั้งเดียวก็ได้เงินห้าแสน! เธอได้กำไรแล้วไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมหัวใจของเธอถึงเจ็บจนหายใจไม่ออก?
เจี่ยนถง เธอก็แค่นักโทษคุมประพฤติคนหนึ่ง เธอยังจะเอาศักดิ์ศรีอะไรอีก?
ของแบบนั้นมันหรูหราเกินไป เธอไม่มีตั้งนานแล้ว แล้วมัวแต่สำออยอะไรอยู่!
เป็นกะหรี่ ก็ต้องเป็นกะหรี่
ที่ผ่านคุณสมบัติสิ!
อยู่ภายใต้การจับตามองของผู้คน เธอค่อยๆโก่งตัว ก้มตัวกับศีรษะไว้ และคืบคลานอยู่ใต้ขาของเห้ออู่ มือทั้งสองยันอยู่บนพื้น มือขวาขาขวา มือซ้ายขาซ้าย คลานไปที่ใต้ขาของเห้ออู่ทีละก้าวๆ
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร……แค่นี้นับประสาอะไร?
เธอเคยลอดใต้ขาของคนที่อยู่ในคุกพวกนั้นมาแล้ว แค่นี้นับประสาอะไร?
แต่ทุกก้าวที่คลานไป ความทรงจำเก่าๆที่เจี่ยนถงไม่อยากจะรื้อฟื้น ยิ่งผุดขึ้นมาในหัวอย่างชัดเจน
ห้องน้ำในสถานกักกัน พวกหล่อนดักเธอที่หัวมุม ให้เธอลอดใต้ขาพวกหล่อนไป คลานและลอดไปทีละคนคน บางคนยิ่งเจตนาร้ายฉี่ใส่ใบหน้าและหัวของเธอ ในขณะที่เธอลอดผ่าน
ถ้าเธอไม่ยอม ก็จะถูกพวกหล่อนใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันที่เย็นเฉียบฉีดใส่ ไม่ว่าจะหน้าร้อนหรือหน้าหนาว ขอแค่ต่อต้าน ก็จะใช้วิธีการที่น่ากลัวกว่ากับเธอ
เจี่ยนถงไม่รู้ว่าตัวเองลอดไปยังไง ร่างกายเธอสั่นอย่างแรง นาทีนี้ ได้พาเธอกลับไปสู่ชีวิตในคุกเมื่อสามปีก่อนอีกครั้ง
“ชิ คุณหนูเจี่ยนที่เคยหยิ่งยโสสุดๆ เพื่อเงินห้าแสนหยวน ถึงกับลอดใต้ขาผู้ชายแล้ว”
“รีบถ่ายรูปเร็ว พรุ่งนี้จะต้องพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งแน่ๆ”
สีหน้าของเจี่ยนถงซีดเซียวลงมาทันที ความโกรธที่เธอฝืนทนไว้ ในที่สุดก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอพูดด้วยริมฝีปากที่ซีดเซียว “อย่าถ่ายรูป”
ถ่ายรูปไม่ได้!
“เธอบอกว่าห้ามถ่ายก็ห้ามถ่ายงั้นเหรอ เธอนึกว่าเธอยังเป็นคุณหนูของเจี่ยนซื่อกรุ๊ปอยู่อีกเหรอ ชิ~”
ม่ายตาของซูเมิ่งหดตัว พร้อมมองเจี่ยนถงอย่างตกใจมาก……คุณหนูของเจี่ยนซื่อกรุ๊ป? !
เจี่ยนถง? ? ?
แต่ถ้าเธอเป็นคุณหนูตระกูลเจี่ยน แล้วทำไมถึงกลายเป็นสภาพแบบนี้? !
แทบไม่อยากจะเชื่อเลย!
คำว่า“ถ่ายรูป”นี้ ได้ทำลายความแข็งกร้าวที่เจี่ยนถงเสแสร้งขึ้นมาจนพัง แป๊บเดียวก็พังพินาศโดยสิ้นเชิง เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้น “…….ขอ…ขอร้องพวกคุณ อย่าถ่ายรูป”
“ขอร้อง? เห้ออู่ นายได้ยินหรือยัง? เมื่อกี๊คุณหนูเจี่ยนบอกว่า‘ขอร้อง’? คุณหนูเจี่ยนแห่งหาดเซี่ยงไฮ้ที่เคยหยิ่งยโส ถึงกับพูดกับนายว่า‘ขอร้อง’!”
“ฮ่าๆๆๆ……”
เสียงเยาะเย้ยและกลั่นแกล้งของรอบๆ จะทำให้เจี่ยนถงจมลงไปอย่างมืดฟ้ามัวดิน!
บนใบหน้าเธอเหลือแค่ความตื่นตระหนก “อย่าถ่ายรูป! อย่าถ่ายรูป! ! !”เธอกรีดร้อง แต่เธอยิ่งต่อต้าน คนที่หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายก็ยิ่งเยอะ พวกเขายิ่งถ่ายยิ่งมีความสุข
“ฮ่าๆๆๆๆ……”
“ฮ่าๆๆๆๆ…….”
เสียงหัวเราะติดๆกัน เหมือนดั่งคำสาปลมหายใจของเจี่ยนถงยิ่งอยู่ยิ่งเร่งรีบ เธอส่ายหัวสุดฤทธิ์ “อย่าถ่ายรูป อย่าถ่าย!”
ถ่ายรูปไม่ได้ ห้ามถ่าย!
ความน่าอนาถของเธอ เผยอยู่ที่ตรงหน้าของเพื่อนๆที่เคยเล่นด้วยกันอย่างชัดแจ๋ว ส่วนพวกเขาต่างก็กำลังมองดูเธอขายหน้า
เจี่ยนถงรู้สึกสิ่งของทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ไม่ว่าจะคนก็ดี สิ่งของก็ดี ล้วนกำลังหมุนติ้วๆอย่างบ้าคลั่ง เธอแหงนหน้ามองฝ้าเพดานที่หมุนติ้วๆ พร้อมเริ่มพูดจาค่อนข้างเหลวไหลแล้ว “ปล่อยฉันไป ปล่อยฉันไป ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะ……”
ซูเมิ่งมองเจี่ยนถงที่เป็นแบบนี้แล้วเจ็บปวดใจจนหลับตาลง……เจี่ยนถง ยัยเด็กโง่คนนี้!
“ไม่อยากถ่ายรูปงั้นเหรอ?”ย่าคุนคว้าเหล้าขวดหนึ่งมาพร้อมนั่งยองๆ จากนั้นได้ยื่นมาที่ตรงหน้าของเจี่ยนถง “มาๆๆ ดื่มมันซะ แล้วพวกเราจะหยุดถ่าย”