Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป - บทที่ 1 ส่งเธอเข้าเรือนจำ
บทที่ 1 ส่งเธอเข้าเรือนจำ
“ไม่ใช่ฉัน คุณเชื่อฉันนะ” เจี่ยนถงจ้องมองคนในรถอย่างดื้อรั้น ฝนตกกระหน่ำ กระจกรถเปียกฝน เป็นภาพเบลอ สามารถมองเห็นใบหน้าเย็นชาที่อยู่ในรถอย่างคลุมเครือ เจี่ยนถงตัวสั่นเทา ยืนอยู่นอกรถ ตะโกนเสียงดังผ่านกระจกรถ “เสิ่นซิวจิ่น! อย่างน้อยคุณก็ฟังหน่อย!”
ประตูรถเปิดออกกะทันหัน เจี่ยนถงยังไม่ทันดีใจ พลังหนึ่ง กระชากเธอเข้าไปในรถอย่างแรง เธอกระแทกเข้าไปในตัว เสื้อเชิ้ตสีขาวที่แห้งสนิท เปียกเป็นบริเวณกว้างในทันที
“เสิ่นซิวจิ่น พวกนักเลงที่ทำร้ายเวยเหมิงฉันไม่ได้เป็นคนสั่งการ……” เจี่ยนถงเพิ่งพูด นิ้วเรียวที่ทรงพลัง ก็บีบคางของเธออย่างไร้ความปรานี เสียงไพเราะสุขุมอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ก็ดังมาจากเหนือหัว “เธอชอบฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอ”
น้ำเสียงที่เย็นชา พร้อมกลิ่นยาสูบจางๆ กลิ่นอายของเขา
“อะไร?” เจี่ยนถง สับสนเล็กน้อย เธอชอบเขา คนทั้งโลกรู้ ตอนนี้เขาทำไมถึงถามอย่างนี้กะทันหัน?”
ชายหนุ่มบีบคางของเจี่ยนถงไว้ แขนอีกข้างหนึ่ง เรียวยาวทรงพลัง ยื่นเข้าหาเธอ ปลายนิ้วแตะลงบนแก้มที่เปียกฝน แล้วดูหนาวเย็นของเธออย่างอ่อนโยน เจี่ยนถง หลงทาง จมเสียชีวิต อยู่ในแววตาที่อ่อนโยนราวกับสายน้ำคู่นั้น เธอเสมือนได้ยินประโยคถัดไป ชายคนนี้ถามเธอว่า “หนาวไหม”
ทันใดนั้นชายหนุ่มก็กระจายความเยือกเย็นออกมาทั้งตัว พูดอย่างเย็นชา “เจี่ยนถง คุณชอบฉันมากขนาดนี้เลยเหรอ? ชอบมากจนฆ่า เวยเหมิงทิ้งโดนไม่คิดจะเสียดายเลย?”
ความเยือนเย็น ทะลักออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ลามไปถึงแขนขากระดูกทั้งตัวชั่วขณะ เจี่ยนถง มีสติในทันที อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะเล็กน้อย……เธอก็ว่า ความอ่อนโยนของผู้ชายคนนี้ จะมอบให้กับเธอได้อย่างไร ที่แท้นั่นมันไม่ใช่ความอ่อนโยนอะไรเลย มันเป็นเพียงรอยยิ้มของซาตานเท่านั้น
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เวยเหมิงตายจริงๆ……” เธออยากจะอธิบายเพื่อตัวเอง
“ใช่ คุณไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ เวยเหมิงตาย คุณแค่ใช้เงินจ้างพวกนักเลง ให้พวกมันข่มขืนเวยเหมิง” ดวงตาของชายหนุ่มค่อยๆเผยความโกรธแค้น ไม่ให้เจี่ยนถง ได้มีโอกาสอธิบาย มือใหญ่กระชากเสื้อผ้าบนตัวของเจี่ยนถง ขาดหลุดลุ่ย
“อ๊าก~!”
พร้อมกับเสียงกรีดร้อง เจี่ยนถงถูกผลักออกจากรถอย่างไร้ความปรานี ล้มลงกลางสายฝนอย่างน่าอนาถ เสียงเย็นชาของชายหนุ่มที่ข้างหู เด่นชัดยิ่งนักในท่ามกลางเสียงฝนตก
“เจี่ยนถง คุณหนูเจี่ยน คุณทำยังไงกับเวยเหมิงฉันก็ทำยังไงกับคุณ ความรู้สึกที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยปกปิดร่างกายไม่มิดดีไหม?”
ฮึบ!
เจี่ยนถงเงยหน้าขึ้นกะทันหัน มองไปในประตูรถอย่างเหลือเชื่อ ชายคนนั้นนั่งอยู่ในรถ เหลือบมองเธออย่างไม่แยแส หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา แล้วค่อยๆเช็ดนิ้ว “คุณหนูเจี่ยน ตอนนี้ฉันเหนื่อยมาก เชิญคุณกลับไป”
เสิ่นซิวจิ่น คุณฟังฉัน! จริงๆฉัน……”
“จะให้ฉันฟังคำพูดของคุณหนูเจี่ยน ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นอย่างเฉยเมย เหลือบมองไปที่เจี่ยนถง
“ถ้าคุณหนูเจี่ยนยอมที่จะคุกเข่าตรงหน้าคฤหาสน์ตระกูลเสิ่นของฉันทั้งคืน บางทีฉันอารมณ์ดี อาจจะยินดีให้เวลา คุณหนูเจี่ยน สิบนาที”
ประตูรถปิดลงในทันที ผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่ง ถูกโยนออกจากรถ ร่วงโรยลงมาตรงหน้าของเจี่ยนถงโดนน้ำฝนทำให้เปียก”
เจี่ยนถงก้มหน้า หยิบผ้าเช็ดหน้าในน้ำฝน กำไว้ที่มืออย่างแน่น
รถขับเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลเสิ่น และประตูเหล็กของคฤหาสน์ตระกูลเสิ่น ก็ปิดลงในท่ามกลางสายฝนอย่างไร้ความปรานี ต่อหน้าเธอ
เจี่ยนถง ใบหน้าซีดเผือด เธอยืนอยู่พักหนึ่ง ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้น เดินไปที่หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลเสิ่น เม้มริมฝีปากแน่น เสียงดัง “เพี้ยะ” “เข่าก็กระแทกลงกับพื้น
เธอคุกเข่า!
ไม่ใช่เพราะไถ่โทษ!
เพียงเพราะ เซี่ยเวยเหมิงเป็นเพื่อนของเธอ! เพื่อนเสียชีวิต เธอควรคุกเข่าไว้อาลัยไม่ใช่เพราะทุกคนคิดว่าเธอทำให้เซี่ยเวยเหมิงตาย!
เธอคุกเข่า!
และคุกเข่าขอร้องให้ผู้ชายคนนี้ให้เวลาเธอสิบนาที ฟังเธอพูด!
เสื้อผ้าบนร่างกายถูกฉีกขาด เสียหายหมดสภาพ สามารถปกปิดส่วนสำคัญได้อย่างฉิวเฉียด สองมือของเธอปกปิดร่างกายไว้ แต่ตัวได้ตั้งตรงไว้ เธอหยิ่งทะนงตัว แม้ว่าเธอจะคุกเข่าไว้ เธอก็ทะนงตัวไม่จำนน! ศักดิ์ศรีของเธอ ความทระนงของเธอ เธอเจี่ยนถงแห่ง หาดเซี่ยงไฮ้!
เธอคุกเข่าลงอย่างดื้อดึง ขอเพียงโอกาสหนึ่งที่จะได้อธิบายให้ชัดเจนเท่านั้น เธอไม่เคยทำ เรื่องที่ไม่เคยทำเธอไม่ยอมรับ
แต่ จะมีโอกาสนี้จริงๆไหม?
สามารถอธิบายได้ชัดเจนจริงๆไหม?
แล้วมีคนเชื่อคำพูดเธอจริงๆไหม?
ฝนยิ่งตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่เคยหยุดเลย ตั้งแต่ต้นจนจบ
……
หนึ่งคืนผ่านไป
ท่ามกลางฝนกระหน่ำ เจี่ยนถงยังคงคุกเข่าอยู่นอกคฤหาสน์ตระกูลเสิ่น
สายฝนทำให้ชุดของเธอเปียกโชก เธอคุกเข่าท่ามกลางสายฝนตลอดทั้งคืน
ในที่สุดเช้าวันใหม่ก็มาถึง คฤหาสน์ตระกูลเสิ่นที่เงียบสงบทั้งคืน ในที่สุดก็มีชีวิตชีวา พ่อบ้านชราผมสีเงิน ถือร่มสีดำสมัยเก่า เดินออกมาจากคฤหาสน์
ประตูเหล็กที่ปิดตายตลอดคืน “ดังเอี๊ยด” เปิดช่องว่างออกไปทั้งสองข้าง ในที่สุดเจี่ยนถงก็มีความเคลื่อนไหว เงยหน้าขึ้นอย่างหมดอาลัยตายอยาก พ่อบ้านชราที่ยืนอยู่ตรงกลางประตูเหล็ก ระบายยิ้มอยากขาวซีด
“คุณเจี่ยน คุณเสิ่นให้คุณออกไปจากที่นี่” พ่อบ้านชราหวีผมอย่างพิถีพิถัน
แม้ว่าฝนจะตก ก็ไม่เห็นผมที่ยุ่งเหยิงสักเส้น เข้มงวดเหมือนกับต้นไม้ต้นหญ้าในคฤหาสน์ตระกูลเสิ่น ซึ่งมีใครตัดแต่งโดยเฉพาะ พ่อบ้านชราทิ้งเสื้อผ้าให้เจี่ยนถงชุดหนึ่ง
เจี่ยนถง ยื่นมือที่เปียกฝนมาตลอดทั้งคืน สวมใส่อย่างสั่นเทา ขยับริมฝีปากที่ขาวซีดไร้สีเลือดเล็กน้อย น้ำเสียงแหบแห้งและหนักแน่น “ฉันจะเจอเขา”
พ่อบ้านชราไม่แม้แต่จะยกหนังตาขึ้นเลย ถ่ายทอดพูดคำเดิมของเจ้าของคฤหาสน์ออกมาทีละคำไม่ตกหล่น “คุณเสิ่นบอกว่า การดำรงอยู่ของคุณเจี่ยน ทำให้สิ่งแวดล้อมของคฤหาสน์มีมลพิษ ให้คุณเจี่ยนอย่าปนเปื้อนสายตาของเขา”
ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ เจี่ยนถงไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอเลย ความเข้มแข็งที่เธอแสร้งทำขึ้นในตอนนี้ ยากนักที่จะรักษาไว้อีก ไหล่สั่นสะท้าน เผยให้เห็นหัวใจที่บาดเจ็บของเธอ
เจี่ยนถง หลับตาลง น้ำฝนเต็มใบหน้า ทำให้คนแยกไม่ออก ที่เปียกชื้นตรงหางตา ว่าคือน้ำฝนหรือน้ำตา พ่อบ้านชรามองเธอสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ เจี่ยนถง ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เงยหน้าขึ้นและพูดกับพ่อบ้านชราว่า “พ่อบ้านเซี่ย ไม่ว่าในใจคุณจะคิดยังไง ฉันไม่ได้จ้างนักเลงพวกนั้น ให้ทำลายความบริสุทธิ์ของเซี่ยเวยเหมิงไม่ว่าในกรณีใด ความเกลียดชังของคุณ ฉันไม่สามารถยอมรับได้ โดยไม่มีคำร้องเรียนใดๆ”
แม้ว่าเจี่ยนถงจะเหนื่อยล้า แต่ก็พูดออกมาทีละคำ ได้อย่างชัดเจน พูดชัดถ้อยชัดคำ……นี่คือผู้หญิงที่ยอมก้มหัวชั่วคราว แต่ก็เต็มไปด้วยความทระนง
ในที่สุดพ่อบ้านชราก็มีปฏิกิริยาอย่างอื่น นอกจาก “เฉยเมย” คิ้วสีเทาขมวดมุ่น แววตาที่จ้องมองเจี่ยนถงเต็มไปด้วยความรังเกียจ
“เวยเหมิงคือลูกสาวของฉัน เธอน่ารักเชื่อฟังตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยย่ามเข้าไปในสถานที่วุ่นวายและสกปรก อย่างพวกร้านบาร์สถานบันเทิงกลางคืน แต่เธอกลับถูกพวกนักเลงย่ำยีจนตาย ในสถานที่ที่พวกนักเลงชั้นต่ำเข้าออกแบบนั้น
คุณเจี่ยน เราตรวจสอบการประวัติการโทรของเธอ ก่อนเกิดเหตุ เธอเคยโทรหาคุณ ส่งข้อความถึงคุณ เนื้อหาของข้อความคือ ฉันมาถึง ‘เย่สื้อ’แล้ว เสี่ยวถง คุณอยู่ไหน?”
แววตาที่พ่อบ้านชราจ้องไปที่เจี่ยนถงเกลียดเธอถึงกระดูกดำ “คุณเจี่ยน ที่คุณทำให้ตายไม่ใช่ลูกหมาลูกแมว แต่คือคนตัวเป็นๆ! คนก็ได้ตายไปแล้ว คุณยังมาต่อล้อต่อเถียง! ใครก็รู้ว่าคุณเจี่ยนคลั่งไคล้คุณเสิ่น และในใจของคุณเสิ่น มีเพียงลูกสาวของฉัน เซี่ยเวยเหมิง เท่านั้น ขยะแขยงในความหลงใหลคลั่งไคล้ของคุณยิ่งนัก คุณอิจฉาเวยเหมิงชัดๆ แล้วยังปรารถนาแต่ไม่สมหวังต่อคุณเสิ่น เลยอยากจะทำลายความบริสุทธิ์ของ เวยเหมิง ความร้ายกาจของคุณเจี่ยน ให้คนไม่กล้าสรรเสริญ!”
เจี่ยนถงไร้คำพูดไร้คำตอบ เซี่ยเวยเหมิงเป็นลูกสาวของ พ่อบ้านเซี่ย เป็นสุดที่รักของเสิ่นซิวจิ่น ส่วนเธอ เจี่ยนถง เป็นนางรองที่รักเสิ่นซิวจิ่นข้างเดียว ตอนนี้ล่ะ เซี่ยเวยเหมิงตายไป เธอเจี่ยนถง ไม่เพียงเป็นนางรองเท่านั้น แต่ยังเป็นนางรองที่อำมหิตอีกด้วย
“คุณเจี่ยน เชิญคุณออกไป” พ่อบ้านชราพูดขึ้น “ใช่แล้ว คุณเสิ่น ให้ฉันฝากบอกคุณเจี่ยน คำหนึ่ง”
เจี่ยนถงมองไปที่พ่อบ้านชราในทันที
“คุณเสิ่นบอกว่า คนที่ตายไปทำไมไม่ใช่คุณ?”
ร่างที่คุกเข่าบนพื้นของเจี่ยนถง ประคับประคองไม่ไหว เริ่มสั่นสะเทือน ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงส่งมาจากหัวใจ
พ่อบ้านชราหันกลับไป มุมปากที่เหี่ยวย่น ยกโค้งขึ้นอย่างเยือกเย็น ทำให้หน้าที่เคร่งขรึม ดูเย็นชาและโหดร้าย
เวยเหมิงถูกเจี่ยนถงทำให้ตาย เขาเจ็บใจ เขาเกลียดความอำมหิตของ เจี่ยนถง
เจี่ยนถงพยุงร่างที่เย็นจนถึงกระดูก ยืนขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซ เพิ่งจะยืนขึ้น ขาชาจนกระแทกสะโพกลงบนพื้นยางมะตอยที่แข็งและเย็นในทันที หัวเราะเยาะตัวเอง……คนที่ตายไป ทำไมไม่ใช่คุณ?
เหมือนกับคำพูดที่ผู้ชายคนนั้นจะพูดได้จริงๆ เจี่ยนถง เผยรอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้ “เวยเหมิงเอ้ยเวยเหมิง ความตายของคุณ ฉันกลายเป็นโดนผู้คนนับพันประณามชี้หน้าด่ากราด”
บนชั้นสองของคฤหาสน์ตระกูลเสิ่น ชายหนุ่มรูปร่างสูงตระหง่าน สัดส่วนได้รูป ชุดนอนสีดำปกคลุมไว้บนตัวตามอำเภอใจ โดยเท้าเปล่า ร่างสูงใหญ่ที่เย้ายวน ยืนเงียบสงบอยู่ตรงหน้าหน้าต่างบานใหญ่ จ้องมองนอกของคฤหาสน์อย่างเย็นชา เงาด้านหลังท่ามกลางสายฝนนั้น
“คุณเสิ่น คำพูดที่คุณกำชับ ได้ส่งต่อให้กับ คุณเจี่ยน โดยไม่ตกหล่นสักคำ” พ่อบ้านชราขับไล่เจี่ยนถงออกไป ยืนอยู่ที่ประตูห้องนอนใหญ่อย่างเงียบๆ
เสิ่นซิวจิ่นเขย่าแก้วไวน์ในมือ เมื่อได้ยินคำพูดของพ่อบ้านชรา ถึงได้ดึงสายตาที่จ้องมองเจี่ยนถงอย่างไม่แยแส ฝีปากบางๆ ได้ออกคำสั่งชุดหนึ่งอย่างเย็นชา “แจ้งคนในตระกูลเจี่ยน ต้องการได้ เจี่ยนถง ก็ไม่มีตระกูลเจี่ยนต้องการตระกูลเจี่ยน ต่อจากนี้ไป ตระกูลเจี่ยนก็ไม่มีคนที่ชื่อเจี่ยนถง”
“ครับ”
ข้อสอง แจ้งมหาวิทยาลัย S มหาวิทยาลัย S ไม่มีประวัติของ เจี่ยนถง แจ้งโรงเรียนมัธยมที่หนึ่ง เจี่ยนถงถูกไล่ออกจากโรงเรียนเพราะความสำส่อนและทะเลาะวิวาทระหว่างเรียน การศึกษาสูงสุดของเธอ มัธยมต้น”
“ครับ”
“ข้อสุดท้าย” เสิ่นซิวจิ่นพูดอย่างเย็นชา “ส่งเธอเข้าเรือนจำ”
พ่อบ้านชราได้ยินแล้ว ก็เงยหน้าขึ้นกะทันหัน ตะลึงไปชั่วขณะ “คุณเสิ่น?”
“ฆ่าคนชดใช้ด้วยชีวิต จ้างคนฆ่าผู้อื่น ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่งเธอเข้าเรือนจำ ติดคุกกินข้างแดงสามปี ทำไม? พ่อบ้านเซี่ยคิดว่าฉันทำไม่ถูก?” เวลาสามปีนี้ คือเสิ่นซิวจิ่น กำหนดให้กับเจี่ยนถงหลักฐานที่มีอยู่ไม่เพียงพอ แต่เสิ่นซิวจิ่นมั่นใจอย่างโกรธแค้น
“ไม่ คุณเสิ่นทำได้ถูกต้องมาก…… ขอบคุณคุณเสิ่น ฮืมไป” พ่อบ้านชราน้ำตาไหลพราก ถึงกับร้องไห้ออกมา “ถ้าไม่ใช่คุณผู้ชาย ความผิดที่ เจี่ยนถงกระทำต่อเวยเหมิงจะไม่ได้รับการลงโทษแน่นอน เจี่ยนถงเป็นคนของตระกูลเจี่ยน ฉันไม่สามารถทำอะไรกับ เจี่ยนถงได้เลย ขอบคุณคุณผู้ชาย ขอบคุณคุณผู้ชาย ฮืมๆๆ~”
เสิ่นซิวจิ่นหันกลับไป ยืนอยู่ตรงหน้าหน้าต่างบานใหญ่ มองไปที่ถนนยางมะตอยด้านล่าง เงาร่างนั้นหายไปตรงทางโค้ง ใต้ตามืดครึ้ม นิ้วเรียวจับแก้วไวน์ไว้ ไวน์สีแดงสด กลืนลงไปในท้อง ไม่เหลือสักหยด
“พ่อบ้านเซี่ย ฉันลงมือสั่งสอนเจี่ยนถงไม่ใช่เพราะว่าเวยเหมิงเป็นลูกสาวของคุณ แต่เป็นเพราะว่า เวยเหมิงเป็นผู้หญิงที่ฉันถูกใจ” เสิ่นซิวจิ่นค่อยๆพูดขึ้น
……
เจี่ยนถงลากร่างที่อ่อนล้า กลับไปถึงตระกูลเจี่ยน
ไม่สามารถก้าวเข้าไปในประตูบ้านของ ตระกูลเจี่ยน อีกต่อไป พ่อบ้านชราที่รับใช้ตระกูลเจี่ยนมาตลอดชีวิต ได้ฝากคำพูดเดิมของ เสิ่นซิวจิ่นมาให้ เจี่ยนถง ก็ถูก “เชิญ” ออกจากตระกูลเจี่ยนอย่างอ้อมค้อม ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอไม่เห็นแม้แต่เงาของพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเลย
หวาดกลัวเสิ่นซิวจิ่นขนาดนั้นเลยหรือ? เจี่ยนถงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย…… ดึงสายตากลับมา ประตูเหล็กบานนั้น ตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับตระกูลเจี่ยน ตัดขาดทุกสิ่งที่เป็นของเธอในอดีต
เจี่ยนถงพูดไม่ออก ว่าตอนนี้คือความรู้สึกอย่างไร ทันทีที่หันกลับไป ก็มีชายสองคนในเครื่องแบบตำรวจขวางเธอไว้ “คุณเจี่ยน เนื่องจากคุณจ้างคนและสั่งการให้คนอื่นทำลายความบริสุทธิ์ของคุณ เซี่ยเวยเหมิง ทำให้คุณ เซี่ยเวยเหมิง เสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ ตอนนี้เชิญ คุณไปกับเรา”
ก่อนที่จะถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ เจี่ยนถงได้พบกับเสิ่นซิวจิ่น ผู้ชายคนนั้น รูปร่างที่กำยำ ได้ยืนอยู่ข้างหน้าต่าง
เจี่ยนถงส่ายหัวและพูดอย่างหนักแน่น “ฉันไม่เคยทำร้ายเวยเหมิง”
ร่างสูงตระหง่านของเสิ่นซิวจิ่นเดินขึ้นไปหา เจี่ยนถงอย่างใจเย็น เจี่ยนถงบอกตัวเองว่าไม่ต้องกลัว เธอบริสุทธิ์ เธอไม่ได้ทำผิด
ใบหน้าเล็กที่บอบบางประณีต เงยขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว พยายามตั้งสติ แต่ไหล่ที่สั่นไหว ก็ยังคงทรยศความตื่นเต้นของเธอ……ทั้งหมดนี้ถูกจับโดยดวงตาคู่คมเฉียบ
…………….