Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป - บทที่ 71 เจี่ยนถงโมโห
บทที่ 71 เจี่ยนถงโมโห
“คุณบอกว่าคุณช่วยฉันขอร้อง คุณขอร้องแล้วหรอ? คุณอยากจะแสดงความเมตตาของคุณ?
เจี่ยนถง คนไม่เมตตาที่สุดก็คือคุณ!”
ฉินมู่มู่พอเข้าประตู ก็แสดงความโกรธในใจออกมา
“คุณมีความสัมพันธ์กับบอสใช่ไหม? ในเมื่อคุณมีความสัมพันธ์กับบอส ทำไมยังจะยั่วยวนผู้ชายไปทั่ว ทั้งเซียวเหิง และผู้ชายต่างชาติคนนั้นเมื่อสักครู่อีกด้วย
คุณดูกล่องเสียงของฉัน ฟังเสียงของฉัน ถ้าหากคุณขอร้องให้ฉันละก็ กล่องเสียงของฉันจะสำลักเลือดไหลจนหายใจไม่ออกแบบนี้ไหม!
หมอบอกว่ากล่องเสียงของฉันต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนานมากถึงจะหายดี ถึงแม้จะหายดีแล้ว ก็ไม่หายเป็นปกติเหมือนเมื่อก่อน!
คุณบอกว่าคุณจะช่วยฉันขอร้องไม่ใช่หรอ?
ถ้างั้นฉันขอร้องคุณ ฉันแทบจะก้มหน้ายอมรับผิดต่อคุณ ดูผิวเผินแล้วคุณบอกจะช่วยฉัน แต่จริงๆแล้วคุณไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเลย!
เจี่ยนถง ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงหน้าไหว้หลังหลอกอย่างเธอมาก่อน! น่าขยะแขยง เสแสร้งและดัดจริต! ”
เจี่ยนถงไม่ได้ขัดจังหวะของฉินมู่มู่ ท่าทีไม่ยินดียินร้าย ไม่โกรธไม่โมโหหน้าผากยังร้อนอยู่ เธอค่อยๆยื่นมือมาลูบที่หน้าผาก ทันใดนั้น เงยหน้าขึ้นมามองฉินมู่มู่ที่กำลังโกรธจัด พูดด้วยเสียงที่เกรี้ยวกราด
“ คุณก็ยังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่หรือ?”
“คุณหมายความว่าอะไร” ฉินมู่มู่ชะงัก เบิกตากว้าง จ้องมองเจี่ยนถงด้วยความไม่เชื่อ “เจี่ยนถง! คุณยังหวังอยากจะให้ฉันตายหรอ!”
เสียงกรีดร้องอยู่ข้างหู เจี่ยงถงยิ้มเล็กน้อย
“ฉินมู่มู่ คุณคงรู้สึกว่า ที่คุณต้องทนทุกข์อยู่แบบนี้ ล้วนเป็นเพราะฉันทำร้ายเธอใช่ไหม?”
“ไม่ใช่คุณ ฉันจะกลายเป็นแบบนี้? ฉันจะถูกไล่ออกจากตงหวง? คุณรู้ไหม ตัวคนเดียวอยู่ต่างประเทศ ต้องหางานพาร์ทไทม์เพื่อหาค่าครองชีพและค่าเล่าเรียนเพื่อเรียนมหาลัย! คุณรู้ไหมว่าการมีชีวิตอยู่มันไม่ง่ายเลย?”
เจี่ยนถงอยากจะหัวเราะจากใจ
“ที่แท้คุณก็รู้ การดำเนินชีวิตมันไม่ง่ายเลย ฉินมู่มู่ การมีชีวิตมันไม่ง่าย ทำไมคุณถึงอยากทำลายมัน?”
“คุณไม่ช่วยฉันก็ได้ แต่คุณรับปากแล้วว่าจะขอร้องให้ฉัน แต่ไม่เลย เจี่ยนถง ถ้าคุณไม่ยินดีที่จะขอร้องให้ฉัน ทำไมต้องสัญญาต่อหน้าฉัน คุณอยากเป็นคนดีและแสร้งทำเป็นคนเมตตาอยากได้คำขอบคุณจากฉัน แต่ก็ไม่ไปช่วยฉันขอร้อง
เจี่ยนถง คุณน่ากลัวมาก! ”
เจี่ยนถงหลับตาลง เธอเหนื่อยมาก ก่อนหน้านั้นก็มีคุณชายคาย์อัน เขาไม่สนใจว่าเธอยินยอมหรือไม่ยินยอมให้แตะต้องบาดแผล… จูบนั้น ไม่เพียงแค่แตะบาดแผลที่หน้าผากเท่านั้น
ต่อมาฉินมู่มู่ก็โวยวายอย่างไม่มีเหตุผล ถ้าหากเปลี่ยนเป็นเวลาอื่น เจี่ยนถงก็ยังคงเป็นเจี่ยนถงคนที่ได้แต่รับปาก แต่ตอนนี้ไม่ได้
เธอแค่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว เพื่อซ่อนตัวเอง ไม่อยากคิดอะไร ไม่ทำอะไรเลย
“ถ้าหากพูดตามเหตุผลละก็ คุณทำร้ายฉันก่อน ฉันสามารถเมินเฉยความเป็นความตายของคุณได้อย่างสิ้นเชิง” เจี่ยนถงค่อยๆพูดขึ้น “ถ้าหาก คุณมีอคติกับฉัน ก็เป็นเหตุผลที่คุณสามารถทำร้ายฉันได้ทุกเมื่อละก็ ถ้างั้น ฉันคิดว่า ฉันก็สามารถตอบแทนสิ่งที่คุณทำกับฉัน
ยิ่งไปกว่านั้น คุณคิดว่าเวลานี้คุณสามารถยืนอยู่ตรงหน้าฉันได้อย่างปลอดภัย เพราะอะไร?”
เธอหัวเราะเบา ๆ “หรือคุณจะไปกวนประสาทบอสอีกครั้ง คุณคิดดู ครั้งต่อไปเขาจะจัดการคุณด้วยวิธีไหน”
คำพูดไม่จำเป็นต้องพูดมาก
ถ้าหากฉินมู่มู่ยังไม่เข้าใจ ไม่ก็ ไม่เข้าใจจริงๆ หรือไม่ก็ ฉินมู่มู่ตัวเขาเองไม่อยากเข้าใจ
“ฉัน ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร เจี่ยนถงคุณนี่น่าแปลกนะ พูดคำพูดแปลกประหลาดพวกนี้ คุณไม่อยากช่วยฉันก็แล้วไป ไม่จำเป็นต้องพูดคำพูดแปลกประหลาดที่เข้าใจยากพวกนี้ลบล้างข้อสงสัยของตัวเอง”
ถ้าหากพูดถึง “ผู้ต้องสงสัย” คำนี้ละก็ สำหรับคนทั่วไปมันเป็นเพียงความหมายที่เรียนในหนังสือเรียนภาษาจีนและไม่ได้มีความหมายมากนัก แต่สำหรับเจี่ยนถงคำว่า “ผู้ต้องสงสัย” ประโยคนี้เธอรู้สึกทั้งกลัวทั้งเกลียด
สีหน้าของเขาซีดลงอย่างรวดเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองไปหาฉินมู่มู่ แม้แต่เสียงเกรี้ยวกราด ก็รู้สึกแหลมคม
แต่น้ำเสียงของเธอที่เกรี้ยวกราดขนาดนั้น แม้ว่าจะเสียงแหลม แต่ก็ทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ลงรอยกันอย่างแปลกประหลาด
“ผู้ต้องสงสัย? ฉินมู่มู่” ขณะนี้เจี่ยนถงเดินเข้าไปใกล้มาหาฉินมู่มู่อย่างโกรธ “คุณรู้ความหมายของคำว่า ‘ผู้ต้องน่าสงสัย’ ไหม?
ผู้ต้องสงสัย?
สงสัยอะไร?
ฉันต้องลบล้างข้อสงสัยอะไร?
ฉันเป็นคนทำร้ายคุณหรอ?
ฉันเป็นคนไปฟ้องเรื่องของคุณหรอ?
ฉินมู่มู่ คุณไม่ขายหน้าบ้างหรอ?
คุณให้ร้ายคนอื่น แต่กลับเผยพิรุธ พอคุณเผยพิรุธออกมา พอถูกบริษัทตรวจเจอ คุณกลับหันมาโทษฉันว่าฉันไม่ขอร้องให้คุณ? ฉินมู่มู่ สรุปแล้ว ใครเป็นคนที่ให้ความกล้าที่โง่เขลาอย่างนี้กับคุณ?
สรุปแล้วใครเป็นคนให้คุณกันแน่ สิทธิ์ที่ได้คืบจะเอาศอกครั้งแล้วครั้งเล่า?”
“คุณ คุณ … คุณ … ” ฉินมู่มู่ชะงัก ทุกคำพูดของเจี่ยนถง บีบจนเธอถอยหลังไปหนึ่งก้าว เจี่ยนถงก้าวเข้ามาทีละก้าว ทุกก้าวก็ทำเอาฉินมู่มู่ถอยหลัง เจี่ยนถงที่อยู่ต่อหน้าคนนี้..ทำไมไม่เหมือนกับเจี่ยนถงคนเดิม?
“อ๊ะ !!! เจี่ยนถง! ฉันรู้อยู่แล้ว! ฉันรู้อยู่แล้ว! คุณก็แค่แกล้งทำ! เธอที่หน้าตาน่าสงสารคนนั้น ก็คือเสแสร้ง!
ที่นี่ไม่มีผู้ชาย ไม่มีคุณชายเซียว ไม่มีบอส ส่วนฉันก็ถูกไล่ออกจากตงหวง คุณคิดว่า อยู่ต่อหน้าฉันคุณไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งทำต่ออีก เพราะไม่มีใครสามารถเปิดโปงการกระทำของคุณแล้ว???”
เจี่ยนถงหยุดชะงัก มองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าตัวเองคนนี้…ไม่ เธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงแล้ว มองเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นเวลานาน ทันใดนั้นเธอก็หัวเราะ เสียงหัวเราะกับก่อนหน้านั้นไม่เหมือนกัน ครั้งนี้เธอหัวเราะออกมาเสียงดัง เสียงนั้นไม่น่าฟังจนฉินมู่มู่ต้องอุดหูไว้
“มีอะไรน่าหัวเราะ เพราะทุกอย่างถูกฉันมองออกแล้วใช่ไหม?”
เจี่ยนถงมองฉินมู่มู่ด้วยหางตา ส่ายศีรษะ ชัดถ้อยชัดคำ พูดอย่างไม่รีบไม่ร้อนว่า “ฉันอยากพักผ่อนแล้ว คุณไปเถอะ”
“คุณไล่ฉันไป? ฝันไปเถอะ! คุณทำให้กล่องเสียงของฉันเป็นอย่างนี้ หมอบอกแล้ว ต้องพักผ่อนอีกนานกว่าจะฟื้นฟูเป็นปกติ ถึงจะฟื้นฟูก็ไม่สามารถเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เดี๋ยวนี้คุณก็อยากจะไล่ฉันไป ?”
ได้ยินฉินมู่มู่พูดถึงกล่องเสียงของเธออีกครั้ง เจี่ยนถงรู้สึกฝืดๆในลำคอขึ้นมา…เมื่อก่อนเธอ ก็มีกล่องเสียงที่ดีมาก “เรื่องบางเรื่องไม่มีคำว่าเพราะอะไร ไม่มีเหตุผลที่ที่จำเป็นต้องพูด เพียงแค่คุณ กล่องเสียงเสียเพียงชั่วคราว คุณควรรู้สึกถึงความโชคดี ความเสียหายนี้ ไม่ใช่ตลอดไป ”
หลังจากที่เธอพูดประโยคที่ไม่ชัดเจนนี้จบ ไม่ได้ให้โอกาสฉินมู่มู่ได้พูด แล้วถามต่ออีกครั้งหนึ่ง “คุณไม่ไปจริงๆ?”
“คุณอย่าคิดที่จะไล่ฉันไป”
เจี่ยนถงพยักหน้า หยิบมือถือขึ้นมา โทรไปหาซูเมิ่ง “พี่เมิ่ง ฉันอยากรบกวนท่านฝากคำพูดไปให้บอส คือว่า ฉันอยากจะถอนคำพูดที่ตอนแรกขอร้องให้บอสไว้ชีวิตฉินมู่มู่ ด้วยเหตุนี้ ฉันยอมชดใช้ทุกอย่าง”
ฉินมู่มู่ฟังแล้ว สีหน้าขาวซีด “เจี่ยนถง อย่านะ!”
โทรศัพท์มือถือของเจี่ยนถงยังไม่ได้วางสาย มองไปที่ฉินมู่มู่แล้วพูดกับซู่เมิงที่อยู่ในสายว่า “พี่เมิ่งโปรดรอสักครู่”
จากนั้นก็หันมามองฉินมู่มู่อีกครั้ง แล้วค่อยๆถามว่า
“ตอนนี้คุณเข้าใจคำพูดก่อนหน้านั้นของฉันแล้วใช่ไหม?”
ฉินมู่มู่สีหน้าซีดเซียว มองโทรศัพท์ในมือของเจี่ยนถงอย่างกังวล ถึงแม้ในสายตาเธอยังรู้สึกไม่พอใจ แต่แล้วก็ต้องพยักหน้า
เจี่ยนถงคุยโทรศัพท์ต่อ “พี่เมิ่ง ขอโทษด้วย เรื่องที่พูดกับท่านเมื่อสักครู่ ฉันยังไม่ได้คิดให้ดี ตอนนี้ก็อย่าพึ่งพูดกับบอสนะ”
เจี่ยนถงพูดอย่างอ้ำอึ้ง แต่ฉินมู่มู่อยากจะหาโอกาสพูดแทรก ก็ไม่มี การพูดของเจี่ยนถงก็ไม่ได้พูดเร็วมาก แต่ไม่ยอมให้ใครขัดจังหวะได้
“ฉินมู่มู่ ฉันกับคุณ เป็นเพียงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน ฉันไม่ได้ติดค้างคุณ จุดนี้ คุณเคยคิดไหม? ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่ติดค้างคุณ
จะช่วยคุณหรือไม่ช่วย อยู่ที่ความสมัครใจของตัวฉันเอง “