Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป - บทที่ 73 ฟังคำเตือนของพี่เมิ่งอยู่ห่างจากผู้ชายคนนั้นไกลหน่อย
- Home
- Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป
- บทที่ 73 ฟังคำเตือนของพี่เมิ่งอยู่ห่างจากผู้ชายคนนั้นไกลหน่อย
บทที่ 73 ฟังคำเตือนของพี่เมิ่งอยู่ห่างจากผู้ชายคนนั้นไกลหน่อย
“ พี่เมิ่ง ให้”
ซูเมิ่งผงะไปชั่วขณะ มองไปที่ธนบัตรบนโต๊ะ ในสมองมีแต่ความว่างเปล่า “นั่นมาจากไหน?”
ปฏิกิริยาแรกคือ ใครเป็นคนจัดการงานให้เจี่ยนถง?
เจี่ยนถงก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็เอาเรื่องที่เกิดขึ้นในเมื่อคืนพูดคร่าวๆให้ซูเมิ่งฟัง พอฟังจบ คิ้วของซูเมิ่งก็ขมวดขึ้น กลายเป็นเนินเขา
“คือเขา?” เธอก็มองไปที่เจี่ยนถงอีกครั้ง “เสี่ยวถง ฉันเคยบอกคุณแล้วไม่ใช่หรอ อย่าเข้าใกล้คนคนนี้?”
“แต่ว่า เขาให้เงินฉัน”
แต่ว่า เขาให้เงินฉัน…ถ้าหากไม่ใช่เข้าใจเจี่ยนถงคนนี้ ไม่ใช่รู้ว่าในนี้ยังมีหลายๆเรื่องที่ไม่สามารถให้คนนอกรู้ได้ คิดว่า ทุกคนที่ฟังคำพูดนี้ออกจากปากเจี่ยนถง เวลาพูดคำพูดนี้ออกมา ก็ต้องคิดว่า เจี่ยนถงก็เป็นผู้หญิงที่เห็นแก่เงิน
ทันใดนั้น ทำเอาซูเมิ่งเป็นใบ้พูดไม่ออก
เธอรู้ดีว่า ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอคนนี้ ที่ยืนอยู่ตรงมุม เหมือนกับไม่มีความรู้สึกถึงการมีชีวิตอยู่ ยิ่งเข้าใจกว่านั้น ผู้หญิงที่ไม่มีความรู้สึกคนนี้ นิสัยดื้อรั้นมาก
“เจี่ยนถง มา” ซูเมิ่งมองไปที่เจี่ยนถง รู้สึกเหมือนมีบางอย่างจะพูด ตัวเองควรจะชี้แนะเธอสักหน่อย เธอยื่นมือไปกดไหล่เจี่ยนถงไว้ ให้เธอมาอยู่ข้างๆ แล้วโอบเจี่ยนถง
“คุณเชื่อฟังพี่เมิ่งนะ ต่อไปนี้ไม่ต้องมีความผูกพันใดๆกับคนคนนี้อีก พี่เมิ่งถึงแม้จะไม่ได้เจอผู้คนมากมายในโลกนี้ แต่ในตงหวงพี่เคยเห็นผู้ชายมาทุกรูปแบบ
เจี่ยนถง คุณชายคาย์อันที่คุณพูดถึง รับปากกับพี่เมิ่งได้ไหม อย่าไปพบเขาอีก ถึงแม้เขาจะจ่ายเงินให้อีกก็ตาม”
เจี่ยนถงนิ่งเงียบสักพักเงยหน้าขึ้น พูดกับซูเมิ่งอย่างจริงใจ “พี่เมิ่ง ฉันทำไม่ได้”
ซูเมิ่งจับไหล่ของเธอไว้ “คุณเชื่อฟังพี่เมิ่งสักครั้ง”
เจี่ยนถงส่ายศีรษะอย่างหนักแน่น “ขอโทษค่ะ พี่เมิ่ง ฉันทำไม่ได้ ฉันขาดเงิน ประธานเสิ่นพูดแล้ว ภายในหนึ่งเดือนเอาห้าล้านออกมาได้ ต่อไปฉันก็จะมีสิทธิที่เลือกว่าจะอยู่หรือจะไป เขาจะไม่ทำให้ฉันลำบากใจ
พี่เมิ่ง เขาพูดได้ทำได้
ทั้งชีวิตนี้ของฉัน ช่วงแรกของชีวิตก็อาศัยเขา ช่วงหลังของชีวิต จะไม่เอาเขาแล้วได้หรอ?”
เจี่ยนถงก็ไม่ได้เล่ารายละเอียดบุญคุณความแค้นระหว่างเธอกับเสิ่นซิวจิ่น ซูเมิ่งไม่ได้ถาม เธอก็ไม่อยากพูด
แต่ว่า ชีวิตนี้ ช่วงแรกของชีวิตทุกที่เต็มไปด้วยเงาของเสิ่นซิวจิ่น แต่ช่วงหลังของชีวิต เธอกลัวแล้ว เหนื่อยแล้ว ล้าแล้ว เบื่อแล้ว อยากจะปล่อยวางแล้ว
ที่จริง ช่วงเวลาที่ไม่มีเสิ่นซิวเสิ่น ก็ไม่ได้ลำบากอย่างที่เธอคิดไว้
ชีวิตที่อยู่ในคุกสามปี ไม่มีเสิ่นซิวจิ่น สามปีก็ยังผ่านมาได้แล้ว
“ พี่เมิ่งฉันรู้ พี่หวังดีกับฉัน ฉันรู้ดี คุณชายคาย์อันคนนั้นอันตรายมาก ฉันก็รู้ แต่ว่าพี่เมิ่ง ท่านยังจำได้ไหม ตอนที่ฉันเข้างานวันแรก คำพูดที่พูดกับพี่คำนั้นไหม?
ฉันพูดว่า ถ้าหากขายได้ละก็ ฉันยอมอ้าขาสองข้าง และบอกยินดีต้อนรับ”
ความขมขื่นเล็กน้อยปรากฏขึ้นในแววตาของเธอ เธอลืมตาขึ้น เธอตัดสินใจอย่างมุ่งมั่นเด็ดขาด
“ดังนั้น ไม่ว่าคุณชายคาย์อันคนนั้นคิดอยากทำอะไร ไม่ว่าเขามีจุดมุ่งหมายอะไร แม้ว่าคุณชายคาย์อันอยากจะลิ้มรสอะไรเป็นพิเศษ ขอให้ฉันเจี่ยนถงมี ฉันก็ยินยอมที่จะเอาออกมาขาย … รวมถึงร่างกายที่ทรุดโทรมของฉันด้วย แม้แต่ รวมถึงไตอันเดียวที่ฉันยังเหลืออยู่”
เธอไม่รู้เธอ พูดแบบนี้ พี่เมิ่งจะเข้าใจหรือเปล่า
แต่เธอก็ยังคงทะนุถนอมดูแลเธออยู่เสมอ … โชคชะตาที่จะทำให้พี่เมิ่งผิดหวัง
หัวใจของซูเมิ่งหนักอึ้งอย่างไม่มีเหตุผล สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อเจี่ยนถงเข้ามาทำงาน ครั้งแรกที่จากปากของเจี่ยนถง ได้ยินคำพูดนั้น ตัวเองยังรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงที่รูปร่างไม่ดี ซึ่งเธอรู้ข้อบกพร่องของตัวเองดี
ในตอนนั้นในใจเธอยังชมเจี่ยนถงรู้ประสีประสา
แต่ในขณะนี้ เมื่อตอนที่เธอได้ยินประโยคนี้ เธอถึงเข้าใจ ที่แท้ คำพูดพวกนั้น ไม่ใช่แค่คำพูด เบื้องหลังของมันมีสิ่งที่ทำอะไรไม่ถูกอยู่มากมาย
“ ฉันขาดเงิน ขาดมากขาดมาก เหลือแต่ร่างกายที่ทรุดโทรม ถึงคุณชายคาย์อันไม่มีเจตนาดี แล้วยังไง? ฉันก็เหลือแค่ร่างกายที่ทรุดโทรมเหลือแค่นี้แล้ว เขาอยากได้ ก็เอาไป”
ซูเมิ่งหายใจยังเจ็บปวด … ฉันเหลือเพียงร่างกายที่ทรุดโทรม หากเขาคิดจะหลอกฉัน จะหลอกอะไรได้?
“ไม่มีอะไรดี ไม่มีอะไรสักอย่าง ฉันไม่กลัว”
หลังจากเจี่ยงถงพูดคำนี้จบ เธอก็ขอให้ซูเมิ่งช่วยใส่เงินลงในการ์ด เจี่ยนถงเดินออกไป
ทิ้งซูเมิ่งไว้ในห้องทำงาน มองธนบัตรบนโต๊ะทำงาน ดูไปสักพักใหญ่ๆ สุดท้าย นัยน์ตาก็ค่อยๆกะพริบเล็กน้อย เธอก็เอาเงินนั้นใส่เข้าไปในตู้นิรภัย แล้วหยิบสมุดบัญชีออกมาเล่มหนึ่ง จดจำนวนเลขไว้
“เจี่ยนถง ฉันขอโทษนะ สิ่งที่ฉันสามารถช่วยเธอได้ก็มีเท่านี้” เสิ่นซิวจิ่นคนนั้นในเมื่อเคยพูดไว้แล้ว อย่าเอางานให้เจี่ยนถงอีก
ก็คือตัดสินใจกำหนดเวลาให้เจี่ยนถง หาเงินห้าล้าน แต่ในความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้นก็คือเสิ่นซิวจิ่นตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่เคยคิดจะให้เจี่ยนถงโบยบินสู่ฟ้า
สิ่งที่ซูเมิงสามารถทำได้ ก็คือช่วยเจี่ยนถงเก็บเงินแต่ละก้อนๆไว้ เก็บขึ้นมา จนถึงหนึ่งเดือนที่เสิ่นซิวจิ่นกำหนดไว้มาถึง
วันนั้น ถ้าหากครบห้าล้านแล้ว ถ้างั้น ซูเมิ่งค่อยเอาเงินเข้าการ์ดทันที ค่อยเอาการ์ดอันนั้นคืนให้เจี่ยนถง
ถ้าอย่างนั้น เจี่ยนถงก็สามารถถือการ์ดใบนี้ ไปหาเสิ่นซิวจิ่นได้อย่างสง่าผ่าเผย อย่างนั้น เด็กผู้หญิงโง่คนนี้ ก็มีโอกาสและเหตุผลพอที่จะไป
……
ในห้องน้ำ เจี่ยนถงล็อกประตู หลังเธอพิงกับประตู เงยศีรษะมองเพดานอย่างเหม่อลอย……คำพูดของพี่เมิ่ง ยังดังก้องอยู่ในหู
แต่ว่า……ฉันไม่มีอะไรเลย ฉันกลัวอะไรอีก?
เธอหัวเราะเยาะตัวเอง หยิบมือถือขึ้นมา กดเปิดปฏิทิน กำหนดหนึ่งเดือน……ไม่รู้มาก่อน เวลาหนึ่งเดือนสั้นขนาดนี้ ห้าล้าน เธอจะเอาห้าล้านมาจากไหน?
ไม่ดูโทรศัพท์แล้ว ก้มหน้าเดินออกมาจากห้องน้ำ
ห้องน้ำชั้นสุดท้ายของตงหวง เป็นห้องน้ำรวมชายหญิง แต่ว่าแต่ละห้องเป็นห้องเดี่ยว ซ่อนความลับได้ดีเลิศ
ก้มศีรษะเดินออกมา…… “พลั่ก” เสียงนี้ ชนคนเข้า
“ขอโทษ ขอ……”
“ผมสังเกตว่า ทุกครั้งที่พบคุณ ล้วนจะได้ยินคุณพูดขอโทษ คุณชอบขอโทษเป็นพิเศษใช่ไหม?” ได้ยินเสียงของผู้ชายดังขึ้น ทันใดนั้นเจี่ยนถงเงยศีรษะขึ้น “คือ……คุณชายเซียว ขอโทษ ฉันไม่ทันมองทางชนถูกคุณเข้า”
เธอพูดขอโทษจบ เตรียมตัวจะเดินไป แขนข้างหนึ่งยื่นมาขวางเธอไว้ แขนข้างนั้นแค่ใช้แรง ก็ดึงเธอกลับมา “เฮ้ย ทำไมเจอผมก็จะไปแล้ว? คุณรำคาญผมมากหรอ?”
เซียวเหิงขวางคนไว้ อีกข้างหนึ่งก็รีบมากอดเอว มือทั้งสองข้างจับเอวของเจี่ยนถงไว้ และดึงเธอเข้ามาใกล้ตัวเอง
“ไปเถอะ ไปทานข้าวเป็นเพื่อนผม”
เอาแต่ใจขนาดนี้?
“ขอโทษคุณชายเซียว ฉันกำลังทำงาน”
“ทำงานมีความหมายอะไร ไป ผมพาคุณไปทานข้าว”
“แต่ว่าฉัน……”
“อย่าแต่สิ แต่อะไร หัวค่ำแล้ว กลับมาผมช่วยคุณลา”
ขณะที่พูด ก็ยื่นมือมาดึงแขนเจี่ยนถง แล้วเดินออกไป