Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป - บทที่ 91 ฉีกความหวังจนแหลกสลายเป็นชิ้นๆ
มือข้างหนึ่ง บีบอยู่ที่ใต้คางของเธออย่างแรง แล้วเชิดคางของเธอขึ้นมา บังคับให้เธอเงยหน้า ดวงหน้าหล่อเหลานั้น อยู่ใกล้เพียงแค่คืบเดียว!
แววตาเย็นชาของเสิ่นซิวจิ่นจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเธอ “ไปโรงพยาบาล หรือธนาคาร? เจี่ยนถง ฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้งหนึ่ง”
เขาเอาหน้าเข้าไปใกล้กับเจี่ยนถง จนเห็นรูขุมขนของเขาได้อย่างชัดเจน ในแววตาของเธอประกายแววดื้อรั้นและยืนหยัด “ฉันจะไปธนาคาร”
เธอพูดชัดๆทีละคำ ไม่ยอมถอยแม้แต่ครึ่งก้าว
“ไม่มีไตข้างหนึ่งแล้ว เธอยังจะกล้าดื่มเหล้าอีก” เสียงเย็นเยียบของเขาพูดเป็นเชิงเตือน “เธอไม่อยากมีชีวิตแล้วเหรอ?”
“ฉันจะไปธนาคาร!”
“จะตายแล้ว ก็ยังจะไปธนาคารเหรอ?”
เธอมองเขาเขม็ง อ้าปาก พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ใช่” เรื่องของการเอาชีวิตมาพนัน มันไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อยที่เธอทำ วิสกี้เพียงแค่สองอึกแค่นั้น มือของเธอที่อยู่ข้างกาย พลันยกขึ้นมากระชากสูท และคอเสื้อของเขาออกอย่างไม่รู้ตัว แต่ชายหนุ่มมองการกระทำของเธอในทุกย่างก้าว
เปลือกตาที่เย็นเฉียบ หลับลง หลังจากที่เธอกระชากเสื้อสูทของเขาออกแล้วนั้น มือคู่นั้นของเธอก็ถูกรวบมาไว้ด้านหลัง ขยับไม่ได้
สายตามองไปที่ใบหน้าของหญิงสาว แววตาของเขา เอาแต่จับจ้องอยู่ที่เธอ เสิ่นซิวจิ่นกำลังคิด ผู้หญิงคนนี้ เมื่อก่อนชอบโผล่มาหาเขาประจำ ชอบแวบไปแวบมาตรงหน้าของเขา จนเขาต้องเงยหน้าดูเธอสักครั้ง ทำให้เธออารมณ์ดีไปได้ทั้งวัน
ตั้งแต่เมื่อไหร่ ในขณะที่เขาไม่ทันได้รู้ตัว ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
ถึงแม้ว่าจะ…ใกล้ตายแล้ว ก็ยังจะไปธนาคาร ก็จะหนีไปจากข้างกายของเขา?
ในแววตาสีดำขลับ มีของบางอย่างที่คลุ้มคลั่งที่รอเวลาปะทุอยู่ในนั้น มองจ้องเข้าไปที่ใบหน้าของเจี่ยนถง แววตาที่ลุ่มลึกของเขาคู่นั้น ยิ่งยากที่จะคาดเดา
“เจี่ยนถง เธอต้องการไปธนาคารตอนนี้เลยจริงๆเหรอ?” เธอต้องการจะหนีไปจากข้างกายของเขาตอนนี้เลยจริงๆเหรอ?
ไม่ใช่แบบนี้ ไม่ควรจะเป็นแบบนี้!
ระหว่างพวกเขา คนที่จะพูดได้ว่ามัน “จบลง” มีเพียงเขาเท่านั้น!
นิ้วเรียวยาวหนีบตั๋วใบนั้นออกมาจากมือของเธอ แล้วสะบัดไปมา “ให้เธอไปธนาคารแล้วจะทำอะไรได้? ธนาคารก็ปิดแล้ว ตู้ATMเบิกเช็คได้เหรอ?”
ตู้ATMเบิกเช็คได้เหรอ?… ต้องไม่ได้อยู่แล้วสิ!
เจี่ยนถงรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาดลงมา!
เธอยืนมองเช็คในมือของเขาด้วยตาละห้อย… เธอพยายามมาทั้งหมดเพื่อที่จะได้เช็คมา ที่แท้เป็นเพียงกระดาษไร้ค่าใบหนึ่ง?
ดังนั้น… เธออดทนทุกอย่าง เพื่อกระดาษใบนี้อย่างนั้นเหรอ?
ทันใดนั้น เธอเงยหน้าขึ้นมา “ประธานเสิ่น ประธานเสิ่น ฉันขอร้องล่ะ เงินทั้งนั้น ตั้งห้าล้าน ขาดไม่ได้เลยสักแดงเดียว ไม่ต่างกันหรอก ถ้าจะเข้าบัญชีวันนี้ หรือพรุ่งนี้ มีอะไรที่ต่างกันเหรอ?”
เธอพูด พลางคุกเข่า “ประธานเสิ่น ฉันขอร้องล่ะ ฉันคุกเข่าขอร้องคุณ ฉันไม่มีอย่างอื่นแล้ว ฉันเหลือแค่เพียงเข่าคู่นี้เท่านั้น ให้คุณหมดเลย ฉันได้มอบสิ่งสุดท้ายที่มีอยู่แก่คุณแล้ว ขอแค่คำเดียวจากคุณ ฉันก็จะเป็นฉันก็จะได้ไปจากที่นี่แล้ว…”
“ตุ้บ”
เสิ่นซิวจิ่นมองไปอีกทาง ยังคงแกว่งเช็คในมือไปมา แล้วฟาดลงที่ใบหน้าของเจี่ยนถง “สิ่งสุดท้ายของเธอ? ไม่ใช่อิสระหรอกเหรอ?”
หัวเข่า? เป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอให้กับเขา?
เพลิงโทสะที่เสิ่นซิวจิ่นพยายามกลั้นไว้ ยากที่จะปลดปล่อย…สิ่งสุดท้ายที่เธอสามารถให้เขาได้ คือหัวเข่าคู่นั้นที่คุกลงไปงั้นเหรอ?
เมื่อก่อน เธอได้ให้ความรักและความหลงใหลแก่เขา ไม่ว่าจะความรัก หรือความหลง ก็น่าภาคภูมิใจ ถึงแม้ว่าจะเป็นตัวเอง ก็รู้สึกว่ามีคุณค่ามาก
แล้ววันนี้ เธอพูดอะไรออกมา?
สิ่งสุดท้ายที่เธอจะให้แก่เขาได้ คือหัวเข่า?
หัวเข่าบ้าบออะไรกัน!
เธอยังต้องการไปจากเขาอีก!
ไม่อนุญาต!
ไม่อนุญาตเด็ดขาด!
เขาไม่เข้าใจ ทำไมเขาจะต้องไม่ยอมให้เธอไปจากเขา ในจิตใต้สำนึก แค่เพียงคิดถึงเรื่องนี้ ก็รับไม่ได้อย่างรุนแรง
เขาไม่เข้าใจสาเหตุ แต่เขาไม่อนุญาตอย่างแน่นอน!
ไม่อนุญาตก็คือไม่อนุญาต!
เจี่ยนถงหน้าซีด… เธอเข้าใจแล้ว เธอเข้าใจทุกอย่างแล้ว
“อิสระ เจี่ยนถง เธอจำเอาไว้เลยนะ ว่าอิสระสิ่งนี้ ฉันบอกว่าเธอไม่มี เธอก็จะมีไม่ได้!”
ซูเมิ่งนั่งขับรถอยู่ประจำตำแหน่งคนขับ ใจเต้นแรงมาก
ความแค้นอะไรกัน ที่ทรมานคนได้ขนาดนี้
“ซูเมิ่ง ขับเร็วอีกหน่อย” ชายหนุ่มไม่ได้มองหญิงสาวที่อยู่ด้านข้าง นิ้วเรียวที่เห็นกระดูกชัดเจนหยิบมือถือขึ้นมา กดโทรออก “จะถึงโรงพยาบาลแล้ว เธอดื่มเหล้าไปนิดหน่อย”
“ใคร?”
“เจี่ยนถง”
ปลายสาย แทบจะระเบิด “อะไรนะ? เธอกลัาดื่มเหล้าเหรอ? เธออยากตายมากเลยหรือไง”
“ตอนนี้ฉันจะพาเธอไป นายเตรียมตัวให้เรียบร้อย”
พูดจบ ไป๋ยู่สิงกำลังคิดจะบอกว่า “วันนี้ไม่เข้าเวร” แต่ปลายสายวางไปเสียก่อน
ไป๋ยู่สิงรีบบุกขึ้นมาจากผ้าห่ม “เวรละ!”
คบคนพาลพาไปหาผิดจริงๆ!
ในรถ เจี่ยนถงหยิบเช็คแผ่นนั้นขึ้นมา มองเช็คในมือด้วยแววตาละห้อย จากนั้นก็ยิ้มขึ้นมา… เสิ่นซิวจิ่น นายรู้ไหม?
เพื่อเช็คแผ่นนี้ ฉันผ่านอะไรมาบ้าง?
“พี่เมิ่ง เปิดกระจกหน่อย” ในห้องโดยสาร หญิงสาวค่อยๆพูดขึ้นมาอย่างห้วนๆ
ซูเมิ่งลังเล จากนั้นมองผ่านกระจกเป็นเชิงถามเสิ่นซิวจิ่น
ที่เบาะนั่งด้านหลัง เสิ่นซิวจิ่นหรี่ตาลงเล็กน้อย มองกวาดไปทางเจี่ยนถง แล้วพยักหน้าเบาๆ ซูเมิ่งกดเปิดกระจก แล้วกระจกของด้านหลังรถก็ค่อยๆเลื่อนลงมา
เธอมองจากกระจกมองหลังรถ กวาดสายตาด้วยความระมัดระวัง มองไปมองมา จนเธอแทบจะลืมหายใจ!
หญิงสาวที่นั่วอยู่ด้านหลังรถ มีสีหน้านิ่งเฉย ฉีกเช็คในมือออกเป็นสองชิ้น จากนั้นฉีกออกเป็นสี่ชิ้น แปดชิ้น… เช็คมูลค่าห้าล้านใบนั้น ถูกฉีกคามือเธอเป็นชิ้นๆ หญิงสาวคนนั้นกำเศษกระดาษไว้ในมือ แล้วยื่นมือออกไปที่นอกหน้าต่าง แบมือออก ให้กระดาษที่อยู่ในมือปลิวไปตามสายลม
ซูเมิ่งทนไม่ได้ มองด้วยความตกใจ “เธอบ้าไปแล้วเหรอ! เธอลืมเหรอ ว่าเธอต้องผ่านอะไร ถึงได้เช็คใบนี้มา! ทำไมเธออยู่ๆถึงได้ทำมันเป็นกระดาษไร้ค่าแบบนั้นล่ะ!”
สายตาของเจี่ยนถง ไม่แม้แต่กะพริบตา ใบหน้าของเธอ ก็เรียบนิ่งเสียจนน่ากลัว
เมื่อได้ยินที่ซูเมิ่งพูด เธอจึงค่อยๆหันมา ตอบเพียงแค่สามคำ “ไม่สำคัญ”
ไม่สำคัญ!
ทำไมจะไม่สำคัญ!
ซูเมิ่งใจร้อนมาก แต่เมื่อมองไปที่หญิงสาวเธอสงบนิ่งมาก พลันรู้สึกว่า พูดอะไรไม่ออก
ใช่สิ ทำไมจะไม่สำคัญ? ความดูแคลนที่มาจากเพื่อน และที่หยามเกียรติกันมากที่สุดคือเป็นคนเคยรู้จักกันทั้งนั้น ต่อหน้าผู้คนที่เคยรู้จักเจอหน้ากันทุกวันเหล่านี้ ก้มลง ปีนผ่านขวากหนาม ลอดผ่านความลำบาก แม้กระทั่งเอาชีวิตเข้าพนัน… ทำไมจะไม่สำคัญ?
ต่างก็บอกว่าเจี่ยนถงรักเงิน อะไรก็ทำได้เพื่อเงิน
ความจริงเป็นแบบนั้นเหรอ?
คนอื่นเห็นเพียงแต่ตอนที่เธอรีบก้มลงเก็บเงินด้วยสีหน้ามีความสุข ก็คิดว่ารอยยิ้มนั้นของเธอน่ารังเกียจเหลือเกิน
คนอื่นจะถามเธอบ้างไหมว่า เจี่ยนถง ทำไมเธอต้องทำแบบนี้?
เจี่ยนถงเธอไม่เจ็บปวดจริงๆเหรอ?
ณ ตอนนี้ ซูเมิ่งเกลียดตัวเองมาก และโทษเสิ่นซิวจิ่น… เจี่ยนถงเธอฉีกความหวังจนแหลกสลายไปกับมือ ซูเมิ่งไม่กล้าจะคิด ว่าภายใต้ใบหน้าที่เรียบนิ่งนั้น เก็บความเจ็บปวดไว้มากมายเท่าไหร่ ใช้ความพยายามไปเท่าไหร่ ที่อดทนแล้วแสดงออกมาเพียงความนิ่งเฉย
คนโง่คนนี้ จะมีท่าทีแบบไหนอีก ฉีกเช็คใบนั้น ซูเมิ่งรู้สึกนับถือผู้หญิงคนนี้มาก… หลายคนต่างพูดว่าเจี่ยนถงเป็นคนชั้นต่ำ แต่ผู้หญิงที่ไม่มีที่ยืนในสายตาพวกเขาคนนี้ อดทนและแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าใครหลายคนบนโลกนี้
นัยน์ตาที่ลุ่มลึกของเสิ่นซิวจิ่นมองไปที่ตัวของเจี่ยนถง “ทำไมถึงฉีกมันทิ้ง?”
เจี่ยนถงสงบนิ่ง “มันก็เป็นเพียงแค่กระดาษไร้ค่าใบหนึ่งเท่านั้น”
เธอพยายามใช้แรงทั้งหมด ในการได้กระดาษที่ไร้ค่ามาใบหนึ่ง
สิ้นหวังแล้ว ละทิ้งแล้ว… พอได้แล้วมั้ง?
เธอรอเขา เบื่อละครบทนี้ แล้วปล่อยเธอเป็นอิสระเสียที
ก่อนหน้านี้ เป็นห่วงโซ่ที่หนีไม่หลุด เหนื่อยเหลือเกิน…