Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป - บทที่31: อาลู่ อะลู่
บทที่31: อาลู่ อะลู่
ไป๋ยู่สิงนายนี่ช่างกล้าพูดจังเลยนะ!
ซีเฉินที่แต่ไหนแต่ไรมาก็ดูไว้ใจไม่ค่อยได้ มองไปที่ไป๋ยู่สิงก็ยังอดตัวสั่นไม่ได้
“ฮึ่มๆ ยู่สิง ฉันดูท่าตอนนี้ก็ไม่มีธุระของพวกเราแล้ว ฉันหิวข้าวแล้วว่ะ นายไปทานข้าวเป็นเพื่อนฉันเถอะ”
ไปเถอะๆ ลูกพี่ ฉวยโอกาสตอนที่เสิ่นซิวจิ่นไอ้หมอนั่นยังไม่เริ่มคลุ้มคลั่งขึ้นมา พวกเรารีบไปกันเถอะ……….ซีเฉินพูดอย่างเร่งรีบ
มันก็จริงอ่ะ เรื่องบาดหมางของเสิ่นซิวจิ่นกับเจี่ยนถง ไป๋ยู่สิงไม่รู้รึไง?
เจี่ยนถงทำให้เซี่ยเวยเหมิงตาย ตอนนั้นเจี่ยนถงยังเป็นคุณหนูของตระกูลเจี่ยน เสิ่นซิวจิ่นบอกส่งคนเข้าคุกก็ส่งเข้าคุกเลย ตอนนี้คนออกมาจากคุกแล้ว เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยคนไปอื่น
เสิ่นซิวจิ่นเกลียดเจี่ยนถงมากแค่ไหน คนโง่ก็ยังดูออก
ไป๋ยู่สิงที่แต่ไหนแต่ไรมาก็ใจดำอยู่แล้ว ทำไมถึงพูดคำพูดโง่ๆแบบนี้ออกมาได้!
ไป๋ยู่สิงไม่สะทกสะท้าน ตั้งแต่ต้นจนจบมุมปากก็ยังมีรอยยิ้มเสี้ยวหนึ่งประดับอยู่ “เสิ่นซิวจิ่น นายอยากรู้ไหม?” ระหว่างเขาพูด จู่ๆนิ้วมือได้ชี้ไปทางผู้หญิงที่อยู่บนเตียง: “นายอยากรู้ความลับของผู้หญิงคนนี้ไหม?”
เขาเป็นหมอ แถมยังเป็นหมอที่มีชื่อเสียงมาก
ถ้าการตรวจเช็คของเมื่อครู่ ยังไม่สังเกตเห็นความผิดปกติล่ะก็ ถ้าอย่างนั้น ตลอดที่ทำอาชีพนี้มา ก็ทำไปอย่างสูญเปล่าแล้ว
ผู้ชายที่อยู่ขอบเตียงหรี่ตาขึ้นมา มองดูไป๋ยู่สิงอย่างละเอียด จากนั้นก็พูดออกมาคำหนึ่ง “ไม่อยาก”
ความลับของผู้หญิงคนนี้?………ถึงผู้หญิงคนนี้จะมีความลับ ก็ควรจะเป็นเขาที่รู้ก่อน แต่ไม่ใช่ไป๋ยู่สิง!
ในใจมีไฟที่ไม่มีชื่อปะทุขึ้นมา นอกจากเขาแล้ว ผู้หญิงที่สมควรตายคนนี้ยังสนิทแนบแน่นกับคนอื่นขนาดนี้ด้วยหรอ?
“ในเมื่อหิวแล้ว งั้นก็ลงไปทานข้าวซะ”
ออกคำสั่งขับไล่แขกอย่างตรงไปตรงมา ไป๋ยู่สิงกะพริบตาปริบๆ :“เฮ้ย คนแซ่เสิ่น นายยังเอาหน้าอยู่ไหมเนี่ย พอหมดประโยชน์แล้วก็ถีบหัวส่งเลย?”
“ไปเถอะ ยู่สิง”ซีเฉินรีบลากไป๋ยู่สิงไว้ และยัดไป๋ยู่สิงเข้าไปในลิฟต์
“นี่นายทำอะไรวะ!” ในลิฟต์ ไป๋ยู่สิงกลอกตาขาวใส่ซีเฉินทีหนึ่ง: “จะไปก็ไปเอง มาลากฉันทำไมวะ?”
ถูกไป๋ยู่สิงโมโหใส่แบบนี้ ซีเฉินก็ชักจะไม่พอใจแล้ว: “เฮ้ย คนแซ่ไป๋ นายอย่ามาไม่รู้ผิดชอบชั่วดีนะ! กูลากมึงมาก็เพราะหวังดีกับมึงนะเว้ย
นี่นายเป็นบ้ารึไง ที่ไปพูดแบบนั้นต่อหน้าเสิ่นซิวจิ่น ความหมายของคำพูดนายก็ไม่ใช่หมายความว่า เสิ่นซิวจิ่นคิดอะไรกับเจี่ยนถงเหรอ?
สมองนายมีปัญหารึเปล่าวะ เสิ่นซิวจิ่น เห้อ! เจี่ยนถง เห้อ!
เรื่องบาดหมางของสองคนนี้ ไม่ใช่แค่นิดๆหน่อยๆ แต่เป็นชีวิตของเซี่ยเวยเหมิงเลยนะเว้ย!
เสิ่นซิวจิ่นเกลียดเจี่ยนถงมากแค่ไหน นายไม่รู้หรือไง? ว่าจะเอาคนเข้าคุกก็เอาเข้าคุกเฉยเลย นายดูตระกูลเจี่ยนสิยังเงียบกริบไม่กล้าพูดอะไรเลย แล้วนายดูเจี่ยนถงในตอนนี้อีกซิว่ายังมีหน่วยก้านที่หยิ่งผยองเหมือนเมื่อสามปีก่อนมั้ย?
คุณหนูของตระกูลเจี่ยนในตอนนั้น นั่นคือดอกกุหลาบสีแดงดอกหนึ่งที่โอหังและถือดีในเซี่ยงไฮ้นี้ มีบุคลิกภาพที่มีความมั่นใจหยิ่งยโส ความเย่อหยิ่งของเธอ คุณชายทั้งหลายในทั่วเซี่ยงไฮ้มีใครบ้างที่ไม่รู้ แม้กระทั่งถึงขั้นยอมฮึดสู้ไม่กลัวเสียสละก็เพื่อที่จะได้พูดคุยกับคุณหนูของตระกูลเจี่ยนคำหนึ่ง……..เจี่ยนถงในตอนนั้น ดูดีไร้ที่ติ
พูดจากใจจริงเลยนะ แม้แต่เซี่ยเวยเหมิงเองที่มีเสิ่นซิวจิ่นค้ำหัวให้ ถึงแม้เซี่ยเวยเหมิงจะมีเสิ่นซิวจิ่นคอยปกป้องอยู่ เธออยู่ตรงหน้าของคุณหนูตระกูลเจี่ยนก็ยังสู้ความเจิดจรัสของคุณหนูตระกูลเจี่ยนไม่ได้
แต่นายดูอีกซิ คนที่นอนอยู่บนเตียงในวันนี้ เธอคือเจี่ยนถงจริงเหรอ?ตอนที่เห็นแว๊บแรก นายไม่ประหลาดใจเลยหรอ?
ทำจนหน้าตาเธอกลายเป็นแบบนั้น เสิ่นซิวจิ่นจะมีใจให้เธอเหรอ?”
ไป๋ยู่สิงหายใจออกแรงๆ ดวงตาทั้งคู่อดไม่ได้ที่จะกลอกตาขาวใส่………..“นายจะไปรู้ห่าอะไรวะ!”
“เย็ดแม่ง!มีอะไรไม่พูดดีๆ ทำไมดันต้องด่าคนด้วยวะ?”
“บอกว่านายจะไปรู้ห่าอะไรถือว่ายกยอนายแล้ว เอาล่ะ ฉันเลี้ยงข้าวนายเอง”
“นี่นาย……..โอเค! ฉันจะกินหมูเปรี้ยวหวานที่คุณป้าทำ”
“ไปให้พ้นเลยไป ดึกดื่นป่านนี้ นายยังจะให้แม่ฉันลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้นายกินรึไง กินอาหารข้างทางตรงหน้าประตูเนี่ยแหละ จะกินไม่กิน ไม่กินก็ช่าง”
“กิน!”
แน่นอนว่าคุณชายสองท่านนี้ ย่อมไม่มีทางกินอาหารข้างทางจริงๆอยู่แล้ว
…………………..
ชั้นสองของตงหวง
เสิ่นซิวจิ่นยืนอยู่ที่ข้างเตียง หรี่ตามองผู้หญิงที่อยู่บนเตียง………..ความลับ?
ความลับของผู้หญิงคนนี้…….คืออะไร?
ทำไมไป๋ยู่สิงเองยังรู้เลย แต่เขากลับไม่รู้?
หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาลูกน้อง
“Bossครับ” เสียงเคารพของเสิ่นยีก้องมาจากในสาย
“นายช่วยฉัน…….”
เสิ่นซิวจิ่นเพิ่งพูด
บนเตียงก็มีเสียงเพ้อฝันดังขึ้นมา:
“อาลู่ อย่าไป…….”
ผู้ชายที่ยกมือคุยโทรศัพท์อยู่ มือที่กุมมือถือไว้ได้จับแน่นขึ้นทันที!
“อาลู่ เราไปที่นั่นด้วยกัน ไปด้วยกันนะ……..”
ทันใดนั้น นัยน์ตาคมเข้มหดขึ้นมาทันที!
มือถือยังมีเสียงของเสิ่นยีก้องมา: “Bossครับ?”
ข้างเตียง สีหน้าของผู้ชายมีน้ำแข็งปกคลุมอยู่ชั้นหนึ่ง เขาหลุบตามองผู้หญิงคนนั้นที่อยู่บนเตียง เสียงที่เยือกเย็นไร้ความรู้สึกได้พูดใส่มือถือคำหนึ่ง:“ไม่มีอะไรแล้ว”ก็ตัดสายทิ้งไปเลย
มือถือถูกเขาทิ้งไปข้างๆ รูปร่างสูงใหญ่จู่ๆโน้มตัวลง!
แขนที่เต็มไปด้วยพลังยื่นมือไปที่เธอ!
จับคางของคนที่อยู่บนเตียงไว้!
จู่ๆเจี่ยนถงที่อยู่ในความฝันรู้สึกเจ็บ ความเจ็บดึงเธอจากฝันร้ายกลับมาในโลกแห่งความเป็นจริง พอลืมตาขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาก็ปรากฏอยู่ที่ตรงหน้าเธอแล้ว เธอเองยังมึนกับสถานการณ์อยู่เลย
เสียงนั้น เหมือนฝันร้ายที่เธอสลัดทิ้งไม่ได้ชั่วนิรันดร์ ถามอย่างดุร้ายและเสียงดัง:
“ลืมตาดูให้ชัดๆว่าผมคือใคร!”
บนหน้าผากของเสิ่นซิวจิ่นมีเส้นเอ็นสีเขียวนูนออกมา!
อะลู่!
อะลู่? ? ?
สนิทแนบแน่นขนาดนี้แล้วเหรอ?
ไปคบหากับลูเชนตั้งแต่เมื่อไหร่!
“เจ็บค่ะ………” เจี่ยนถงขมวดคิ้ว
“เจ็บงั้นเหรอ?” เสียงที่เยือกเย็นแฝงด้วยความโกรธที่ไร้ขีดจำกัด จู่ๆเขาหัวเราะเยาะขึ้นมา: “เจ็บ? เจี่ยนถง เชื่อผม ยังมีที่ให้คุณเจ็บมากกว่านี้อีกเยอะ!”
“ดูให้ชัดๆ! คุณนอนอยู่ที่บนเตียงผม แต่ปากกลับเรียกหาชื่อคนอื่น! อะลู่? คุณสนิทแนบแน่นกับเขาขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เจี่ยนถงสีหน้าซีดเซียว
เขารู้จักอาลู่ได้ยังไง?
ในใจเจ็บเหมือนถูกฉุดกระชากจนฉีกขาด……..อาลู่ เป็นความลับที่อยู่ในใจลึกๆของเธอที่ไม่อยากให้ใครรู้!
เป็นหนี้ของเธอ!
เป็นหนี้ที่เธอชดใช้ไม่หมด!
สีหน้าแววตาที่ตื่นเต้นและวิตกกังวลของเธอ อยู่ในสายตาของเสิ่นซิวจิ่นได้อ่านเป็นอีกความหมายหนึ่ง เขายิ่งโกรธกริ้วขึ้นไปอีก ไฟที่อยู่ในใจ ไม่รู้ว่าทำไมยิ่งอยู่ยิ่งลุกท่วมขึ้นมาอย่างแรง!
“เจี่ยนถง ประพฤติตัวดีๆหน่อย จำเอาไว้ด้วยว่าคุณคือใคร!”
สีหน้าของเจี่ยนถงซีดเซียวขึ้นมาทันที!
เสิ่นซิวจิ่นไม่ได้ด่าเธอ ไม่มีคำพูดที่เหยียดหยามเลยสักคำ แต่คำๆนี้ กลับยิ่งกดทับจนเธอหายใจไม่ออก กว่าคำพูดเหยียดหยามเหล่านั้น!
เขากำลังย้ำเตือน “ความผิด”ที่เธอเคยทำ ตอนนี้เธอเป็นแค่นักโทษชั้นแรงงานคนหนึ่ง!
ความรักที่มีต่อเขา เหลือแค่ความหวาดกลัว
หลุบตาลงอย่างเงียบสงบ ขนตาบังดวงตาทั้งคู่ไว้ และกีดกั้นทุกอย่างของโลกภายนอก ก็เหมือนหัวใจที่ถูกปิดตายของเธอ…….เสิ่นซิวจิ่น ฉันรู้ ฉันเป็นแค่นักโทษชั้นแรงงานหมายเลข“9 2 6”
“คุณเสิ่น ฉันขอโทษค่ะ”
ผู้หญิงพูดจาเชื่องช้ามาก “คุณเสิ่น ฉันจำได้เสมอค่ะ ว่าฉันเป็นแค่นักโทษชั้นแรงงานหมายเลข“9 2 6” ฉัน ไม่ใช่อะไรเลยค่ะ”
เธอเงียบสงบลงมา และไม่ต้องการความสงสารเวทนาของเขา ไม่ต้องการความเข้าใจของเขา ถึงแม้ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดกันแน่ เธอก็ยังพูด:
“คุณเสิ่น ถ้าฉันทำอะไรผิดไป ไม่ว่าคุณจะลงโทษฉันยังไง ฉันได้หมด ฉันแค่ขอร้องคุณให้ฉันมีชีวิตรอดออกไปจากตงหวงเถอะนะคะ”
ตั้งแต่ต้นจนจบเขาก็ยังเกลียด!
แต่เธอจะต้องมีชีวิตต่ออยู่ เธอจะต้องมีอิสระ เธอจะ…..ไปจาก!
เธอผลักมือของเขาที่จับคางของเธอไว้อย่างช้าๆ แบกร่างกายลงมาจากขอบเตียง ภายใต้สายตาที่ตกใจของผู้ชาย เธอคุกเข่าลง ศักดิ์ศรีของเธอ……รู้สึกเหมือนนั่นเป็นเรื่องที่ยาวไกลและนานมากแล้ว
…………………..