Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร - ตอนที่ 678
บทที่ 678 : กลายร่างขั้นสุด!
“นายน้อย..ท่านต้องระมัดระวังให้มาก ผีดูดเลือดพวกนี้เมื่อแปลงร่างแล้วจะมีพละกำลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิมมาก..”
เหล่ากุ่ยเกรงว่าหลิงหยุนจะพลาดพลั้งและได้รับอันตรายจึงได้แต่ร้องเตือนด้วยความห่วงใย
หลิงหยุนเองก็คาดเดาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้วและคงไม่ต้องคาดเดาอะไรอีก เพราะเวลานี้พวกมันดูน่ากลัวกว่าเดิมอย่างมาก!
ภาพที่หลิงหยุนเห็นในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เหล่าอสูรกลายร่างหรือทำตัวเองให้ใหญ่โตเมื่อไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ หรือเป็นฝ่ายเสียเปรียบ สิ่งเหล่านี้หลิงหยุนเห็นมานักต่อนักแล้ว!
“ทั้งสองคนไม่ต้องเป็นห่วงข้า.. ไม่ต้องเข้ามาช่วยข้าด้วย ข้าเองก็อยากจะรู้นักว่าผีดูดเลือดพวกนี้จะมีพลังแค่ใหนกัน!”
ท่าทางมั่นอกมั่นใจของหลิงหยุนนั้นได้สร้างความหวาดผวาให้กับผีดูดเลือดทั้งสามตนไม่น้อยเลยทีเดียวเหล่ากุ่ยกับเกาเทียนหลงเห็นเช่นนั้นจึงค่อยรู้สึกวางใจขึ้นมาได้บ้าง..
ฟิ้ว!
เสียงเข็มที่หลิงหยุนซัดเข้าใส่ร่างของผีดูดเลือดทั้งสามตนดังขึ้นเข็มทั้งหมดพุ่งเข้าใส่ร่างของผีดูดเลือดทั้งสามตนทันที แต่เมื่อเข้าไปใกล้ร่างของพวกมัน เข็มทั้งหมดกลับไม่พุ่งเข้าใส่ร่างของพวกมัน แต่กลับแยกออกเป็นสองทาง ก่อนที่จะร่วงลงสู่พื้นดินทั้งหมด!
“พลังป้องกันก็แข็งแกร่งขึ้นจากเดิมมากเลยทีเดียวนี่..”
หลิงหยุนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบไม่มีทีท่าตื่นตระหนกตกใจเลยแม้แต่นิดเดียวจากนั้นจึงหยุดการโจมตีไว้ก่อน และรีบกระโดดหลบจิมที่พุ่งตรงเข้ามา!
“ลิ้มรสกำปั้นของข้าอีกสองสามหมัดก็แล้วกัน!”
หลิงหยุนร้องบอกพร้อมกับรัวกำปั้นทั้งสองข้างและจัดการส่งหมัดปีศาจเถียนกังตรงเข้าใส่ร่างของจิมทันที!
“ไอ้มนุษย์ต่ำต้อย..ดูสิว่าครั้งนี้แกยังจะยะโสโอหังได้อีกมั๊ย!”
จิมจ้องมองหลิงหยุนที่พุ่งตรงเข้ามาเช่นกันและเมื่อร่างของหลิงหยุนเคลื่อนเข้ามาใกล้ เล็บแหลมยาวแหลมคมแข็งแรงของมันทั้งสองข้างก็พุ่งเข้าปะทะกับหมัดของหลิงหยุนทันที!
ปัง!ปัง!
สิ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวทั้งสองครั้งร่างของจิมก็ถูกหมัดทั้งสองข้างของหลิงหยุนลอยละลิ่วออกไปไกลมากกว่าสิบเมตร และเสียงกรีดร้องโหยหวนราวกับสัตว์ร้ายก็ดังสนั่นไปทั่วทั้งป่า!
และครั้งนี้..ฝ่ามือทั้งสองข้างของจิมก็ถูกหมัดปีศาจเถียนกังของหลิงหยุนชกเข้าจนกระเด็นขาดออกจากข้อมือ!
และนี่คือการผสานดาราคุ้มกายปกป้องตนเองเข้ากับหมัดปีศาจเถียนกังที่ทรงพลังแรงปะทะที่รุนแรงผนวกกับดาราคุ้มกายที่แข็งแกร่ง ทำให้มือทั้งสองข้างของจิมถึงกับขาดและกระเด็นหลุดจากข้อมือในทันที!
ทั้งจิมพอล และเจสเตอร์นั้น ต่างก็เป็นเพียงแค่แวมไพร์หางแถว และเป็นเพียงบริวารรับใช้ของหัวหน้าแวมไพร์ตัวจริงเท่านั้น แต่หลังจากที่กลายร่างเพียงแค่ขั้นต้นเท่านั้น พลังของพวกมันก็ยังเพิ่มขึ้นจากเดิมสามหรือสี่เท่าทีเดียว..
การที่หลิงหยุนใช้ดาราคุ้มกายผนวกเข้ากับหมัดปีศาจเถียนกังนั้นแน่นอนว่านั่นยังไม่ใช่กำลังภายในที่แท้จริงของหลิงหยุน มันเป็นเพียงแค่กลวิธีของการอาศัยแรงปะทะเท่านั้น!
“ในเมื่อตอนนี้เจ้าแข็งแกร่งเทียบเท่ายอดฝีมือระดับสูงสุดของขั้นเซียงเทียน-5..เจ้าก็เตรียมตัวตายได้แล้ว!”
ทันทีที่เท้าแตะพื้น..หลิงหยุนก็ไม่ลังเลที่จะใช้มังกรพรางร่างพุ่งเข้าใส่ร่างของพอลกับเจสเตอร์ต่อ และร่างสูงใหญ่ของแวมไพร์ทั้งสองตัวก็ถูกหลิงหยุนชกไม่ต่างจากกระสอบทรายจนลอยละลิ่วไปกลางอากาศ!
ทั้งพอลและเจสเตอร์ต่างก็กรีดร้องออกมาอย่างหวาดกลัวและดูเหมือนว่าตอนนี้หลิงหยุนไม่เหลือความเมตตาปราณีใดๆให้กับเหล่าอสูรอีกแล้ว!
แต่ยังไม่จบเพียงเท่านั้น..หลังจากที่หลิงหยุนชกเจสเตอร์จนลอยขึ้นไปกลางอากาศแล้ว ร่างที่แข็งแกร่งของเขาก็ได้เคลื่อนตามร่างที่ลอยละลิ่วของเจสเตอร์ไป และยกมือกำกำปั้นขึ้นชกเข้าที่ปากของเจสเตอร์ที่กำลังร่วงลงมาอีกหนึ่งหมัด จนเกิดเสียงดังปัง! ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งป่าอีกครั้ง!
“เล็บกับเขี้ยวของพวกเจ้าแข็งแกร่งมากนักรึข้าจะจัดการถอนเขี้ยของพวกเจ้าก่อนก็แล้วกัน!”
สิ้นเสียงพูดของหลิงหยุน..เขี้ยวยาวห้าถึงหกเซ็นติเมตรของเจสเตอร์ก็ร่วงลงกระทบกับก้อนหิน หลิงหยุนจัดการชกเจสเตอร์จนเขี้ยวหักภายในหมัดเดียว!
“ชิบหาย..”
เกาเทียนหลงร้องอุทานออกมาเสียงดังหลังจากที่ได้เห็นการต่อสู้ที่ดุเดือดและถึงกับตกตะลึงเมื่อเขี้ยวที่แหลมคมและแข็งแกร่งของแวมไพร์ถูกหลิงหยุนชกจนหัก!
เกาเทียนหลงไม่เคยได้ยินและไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนจริงๆ! เขาแทบจินตนาการไม่ออกว่า หากคนธรรมดาโดนหมัดของหลิงหยุนเข้าไป จะมีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง!
ยิ่งไปกว่านั้น..เกาเทียนหลงเองซึ่งอยู่ในค่ายทหาร ก็ยังไม่เคยได้ยินหรือว่าพบเห็นการต่อสู้ที่ดุเดือดเช่นนี้มาก่อน และอีกฝ่ายก็เป็นถึงผีดูดเลือด..
แต่ตอนนี้พวกมันกลับเป็นผีดูดเลือดที่น่าสงสารยิ่งนัก!
“โอ้ย!!!”
เจสเตอร์กรีดร้องพร้อมกับยกมือขึ้นกุมปากของตนเองทันทีที่ร่างของมันร่วงกระแทกกับพื้น มันก็ดิ้นรนหนีออกจากการต่อสู้ทันที สภาพของเจสเตอร์ในเวลานี้ไม่ต่างจากกระต่ายน้อยที่ต้องการหลบหนีภัยอันตราย..
แม้ว่าเหล่าแวมไพร์จะมีความสามารถในการฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วแต่สิ่งหนึ่งที่ยากจะฟื้นฟูก็คือเขี้ยวที่แหลมคมของพวกมัน แต่ถึงกระนั้นมันก็จะสามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ภายในเวลาสองสามวัน
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับร้องตะโกนอย่างไม่เกรงกลัว“คิดจะหนีรึ ข้าคิดว่าผีดูดเลือดอย่างพวกเจ้าจะกลัวอะไรไม่เป็นเสียอีก!”
หลิงหยุนนั้นเป็นผู้ที่มีวิธีการต่อสู้ในแบบฉบับของตัวเอง..หากเขาต้องการจะฆ่าแวมไพร์ทั้งสามตนนี้ แน่นอนว่าเขาย่อมสามารถลงมือได้ทันที และคงไม่เสียเวลามาต่อสู้กับพวกมันเช่นนี้ แต่ในเมื่อพวกมันเป็นเพียงแวมไพร์ปลายแถว หากหลิงหยุนไม่จัดการให้พวกมันได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดเสียบ้าง ก็คงจะผิดวิสัยของหลิงหยุน!
“ซาตาน!แกเป็นซาตานชัดๆ! แกน่ากลัวน่าสยดสยองยิ่งกว่าซาตานเสียอีก! ไอ้มนุษย์ชั่วช้า.. แกหักเขี้ยวของฉัน..”
เจสเตอร์หนีไปได้ไม่ไกลนัก..เขากระโจนออกไปยืนอยู่ที่หินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง พร้อมกับกรีดร้องออกมาอย่างช้ำใจ
หลิงหยุนหันไปยิ้มให้พอลพร้อมกับยกหมัดขึ้นชู“พอลที่รัก.. เขี้ยวของเจ้าน่ากลัวมากเลย มาให้ข้าถอนออกเสียดีๆ!”
พูดจบ..หลิงหยุนก็จ้องมองแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของพอล ก่อนจะยกกำปั้นขึ้นชกไปยังร่างที่กำลังสั่นเทิ้มของพอล!
ในช่วงนาทีวิกฤตินั้น..พอลส่งเสียงคำรามดังสนั่นไม่ต่างจากสัตว์ร้าย และร่างของมันก็เริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง
ร่างกายของพอลขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและตอนนี้ร่างของพอลก็ขยายใหญ่ขึ้นจากเดิมถึงสองเท่า ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวดูเหี้ยมโหดยิ่งกว่าเดิม!
“นั่นมัน..”
และด้วยรูปร่างที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างกะทันหันทำให้ชุดทักซิโด้ที่สวมใส่ฉีกขาดทันที เนื้อตัวเปลี่ยนเป็นสีเขียว ทั้งเขี้ยวและเล็บไม่เพียงงอกยาวขึ้น แต่ยังแข็งแกร่งกว่าเดิมอย่างมาก และเวลานี้ร่างที่สูงใหญ่ถึงสองเมตรนั้นก็มีท่อนแขนที่ใหญ่เท่ากับต้นขาของหลิงหยุนหนึ่งข้าง..
“นี่น่ะรึตัวตนที่แท้จริงของเจ้า!”
หลิงหยุนทำเสียงเหยียดหยันจากนั้นจึงเดินพลังลับหยิน-หยาง และส่งหมัดที่มีไอเย็นของพลังหยินเข้าที่ท้องของพอลทันที
การกลายร่างสมบูรณ์เต็มร้อยของพอลนั้นไม่ได้มีผลใดๆต่อหลิงหยุนเลย! เพราะทันทีที่หลิงหยุนปล่อยหมัดที่มีอุณหภูมิเย็นขึ้นหลายสิบองศาเข้าปะทะร่างของพอลนั้น มันก็ถึงกับหมดเรี่ยวหมดแรง และไม่สามารถตอบโต้หลิงหยุนกลับได้!
ร่างของพอลลอยละลิ่วออกไปไกลหลายสิบเมตรและร่วงลงกระแทกกับก้อนหิน จนหินกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ และร่างของมันก็ฝังลงไปในหลุมนั้นทันที ส่วนท้องของมันก็กลายเป็นรูขนาดใหญ่ ดูแล้วน่าอย่างน่าสยดสยองยิ่งนัก!
“ในที่สุดข้าก็ทำให้เลือดของเจ้าไหลออกมาจนได้สินะ..”หลิงหยุนพึมพำเสียงเบา
ตั้งแต่ต่อสู้กันมานั้นหลิงหยุนยังไม่เคยได้เห็นเลือดของพวกมันเลย แม้แต่ตอนที่มือของจิมหลุดกระเด็นออกมา แต่ครั้งนี้เขากลับได้เห็นเลือดของพอล แม้จะมีในปริมาณที่น้อยมากก็ตาม..
แต่ถึงกระนั้นเลือดของพอลกลับไม่ไหลเป็นน้ำ แต่กลับแข็งตัวในทันที และร่วงเป็นเกร็ดออกจากบาดแผล
แต่จู่ๆพอลก็เริ่มรู้สึกว่าร่างกายของตนเองค่อยๆเย็นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งรู้สึกหนาวเหน็บเข้าไปถึงกระดูก..
“พระเจ้า!นี่ฉันรู้สึกหนาวได้ยังไงกัน! เป็นไปได้ยังไง? ฉันเป็นแวมไพร์..!”
พอลถึงกับตกใจสุดขีด!
ตามธรรมดา..ร่างกายของแวมไพร์จะเย็นเฉียบเป็นปกติ พวกมันจึงไม่เคยรู้สึกหนาว แต่ตอนนี้พอลกลับรู้สึกหนาวเหน็บ..
“ปีศาจ..มันต้องเป็นปีศาจแน่ๆ! มนุษย์นี่ถูกครอบครองร่างโดยซาตาน..” พอลที่ร่างกำลังจะแข็งตายนั้นกรีดร้องออกมาอย่างหวาดกลัว
ด้วยระดับสูงสุดของขั้นปรับร่างกาย-9ทำให้พลังลับหยิน-หยางของหลิงหยุนนั้นมีอานุภาพที่ทรงพลังอย่างมาก พลังหยินเย็นที่พุ่งออกจากฝ่ามือของหลิงหยุนนั้น จึงสามารถทำให้เกิดอุณหภูมิติดลบได้ถึงห้าสิบองศาในทันที และด้วยอุณหภูมิที่ติดลบเช่นนี้ ก็นับว่าเป็นฝันร้ายของเหล่าแวมไพร์เลยทีเดียว!
‘แวมไพร์ที่กลายร่างสูงสุดแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียวรึ!หมัดของข้าเมื่อครู่แม้แต่ยอดฝีมือระดับสูงสุดของขั้นเซียงเทียน-5 ก็ยากที่จะมีชีวิตรอด แต่เจ้ากลับยังไม่ตาย..’
หลิงหยุนเองก็ถึงกับตกใจไม่น้อยเช่นกัน!
เขารู้ดีว่าแวมไพร์ทั้งสามตนนี้เป็นเพียงบริวารปลายแถวที่รับคำสั่งให้มาไล่ล่าเกาเทียนหลงเท่านั้นและหากแวมไพร์ปลายแถวยังแข็งแกร่งมากถึงเพียงนี้ แล้วหัวหน้าของพวกมันจะแข็งแกร่งและดุร้ายมากเพียงใดหลังจากกลายร่าง!
ถึงแม้ว่าพอลจะไม่ตายในทันทีแต่พลังหยินที่หลิงหยุนซัดใส่ร่างของมันนั้น ก็ทำให้มันถึงกับหนาวสั่น และรูที่อยู่ตรงใต้ท้องน้อยก็ไม่สามารถฟื้นตัวได้ทันทีเหมือนเช่นเคย..
แวมไพร์ตัวนี้กำลังถูกหลิงหยุนแช่แข็ง!นับว่าเป็นวิธีที่ชาญฉลาดมากทีเดียว!
หลังจากกรีดร้องอยู่ครู่ใหญ่จิมซึ่งเป็นแวมไพร์ที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น ก็สามารถฟื้นตัวได้แล้ว และรีบกลายร่างขั้นสุดทันทีเช่นกัน ร่างของจิมสูงใหญ่และหนาขึ้นกว่าพอลมาก เขี้ยวทั้งสองข้างในปากก็งอกยาวจนเกือบถึงพื้น ทันทีที่พุ่งเข้าหาหลิงหยุน เขี้ยวของมันก็จ่อเข้าที่ลำคอของเขาหวังกัดทันที
“คิดจะดื่มเลือดข้างั้นรึ”
หลิงหยุนคร้านที่จะเล่นกับแวมไพร์ทั้งสามตัวอีกเขาเรียกกระบี่โลหิตแดนใต้ออกมา และมือทั้งสองข้างเงื้อขึ้นฟันกระบี่เข้าใส่จิมทันที
“อ๊าก..!”
แขนสีเขียวทั้งสองข้างที่ใหญ่กว่าขาของคนธรรมดาอย่างมากนั้นถูกตัดขาดตั้งแต่หัวไหล่ลงมาจนกระเด็นหลุดไป!
“ดูสิว่า..เจ้าจะฟื้นตัวได้อีกหรือไม่” หลิงหยุนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาขณะที่ถือกระบี่โลหิตแดนใต้ไว้ในมือ!
หลิงหยุนเองก็อยากจะรู้ว่าหากเขาตัดแขนของแวมไพร์ไปแล้วมันจะสามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ทันทีหรือไม่ หลิงหยุนจะได้เตรียมตัวตัดหัวของจิมต่อไป!
จิมกรีดร้องระหว่างที่จ้องมองแขนทั้งสองข้างของตนเองหมุนละลิ่วอยู่กลางอากาศและเวลานี้มันก็กำลังหวาดกลัวสุดขีด!