Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร - ตอนที่ 503
Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 503
[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]
บทที่ 503 : รถหรูมากมาย!
“ดาบมารสะบั้นเทวะ.. ก็น่าจะเป็นคนของพรรคมาร..”
หลิงหยุนยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แววตาทั้งสองข้างของเขาเป็นประกายระหว่างที่จ้องมองธิดาพรรคมารหายเข้าไปในป่าลึก
“นางเป็นคนขององค์กรนักฆ่า หรือว่าคนของพรรคมารที่ร่วมมือกับองค์กรนักฆ่ากันแน่?”
หลิงหยุนเคยปะทะกับมือสังหารขององค์กรนักฆ่ามาหลายต่อหลายครั้ง เขาจึงค่อนข้างรู้จักและคุ้นเคยกับองค์กรนี้ดี
องค์กรนักฆ่านั้นทั้งน่าเกรงขามและลึกลับยิ่งนัก อีกทั้งยังมีสาขาอยู่ถึงสามประเทศ และออกปฏิบัติการทั่วโลก เรียกได้ว่าเป็นองค์กรใต้ดินที่มีอำนาจที่สุดในโลกก็ว่าได้
แต่ถึงกระนั้นหลิงหยุนเองก็ไม่มีความรู้เรื่อง ‘พรรคมาร’ มากนัก เขาจึงไม่รู้ว่าพรรคมารนั้นมีอำนาจมากเพียงใด
ธิดาพรรคมารก็ได้กลับไปแล้ว.. หลิงหยุนเองก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก เพราะท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้รู้ที่อยู่ของเสี่ยวเม่ยเม่ยจากปากของนาง แต่เท่าที่ฟังจากน้ำเสียงของนางเมื่อพูดถึงเสี่ยวเม่ยเม่ยนั้น หลิงหยุนคาดว่าเสี่ยวเม่ยเม่ยน่าจะตกอยู่ในมือขององค์กรนักฆ่า แต่เวลานี้ดูเหมือนจะยังไม่ได้รับอันตรายใดๆ ซึ่งทำให้หลิงหยุนค่อนข้างโล่งใจอย่างมาก
เงาสีแดงของไป๋เซียนเอ๋อพุ่งเข้าไปทางหลิงหยุน แต่กลับพุ่งผ่านร่างของหลิงหยุนเข้าไปในป่าทึบ และเมื่อเห็นว่าธิดาพรรคมารได้จากไปแล้วจริงๆ นางจึงกระโดดกลับมาหาหลิงหยุน
“พี่หลิงหยุน.. พี่เป็นอะไรหรือไม่?” ใบหน้าสวยงามของไป๋เซียนเอ๋อมีแววขุ่นเคืองเล็กน้อย
หลิงหยุนเข้าใจไป๋เซียนเอ๋อดี ไม่ว่าใครก็ตาม หากกล้าทำให้หลิงหยุนไม่พอใจ ไป๋เซียนเอ๋อย่อมต้องโกรธ และไม่พอใจอย่างแน่นอน..
“นางไปแล้วล่ะ.. ข้าไม่เป็นอะไร แล้วถังเมิ่งกับคนอื่นๆล่ะ?”
ไป๋เซียนเอ๋อตอบกลับไปว่า “เซียนเอ๋อใช้วิชาจิ้งจอกลวงตาซ่อนพวกเขาไว้แล้ว และตอนนี้ทุกคนก็ปลอดภัยดี”
“เจ้าเก่งมาก.. งั้นเราก็ไปกันได้แล้ว!”
เพียงแค่สองสามนาที หลิงหยุนและไป๋เซียนเอ๋อก็กลับไปถึงถนนไฮเวย์ที่พวกเขาถูกดักฆ่าเมื่อครู่
รถหรูจำนวนสิบกว่าคันยังคงจอดทิ้งอยู่บนถนน รวมทั้งรถ Skyper C8 ของธิดาพรรคมารด้วย หลิงหยุนมองไปรอบๆพร้อมกับยิ้มชั่วร้ายออกมา
“องค์กรนักฆ่าช่างน่าสนใจจริงๆ! ขับรถหรูมาพร้อมกันมากมายราวกับมีงานแสดงรถ!”
หลิงหยุนพึมพำพร้อมกับแอบดีใจอยู่เงียบๆ นับว่าโชคดีที่เขาเจาะยางลมของรถไปเพียงแค่เจ็ดคัน
หลิงหยุนหยิบมือถือออกมาโทรหาถังเมิ่ง สั่งให้เขาและตี้เสี่ยวอู๋พาคนมาเอารถหรูเหล่านี้กลับไปที่เมืองจิงฉู
หลิงหยุนช่างกล้านัก! เขากล้ายึดรถขององค์กรนักฆ่าไปเป็นของตัวเอง.. เขาช่างบ้าบิ่นจริงๆ!
หลิงหยุนรื้อค้นตามตัวของยอดฝีมือที่ถูกสังหารทั้งหมด และจัดการปิดเครื่องมือสื่อสารที่พวกมันนำติดตัวมาด้วย จากนั้นจึงเก็บของที่ได้มาทั้งหมดกลับเข้าไปไว้ในแหวนพื้นที่
หลิงหยุนเตะร่างที่ไร้วิญญาณเหล่านั้นมากองรวมกัน แล้วให้ไป๋เซียนเอ๋อใช้วิชาจิ้งจอกระเริงไฟจัดการเผาซากศพเหล่านั้นจนเป็นเถ้าถ่าน และปล่อยให้ลอยสลายหายไปพร้อมกับสายลมที่พัดมาในยามค่ำคืน
หลังจากที่จัดการทำลายซากศพเรียบร้อยแล้ว ตี้เสี่ยวอู๋ที่ขับรถแลนด์โรเวอร์สวนขึ้นมาบนถนนไฮเวย์ก็มาถึงพอดี..
ถังเมิ่งรอจนรถแลนด์โรเวอร์หยุด จึงรีบกระโดดลงไปอย่างตื่นเต้น เขาพุ่งเข้าไปหารถ Porche และลูบไล้ไปทั่วรถทันที
“หยุดลูบได้แล้ว และรีบๆเอารถกลับไป..” หลิงหยุนมองถังเมิ่งแล้วก็ได้แต่หัวเราะ
ตี้เสี่ยวอู๋มาถึงก็พูดกับหลิงหยุนอย่างเคารพนบนอบ “พี่หยุน.. ฉันโทรเรียกพี่น้องแก๊งมังกรเขียวมาแล้ว พวกเขาจะมาถึงอีกในไม่ช้า”
เหลืออีกเพียงแค่ 80 กิโลเมตรก็จะถึงเมืองจิงฉูแล้ว ด้วยความสามารถของแก๊งมังกรเขียว การนำรถเหล่านี้กลับไปจึงไม่ใช่เรื่องหนักหนาสำหรับพวกเขา
“น่าแปลก.. ทำไมผ่านไปตั้งนานแล้ว แต่กลับไม่มีรถราวิ่งผ่านถนนไฮเวย์นี้เลย..” ถังเมิ่งแม้จะกำลังตื่นเต้น แต่ก็อดที่จะประหลาดใจไม่ได้
หลิงหยุนยิ้มเพียงเล็กน้อย “ไม่เห็นจะแปลกตรงใหน! องค์กรนักฆ่ามีอิทธิพลมากแค่ใหน หากต้องการปิดถนนไฮเวย์เล่น.. ก็คงทำได้ไม่ยาก”
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง คนของแก๊งมังกรเขียวราวสี่สิบหรือห้าสิบคนก็มาถึง และแต่ละคนก็ล้วนแล้วแต่มีประสิทธิภาพทั้งสิ้น
ในขณะนั้น.. หลงหวู่ก็โผล่หน้าออกมาจากหน้าต่างรถ เธอมีสีหน้าตกใจและตื่นเต้นที่เห็นสมาชิกของแก๊งมังกรเขียวแต่ไกล จึงได้ถามหลิงหยุนด้วยความกังวลใจ
“นี่นายเอารถขององค์กรนักฆ่ากลับไป.. นายไม่กลัวพวกมันจะกลับมาแก้แค้นหรือยังไง?”
หลิงหยุนยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “เจ้าของรถพวกนั้นถูกผมฆ่าตายหมดแล้ว คุณบอกหน่อยว่าผมควรกลัวพวกมันไม๊?”
หลิงหยุนได้ฆ่ามือสังหารซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือขององค์กรนักฆ่าต่อหน้าธิดาพรรคมาร ตอนนี้สถานการณ์ระหว่างเขากับองค์กรนักฆ่าอยู่ในระดับที่หาทางจบลงไม่ได้แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าพวกมันจะกลับมาแก้แค้นหรือไม่?
รถหรูทั้งหกคนที่ยังอยู่ในสภาพดี คนของแก๊งมังกรเขียวส่วนหนึ่งได้ขับกลับไปเรียบร้อยแล้ว เหลืออีกเจ็ดคันที่ถูกหลิงหยุนซัดตะปูใส่ล้อ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีคนขององค์กรนักฆ่าปรากฏตัวขึ้นอีก หลิงหยุนจึงรู้สึกโล่งใจ..
หลิงหยุนสั่งถังเมิ่งกับตี้เสี่ยวอู๋ให้กลับรถพร้อมกับพูดขึ้นว่า “รถทีเหลือนี้ค่อยๆให้คนของแก๊งมังกรเขียวหาทางนำกลับไป ส่วนพวกเรากลับจิงฉูได้แล้ว”
นี่เกือบจะตีสี่แล้ว และหลิงหยุนเองก็ไม่ต้องการเสียเวลาอยู่ที่นี่อีก แต่หากจะปล่อยให้ถังเมิ่งและตี้เสี่ยวอู๋อยู่ที่นี่ เขาก็ไม่สบายใจเช่นกัน..
เพราะหากคนขององค์นักฆ่ากลับมาอีกจริงๆ หากต้องแลกระหว่างรถเจ็ดคันกับชีวิตของน้องชายของเขาทั้งสองคน หลิงหยุนรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าเลยสักนิด!
ส่วนพี่น้องแก๊งมังกรเขียวนั้น หลิงหยุนเชื่อว่าต่อให้องค์กรนักฆ่ากลับมาจริง พวกมันก็คงจะไม่เสียเวลาฆ่าคนธรรมดาเพื่อระบายความโกรธแน่
“พี่หยุน.. แต่รถเจ็ดคันนั่นเป็นรถดีๆทั้งนั้นเลย..” ถังเมิ่งดูเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง
หลิงหยุนขยิบตาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ถ้านายไม่กลัวตายก็อยู่ที่นี่ และรอกลับไปพร้อมกับรถพวกนั้นก็ได้..”
เมื่อถังเมิ่งได้ยินเช่นนั้น เขาก็รีบกระโดดเข้าไปบนเบาะที่นั่งข้างคนขับของรถแลนด์โรเวอร์ทันที
ตี้เสี่ยวอู๋เองก็ได้สั่งงานพี่น้องแก๊งมังกรเขียวเรียบร้อยแล้ว จึงไม่ต้องการเสียเวลาอีก และรีบขับรถออกไปทันที
เมื่อแล่นเข้าไปในเขตเมืองจิงฉู รถแลนด์โรเวอร์ก็ค่อยๆลดความเร็วลง หลิงหยุนมองไปยังท้องถนนในเมืองจิงฉูที่คุ้นตา แต่ในใจกลับนึกกังวลเล็กน้อย
ตอนนี้กลับมาถึงแล้ว แต่การหาที่อยู่ชั่วคราวให้กับไป๋เซียนเอ๋อกลับกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับหลิงหยุน
หลงหวู่ที่เริ่มคุ้นเคยกับหลิงหยุนเอื้อมมือเขาไปเกาะไหล่ของเขาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “หลิงหยุน.. ตอนนี้นายยังหาที่อยู่ให้น้องเซียนเอ๋อไม่ได้เลย ถ้ายังไงให้เธอมาอยู่กับฉันก่อนก็ได้นะ ฉันจะได้มีเพื่อนแล้วก็ไม่เบื่อด้วย..”
หลิงหยุนเองก็รู้สึกเห็นด้วยกับหลงหวู่ จึงหันไปหาไป๋เซียนเอ๋อ.. แต่ไป๋เซียนเอ๋อกลับมีท่าทางอึกอัก และสีหน้าของนางก็บ่งบอกว่า ‘ไม่!’
“เอ่อ.. เซียนเอ๋อไม่คุ้นเคยกับการอาศัยอยู่บ้านคนอื่น ขอผมคิดดูก่อน..”
หลิงหยุนยังมีเหยาลู่ และหนิงน้อยที่เขาสามารถให้ไป๋เซียนเอ๋อไปอยู่ด้วยสักสองสามวันได้ ส่วนหลินเมิ่งหานนั้นเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะหากพาไป๋เซียนเอ๋อกลับไปด้วย หลินเมิ่งหานคงต้องเป็นกังวลใจอย่างแน่นอน
“หลงหวู่.. คุณออกมาจากบ้านหลายวัน ลุงหลงคงจะเป็นห่วงมากแล้ว พวกเราจะไปส่งคุณที่บ้านก่อน!”
หลิงหยุนครุ่นคิดแล้วจึงตัดสินใจที่จะไปส่งหลงหวู่ที่บ้านก่อน
“แล้วนายล่ะ?” หลงหวู่เพิ่งจะพบหลิงหยุน และได้อยู่ด้วยกันไม่ถึงแปดชั่วโมง เธอจึงรู้สึกเสียดาย
หลิงหยุนยกมือขึ้นชี้ไปที่อ่าวจิงฉูพร้อมกับตอบยิ้มๆ “ผมก็ต้องกลับบ้านสิ น้าหญิงกับน้องสาวของผมกำลังรอผมกลับบ้านเหมือนกัน..”
เมื่อเห็นหลิงหยุนต้องการจะกลับบบ้าน หลงหวู่จึงไม่ต้องการพูดอะไรมาก และเพียงแค่บอกให้เขาระมัดระวังตัวให้มาก และให้ระวังคนขององค์กรนักฆ่าจะกลับมาแก้แค้น แล้วจึงลงรถไป..
“ตี้เสี่ยวอู๋.. นายลงไปส่งหลงหวู่เข้าบ้าน”
แม้ว่าจะกลับมาถึงจิงฉูแล้ว แต่หลิงหยุนก็ยังคงระมัดระวังตัวอย่างมาก เขาต้องการมั่นใจว่าหลงหวู่จะกลับถึงบ้านโดยปลอดภัย
ตี้เสี่ยอวู๋พยักหน้า และตามหลงหวู่ลงไปจากรถ.. ส่วนถังเมิ่งก็ไปนั่งที่คนขับแทนตี้เสี่ยวอู๋ แล้วจึงหันหลังไปถามหลิงหยุน
“พี่หยุน.. จะไปที่ใหน?”
“เซียนเอ๋อ.. เจ้ายิ้มหน่อย..!”
หลิงหยุนขี้เกียจพาไป๋เซียนเอ๋อไปถ่ายรูปทำบัตรประชาชนที่สำนักงานรักษาความมั่นคง เพราะมีขั้นตอนยุ่งยากและน่าเบื่อ
ไป๋เซียนเอ๋อยิ้มอายๆ หลิงหยุนจัดการถ่ายรูป และเลือกรูปที่สวยที่สูด
“กลับไปที่อพาร์ทเมนท์”
หลิงหยุนตัดสินใจให้ไป๋เซียนเอ๋อไปอยู่ที่นั่นชั่วคราว นางอาศัยอยู่ที่นั่นมาสักพักใหญ่แล้ว จึงค่อนข้างคุ้นเคย ที่นั่นจึงเหมาะกับไป๋เซียนเอ๋อที่สุด
รถแลนด์โรเวอร์มาหยุดอยู่ที่หน้าอพาร์ทเมนท์ และทั้งคู่ก็เดินเข้าไป..
เพราะเฉิงเม่ยเฟิงและเสี่ยวเม่ยเม่ยได้หายตัวไปพร้อมๆกัน ทุกครั้งที่หลิงหยุนกลับมาที่นี่ เขามักจะนึกถึงความสูญเสียที่ได้รับ ดังนั้นตั้งแต่ที่กลับขึ้นมาจากหลุมยักษ์ หลิงหยุนจึงไม่ค่อยได้มาที่นี่อีก
สีหน้าของหลิงหยุนไม่สู้ดีนัก ถังเมิ่งเองก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจ เขาพอจะเดาความรู้สึกของหลิงหยุนได้ และไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกัน..
“พี่หยุน.. บ้านหลังนี้เช่ามาจะครบสามเดือนแล้ว สัญญาใกล้จะหมดแล้ว..”
หลิงหยุนตอบเสียงเบา “อืม.. นี่ก็ใกล้จะสิ้นเดือนพฤษภาแล้ว เหลืออีกเพียงแค่เดือนเดียวก็จะหมดสัญญา.. เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน..”
หลิงหยุนยิ้มขมขื่น เขาเดินเข้าไปในห้องนอน ข้าวของเครื่องใช้ของเฉิงเม่ยเฟิงยังคงอยู่ที่เดิม และภาพของเธอกับเสี่ยวเม่ยเม่ยก็ค่อยๆปรากฏขึ้นตรงหน้าหลิงหยุน มีทั้งเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มของพวกเธอทั้งคู่
หลิงหยุนรู้สึกคิดถึงพวกเธอทั้งคู่จับใจ..
“พี่หยุน.. หลังจากสอบเอนทรานซ์ พี่จะเช่าต่อไม๊?”
“ไม่..’
“ไม่ว่าจะต้องใช้เงินมากเท่าไหร่.. นายไปจัดการซื้อไว้แทน!”