Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร - ตอนที่ 505
Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 505
[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]
บทที่ 505 : หลิงหยุนยอดเยี่ยมที่สุด!
หลิงหยุนใช้จิตหยั่งรู้สำรวจเหตุการณ์ภายในบ้าน เขาพบหลินเมิ่งหาน และชายหนุ่มผิวขาว อายุราวยี่สิบห้าปี มีสายตาที่เย้ยหยันผู้คนอยู่ตลอดเวลา กำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก และเขาก็คือหลงเทียนเจียว
‘หลงเทียนเจียวเป็นคนของกลุ่มอินทรีไม่ใช่รึ? เหตุใดเขาจึงมาปรากฏตัวที่บ้านของหลินเมิ่งหานได้?!’
‘แต่เดี๋ยวก่อน.. นี่เมิ่งหานหมั้นหมายแล้ว และกำลังจะเข้าพิธีในกลางฤดูใบไม้ผลิปีนี้งั้นรึ? ส่วนหลงเทียนเจียวก็คือคู่หมั้นของนางหรือนี่?!
เลือดในกายของหลิงหยุนพลุ่งพล่านรุนแรง ในร่างกายของเขาเต็มไปด้วยไฟที่พร้อมจะเผาผลาญ และกำลังจะเปิดประตูเข้าไป!
แต่ดูเหมือนว่าสติของหลิงหยุนจะมาได้ทันเวลา เขาจึงอดใจไว้ได้ทัน พร้อมกับไตร่ตรองเรื่องราวที่ผ่านมา และเริ่มเข้าใจได้ทันที – หลังจากหลินเมิ่งหานจากเขาไปแล้ว แต่จู่ๆก็หวนกลับมา อีกทั้งยังเป็นฝ่ายยินดีมอบกายให้กับเขาอย่างเต็มใจ!
หลิงหยุนได้แต่ภูมิกอกภูมใจจนเผลอหัวเราะออกมา ‘เมิ่งหาน.. ต่อให้เจ้าหลงรักข้ามากเพียงใด ก็ควรรอให้ข้าไปพูดคุยเรื่องการแต่งงานก่อน ไม่ควรรีบมอบกายให้ข้าเช่นนี้’
“คู่หมั้นงั้นรึ? เจ้าอย่าได้ฝันไปเลย! หากเจ้ากล้าแตะผู้หญิงของข้า.. ระวังตัวไว้ให้ดีข้าจะตัดน้องชายเจ้าทิ้งซะ!”
หลิงหยุนสามารถคาดเดาสถานการณ์ได้ทันที และจิตใจก็เริ่มสงบลงเช่นเดิม เขาไม่รีบร้อน และกำลังต้องการรอฟังว่าหลินเมิ่งหานจะตอบหลงเทียนเจียวว่าอย่างไร?
ตอนนี้หลินเมิ่งหานก็ยืนห่างจากหลงเทียนเจียวเกือบสิบเมตร!
หลินเมิ่งหานตอบกลับไปด้วยความอับอาย และรู้สึกไร้เกียรติ “เรื่องนั้นฉันรู้ดี.. ตระกูลหลินและตระกูลหลงมีข้อตกลงเรื่องการแต่งงานระหว่างสองตระกูล คุณสบายใจได้! ถึงกลางฤดูใบไม้ผลิเมื่อไหร่ ฉัน – หลินเมิ่งหานจะต้องทำตามข้อตกลงด้วยการแต่งงานกับคุณอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้.. สถานะของเราสองคนเป็นเพียงแค่คู่หมั้นเท่านั้น แต่การที่คุณมาที่บ้านของฉันตั้งแต่เช้าตรู่ มันออกจะเกินไปหน่อยนะ!”
หลินเมิ่งหานตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจอย่างมาก!
หลิงหยุนคิดในใจว่า.. หลินเมิ่งหานยังคงเป็นผู้หญิงที่โง่เขลาเช่นเดิม! เขาและนางเป็นสามีภรรยากันแล้ว แต่นางยังคิดจะไปทำตามข้อตกลงบ้าๆนั่นอีก และให้หลงเทียนเจียวรับของเหลือเดนจากเขา?
ฝันกลางวันชัดๆ!
แต่ตอนนี้การฝึกบ่มเพาะของหลินเมิ่งหานก็ก้าวหน้าขึ้นมาก หลิงหยุนเองก็นึกพอใจอย่างมาก และได้แต่แอบชื่นชมผู้หญิงของตัวเองอยู่ในใจ
หลงเทียนเจียวยังคงนั่งเผชิญหน้ากับหลินเมิ่งหานอยู่บนโซฟาด้ายท่าทีเป็นกันเอง แต่ในใจกลับรู้สึกตื่นเต้น และตกใจไม่น้อย!
หลงเทียนเจียวตื่นเต้นเพราะหลินเมิ่งหานนั้นช่างสวยงามเสียเหลือเกิน เธอสวยราวกับเทพธิดามาจุติไม่มีผิด แม้จะสวมชุดอยู่บ้านเบาสบาย แต่กลับไม่สามารถปกปิดเรือนร่างที่งดงามของเธอได้
นอกเหนือจากความตื่นเต้นในความสวยของหลินเมิ่งหานแล้ว หลงเทียนเจียวก็ถึงกับตกใจที่พบว่าหลินเมิ่งหานนั้นอยู่ในขั้นโฮ่วเทียน-9 แล้ว เพราะครั้งแรกที่เขาได้พบกับเธอนั้น เธอไม่เคยฝึกวรยุทธเลยด้วยซ้ำไป
หลินเมิ่งหานไปกินยาวิเศษอะไรเข้า ในเวลาสั้นๆ ถึงได้มีกำลังภายในถึงขั้นโฮ่วเทียน-9 ได้?
การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วจนน่าอัศจรรย์ของหลินเมิ่งหานนั้น แม้แต่หลงเทียนเจียวซึ่งเป็นคนของตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลง ก็ยังไม่เคยได้พบเห็น หรือได้ยินชื่อยาชนิดนี้มาก่อน..
ไม่ใช่ยาวิเศษอัศจรรย์ที่ใหนเลย แต่มันคือการบ่มเพาะเคียงคู่ของหลิงหยุนนั่นเอง!
ด้วยวิชาพลังลับหยินหยางของหลิงหยุน พลังเย็นหยินจากคนทั้งคู่ และพลังหยินที่บริสุทธิ์ของหลินเมิ่งหาน การเข้าสู่ขั้นโฮ่วเทียน-9 ภายในชั่วข้ามคืนจึงไม่ใช่เรื่องแปลก!
แต่เพราะหลงเทียนเจียวไม่ได้คิดเกินเลยเช่นนั้น และเขาก็ไม่รู้ว่าตอนนี้หลินเมิ่งหานไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อีกแล้ว เขาจึงคิดว่าตนเองกำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบ!
‘เมิ่งหาน.. ยิ่งเจ้าอยู่ในขั้นสูงมากเท่าไหร่ ตระกูลของเราทั้งสองคน ก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น!’
“เมิ่งหาน.. ผมว่าคุณคงเข้าใจผิดแล้วล่ะ! ความจริงการหมั้นหมายก็คือเครื่องยืนยันการแต่งงานที่จะมีขึ้นระหว่างตระกูลหลงกับตระกูลหลิน และเมื่อสองตระกูลเป็นทองแผ่นเดียวกันเมื่อไหร่ ตระกูลหลินของคุณก็จะยิ่งมีเสถียรภาพมากขึ้น! แม้ตอนนี้เราสองคนจะเพียงแค่หมั้นหมายกันก็จริง แต่ไม่นานก็จะเข้าพิธีกันแล้ว”
หลินเมิ่งหานถอนหายใจด้วยความโมโห.. หลิงหยุนเองก็ยังไม่กลับมาเสียที ทำให้เธอเป็นกังวลอย่างมาก เธอเฝ้าคิดถึงเขาทุกวันทุกคืน และคิดว่าเมื่อหลิงหยุนกลับมา เธอและเขาจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลงเทียนเจียวจะโผล่มาที่บ้านของเธอ และดูเหมือนว่าจะไม่ยอกลับไปเสียด้วย!
หากหลิงหยุนรู้เรื่องนี้ ต่อให้หลินเมิ่งหานมีร้อยปาก ก็คงไม่สามารถอธิบายให้หลิงหยุนเข้าใจได้ คงได้แต่กระโดดแม่น้ำแยงซีเกียงพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง..
“หมั้นก็คือหมั้น.. แต่งงานก็คือแต่งงาน..! ก่อนที่พวกเราจะแต่งงานกัน ฉันขอให้คุณเคารพในสิทธิในความเป็นส่วนตัว และอิสรภภาพของฉันด้วย! ตอนนี้ได้โปรด.. ออกไปจากบ้านของฉันได้แล้ว!”
หลินเมิ่งหานเห็นว่าท้องฟ้าเริ่มสว่างไสวแล้ว และไม่ต้องการที่จะพูดคุยกับหลงเทียนเจียวอีก จึงได้ทั้งสั่งทั้งขอร้อง!
หลงเทียนเจียวชื่นชอบในความงดงามของหลินเมิ่งหาน และตระกูลหลินเองก็ต้องการได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหลง ดังนั้นเขาจึงเสนอตัวเองแต่งงานกับหลินเมิ่งหาน และผู้ใหญ่ในตระกูลต่างก็เห็นชอบด้วย!
แม้จะเป็นการแต่งงานที่เกิดจากผลประโยชน์ แต่หลงเทียนเจียวก็แต่งงานกับหลินเมิ่งหานเพราะความรัก แต่ดูเหมือนหลินเมิ่งหานจะเกลียดชังเขาอย่างมาก..
หลงเทียนเจียวเกิดในตระกูลหลง เขาจึงเห็นการแต่งงานด้วยผลประโยชน์เป็นเรื่องปกติ สิ่งที่หลงเทียนเจียวต้องการคือสถานภาพในตระกูลหลง อีกทั้งเขายังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอย จึงไม่ขาดแคลนผู้หญิงนัก!
ดังนั้น.. สิ่งที่หลงเทียนเจียวต้องการจากหลินเมิ่งหานจึงไม่ใช่เพียงแค่ความสวยงามของเธอเท่านั้น แต่เขายังต้องการสถานภาพในตระกูลอีกด้วย!
ตระกูลหลินเป็นตระกูลที่มีอำนาจทางการทหารในประเทศจีน หากเขาได้แต่งงานกับหลินเมิ่งหาน ตระกูลหลินก็จะสามารถสนับสนุนตระกูลหลงได้เช่นกัน และผู้ที่จะได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหลินก่อน ก็คือตัวเขาเอง!
เพราะเขาคือสามีของหลินเมิ่งหาน และเป็นลูกเขยของตระกูลหลิน!
หลงเทียนเจียวเป็นผู้ฝึกวรยุทธ และเป็นผู้ที่มีความมั่นอกมั่นใจในตัวเองอย่างมาก ไม่ว่าจะด้วยฐานะทางครอบครัว และเป็นถึงยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-1 อีกทั้งตอนนี้ก็ยังได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าของกลุ่มเทพอินทรี ความสามารถมากมายเช่นนี้ จะไม่เพียงพอที่จะทำให้หลินเมิ่งหานชื่นชอบเขาได้บ้างเชียวหรือ?
“เมิ่งหาน.. คุณอย่ารีบร้อนขับไล่ไสส่งผมนักเลย ตอนนี้ผมเป็นถึงรองหัวหน้าของกลุ่มเทพอินทรี ครั้งนี้ผมมาเจียงหนานก็เพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษในเมืองจิงฉู แล้วผมก็จะอยู่ที่นี่เพียงแค่สามวันเท่านั้น ผมต้องใช้เส้นสายมากมายกว่าจะหาที่อยู่ของคุณพบ.. คุณน่าจะรับรู้บ้างว่าหัวใจของผมมีแต่คุณเท่านั้น..”
หลงเทียนเจียวนั้นนับว่าเป็นผู้ที่มีวาทศิลป์สามารถหว่านล้อมให้หญิงสาวเคลิบเคลิ้มได้เก่งนัก เขารู้จักถ่อมตัว และแสดงกิริยาที่อ่อนโยนกับหลินเมิ่งหาน
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของหลงเทียนเจียว หลิงหยุนที่อยู่นอกประตูก็ได้แต่นึกหยันอยู่ในใจ..
“คำพูดพวกนั้นคุณเก็บไปใช้กับคนอื่นก็แล้วกัน ฉันไม่ต้องการได้ยิน!”
หลินเมิ่งหานนับว่าเป็นผู้หญิงเย็นชา ที่สามารถปฏิเสธหลงเทียนเจียวได้ลง อีกทั้งยังไม่รู้สึกประทับใจในคำพูดของเขาเลยแม้แต่น้อย
นั่นเพราะหัวใจของเธอมีเพียงหลิงหยุนคนเดียวเท่านนั้น แล้วจะให้เธอมาสนใจฟังคำพูดไร้สาระของหลงเทียนเจียวได้อย่างไรกัน?
หลงเทียนเจียวนับว่าหลงตัวเองอย่างมาก เขาคิดเอาเองว่าการที่หลินเมิ่งหานทำท่าทางไม่สนใจใยดีเขานั้น เป็นเพียงแค่การเสแสร้งเพื่อให้ตัวเองมีค่าในหัวใจของเขามากขึ้น
หลงเทียนเจียวยังคงพล่ามต่อ “เมิ่งหาน.. คุณไม่ควรคิดว่าการแต่งงานของเราเป็นเพียงแค่เรื่องผลประโยชน์และความมั่นคงของสองตระกูล หรือเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่เห็นดีเห็นงามเท่านั้น แต่ได้โปรดเชื่อว่าผม – หลงเทียนเจียว แต่งงานกับคุณด้วยความรักจริงๆ!”
หลงเทียนเจียวพูดจาราวกับเขาเป็นคนที่มีความรักอยู่เต็มหัวใจ..
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลินเมิ่งหานจะโกรธมาก จนถึงกับต้องเอามือปิดหูไว้ และก่อนที่หลงเทียนเจียวจะพูดจบ เธอก็รีบพูดแทรกขึ้นพร้อมกับถอนหายใจเสียงดัง..
“คุณหยุดพูดเดี๋ยวนี้ แล้วก็กลับไปได้แล้ว! เพราะถ้าคุณยังไม่ไป ฉันจะโทรเรียกตำรวจแล้วนะ!”
หลงเทียนเจียวยังคงอารมณ์ดี แต่ก็ถึงกับถอนหายใจ แล้วสายตาที่อ่อนโยนเมื่อครู่ ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเย็นชา..
“เมิ่งหาน.. คุณเลิกหยาบคายกับผมได้แล้ว! ผมไม่เข้าใจจริงๆ หากไม่นับว่าผมเป็นคนของตระกูลหลง ผมก็เป็นถึงรองหัวหน้าของกลุ่มเทพอินทรี ทั่วทั้งเมืองจิงฉูมีใครบ้างที่กล้ากับผม?”
หลังจากที่ได้พูดไปแล้ว หลงเทียนเจียวก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ พร้อมกับเอนหลังพิงโซฟาอย่างสบายอกสบายใจ
“ยิ่งคุณไล่ผม.. ผมก็จะยิ่งไม่ไป! พอดีวันนี้ผมไม่มีภารกิจสำคัญซะด้วยสิ คุณจะโทรเรียกตำรวจก็โทรเลย ผมก็จะบอกตำรวจว่า ผมกำลังพลอดรักกับคู่หมั้น ดูว่าใครหน้าใหนจะกล้ากับผม!”
“นี่คุณ!” หลินเมิ่งหานเห็นหลงเทียนเจียวพูดจาขี้โกง เธอก็ยิ่งโมโหมากขึ้น!
“ได้.. คุณไม่ไปใช่ไม๊?”
เมื่อหลินเมิ่งหานเห็นว่าไม่มีทางทำอะไรหลงเทียนเจียวได้ อีกทั้งไม่มีประโยชน์ที่เธอจะมาโมโหเขาอยู่อย่างนี้ เธอจึงคิดที่จะเป็นฝ่ายออกไปเอง!
หลงเทียนเจียวหัวเราะ เขาเอามือปัดก้นพร้อมกับลุกขึ้นยืน “วันนี้ผมจะอยู่กับคุณ.. ไม่ว่าคุณจะไปที่ใหน ผมก็จะตามไปด้วย..”
เมื่อหลงเทียนเจียวเห็นว่าวิธีของเขาไม่สามารถใช้กับหลินเมิ่งหานได้ผล เขาจึงเริ่มใช้วิธีตามตื๊อแทน!
แต่เมื่อหลินเมิ่งหานกำลังโกรธจนแทบจะร้องไห้อยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายดังออกมาจากด้านนอก
“ไม่ว่าคุณไปที่ใหน ผมก็จะตามไปงั้นรึ? ช่างน่ารำคาญสิ้นดี!”
ยังไม่ทันที่เสียงของหลิงหยุนจะพูดจบ หลินเมิ่งหานและหลงเทียนเจียวที่อยู่ในห้องนั่งเล่นก็ถึงกับสีหน้าเปลี่ยนไปทันที