Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร - ตอนที่ 521
บทที่ 521 : คลีนิคสามัญชน!
ถังเมิ่งขับรถแลนด์โรเวอร์ของหลิงหยุน ส่วนตี้เสี่ยวอู๋ขับ Mercedes หรูสีดำ และทั้งสามคนกับรถสองคันก็พุ่งออกจากบ้านเลขที่-1 ไปยังคลินิกสามัญชนทันที
สำหรับรถสปอร์ตหรู Spyker C8 นั้น แม้จะเป็นที่ดึงดูดสายตาผู้คนก็จริง แต่ก็จะนำความหายนะให้บังเกิดแก่หลิงหยุนอย่างแน่นอน เขาจึงเลือกที่จะจอดมันไว้ที่บ้านแทน
“พี่หยุน.. เมื่อไหร่พี่จะว่างคุยเรื่องแผนพัฒนาธุรกิจกับฉัน?”
ภายในรถแลนด์โรเวอร์ ถังเมิ่งจุดบุหรี่ขึ้นดูด แล้วหันไปถามหลิงหยุนซึ่งนั่งอยู่ด้านข้าง
ถังเมิ่งเป็นเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง นอกเหนือจากคลินิกสามัญชนแล้ว หลิงหยุนยังมอบให้ถังเมิ่งเป็นผู้ดูแลธุรกิจอื่นๆอีกด้วย ถังเมิ่งเป็นคนเฉลียวฉลาด จึงไม่ยากที่หลิงหยุนจะตั้งตารอคอยอนาคตที่สวยงามได้
หลิงหยุนหันไปตอบถังเมิ่งทันที “ธุรกิจของนาย.. นายก็ไปจัดการเองสิ! ฉันบอกแล้วว่ามีกฏเพียงแค่ข้อเดียวคือห้ามขาดทุน นอกจากนั้นเป็นเรื่องของนาย!”
หลิงหยุนมีปัญหามากมายพอแล้ว เขาจึงไม่ต้องการไปยุ่งเกี่ยว และเป็นกังวลในเรื่องเงิน แล้วก็ธุรกิจอะไรอีก
ถังเมิ่งถึงกับอึ้งไปครู่ใหญ่ แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจและตอบกลับไปว่า “ก็ได้.. ถ้างั้นฉันไม่พูดก็ได้!”
ตอนนี้รถทั้งสองคันอยู่ห่างจากสี่แยกถนนกู่เฟิงไปราวสามกิโลเมตร และกำลังจอดรถอยู่ด้านหน้าคลินิกสามัญชน
ที่นี่เป็นย่านที่ค่อนข้างเจริญ รถราจึงค่อนข้างหนาแน่น..
หลิงหยุนหันไปมองคลินิกสามัญชนที่เปิดประตูแต่เช้า และด้วยกระจกที่ใสไร้สิ่งแปดเปื้อน ร่างที่คุ้นตาหลิงหยุนกำลังถือไม้ม็อบก้มๆเงยๆ ถูพื้นอย่างตั้งอกตั้งใจ
ถังเมิ่งดูดบุหรี่ที่ยังคงไม่หมด ปากของเขาคาบบุหรี่ไว้พร้อมกับทำหน้าพยักเพยิดไปยังร่างที่กำลังวุ่นวายอยู่นั้นพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“พี่หยุน.. บ้านของพี่เหยาลู่ตกแต่งเสร็จและพร้อมเข้าอยู่ตั้งหลายวันแล้ว แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะอยู่ที่นี่ ตั้งแต่คลีนิคตกแต่งเสร็จเรียบร้อย พี่เหยาลู่ก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ แล้วก็ลงมือทำความสะอาดร้านจนเอี่ยมทุกวันเพื่อรอพี่กลับมา..”
แม้ถังเมิ่งจะเป็นหนุ่มเพลย์บอยเจ้าสำราญ แต่เขาก็อดที่จะประทับใจในอุปนิสัยของเหยาลู่ไม่ได้ เพื่อหลิงหยุนแล้วเธอสามารถอดทนทำงานทุกอย่าง และอดทนต่อความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเพราะเขา เธอช่างเป็นผู้หญิงที่มีหัวใจแข็งแกร่งยิ่งนัก!
หลิงหยุนยิ้มด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจพร้อมกับพยักหน้ารับรู้ เขาเปิดประตูรถเดินออกไป และค่อยๆก้าวเข้าไปในคลีนิคช้าๆ
“ผมมาหาหมอครับ..” หลิงหยุนพูดขึ้น
“ขอโทษค่ะ.. คลินิกของเรายัง.. ห๊ะ!”
เหยาลู่กำลังจะหันกลับไปตอบว่าคลินิกยังไม่เปิดทำการ แต่ระหว่างที่หันไปนั้นเธอก็พบหลิงหยุนกำลังเดินเข้ามาพอดี จึงร้องอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น!
ภายในคลินิกมีเพียงเหยาลู่คนเดียวเท่านั้น หลิงหยุนจึงรีบเดินเข้าไปหา และโอบกอดร่างของเธอที่อยู่ตรงหน้าไว้ในอ้อมแขนทันที
เคร้ง! เสียงไม้ถูพื้นตกลงกระทบกับพื้น..
หลิงหยุนโอบกอดเหยาลู่ไว้แน่น และรับรู้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นแรงราวกับกลองของเธอ หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่.. หลิงหยุนจึงค่อยๆผลักร่างของเหยาลู่ออกอย่างอ่อนโยนพร้อมกับจ้องมองใบหน้าที่สวยงามนั้น จากนั้นจึงยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลเปียกอยู่ตามหน้าผากให้
“ผมสั่งไม่ให้คุณทำงานยังไงล่ะ? ทำไมถึงไม่เชื่อฟัง..” หลิงหยุนตำหนิเหยาลู่ แต่เหยาหลู่กลับยิ้มอย่างมีเสน่ห์
เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของถังเมิ่ง และตี้เสี่ยวอู๋เดินเข้าประตูมา เหยาลู่จึงรู้สึกเขินอาย และร่างเล็กๆบอกบางของเธอก็รีบผละออกจากอ้อมกอดของหลิงหยุนทันที
ที่นี่เป็นคลินิก.. ไม่ใช่สถานที่สำหรับแสดงความรัก!
หลิงหยุนหันหน้าไปมองทั้งสองหนุ่มที่เดินเข้ามาด้วยแววตาขุ่นเคือง แต่ทั้งคู่กลับไม่มีทีท่าสะทกสะท้านว่าได้ทำความผิดอะไร และยังเดินเข้าไปหาเก้าอี้นั่งด้วยท่าทางไม่รู้ไม่ชี้
“วันนี้อากาศดีจังเลยว่ามั๊ย..?” ถังเมิ่งหันไปพูดกับตี้เสี่ยวอู๋พร้อมกับส่งยิ้มให้
“จริงด้วย.. ดูเหมือนฤดูฝนปีนี้จะมาช้า สงสัยน่าจะเป็นปลายเดือนนี้..” ตี้เสี่ยวอู๋เองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี
หลิงหยุนเห็นแล้วแทบอยากให้ตะปูซัดกับทั้งคู่คนละหนึ่งดอกเป็นรางวัลก่อนจะพูดรอดไรฟันว่า “ทำไมพวกนายไม่ไปตายซะ..”
เหยาลู่ถึงกับเขินอาย.. หลิงหยุนเองก็หัวเราะกับท่าทางของเธออย่างมีความสุข
หลิงหยุนรู้ว่าน้องชายทั้งสองคนของเขานั้นตั้งใจจะหยอกล้อเขาเล่นสนุกๆเท่านั้น เขาจึงไม่ได้ถือเป็นจริงเป็นจังนัก หลิงหยุนยื่นมือออกไปจับมือเล็กๆของเหยาลู่ไว้พร้อมกับหันไปมองรอบๆคลีนิกของตนเอง
การรักษาของหลิงหยุนนั้น ไม่จำเป็นต้องอาศัยการฉีดยา หรือแม้แต่กินยา ดังนั้นคลินิกของเขาจึงไม่มีทั้งยาแผนปัจจุบัน หรือแม้แต่เครื่องมือทางการแพทย์เลยสักชิ้น
พื้นที่ด้านล่างกว่าสองร้อยตารางเมตรของคลินิกทั้งหมดนั้นถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรกเป็นจุดลงทะเบียน ส่วนจุดที่สองเป็นห้องที่หลิงหยุนจะใช้ในการตรวจคนไข้
และส่วนที่ใหญ่ที่สุดนั้น ถูกแบ่งเป็นแถวเล็กๆ และมีเตียงเดี่ยววางอยู่ทั้งหมดสิบสองเตียง ทุกเตียงล้วนคลุมด้วยผ้าปูเตียงสีขาวสะอาดสะอ้าน แต่ละเตียงถูกกั้นไว้ด้วยผนังสูงสองเมตร และส่วนนี้ไว้ใช้สำหรับดูแลคนไข้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
ในห้องโถงของคลินิก.. มีม้านั่งยาวกว่าสามเมตรวางอยู่ เพื่อให้คนไข้นั่งรอรับการรักษา หรือให้ครอบครัวที่มาด้วยได้นั่งรอ
ติดกับประตูทางเข้า.. มีโต๊ะหรูหราภูมิฐาน และเก้าอี้เรียงกันอยู่อีกสามตัว เป็นที่สำหรับให้หมอได้นั่งสอบถามอาการเจ็บป่วยของคนไข้ แต่สำหรับคลินิกประชาชนของแม่เขานั้น ที่ตรงนี้กลับกลายเป็นที่ที่คนรู้จักเข้ามานั่งคุยกันเสียมากกว่า
เรียบ หรู สะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อย หลิงหยุนสำรวจอย่างพึงพอใจ พร้อมกับลูบไล้ฝ่ามือเล็กๆของเหยาลู่เป็นรางวัล
“แล้วห้องอาบน้ำล่ะ..?” หลิงหยุนถามเหยาลู่พร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์
เหยาลู่หน้าแดงพร้อมกับยกมือชี้ไปที่มุม “ห้องอาบน้ำก็ยังอยู่ที่เดิม.. ตรงนั้นไง..”
“เราขึ้นไปดูชั้นสองกัน!”
ชั้นล่างนั้นหลิงหยุนไม่ได้สนใจมากนัก แต่เขาสนใจชั้นสองมากกว่า
หลิงหยุนให้ความสนใจกับชั้นสองของคลีนิกตั้งแต่เริ่มตกแต่งแล้ว เพราะเป็นชั้นที่เขาจะใช้สำหรับอยู่อาศัยเอง เขาจึงต้องการให้ตกแต่ง และจัดให้ดูเหมือนกับอยู่บ้านมากที่สุด
คลินิกแห่งนี้ใช้เวลาตกแต่งนานมาก ความจริงแล้วชั้นล่างนั้นไม่ได้ใช้งบประมาณในการตกแต่งมากเท่าไหร่นัก แต่ค่าตกแต่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้นสองเสียมากกว่า
“ห้องใหนของเธอเหรอเหยาลู่?” หลิงหยุนถามขึ้นขณะที่เดินโอบเอวอ้อนแอ้นของเหยาลู่ขึ้นไปชั้นสอง
เหยาลู่หน้าแดงก่ำ หัวใจเต้นแรงและเร็วขณะที่ชี้ไปทางห้องนอนใหญ่ที่สุดซึ่งหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์
หลิงหยุนยิ้มตาประเป็นประกายระหว่างที่พาเหยาลู่เดินเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน..
ห้องนอนใหญ่นี้กินพื้นที่กว่างหนึ่งในสี่ของพื้นที่ชั้นสองทั้งหมด และภายในห้องนอนก็มีห้องน้ำส่วนตัวด้วย
ภายในห้องมีเตียงขนาดใหญ่สำหรับนอนสองคน โซฟาที่ทำจากหนัง โต๊ะทำจากไม้มะฮ็อกกานี เครื่องปรับอากาศ และทีวี..
สิ่งของทั้งหมดที่อยู่ในห้อง ล้วนตรงตามความต้องการของหลิงหยุน หลิงหยุนไม่เพียงพอใจอย่างมาก แต่กลับรู้สึกตกใจอีกด้วย
ที่หลิงหยุนตกใจนั้นเพราะเขาเหลือบไปเห็นกระโปรงพยาบาลที่แขวนอยู่ทางหน้าต่างด้านทิศใต้สองชุดนั่นเอง
“ผมชอบ.. ผมชอบ..”
หลิงหยุนเอ่ยชื่นชม แต่ฝ่ามือใหญ่กลับเคลื่อนไปวางอยู่ที่หน้าอกตั้งตรงของเหยาลู่แทน
ร่างบอบบางของเหยาลู่อ่อนยวบ ใบหน้าแดงก่ำ ในขณะที่ริมฝีปากก็พึมพำว่า “อย่า..” พร้อมกับหายใจรุนแรง
แน่นอนว่าหลิงหยุนไม่ทำอะไรอย่างว่าที่นี่อยู่แล้ว เขาเพียงต้องการหยอกล้อเหยาลู่เล่นก็เท่านั้นเอง จากนั้นจึงปล่อยร่างอ้อนแอ้นของเหยาลู่ และเดินตรงไปที่หน้าต่าง แล้วยกมือขึ้นลูบไล้ชุดพยาบาลของเหยาลู่ที่เนื้อผ้านุ่มนวลราวกับไหม
เหยาลู่ยืนมองท่าทางของหลิงหยุนด้วยใบหน้าที่แดงกว่าเดิม และรีบถามหลิงหยุนเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
“จะเปิดคลินิกเมื่อไหร่?”
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับมองผ่านหน้าต่างไป สายตาของเขาเหลือบไปมองที่มุมถนนด้านตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งเป็นร้านเสื้อผ้าของคนเซียงฉี และตอนนี้ร้านก็เปิดแล้ว
“ไม่วันที่ยี่สิบ ก็คงจะเป็นวันที่ยี่สิบเอ็ด..” หลิงหยุนตอบเสียงเรียบเพราะเห็นว่าสองวันนี้เป็นวันที่ตรงกับวันเสาร์และอาทิตย์พอดี
เหยาลู่พยักหน้าพร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก รอยยิ้มสดใสปรากฏอยู่บนใบหน้าสวยงามของเธอระหว่างที่คิดว่าในที่สุดคลินิกก็จะได้เปิดเสียที..
เหยาลู่รู้ดีว่าหลิงหยุนไม่ได้ขาดแคลนเงิน และสำหรับเธอการเปิดคลินิกไม่ได้สำคัญเท่ากับเรื่องที่หลิงหยุนจะต้องมาที่คลีนิกบ่อยขึ้น เธอจึงอยากให้คลินิกเปิดให้บริการโดยเร็ว เพื่อที่เธอจะได้พบเจอกับหลิงหยุนทุกวัน และไม่ต้องรอคอยเขาเหมือนเช่นทุกวันนี้
สำหรับเหยาลู่แล้ว การรอคอยหลิงหยุนไม่ต่างจากการถูกทรมาน และเป็นการทรมานที่ทำให้เธอแทบแหลกเหลวเป็นเถ้าถ่าน
“คุณช่วยหาพยาบาลเพิ่มมาอีกสองสามคน..” หลิงหยุนหันหน้าไปยิ้มและพูดกับเหยาลู่
เมื่อคลีนิกเปิดให้บริการ ไม่รู้ว่าจะต้องพบเจอกับคนไข้แบบใหนบ้าง หลิงหยุนไม่ต้องการให้เหยาลู่ออกไปต้อนรับ และดูแลคนไข้เหมือนเช่นเมื่อก่อน เพราะถึงแม้เหยาลู่จะอยู่ในชุดพยาบาลก็ยังยั่วยวนชวนมอง อาจทำให้คนไข้หนุ่มๆ ถึงกับเลือดกำเดาไหลได้
เหยาลู่พยักหน้า และกำลังคิดว่าเธอจะจ้างพยาบาลแบบใหนดีหลิงหยุนจึงจะพอใจ..
หากจะเลือกนางพยาบาลที่ยังสาวและสวย.. ก็อาจจะเป็นภัยกับตัวเธอเอง
แต่หากจะเลือกนางพยาบาลอายุมากและมีประสบการณ์ แต่ก็ไม่เป็นภัยคุกคามตัวเอง ก็เกรงว่าหลิงหยุนจะไม่พอใจ
“เหยาลู่.. เมื่อวานมีคนมาที่คลีนิกบ้างมั๊ย?”
หลิงหยุนถามขึ้นเพราะเขาบอกกับหลินเมิ่งหานให้มาช่วยที่ร้านได้หากรู้สึกเบื่อหรือเหงา
เหยาลู่จำได้ว่าเมื่อบ่ายวานนี้ จู่ๆก็มีหญิงสาวหน้าตาสวยงามราวกับเทพธิดาปรากฏตัวขึ้นที่คลีนิก เธอจึงได้แต่พยักหน้าเงียบๆ
“อืมม.. มี”
“แต่เธอก็แค่มาถามชื่อของฉัน แล้วก็ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับคุณ แล้วก็เดินออกไป..”
หลิงหยุนฟังแล้วก็ได้แต่นึกแปลกใจที่หลินเมิ่งหานมาที่คลินิกสามัญชนเมื่อวานนี้ แต่กลับใจเย็น และยังนิ่งเงียบอยู่ได้หลังจากที่พบกับเหยาลู่แล้ว
ที่หลินเมิ่งหานใจเย็นนั้น ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่หึงหวง แต่เพราะเธอเห็นเหยาลลู่ที่ยุ่งอยู่กับการทำงาน และเข้าใจดีว่าคลินิกแห่งนี้ไม่ใช่ที่ของเธอ เธอจึงไม่ต้องการเข้าไปวุ่นวาย
ตั้งแต่เริ่มตกแต่งคลินิกนั้น เหยาลู่ก็จัดการทำทุกอย่างเพียงลำพัง เธอรักและผูกพันกับคลีนิกแห่งนี้จนยอมตายเพื่อปกป้องมันได้ เธอแทบจะไม่ต้องป่าวประกาศให้ใครต่อใครได้รู้ว่าที่นี่เป็นที่ของเธอ แต่ทุกคนต่างก็สามารถรู้สึกได้ และไม่กล้าที่จะเข้าไปวุ่นวาย แม้แต่หลินเมิ่งหาน!
และนี่เป็นสัญชาติญาณระหว่างผู้หญิงด้วยกันเอง!
เช่นเดียวกัน.. หากหลิงหยุนพาเหยาลู่ไปที่บ้านของหลินเมิ่งหาน ก็ยากที่เหยาลู่จะทำความคุ้นเคยได้
หลินเมิ่งหานพูดกับเหยาลู่ด้วยอย่างสุภาพเพียงแค่สองสามคำ และดูเหมือนว่าเหยาลู่เองก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเธอ
หลิงหยุนไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด แต่ก็ไม่ต้องการถามมากมาย เขาหันไปพูดบางอย่างกับเหยาลู่ แล้วพากันเดินลงบันไดไป
“ผมมีธุระต้องไปจัดการต่อ ไว้เสร็จเมื่อไหร่ ผมจะรีบจัดการเรื่องเปิดกิจการทันที!”