Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร - ตอนที่ 589
บทที่ 589 : เซียนหมออมตะ!
ภายในคลินิกสามัญชน..
เวลานี้บุคลากรของหลิงหยุนทั้งชายและหญิงต่างก็ยืนอยู่ด้านในและกำลังรอคอยคำสั่งจากหลิงหยุน
มีเพียงถังเทียนห่าวและลูกชายของเขาเท่านั้น ที่ยังคงยืนขวางอยู่ที่หน้าประตู เพื่อกันผู้คนที่พยายามจะเบียดเข้ามาดูการรักษาของหลิงหยุนด้านใน หลิงหยุนจึงสามารถเดินเข้าไปในคลินิกได้เพียงคนเดียว โดยที่คนอื่นๆไม่สามารถตามเข้าไปได้
เหล่ากุ่ยกำลังมองหลิงหยุนท่านหมอเสี่ยว ซ่งเจิ้งหยาง เหลียงเฟิงอี้ เหยาลู่ และพยาบาลทั้งสามคน ที่ทำความสะอาดแผลให้กับผู้ป่วยทั้งยี่สิบสองคนด้วยความรู้สึกังวลอย่างมาก จนต้องส่งกระแสจิตบอกกับหลิงหยุนว่า
-พ่อหนุ่ม..ครั้งนี้คงจะหนักหนามากสินะ!-
หลิงหยุนสัมผัสได้ถึงความห่วงใยของเหล่ากุ่ยดีเขาจึงยิ้มพร้อมกับปลอบกลับไปว่า
-เหล่ากุ่ย..ท่านอย่าได้กังวลใจไป!-
ที่คลินิกสามัญชนไม่มีทั้งน้ำยาฆ่าเชื้อไม่มียาชา และไม่มีแม้แต่น้ำเกลือ การทำความสะอาดแผลจึงต้องใช้เพียงแค่น้ำอุ่น หรือน้ำเย็นเท่านั้น!
ความกลัวและความวิตกกังวลเข้าครอบคลุมจิตใจของทุกคนไม่เว้นแม้แต่ซ่งเจิ้งหยาง และเหลียงเฟิงอี้ แม้แต่พยาบาลทั้งสามคนรวมทั้งเหยาลู่ หลินเจิ้งกัง หลี่ยี่เฟิง และคนอื่นๆ ต่างก็ตกอกตกใจไม่น้อยเช่นกัน!
และแทบไม่ต้องพูดถึงผู้คนที่อยู่ด้านนอก!
ผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บสาหัสหลายคนเมื่อบาดแผลถูกน้ำเข้าก็ถึงกับดิ้นรน และกรีดร้องออกมาราวกับหมูถูกเชือด เสียงร้องของพวกเขาเจ็บปวดจนฟังแทบไม่เป็นผู้เป็นคน ทุกคนที่ได้ยินต่างก็หวาดเสียว และขนลุกไปทั่วทั้งร่างกาย
ชายหนุ่มที่ถูกน้ำกรดสาดจนเหลือแต่ผิวเนื้อสีแดงนั้นสภาพของเขาดูน่าสยดสยองอย่างที่สุด ไม่มีใครสักคนที่กล้าแตะต้องตัวเขา และในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงอยู่นั้น หลิงหยุนก็เป็นคนแรกที่เดินเข้าไปหา
“ดูสิ..หลิงหยุนเข้าไปรักษาคนที่โดนน้ำกรดก่อนเลย..”
“ในมือของเขาไม่มีเครื่องมืออะไรสักอย่างแม้แต่เข็มที่ใช้ในการฝังเข็มแบบหมอแผนจีนก็ยังไม่มี แล้วจะรักษาคนไข้ได้ยังไง!”
“นี่ถ้าหลิงหยุนรักษาได้จริงๆเขาก็คงไม่ใช่คนแล้วล่ะ! ไม่อย่างนั้นต่อไปใครที่ต้องการเปลี่ยนใบหน้า ก็คงไม่ต้องไปทำศัลยกรรมแล้ว แค่มาหาหลิงหยุนก็พอ!”
………..
เสียงผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กันไม่ขาดปากในระหว่างที่หลิงหยุนกค่อยๆย่อตัวลงตรงหน้าผู้ป่วยที่โดนน้ำกรด
‘แม้ว่านางมารน้อยนั่นจะบ้าบิ่นมาก!แต่นางก็เลือกเจ้าแล้ว จึงนับว่าเป็นโชคดีของเจ้า..’
หลิงหยุนได้แต่ถอนหายใจก่อนจะแอบเรียกยันต์บำบัดระดับสี่ออกมาไว้ในมือสองแผ่น
ความจริงแล้ว..ในการรักษาผิวหนังและเนื้อที่ถูกกรดกัดกร่อนจนเสียหายนั้น ใช้ยันต์บำบัดระดับสี่แค่แผ่นเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่ในเมื่อหลิงหยุนตั้งใจจะรักษาแล้ว เขาก็ต้องรักษาให้กลับมาหายดียิ่งกว่าเดิม หลิงหยุนจึงเลือกที่จะใช้ยันต์ทั้งหมดสองแผ่นสำหรับการรักษาครั้งนี้
ตอนนี้หลิงหยุนได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของสายตาทุกคู่และทุกคนต่างก็พุ่งความสนใจมาที่เขาเพียงคนเดียว!
หลิงหยุนเริ่มจดจ่ออยู่กับการรักษาผู้ป่วยคนที่อยู่ในคลินิกและไม่สามารถช่วยอะไรหลิงหยุนได้ ก็เริ่มเดินออกไปช่วยที่ด้านหน้าประตู เพราะตอนนี้ผู้คนกำลังพยายามที่จะเบียดเข้ามาภายในคลินิกเพื่อดูการรักษาของหลิงหยุน
มือของหลิงหยุนนั้นรวดเร็วยิ่งกว่าอะไรระหว่างที่เขาปิดยันต์บำบัดระดับสี่ลงบนใบหน้าและคอของผู้ป่วยนั้นจึงไม่มีผู้ใดสังเกตุเห็นทัน จากนั้นเขาก็ร้องสั่งยันต์ให้ออกฤทธิ์ทันที
และแล้วทุกคนต่างก็ได้เห็นนาทีมหัศจรรย์!
ท่ามกลางสายตาของทุกคน..ผู้ป่วยที่โดนน้ำกรดกัดกร่อนจนอาการสาหัสตั้งแต่ใบหน้า ศรีษะ ลำคอ และหน้าอกจนเป็นเนื้อสีแดงสดนั้น จู่ๆบาดแผลต่างๆ ก็หายวับไปอย่างไม่น่าเชื่อ และผิวหนังใหม่ก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็นแทนทันที!
ในเวลาเพียงแค่สิบวินาทีแผลที่เกิดจากน้ำกรดกัดกร่อนเหล่านั้น ก็ได้หายวับไปกับตา และทุกอย่างก็กลับคืนสู่สภาพปกติ ตอนนี้ผิวหน้าของชายผู้นั้นกลับมาสดใสนวลเนียนราวกับผิวของเด็กอ่อน!
หลังจากที่ทุกคนเห็นได้ชัดเจนก็พบว่าที่แท้ชายหนุ่มผู้นี้ยังคงเป็นเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะอายุราวยี่สิบปี และหน้าตาของเขาก็หล่อเหลาอย่างมากด้วย
ภายในคลินิกตอนนี้เข้าสู่ความเงียบสงัดแม้แต่เข็มตกสักเล่มก็คงได้ยินกันทั้งหมด! ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ด้านในหรือด้านนอกคลินิก ต่างก็พากันตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก.. แต่หากผู้ใดที่ได้พบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ก็คงมีอาการไม่ต่างไปจากนี้เช่นกัน
สิ่งที่เห็นอยู่นี้ไม่อาจเรียกว่าการรักษาด้วยการแพทย์ได้อีกเพราะนี่คือปาฏิหาริย์ และความมหัศจรรย์! หากจะนิยามการรักษาของหลิงหยุนในครั้งนี้ว่าเป็นการรักษาที่มหัศจรรย์ ก็ยังนับว่าเป็นคำพูดที่เบาเกินไป!
ฉินตงเฉี่วยถึงกับนิ่งอึ้งไปท่านหมอเสี่ยวเองก็เช่นกัน หลี่ยี่เฟิง หลินเจิ้งกัง เหลียงเฟิงอี้ ซ่งเจิ้งหยาง ซูหลิงเฟย และคนอื่นๆ ต่างก็พากันตกตะลึงและนิ่งเงียบไปตามๆกัน ตอนนี้ทุกคนล้วนอยู่ในสภาพตาโตปากกว้าง!
‘..สิ่งที่หลิงหยุนเคยบอกกับข้าไว้มันคือความจริงหรือนี่!’
ก่อนที่หลิงหยุนจะออกเดินทางไปที่เกาะเตียวหยูนั้นเขาได้มอบยันต์หลายชนิดให้กับฉินตงเฉี่วย แม้สีหน้าของหลิงหยุนจะดูจริงจัง! แต่ฉินตงเฉี่วยก็ดูเหมือนจะไม่เชื่อนัก นางคิดว่าสิ่งที่หลิงหยุนพูดนั้นออกจะเป็นเรื่องที่ลึกลับ และดูน่าอัศจรรย์จนเกินไป! แต่ตอนนี้นางรู้แล้วว่ายันต์ที่หลิงหยุนมอบให้ในครั้งนั้น ความจริงแล้วเป็นสมบัติที่ล้ำค่ามาก!
ท่านหมอเสี่ยวเองก็รู้ถึงประสิทธิภาพของเก้าเข็มปลุกชีพที่หลิงหยุนใช้รักษาเป็นอย่างดีดีและถึงแม้ว่าเขาจะเชื่อมั่นในทักษะทางการแพทย์ของหลิงหยุน แต่เขาก็คิดไม่ถึงจริงๆว่ามันจะน่าอัศจรรย์ถึงเพียงนี้ ทักษะทางการแพทย์ของหลิงหยุนไม่ได้มีเพียงแค่รักษาชีวิต แต่ยังสามารถสร้างเนื้อเยื่อ และกระดูกขึ้นใหม่ได้ในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีอีกด้วย เขาได้เห็นทุกอย่างด้วยตาตัวเอง มันเป็นความจริงเสียยิ่งกว่าจริงอีก!
‘หนิงน้อยไม่ได้โกหกฉันจริงๆด้วยเขาทำได้จริงๆ นี่เรียกว่าอะไรนะ.. ดูเหมือนจะชื่อว่ายันต์บำบัดสินะ..!’
หลังจากที่หลี่ยี่เฟิงมอบที่ดินกว่าหนึ่งร้อยไร่ให้กับหลิงหยุนเขาก็เตรียมตัวที่จะเดินทางกลับแล้ว แต่เมื่อรู้ว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่นี่ เขาก็ถึงกับเหงื่อตก และเกรงว่าจะต้องเสียหน้า แต่ก็ยังคงรักษาท่าทีสงบนิ่งต่อหน้าสาธารณชน ท้ายที่สุดแล้วกลับคิดไม่ถึงว่า..
‘ฉันตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ!ฉันตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ! นี่นับว่าเป็นความสำเร็จทางการแพทย์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด และประวัติศาสตร์จะต้องจารึกไว้.. หลิงหยุนช่างมหัศจรรย์มาจริงๆ…’
หลินเจิ้งกังเหลียงเฟิงอี้ ซ่งเจิ้งหยาง และคนอื่นๆต่างก็ครุ่นคิดอยู่ในใจเช่นกัน ดวงตาที่พวกเขาจ้องมองไปทางหลิงหยุนนั้น ล้วนเป็นประกายราวกับได้พบเห็นเซียน!
หลังจากที่หายจากอาการตกตะลึงสมองของซูหลิงเฟยก็นึกถึงเรื่องการทำข่าวขั้นมาทันที นี่จะไม่ใช่แค่ข่าวของเมืองจิงฉูเท่านั้น แต่จะต้องเป็นข่าวใหญ่ที่ดังไปทั่วโลก!
แต่โชคร้ายที่วันนี้เธอโทรหาช่างภาพของสถานีแต่รถของเขากลับไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ และตอนนี้ก็ถูกบล็อกอยู่ไกลถึงห้ากิโลเมตร!
ซูหลิงเฟยไม่มีทางเลือกได้แต่หยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองออกมาถ่าย แต่ในเวลานั้นก็ไม่มีใครสังเกตุเห็นสิ่งที่เธอทำเช่นกัน
น่าเสียดายที่สามารถดูได้แต่ไม่สามารถบันทึกได้! เพราะไป๋เซียนเอ๋อไม่ลืมภารกิจที่หลิงหยุนได้สั่งไว้..
ทางด้านนอกคลินิกนั้นผู้คนที่ได้เห็นความอัศจรรย์ในการรักษาคนไข้ของหลิงหยุน ต่างก็พากันกรีดร้องออกมาอย่างตื่นเต้น ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันที่จะเบียดตัวเข้าไปในคลินิกให้ได้ ถังเมิ่งและถังเทียห่าวแทบจะไม่สามารถต้านทานคลื่นฝูงชนที่กำลังคลุ้มคลั่งนี้ได้ เพราะทุกคนต่างก็พากันกรูเข้ามาพร้อมๆกัน!
“แม่เจ้า!ฉันเห็นผู้ชายที่ถูกน้ำกรดสาดนั่นหายในพริบตา และตอนนี้เขาก็ไม่เป็นอะไรแล้ว!”
“ปาฏิหารย์!มหัศจรรย์! ไม่ใช่สิ.. นี่น่าจจะเรียกว่ายิ่งกว่าเทพนิยายถึงจะถูก!”
“หลิงหยุนช่างมหัศจรรย์มากจริงๆ!นี่มันหมอเทวดาชัดๆ! อย่างนี้ปู่ของฉันมีสิทธิ์หายแล้ว!”
“นี่..นี่ถ้าใครกล้าพูดว่าไม่เชื่อนะ.. ฉันจะยิงมันทิ้งทันที..”
ปากของคนนั้นยาวยิ่งกว่าปากสุนัขจริงๆเมื่อครู่เพิ่งจะเยาะเย้ยว่าจะรอดูหลิงหยุนกลายเป็นตัวตลก แต่เพียงแค่ชั่วพริบตา.. กลับเปลี่ยนเป็นชื่นชมในความมหัศจรรย์ของหลิงหยุนจนแทบคลุ้มคลั่ง!
“โอ้..นี่ผมไม่เจ็บปวดอีกแล้ว.. ผมเคลื่อนไหวได้แล้ว..”
เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาได้สังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของตนเองแต่เขาเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อ! เขายังคงคิดว่าตัวเองอยู่ในอาการโคม่า จนกระทั่งหลิงหยุนตบไหล่ และสั่งให้เขาลุกขึ้นได้ เขาจึงยกมือขึ้นลูบคลำใบหน้าพร้อมกับพึมพำออกไปว่า
“นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั๊ย”
หลิงหยุนหัวเราะพร้อมกับตอบไปว่า“คุณไม่ได้ฝันไปหรอก! ตอนนี้คุณหายดีแล้ว! คุณเห็นคนที่อยู่รอบๆตัวคุณมั๊ย ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ลองไปถามพวกเขาดูสิ”
จากนั้น..เด็กหนุ่มก็หยิกตัวเอง ก่อนจะร้องไห้เสียงดังออกมาอย่างตื่นเต้น เขาไม่ได้ลุกขึ้นยืนทันที แต่กลับคุกเข่าลงต่อหน้าหลิงหยุน และโขกศรีษะลงกับพื้นพร้อมกับร้องไห้ออกมา..
“ขอบคุณ..ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผม.. ขอบคุณมากครับ..”
นอกเหนือจากคำขอบคุณแล้วเด็กหนุ่มก็ไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่านั้นอีก..
“ไม่ต้องขอบคุณผมก็ได้..จากนี้ไปขอให้ใช้ชีวิตที่เหลือของคุณทำแต่สิ่งดีๆ จะได้ไม่มีใครสาดน้ำกรดใส่คุณอีก เข้าใจมั๊ย..”
หลิงหยุนช่วยพยุงเด็กหนุ่มให้ลุกขึ้นพร้อมกับบอกเขาอย่างอ่อนโยนใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นแดงก่ำพร้อมกับตอบหลิงหยุนไปว่า
“ผมผิดไปแล้วและต่อไปจะไม่ทำแบบเดิมอีก!”
“ตอนนี้คุณไปได้แล้ว..หากต้องการความช่วยเหลืออะไร ให้บอกกับสาวสวยตรงนั้น พวกเธอจะช่วยเหลือคุณเอง!” หลิงหยุนพูดพร้อมกับยกมือชี้ไปทางโต๊ะที่มีสาวสวยยืนจ้องมองอยู่
“ผมยังไปใหนไม่ได้..ผมยังไม่ได้ตอบแทนที่คุณช่วยชีวิตผมไว้เลย!” เด็กหนุ่มเงอะๆงะๆไม่ยอมไป
หลิงหยุนยิ้มและไม่สนใจเด็กหนุ่มอีกเขาหันไปมองผู้ป่วยรายอื่นที่มีบาดแผลตามร่างกายอยู่สิบกว่าแห่ง
‘เอาล่ะ..นี่ก็ไม่ต่างกัน เจ้าลุกขึ้นไปช่วยจัดระเบียบผู้คนที่หน้าประตูก็แล้วกัน!’
ยันต์บำบัดของหลิงหยุนพร้อมด้วยยันต์ธารานั้นทำให้บาดแผลของผู้ป่วยสะอาดยิ่งกว่าการล้างแผลเสียอีก
และนี่คือเหตุผลว่าเพราะเหตุใดหลิงหยุนจึงไม่ต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อหรือแม้แต่น้ำเกลือล้างแผล ยันต์บำบัด และยันต์ธาราของเขานั้นสามารถทำความสะอาดบาดแผลได้ไม่ต่างกัน อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องการติดเชื้อจากแบคทีเรีย หรือไวรัสด้วย
ยันต์บำบัดของหลิงหยุนนั้นสามารถรักษาบาดแผลให้หายได้ในทันทีหลิงหยุนจึงเลือกทำการรักษาผู้ป่วยที่มีบาดแผลฉกรรจ์ก่อน และตอนนี้ผู้คนมากมายก็ดันกันอยู่นอกคลินิกของหลิงหยุนจนแทบจะพัง
ท่ามกลางความสนใจของทุกคนหลิงหยุนรีบทำการรักษาผู้ป่วยที่ถูกแทงมาสิบกว่าแผล ครั้งนี้เขาใช้ยันต์บำบัดระดับสอง เพราะอาการบาดเจ็บในระดับนี้ ยันต์ระดับสองก็นับว่าสิ้นเปลืองมากแล้ว
หลิงหยุนไม่สนใจชายหนุ่มที่กล่าวขอบคุณเขาอีกรายและเริ่มทำการรักษาผู้ป่วยรายที่สาม รายที่สี่ต่อไปทันที..