Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร - บทที่ 1017: สว่างไสวไปทั่วทั้งจิงฉู
- Home
- Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร
- บทที่ 1017: สว่างไสวไปทั่วทั้งจิงฉู
แม้ว่าดยุคแดร๊กคูล่าจะบินได้เร็วมากแต่หลิงหยุนก็ไม่ได้ช้าไปกว่า!
ความแข็งแกร่งระดับสูงสุดขั้นตรีชี่(พลังชี่-3) นี้ หลิงหยุนเป็นรองกว่าดยุคแดร๊กคูล่าเพียงแค่เรื่องที่บินไม่ได้เท่านั้น..
และเขาจะปล่อยให้ดยุคแดร๊กคูล่าหนีไปไม่ได้!
อานุภาพของวิชาพลังมังกรนั้นเหลืออีกเพียงแค่น้อยนิดเท่านั้นดูเหมือนจะไม่ถึงสองนาทีด้วยซ้ำไป! ด้วยเหตุนี้หลิงหยุนจึงต้องสังหารฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งให้ได้โดยเร็ว..
ในช่วงที่หลิงหยุนไล่ล่าดยุคแดร๊กคูล่าไปทั่วบริเวณบ้านนั้นเป็นช่วงที่ทัณฑ์สวรรค์หยุดไปชั่วครู่พอดี ระหว่างที่ไล่ล่ากันไปทั่วบ้านนั้น พลังอมตะ-เสวียนหวง ก็ได้ปกคลุมบริเวณบ้านเลขที่-1 ไปจนเกือบจะครบทุกซอกทุกมุมแล้ว และเวลานี้แทบไม่มีมุมใหนให้ดยุคแดร๊กคูล่าจะหลบได้อีก..
ดยุคแดร๊กคูล่าจึงวิ่งกลับมายังสวนหน้าบ้านและกำลังคิดวางแผนที่จะเข้าไปในค่ายกลวลาหกที่หลิงหยุนซ่อนคนในครอบครัวไว้..
ดยุคแดร๊กคูล่ารู้ว่าหากมันสามารถเข้าไปภายในหมอกสีขาวนั้นได้ ย่อมสามารถทำให้หลิงหยุนตกอยู่ในหายนะ และมันก็จะเป็นฝ่ายกำชัยชนะในครั้งนี้!
แต่มีหรือที่หลิงหยุนจะยอมให้ดยุคแดร๊กคูล่าบุกเข้าไปในค่ายกลวลาหกของตนเองได้สำเร็จดยุคแดร๊กคูล่ากัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากพลังอมตะ–เสวียนหวง จากนั้นจึงพยายามอยู่ถึงเจ็ดแปดครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทลายหมอกสีขาวเข้าไปได้ และในที่สุดก็ถูกหลิงหยุนสกัดกั้นเอาไว้ได้..
ในระหว่างที่กำลังต่อสู้กันในระยะกระชั้นชิดนั้นจู่ๆ ดยุคแดร๊กคูล่าก็หยุดชะงักเอาดื้อๆ!
จากนั้นดยุคแดร๊กคูล่าก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับหลิงหยุนอย่างรวดเร็วพร้อมกับเบิกตาของมันขึ้น และจ้องลึกลงไปในดวงตาของหลิงหยุน มันกำลังใช้เนตรปีศาจเพื่อหวังสะกดจิตให้หลิงหยุนตกอยู่ในการควบคุมของมันนั่นเอง!
แต่หลังจากจ้องตาหลิงหยุนได้เพียงแค่ประเดี๋ยวเดียวดยุคแดร๊กคูล่าก็รู้สึกเจ็บปวดดวงตาทั้งสองข้างอย่างที่สุด และรู้สึกว่าแสงสีขาวและแสงสีดำในดวงตาของหลิงหยุนนั้น ได้แทงทะลุเข้าไปถึงจิตวิญญาณของตนเอง!
นี่คือเนตรหยิน-หยางของหลิงหยุนและด้วยความแข็งแกร่งของหลิงหยุนในเวลานี้ การดยุคแดร๊กคูล่าคิดที่จะใช้เนตรปีศาจสะกดจิตเช่นนี้ มีหรือที่หลิงหยุนจะหวั่นเกรง!
จากนั้นหลิงหยุนก็ร้องตะโกนออกมาว่า“เคลื่อนย้ายขุนเขา – ซ่อนเร้นบังตา!”
ในเมื่อหลิงหยุนใช้หยดเสินหยวนเคลื่อนย้ายลูกเหล็กหนักหลายร้อยกิโลกรัมครั้งเดียวได้เป็นร้อยลูกมาแล้วจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะใช้หยดเสินหยวนเคลื่อนย้ายผู้คนในคราวเดียว..
เวลานี้ทุกคนที่อยู่ในค่ายกลวลาหกต่างก็รู้สึกคล้ายกับควบคุมร่างกายไม่ได้และร่างของตนเองก็กำลังลอยขึ้นไปบนอากาศ จากนั้นเพียงแค่พริบตาเดียว ก็ค่อยๆ ร่อนลงบนพื้นที่สวนด้านหลังได้อย่างปลอดภัย และถูกหลิงหยุนใช้พลังจิตซ่อนเร้นบังตาผู้คนไว้..
จากนั้นหมอกหนาสีขาวก็หายวับไปกับตา..
หลิงหยุนใช้เสินหยวนหยดที่สองและพลังจิตที่แข็งแกร่งของตนเอง ซ่อนทุกคนให้พ้นจากสายตาของดยุคแดร๊กคูล่า และไม่มีทางที่มันจะหาทุกคนเจอได้อีก เว้นแต่จัฆ่าหลิงหยุนให้ตายเท่านั้น..
ดยุคแดร๊กคูล่าถึงกับงุนงงและนิ่งอึ้งไป มันจำต้องล้มเลิกแผนการที่คิดไว้ และเริ่มใช้มนต์ดำสร้างหมอกโลหิตขึ้นปกคลุมร่างกายของตนเองไว้อีกครั้ง เพื่อใช้ต้านทานพลังอมตะ-เสวียนหวงที่ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณบ้านแล้ว..
พลังอมตะที่อยู่ในขวดหยกของหลิงหยุนนั้นได้ถูกใช้ไปจนหมดแล้วแต่เวลานี้ภายในบ้านเลขที่-1 ของเขานั้น ยังมีพลังอมตะ-เสวียนหวงปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ แต่หลิงหยุนก็รู้ดีว่าหากดยุคแดร๊กคูล่ายังใช้หมอกโลหิตปกป้องร่างกายไว้เช่นนี้ พลังอมตะ-เสวียนหวงก็คงจะทำอันตรายอะไรมันได้ไม่มากนัก
แต่เวลานี้..หลิงหยุนก็ยังไม่สามารถสังหารดยุคแดร๊กคูล่าได้ เพราะทัณฑ์สวรรค์ชุดใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น..
หลิงหยุนหันไปมองปีศาจภัยแล้งที่น่าสงสาร..หลังจากที่ถูกสายฟ้าขนาดเท่าท่อนแขนของหลิงหยุนเข้าไปหลายเส้น เวลานี้ร่างของปีศาจภัยแล้งถึงกับสั่นเทิ้ม ส่วนแววตาก็ดูสิ้นหวังท้อแท้..
หลิงหยุนก็ไม่สนใจดยุคแดร๊กคูล่าอีกเขาจัดการเรียกกล่องหยกเก็บเข้าไปในแหวนพื้นที่ เพื่อเตรียมตัวรับมือกับอสุนีบาตชุดต่อไป
“เจ้าหนู..ครั้งนี้ข้าคงต้องขอให้เจ้าช่วยรับสายฟ้าไปพร้อมๆกับข้าด้วย!”
หลิงหยุนพูดยังไม่ทันจบดีเสียงฟ้าร้องครืนๆ ก็ดังขึ้นมาทันที ตามมาด้วยสายฟ้าสีเงินขนาดเท่าถังน้ำที่ผ่าลงกลางศรีษะของหลิงหยุนทันที หลิงหยุนเองก็ไม่ลังเล เขารีบกระโดดเข้าไปรวบร่างของปีศาจภัยแล้งเข้ามากอดไว้แน่น..
อสุนีบาตสีเงินหลายเส้นผ่าลงกลางร่างของปีศาจภัยแล้งและหลิงหยุนพร้อมๆกันเวลานี้ทั้งคู่ต่างก็ถูกอสุนีบาตขนาดใหญ่นี้รัดรึงร่างไว้ราวกับงูยักษ์ ทั้งสองต่างก็ดิ้นรนไปมาอยู่ท่ามกลางแสงสว่างเจิดจ้าของอสุนีบาตสีเงิน..
“ธนูโลหิต!”
ในที่สุดดยุคแดร๊กคูล่าก็สบโอกาสมันไม่รีรอที่จะจู่โจมหลิงหยุนด้วยธนูโลหิตมากมายหลายร้อยดอกทันที
ลูกธนูโลหิตนั้นเป็นพิษชนิดร้ายแรงที่เสกจากเลือดของแวมไพร์และมีฤทธิ์ในการกัดกร่อนสูงมาก ควันสีขาวที่เกิดจากฤทธิ์ของการกัดกร่อนนั้น พวยพุ่งขึ้นทันทีที่ลูกธนูโลหิตกระทบเข้ากับร่างของหลิงหยุน และถึงแม้ว่าจะสวมชุดผ้าแพรไหมดำ แต่ก็ยังถูกลูกธนูโลหิตกัดกร่อนได้อย่างน่าเหลือเชื่อ!
“ช่างหาโอกาสได้เหมาะเจาะนักนะ!”
หลิงหยุนพึมพำออกมาอย่างโมโหด้วยความเดือดดาลอย่างที่สุด หลิงหยุนจึงใช้มือทั้งสองข้างยกร่างของปีศาจภัยแล้ง แล้วทุ่มเข้าใส่ร่างของดยุคแดร๊กคูล่าทันที!
แขนสองข้างของหลิงหยุนรวมกันนั้นมีน้ำหนักถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นกิโลกรัมอีกทั้งปีศาจภัยแล้งนั้นยังมีร่างกายที่แข็งแกร่ง และกระดูกของมันนั้นก็แข็งราวกับเหล็ก หลิงหยุนทุ่มร่างของปีศาจภัยแล้งออกไปอย่างสุดกำลังเช่นนั้น ในระยะกระชั้นชิดเพียงแค่นี้ มีหรือที่ดยุคแดร๊กคูล่าจะทานทนได้!
ปัง!
ร่างของดยุคแดร๊กคูล่าล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรงและหมอกดำที่ปกคลุมร่างของมันอยู่นั้นก็แตกสลาย พลังอมตะ-เสวียนหวงจึงพุ่งเข้าปกคลุมร่างของมันแทน และเวลานี้ดยุคแดร๊กคูล่าก็กำลังกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดทรมาน..
ดยุคแดร๊กคูล่าไม่เพียงถูกพลังอมตะ-เสวียนหวงกัดกินร่างกายแต่ยังเจ็บปวดจากการถูกระแทกอย่างแรงด้วยร่างที่แข็งแกร่งของปีศาจภัยแล้งอีกด้วย..
“ได้เวลาจัดการกับมัน!”
ทั้งพอลกับเจสเตอร์ต่างก็ได้รับเอาพลังอมตะ-เสวียนหวงเข้าไปจนมีพลังแก่กล้าและสามารถทลายกรงปีศาจออกมาได้ และทันทีที่หลุดมาได้ทั้งสองต่างก็ร้องตะโกนใส่ร่างของดยุคแดร๊กคูล่าที่กำลังได้รับบาดเจ็บสาหัส..
หลิงหยุนเห็นพอลกับเจสเตอร์ทลายกรงปีศาจออกมาได้เช่นนี้ก็รู้สึกดีใจอย่างมาก และรีบสั่งแวมไพร์ทั้งสองผ่านกระแสจิตทันที
–พวกเจ้าทั้งสองรีบดูดซับเอาปราณเสวียนหวงนี้เข้าไปให้ได้มากที่สุดอย่าให้เสียของ!–
“ขอรับเจ้านายที่เคารพ!”
จากนั้นทั้งพอลกับเจสเตอร์ก็ไม่สนใจอะไรอีกทั้งคู่หันไปมองรอบตัว ต่างก็พบว่าภายในบ้านเลขที่-1 นั้นกลายเป็นสีเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งบริเวณ จากนั้นพวกมันทั้งสองจึงบินวนไปรอบๆบ้าน และเริ่มดูดซับเอาพลังอมตะ-เสวียนหวงเข้าไปทันที!.Aileen-novel.
ดยุคแดร๊กคูล่าได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงรีบเสกหมอกโลหิตขึ้นมาปกป้องร่างกายตนเองไว้อีกครั้ง จากนั้นจึงเริ่มใช้มนต์ดำทำการรักษาอาการบาดเจ็บตามร่างกาย แต่ยังไม่ทันไรพอลกับเจสเตอร์ก็ทลายกรงปีศาจของมันออกมาได้..
ในขณะนั้นหลิงหยุนก็กระโดดเข้าไปหาดยุคแดร๊กคูล่าพร้อมกับอาวุธร้ายกาจในมือ ซึ่งก็คือร่างที่แข็งแกร่งของปีศาจภัยแล้งนั่นเอง..
ครืน..ครืน.. ครืน..
เสียงฟ้าคำรามขึ้นมาอีกครั้งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าอสุนีบาตสีเงินกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง เวลานี้รอบตัวหลิงหยุนในรัศมีสิบเมตร มีสายฟ้าสีเงินพุ่งลงมาเต็มไปหมด และไม่ว่าหลิงหยุนจะวิ่งไปทางใด สายฟ้าทั้งชุดนี้ก็จะติดตามไปด้วยทุกที่ และผ่าลงมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง
ดยุคแดร๊กคูล่าที่หนีไม่ทันจึงถูกสายฟ้าสีเงินฟาดใส่ร่างด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมันก็ถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด!
แต่ที่มีสภาพย่ำแย่ยิ่งกว่าดยุคแดร๊กคูล่าก็คือปีศาจภัยแล้งเพราะหลิงหยุนหอบร่างของมันไว้ในมือข้างหนึ่ง ภายใต้รัศมีของอสุนีบาตจำนวนมากมายที่ผ่าลงมาไม่หยุดนั้น ทำเอาปีศาจภัยแล้งถึงกับเจ็บปวดจนหมดสติไป และพละกำลังของมันก็อ่อนลงเรื่อยๆ เวลานี้สภาพของมันไม่ต่างจากศพนัก!
ท่ามกลางอสุนีบาตที่ยังคงพุ่งลงมาไม่หยุดนั้นจู่ๆ หลิงหยุนก็หยุดวิ่ง และใช้ฝ่ามือดูดเอาพลังหยางจากร่างของปีศาจภัยแล้งอย่างบ้าคลั่ง..
แม้กระทั่งพลังสายฟ้าหลิงหยุนยังสามารถเก็บไว้ในร่างกายได้จึงแทบไม่ต้องพูดถึงพลังหยางบริสุทธิ์ และด้วยความแข็งแกร่งในขั้นพลังชี่นี้ ทำให้หลิงหยุนสามารถดูดหยางบริสุทธิ์จากร่างของปีศาจภัยแล้งเข้าไปได้อย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ!
ท่ามกลางอสุนีบาตที่ยังคงพุ่งลงมาเป็นสายอย่างต่อเนื่องจนดูคล้ายกับม่านสีเงินนั้น หลิงหยุนกลับนั่งขัดสมาธิ และกำลังใช้ฝ่ามือดูดเอาหยางบริสุทธิ์จากร่างที่ไร้สติของปีศาจภัยแล้งอย่างสงบ!
เมื่อหยางบริสุทธิ์จำนวนมากในร่างของปีศาจภัยแล้งถูกหลิงหยุนดูดเข้ามาในร่างของตนเองแล้ว พลังหยางบริสุทธิ์ในร่างกายของหลิงหยุนก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดก็ทอประกายสว่างไสวไปทั่วทั้งบริเวณ!
เมื่อดยุคแดร๊กคูล่าเห็นหลิงหยุนไม่สนใจไล่ล่าตนเองอีกแล้วจึงคิดว่าหลิงหยุนไม่อาจทานทนต่ออสุนีบาตที่รุนแรง และมากมายนั้นได้จนน่าจะใกล้เสียชีวิต แต่เมื่อแสงสว่างเจิดจ้าเปล่งประกายออกมาจากร่างของหลิงหยุน มันก็ถึงกับสะดุ้งหวาดกลัว และรีบลนลานหาทางบินหนีออกไปทันที..
“พระเจ้า..นี่มันแสงศักดิ์สิทธิ์! เหตุใดมนุษย์ผู้นี้ถึงได้เปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์ออกจากร่างได้”
ทางด้านหลิงหยุนนั้นเวลานี้กัดฟันแน่นและในใจได้แต่คิดว่า ‘ต้องพอสิ! อีกเพียงนิดเดียวก็จะเข้าสู่ขั้นต่อไปได้แล้ว!’
แม้แต่อยู่ในระหว่างการรับทัณฑ์สวรรค์หลิงหยุนก็ยังสามารถดูดเอาหยางบริสุทธิ์ของปีศาจภัยแล้งมาจนหมดเกลี้ยง!
ตูม..
เสียงระเบิดภายในร่างกายของหลิงหยุนดังขึ้นและในที่สุดหลิงหยุนก็สามารถผ่านเข้าสู่หยางพิสุทธิ์ขั้นที่สองได้สำเร็จแล้ว…
ในเวลานั้น..ภายในบ้านเลขที่-1 และในรัศมีสองกิโลเมตร ก็ล้วนแล้วมีแสงสว่างเจิดจ้าส่องประกายไปทั่วทั้งบริเวณ ราวกับว่าดวงอาทิตย์ได้ขึ้นจากขอบฟ้าแล้ว..
“เจ้านายที่เคารพช่างน่ากลัวจริงๆ!”
แม้แต่พอลกับเจสเตอร์ที่ไม่กลัวแสงแดดแล้วนั้นยังไม่สามารถทนต่อแสงสว่างของหยางบริสุทธิ์ที่ร้อนแรงในตัวหลิงหยุนได้ และรีบบินหนีเข้าไปหลบในห้องเก็บของทันที..
หลิงหยุนส่งกระแสจิตบอกไป๋เซียนเอ๋อ-เซียนเอ๋อ.. พาร่างของเฉินเจี้ยนกุ่ยเข้าไปไว้ในบ้าน อย่าให้มันโดนแสงนี้เผาไหม้!–
ไป๋เซียนเอ๋อรับคำสั่งของหลิงหยุนและกระโดดเข้าไปยังร่างของเฉินเจี้ยนกุ่ยทันที!
ร่างของดยุคแดร๊กคูล่าเริ่มมีควันพวยพุ่งออกมาหลังจากสัมผัสเข้ากับพลังร้อนแรงของหยางบริสุทธิ์เข้าไปมันไม่สนใจอะไรอีก และรีบสละเลือดเกือบทั้งหมดในร่างกายมาเสกเป็นโล่โลหิตที่มีรูปร่างคล้ายไข่ไก่มีเปลือกหนา ห่อหุ้มร่างของตนเองไว้ทันที จากนั้นก็รีบสยายปีกใหญ่กว่าสิบสองเมตรบินหนีขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที!
หลิงหยุนจัดการซัดฝ่ามือไปที่ศรีษะของปีศาจภัยแล้งแม้ว่าปีศาจภัยแล้งจะถูกดูดหยางบริสุทธิ์ไปจนหมดร่างเช่นนี้ ถึงอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี! แต่หลิงหยุนต้องให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาขึ้นในวันข้างหน้า เขาจึงต้องสังหารมันให้ตายกับมือ!
และดยุคแดร๊กคูล่าก็เช่นเดียวกัน..
“มาถึงขั้นนี้แล้ว..เจ้ายังคิดว่าจะหนีรอดอีกงั้นรึ”
หลิงหยุนมองร่างของดยุคแดร๊กคูล่าที่บินหนีขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็วเขาจัดการใช้เสินหยวนหยดที่สามทันที และเพียงแค่คิดร่างของหลิงหยุนก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็วราวกับบินได้..
และด้วยอำนาจของหยดเสินหยวนร่างของหลิงหยุนพุ่งสูงขึ้นไปถึงห้าร้อยเมตร ไล่ตามร่างของดยุคแดร๊กคูล่าไปได้ทันในพริบตา เขาจัดการทุบโล่โลหิตที่ห่อหุ้มร่างของมันแตก และขึ้นไปยืนบนแผ่นหลังของดยุคแดร๊กคูล่าทันที!
และเพียงแค่คิดผ่านเสินเนี่ยน(จิตที่มีสมาธิแก่กล้า) กระบี่แสงสีขาวยาวสามฟุตก็ปรากฏขึ้นในมือข้างขวาของหลิงหยุนทันที..
ขั้นสองของวิชาหยางพิสุทธิ์นั้นจะสามารถเปลียนหยางบริสุทธิ์ในร่างกายให้เป็นกระบี่หยางพิสุทธิ์ได้!
และด้วยเหตุนี้..วิชาหยางพิสุทธิ์จึงเป็นวิชาที่แข็งกร้าว และแกร่งที่สุดที่ผู้บ่มเพาะตนในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่นิยมใช้เป็นอาวุธจู่โจมศัตรู!
หลิงหยุนจัดการฟันกระบี่หยางพิสุทธิ์ในมือลงกลางศรีษะของดยุคแดร๊กคูล่าทันที!
ในเวลานั้น..กลุ่มทัณฑ์เมฆาที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้าในบริเวณบ้านเลขที่-1 ก็หายไป และร่างของหลิงหยุนซึ่งอยู่กลางอากาศสูงจากพื้นห้าร้อยเมตรนั้น ก็ไม่ต่างจากดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วทั้งเมืองจิงฉู!
คืนนี้..จิงฉูจึงดูราวกับเมืองในเทพนิยาย!
ครืน..เสียงฟ้าคำรามขึ้นอีกครั้ง และทัณฑ์สวรรค์ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น และครั้งสุดท้ายนี้คืออสุนีบาตสีทองขนาดใหญ่!
หลิงหยุนสัมผัสได้ว่าพลังวิเศษในตัวของเขานั้นได้หมดลงแล้วและร่างกายกับพลังจิตที่แข็งแกร่งก็มลายหายไปด้วย..
อสุนีบาตที่รุนแรงที่สุดกลับมาในเวลาที่ร่างกายของเขาอ่อนแอที่สุด!
หลิงหยุนถูกอสุนีบาตสีทองขนาดใหญ่ฟาดใส่กลางศรีษะและในที่สุดหลิงหยุนก็หมดสติไปพร้อมกับความคิดว่า..
‘ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว!’
“พี่หลิงหยุน!”
ในที่สุดดวงอาทิตย์ที่เจิดก็ได้ร่วงลงสู่พื้นดินและความมืดมิดก็เข้าปกคลุมทั่วทั้งบ้านเลขที่-1 อีกครั้ง!