Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร - บทที่ 1092 : ของขวัญ!
หลิงหยุนเพียงแค่พูดล้อเล่นว่า..หากเย่ซิงเฉินต้องการของขวัญ ก็ต้องแลกเปลี่ยนด้วยการเปิดผ้าคลุมหน้า แต่ไม่คิดว่าเย่ซิงเฉินจะตกลง และปล่อยให้เขาเปิดผ้าคลุมหน้าของนางออกจริงๆ!
หลิงหยุนคิดว่าเย่ซิงเฉินคงจะต้องกระโดดถอยหนีในวินาทีที่เขาเอื้อมมือออกไปแต่กลับกลายเป็นว่าเย่ซิงเฉินไม่หลบ และปล่อยให้เขาสามารถเปิดผ้าคลุมหน้าของนางได้อย่างง่ายดาย..
เมื่อได้เห็นสีหน้าตกตะลึงของหลิงหยุนเย่ซิงเฉินกลับรู้สึกมีความสุขอย่างมาก แต่เมื่อหลิงหยุนยังคงยืนจ้องหน้านางนิ่งอยู่เช่นนั้น เย่ซิงเฉินจึงเริ่มรู้สึกเขินอาย แต่ก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น..
ก่อนหน้านี้นางก็เพิ่งจะสัมผัสฝ่ามือชายหนุ่มเป็นครั้งแรกและตอนนี้ใบหน้าของนางก็ได้เปิดเผยให้ชายหนุ่มเห็นเป็นครั้งแรกอีกเช่นกันและชายผู้นั้นก็คือหลิงหยุน!
เย่ซิงเฉินยกมือขึ้นโบกไปมาตรงหน้าหลิงหยุนพร้อมกับร้องถามขึ้นว่า“นี่.. เจ้าจ้องหน้าข้าเช่นนี้ ข้าดูน่าเกลียดมากนักรึ”
“ใช่..”
“ไม่..ไม่.. เจ้าไม่ได้น่าเกลียดเลยแม้แต่น้อย!”
ในที่สุดหลิงหยุนก็หายตกตะลึงและรีบระร่ำระลักตอบไปว่า “หากเจ้าน่าเกลียดแล้วล่ะก็.. ผู้หญิงทั้งโลกคงจะไม่มีผู้ใดงดงามอีกแล้ว”
หลังจากที่ได้พบเห็นใบหน้าของเย่ซิงเฉินหลิงหยุนก็ได้แต่แอบคิดว่าในบรรดาสาวงามที่เขารู้จักนั้น มีเพียงสองคนเท่านั้นที่จะสามารถยืนประกบเย่ซิงเฉินได้โดยไม่รู้สึกเป็นรอง
นั่นก็คือ..หนิงหลิงยู่กับไป๋เซียนเอ๋อ!
เย่ซิงเฉินหัวเราะคิกคักแล้วจึงพูดขึ้นว่า “รอบตัวเจ้าก็มีสาวงามอยู่มากมายไม่ใช่รึ”
หลิงหยุนที่ชื่นชมในความงามของเย่ซิงเฉินอย่างมากถึงกับรีบตอบไปว่า “แต่เจ้าแตกต่างจากทุกคน..”
“ข้าแตกต่างจากหญิงอื่นเช่นใดงั้นรึ”
หลิงหยุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบกลับไปว่า“พวกนางล้วนไม่ผู้ใดกล้าดุข้า แต่เจ้ากล้า..”
เย่ซิงเฉินหัวเราะออกมาเสียงดังก่อนจะถามขึ้นว่า “เอาล่ะ.. เจ้ามองหน้าข้าพอหรือยัง”
แน่นอนว่าหลิงหยุนยังชื่นชมไม่หนำใจเมื่อได้ยินเย่ซิงเฉินถามเช่นนั้น เขาจึงรีบร้องโวยวาย
“อะไรกัน!เจ้าเพิ่งจะเปิดผ้าคลุ้มหน้าเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียว นี่เจ้าจะปิดกลับดังเดิมแล้วงั้นรึ?”
ระหว่างที่ร้องโวยวายนั้นหลิงหยุนก็รีบเรียกผ้าคลุมหน้าของเย่ซิงเฉินเข้าไปเก็บไว้ในแหวนพื้นที่..
เย่ซิงเฉินเห็นอาการโวยวายของหลิงหยุนก็ได้แต่ยิ้มก่อนจะตอบไปว่า “ข้าหมายความว่า.. ท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว หากเจ้ามองหน้าข้าจนพอใจแล้ว ก็รีบไปช่วยข้าเก็บกวาดซากศพ!”
หากเย่ซิงเฉินไม่ต้องการให้หลิงหยุนเห็นใบหน้าของนางมีหรือที่หลิงหยุนจะสามารถดึงผ้าคลุมหน้าออกไปได้ และในเมื่อผ้าคลุมหน้าถูกเปิดออกแล้ว เหตุใดยังต้องสวมมันกลับอีกครั้งเล่า?
แต่จู่ๆหลิงหยุนก็ร้องถามขึ้นว่า “เจ้าไม่อยากได้ของขวัญแล้วรึ”
เย่ซิงเฉินไม่ได้สนใจของขวัญเลยแม้แต่น้อยเพียงแค่หลิงหยุนยังนึกถึงนาง และจดจำคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับนางได้ เพียงแค่นั้นก็สำคัญกว่าของขวัญมากมายแล้ว..
ไม่เช่นนั้นเย่ซิงเฉินคงจะไม่ยอมให้หลิงหยุนเปิดผ้าคลุมหน้าของได้อย่างง่ายๆเช่นนี้แน่!
เย่ซิงเฉินหัวเราะคิกคักพร้อมกับตอบยิ้มๆ“ต้องการสิ! ใครบอกเจ้าว่าข้าไม่ต้องการ แต่ข้าไม่ได้มีแหวนพื้นที่อย่างเจ้านี่ ไว้ก่อนจะแยกย้ายกันเจ้าค่อยมอบของขวัญที่เตรียมมาให้กับข้า..”
หลิงหยุนได้แต่แอบคิดในใจว่า..แม้เย่ซิงเฉินจะเป็นธิดาพรรคมาร แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ตำแหน่งที่เรียกขานคนคนหนึ่งเท่านั้น เพราะความจริงแล้วนางเองก็เป็นเพียงแค่เด็กสาวที่เพิ่งจะอายุสิบแปดปีเท่านั้น..
เด็กสาวอายุน้อยเพียงแค่นี้แต่ต้องรับผิดชอบปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาถึงสี่อย่างแต่ละอย่างก็ล้วนแล้วแต่หนักหนาทั้้งสิ้น และเพื่อต้องการสืบรู้ฐานะที่แท้จริงของหลิงหยุน นางถึงกับต้องตะลอนๆ ไปทั่วทั้งประเทศจีน และสังหารผู้คนไปมากมาย นี่ไม่ใช่ชีวิตปกติที่เด็กสาวคนหนึ่งควรจะต้องพบเจอเลย..
แต่ถึงแม้จะต้องแบกรับภารกิจที่หนักหนาสาหัสแต่นางกลับไม่เคยปริปากบ่นเลย ทำให้หลิงหยุนรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก!
“เวลานี้ข้ามีแหวนพื้นที่เพียงแค่วงเดียวซึ่งสามารถสร้างขึ้นได้ด้วยความบังเอิญ รอให้ข้าสามารถสร้างแหวนพื้นที่ได้เมื่อใด ข้าจะทำให้เจ้าด้วย..”
หลิงหยุนรู้ดีกว่าใครๆว่าการมีแหวนพื้นที่นั้นช่วยให้สะดวกสบายมากขึ้นเพียงใด และเพียงแค่มองตาเย่ซิงเฉิน เขาก็รู้ว่านางเองก็อยากจะได้เช่นกัน.. “นี่เจ้าพูดจริงรึ”
หลิงหยุนยิ้มให้เย่ซิงเฉินพร้อมตอบกลับไปว่า“จริงสิ! ความจริงข้าสามารถถอดแหวนวงนี้ให้เจ้าเลยก็ได้ เพียงแต่เวลานี้ข้างในมีของอยู่เต็มไปหมด..”
เย่ซิงเฉินยิ้มสดใส“ไม่.. นี่เป็นของที่เจ้าใช้แล้ว หากเจ้าอยากจะให้ข้า ก็ต้องมอบแหวนวงใหม่ให้ข้าเท่านั้น!”
หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมกับถามออกไปด้วยความสงสัยใคร่รู้“เจ้าเข้ามาในนี้ทำไมกัน”
“องค์กรนักฆ่าสาขาปักกิ่งสร้างคฤหาสน์ใหญ่โตไว้ในป่าลึกอย่างมิดชิดเช่นนี้ย่อมต้องมีของล้ำค่าซ่อนอยู่อย่างแน่นอน!”
“พวกเราเข้าไปข้างในกันดีกว่า..”
ก่อนที่จะเข้าไปด้านในคฤหาสน์อีกครั้งหลิงหยุนก็ได้สั่งเจสเตอร์ให้ทำการสำรวจซากศพที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่ เพื่อดูว่ามีสิ่งใดที่จะสามารถเก็บกลับไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาวุธของพวกมัน.. โลหะเป็นวัตถุดิบสำคัญในการหลอมอาวุธและแน่นอนว่าอาวุธของเหล่ามือสังหารขององค์กรนักฆ่านั้น น่าจะต้องทำมาจากโลหะชั้นดี..
ระหว่างทางที่เดินเข้าไปนั้นหลิงหยุนก็ไม่ลืมที่จะโรยผงละลายศพไปบนร่างไร้วิญญาณเหล่านั้น และซากศพต่างก็เริ่มละลายกลายเป็นน้ำ..
ระหว่างนั้นหลิงหยุนก็สังเกตเห็นเย่ซิงเฉินใช้วิชาตัวเบากระโดดสำรวจไปตามลานแต่ละชั้นหลิงหยุนจึงร้องถามออกมาด้วยความสงสัย..
“นี่เจ้ากำลังมองหาอะไรงั้นรึ”
“หาทองคำ..”
หลิงหยุนยิ้มให้เย่ซิงเฉินพร้อมกับโบกมือเรียกนาง..“เจ้ามากับข้า!”
จิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนเวลานี้ทรงพลังอย่างมากและเขาเองก็รู้นานแล้วว่าภายในคฤหาสน์หลังใหญ่นี้มีทองคำแท่งซ่อนอยู่มากมาย..
ร่างของหลิงหยุนพุ่งตรงไปยังลานบ้านชั้นในสุดและหลังจากเข้าประตูไป เขาก็เดินเลี้ยวซ้ายตรงเข้าไปที่กำแพงทางด้านทิศตะวันตก..
เย่ซิงเฉินตามไปพร้อมกับถามขึ้นว่า“อยู่ที่ใหนงั้นรึ” ไอรีนโนเวล
หลิงหยุนยกมือขึ้นชี้ลงไปที่ฝ่าเท้าของตนเอง“อยู่ใต้เท้าข้านี่ไง!”
จากนั้นหลิงหยุนก็ยกมือขึ้นและใช้นิ้วชี้กดลงไปตรงปุ่มที่อยู่บนกำแพง เสียงกำแพงที่ค่อยๆ เคลื่อนออกจากกันดังขึ้น และตรงหน้าของคนทั้งคู่ก็ปรากฏช่องสี่เหลี่ยมกว้างสองเมตร..
และแน่นอนว่า..ทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่องค์กรนักฆ่าสาขาปักกิ่งหามาได้ตลอดหลายปีนั้น ก็ได้ถูกนำมาเก็บไว้ในห้องลับแห่งนี้
เย่ซิงเฉินจ้องมองช่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่พร้อมกับร้องอุทานออกมา“ที่แท้ก็ซ่อนอยู่ในห้องลับใต้ดินนี่เอง!”
เย่ซิงเฉินได้แต่ถามขึ้นอย่างสงสัย“ปุ่มเปิดเข้าห้องลับสร้างไว้เปิดเผยเช่นนี้ หากใครบังเอิญมาโดนเข้า ทุกคนคงจะรู้ที่ซ่อนทองคำหมดน่ะสิ!”
หลิงหยุนตอบกลับยิ้มๆ“ไม่หรอก.. ข้าว่าหากเป็นสถานการณ์ปกติก็ต้องมีนักฆ่าคอยคุ้มกันบริเวณนี้อยู่แล้ว!”
“พวกเรารีบเข้าไปดูกันดีกว่า!”หลิงหยุนร้องบอกพร้อมกับกระโดดลงไปในช่องขนาดใหญ่นั้นทันที
“หลิงหยุน..เจ้าระวังตัวด้วยละ่!”
เย่ซิงเฉินร้องตะโกนเสียงดังแต่หลิงหยุนกลับหันมายิ้มให้พร้อมกับตอบว่า “ไม่ต้องห่วง.. ในนี้ไม่มีกับดักอะไร!”
เมื่อเห็นหลิงหยุนลงไปได้อย่างปลดภัยเย่ซิงเฉินก็กระโดดตามลงไป แต่ก็ร้องอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ
“น่าแปลก..ไม่มีกับดักจริงๆด้วย!”
หลิงหยุนจึงอธิบายว่า“โดยปกติที่นี่เป็นที่ที่มีนักฆ่าฝีมือดีคุ้มกันอยู่อย่างแน่นหนา ต่อให้มีคนรู้ว่าภายในมีทองคำซ่อนอยู่มากมาย ก็คงยากที่จะเข้าไปได้..”
เย่ซิงเฉินหันไปมองหลิงหยุนด้วยแววตาชื่นชมพร้อมกับพูดขึ้นว่า“ไม่แปลกเลยที่นักฆ่ากี่คนต่อกี่คนก็ไม่สามารถสังหารเจ้าได้ ดูเหมือนเจ้าจะฉลาดล้ำลึกยิ่งนัก!”
“นี่..เจ้าว่าเราจะจัดการกับทองพวกนี้อย่างไรดี ทองคำแท่งทั้งหมดนี้คำนวณคร่าวๆ ก็น่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าห้าพันล้าน..”
หลิงหยุนขมวดคิ้วพร้อมกับพูดขึ้นว่า“นี่แค่องค์กรนักฆ่าสาขาเดียว รายได้ยังมหาศาลถึงเพียงนี้ แล้วถ้ารวมกันทุกสาขาล่ะ”
เย่ซิงเฉินเหลือบมองหลิงหยุนพร้อมกับตอบไปว่า“เจ้าคิดว่าองค์กรนักฆ่ามีรายได้ดีมากงั้นรึ”
“แต่เจ้าอย่าลืมว่าภายในองค์กรนักฆ่านั้นมีนักฆ่าอยู่ทั้งหมดสี่ระดับนักฆ่าระดับสวรรค์ นักฆ่าระดับปฐพี นักฆ่าสายดำ และนักฆ่าสายเหลือง แต่ละระดับก็มีนักฆ่านับพันๆคน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องนุ่งห่ม การฝึกฝน อาวุธ และอื่นๆอีกมากมาย ทุกอย่างล้วนต้องใช้เงินทองขององค์กรทั้งสิ้น การเลี้ยงนักฆ่าเหล่านี้ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล..”
“อีกทั้งฆ่าที่ออกไปปฏิบัติภารกิจก็ใช่ว่าจะสำเร็จทุกครั้งยกตัวอย่างเจ้า.. นักฆ่ากี่คนต่อกี่คนก็ไม่สามารถสังหารเจ้าได้ และนี่คือความสูญเสียขององค์กรเรา!”
แต่หลิงหยุนก็ยังยืนกราน“แต่ก็ยังนับว่าผลกำไรมหาศาลอยู่ดี!”
“ช่างเถอะ..เอาเป็นว่าพวกเราจะจัดการกับทองแท่งพวกนี้อย่างไรดี”
หลิงหยุนตอบกลับไปโดยแทบไม่ต้องคิด“ตามความเห็นของข้า.. ทองคำแท่งจำนวนมากอยู่ในป่าลึกเช่นนี้ เจ้าไม่สามารถขนกลับไปได้อย่างแน่นอน เช่นนั้นแล้วเจ้าก็มอบให้กับข้าก็แล้วกัน เพราะข้ามีแหวนพื้นที่ที่พอจะสามารถขนทองแท่งทั้งหมดนี้ใส่เข้าไปได้!”
“เหตุผลของเจ้าช่างชาญฉลาดนักนะ!”เย่ซิงเฉินประชดประชัน
หลิงหยุนหัวเราะพร้อมกับยักไหล่“ขนออกไปแล้วข้ามอบคืนให้กับเจ้าก็ได้!”
เย่ซิงเฉินดูเหมือนจะไม่สนใจทองคำแท่งนักและถามหลิงหยุนกลับไปว่า “บริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นของเจ้าก็เพิ่งจะก่อตั้ง อีกทั้งมีมูลค่านับหมื่นล้าน เจ้ายังอยากได้ทองพวกนี้อีกรึ”
หลิงหยุนตอบกลับไปตามตรง“หลังจากช่วยท่านพ่อได้แล้ว ข้าจะต้องกลับเข้าตระกูลหลิง และนำพาตระกูลหลิงให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง และการจะทำเช่นนั้นได้ ก็จำเป็นต้องใช้เงินทองจำนวนมาก และเหตุผลอีกหนึ่งข้อก็คือ.. ข้าได้รับศิษย์ไว้เจ็ดสิบสองคน ข้าต้องฝึกพวกเขาให้สามารถเข้าสู่ขั้นเซียงเทียนได้ภายในเวลาหนึ่งปี และจำเป็นต้องใช้เงินทองจำนวนมากเช่นกัน..”
เย่ซิงเฉินได้ฟังเหตุผลของหลิงหยุนจึงพูดขึ้นว่า“ถ้าเช่นนั้นทองคำจำนวนนี้เป็นของเจ้า.. การมาครั้งนี้ของเจ้าจะได้ไม่เสียเที่ยว! เจ้านำมันกลับไปได้เลย”
เย่ซิงเฉินไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้นางจึงเอ่ยปากยกให้กับหลิงหยุนทันที!
หลิงหยุนส่ายหน้า“ข้ายังขนไปตอนนี้ไม่ได้.. ข้ามีภารกิจสำคัญที่ต้องกลับไปทำก่อน ข้าต้องรีบรักษาท่านป้าจินเหยียวให้หายก่อน อาการบาดเจ็บในอดีตของนางนั้นค่อนข้างสาหัส ข้าจะชักช้าไม่ได้!”
“พวกเรารีบกลับกันดีกว่า”
จากนั้นทั้งคู่ก็ออกมาจากห้องลับและหลิงหยุนก็ร้องตะโกนเรียกเจสเตอร์ให้มาหา พร้อมกับสั่งว่า
“เจสเตอร์..เจ้าอยู่เฝ้าที่นี่สักสองสามวันก่อน หากเกิดอะไรที่ไม่ชอบมาพากลขึ้น ต้องรีบรายงานข้าทันที!
หลิงหยุนชี้ไปที่ปุ่มบนกำแพง“เพียงแค่กดปุ่มนี้ ประตูห้องลับก็จะเปิดออก เอาล่ะ.. เจ้าเข้าไปเฝ้าอยู่ด้านในได้แล้ว!”
หลังจากสั่งการเจสเตอร์เรียบร้อยแล้วหลิงหยุนก็ร้องบอกเย่ซิงเฉิน “กลับไปเอาเครื่องมือสื่อสารของข้าก่อน!”
หลิงหยุนและเย่ซิงเฉินกลับไปเอาเครื่องมือสื่อสารที่ทิ้งไว้ก่อนหน้านี้จากนั้นจึงหันไปมองหน้าเย่ซิงเฉินเนิ่นนาน..
“นี่เจ้ามองอะไรกัน” หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า“ข้าอยากจะจดจำใบหน้าของเจ้าไว้ในใจ แล้วก็ต้องการจะบอกเจ้าว่าแผนการที่ให้เสี่ยวเม่ยเม่ยมาล้วงความลับข้านั้น ข้ารู้ทันเจ้าตั้งแต่แรกแล้ว!”
เย่ซิงเฉินโต้กลับทันที“ข้าก็แค่ต้องการยืนยันฐานะที่แท้จริงของเจ้า..”
หลิงหยุนหัวเราะและถามต่อ“แล้วหากข้าไม่ใช่ทายาทตระกูลหลิงล่ะ เจ้าจะทำเช่นใด?”
เย่ซิงเฉินตอบกลับเสียงเบา“ข้าก็ต้องสังหารเจ้า!”
แม้น้ำเสียงของเย่ซิงเฉินจะเบาแต่ก็หนักแน่น และกลับมาเป็นธิดาพรรคมารคนเดิมที่เดาใจได้ยาก จากนั้นหลิงหยุนก็เรียกของขวัญที่เตรียมไว้ให้เย่ซิงเฉินออกมาจากแหวนพื้นที่..
เย่ซิงเฉินมองรูปแกะสลักด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข..จากนั้นหลิงหยุนจึงเรียกเครื่องประดับที่เตรียมไว้ออกมามอบให้กับนางอีก แววตาของนางเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นดีใจที่หลิงหยุนตั้งใจทำของขวัญเหล่านี้ให้กับตนเอง เย่ซิงเฉินร้องออกมาอย่างตื่นเต้น“เจ้า.. เจ้ามอบของขวัญให้ข้ามากมายถึงเพียงนี้เชียวรึ” –