Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร - บทที่ 1158 : การประลองด้วยพลังเหนือธรรมชาติ!
- Home
- Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร
- บทที่ 1158 : การประลองด้วยพลังเหนือธรรมชาติ!
การต่อสู้ระหว่างนินจาขั้นเงาทั้งห้ากับหลิงหยุนนั้นพลิกผันไปมาอย่างรวดเร็ว..
ก่อนหน้านี้หลิงหยุนเพิ่งจะเป็นฝ่ายถูกดาบซามูไรเพลิงไล่ล่าจนต้องใช้วิชาเงาลวงตาหลบหนีเพื่อเอาชีวิตรอด แต่เพียงแค่พริบตาเดียว หลิงหยุนก็ใช้พลังเหนือธรรมชาติของตนเองบ้าง และสามารถพลิกกลับมาเป็นฝ่ายจู่โจมดาบซามูไรเพลิง พร้อมทั้งสังหารนินจาขั้นเงาสิ้นใจตายไปถึงสองคน!
“แย่แล้ว!นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
ตี๋ยั่วถังที่จับตาดูการต่อสู้โดยแทบไม่กระพริบตานั้นเวลานี้ตกอกตกใจจนลูกตาแทบทะลักออกมาจากเบ้า เขาร้องอุทานออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง..
“นี่มัน..”
ไม่เพียงแค่ตี๋ยั่วถังที่อยู่ในอาการตกใจและตกตะลึง คนอื่นๆที่เฝ้ามองการต่อสู้อย่างไม่ละสายตา ก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เช่นกัน!
เพราะทันทีที่หลิงหยุนจู่โจมกลับไปนั้นเขาก็ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย เมื่อได้จังหวะลงมือกับคู่ต่อสู้ หลิงหยุนก็ไม่รีรอที่จะสังหารนินจาทั้งสองคนด้วยพลังเหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่งกว่าในทันที!
“ทาเคฮิเดะ..ทาเคกิ..”
โทคุงาวะฮิโรชิ เห็นทาเคฮิเดะ และทาเคกิทรุดลงไปกองกับพื้นทันทีเช่นนั้น ดวงตาแดงก่ำของเขาก็เบิกโพลงจนแทบถลนออกมาจากเบ้า พร้อมกับร้องตะโกนเรียกชื่อนินจาทั้งสองออกมาทันที!
จะไม่ให้โทคุงาวะฮิโรชิกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจได้อย่างไรกัน ในเมื่อทั้งคู่ต่างก็เป็นนินจาขั้นเงาที่เก่งกาจของตระกูลโทคุงาวะ แต่กลับมาถูกหลิงหยุนสังหารตายภายในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตาเช่นนี้ และไม่อาจรักษาชีวิตกลับไปแดนเกิดได้!
โทคุงาวะทาเคชิ และโทคุงาวะ ทาเคฮิโกะเองก็ถึงกับตกใจจนแทบคลุ้มคลั่ง พวกเขาทั้งสองคนมีหน้าที่ปกป้องนินจาทั้งสาม แต่กลับทำได้เพียงแค่มองนินจาทั้งสองทรุดลงไปกองกับพื้นต่อหน้าต่อตา หนำซ้ำหนึ่งในนั้นยังถูกฟันศรีษะขาดออกจากร่างอย่างน่าสังเวชอีกด้วย!
อย่าว่าแต่จะเข้าไปป้องกันนินจาทั้งสองเลย..ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนทาเคชิ และทาเคฮิโกะนั้น ไม่เห็นด้วยซ้ำว่านินจาทั้งสองนั้นถูกสังหารตายได้อย่างไร
“พวกเจ้าระวังตัวให้มาก!”
หลังจากได้สติ..โทคุงาวะ ฮิโรชิก็ร้องตะโกนบอกนินจาสองคนที่เหลือให้ระมัดระวังหลิงหยุนอีกครั้ง!
และแน่นอนว่าการต่อสู้ที่แท้จริงนั้นยังไม่จบสิ้นแต่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น!
หลังจากที่สังหารนินจาขั้นเงาไปถึงสองคนแล้วกระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนก็ยังคงไม่จู่โจมโทคุงาวะ ฮิโรชิ แต่กลับหันเหไปทางทาเคชิ และพุ่งเข้าใส่ศรีษะของเขาทันที!
“ห๊ะ!”
กระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนนั้นเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วเกินกว่าที่จะสามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้!
โทคุงาวะทาเคชิถูกกระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนพุ่งเข้าใส่ด้วยความรวดเร็วเช่นนั้น จึงทำได้เพียงแค่หลับตาลง..
ขั้นของโทคุงาวะทาเคชิ และโทคุงาวะ ทาเคฮิโกะนั้น ยังนับว่าต่ำกว่านินจาขั้นเงาทั้งสองคนที่ตายไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย เมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนเข้า จึงยากที่จะหลบหนีได้ทันท่วงที!
ตูม!
โทคุงาวะฮิโรชิเห็นเช่นนั้น จึงรีบรวบรวมลมปราณซัดใส่กระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนไปหนึ่งฝ่ามือ และพลังปราณที่รุนแรงของโทคุงาวะ ฮิโรชิก็ซัดกระบี่เหินเงาธนูให้พุ่งผ่านใบหน้าของโทคุงาวะ ทาเคชิไปได้อย่างเฉียดฉิว!
เวลานั้นโทคุงาวะทาเคชิสัมผัสได้เพียงพลังงานความร้อนที่พุ่งผ่านใบหน้าของตนไปอย่างรวดเร็ว เขาลืมตาขึ้นมองด้วยความตกใจ ในขณะที่หูนั้นอื้อจนไม่สามารถได้ยินอะไรได้อีก..
จากนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงชิ้นเนื้อทางซีกหน้าด้านขวาตั้งแต่หางตาลงไปจนถึงใบหูนั้นถูกกระบี่เหินเงาธนูตัดหลุดออกเป็นชิ้น และเลือดสีแดงสดก็กำลังไหลอาบศรีษะซีกขวาของตนเองอยู่!
“เร็วเข้า!พวกเจ้ารีบใช้วิชานินจุทสึหายตัวออกไปจากที่นี่ก่อน!”
โทคุงาวะฮิโรชิเห็นนินจาทั้งสองคนที่ได้แต่ยืนตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก ก็รีบร้องเตือนด้วยความโมโห และกระวนกระวายใจ!
กระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนนั้นเคลื่อนที่ได้รวดเร็วราวกับภูติผีวิญญาณเช่นนี้หากปล่อยให้นินจาทั้งสองอยู่ในสนามประลองต่อไป โทคุงาวะ ฮิโรชิก็ไม่รู้ว่าจะสามารถปกป้องพวกเขาทั้งคู่ไปได้อีกนานเพียงใด
ทันทีที่ได้ยินเสียงร้องเตือนของโทคุงวะฮิโรชิ ทั้งทาเคชิ และทาเคฮิโกะก็ได้สติ และรีบใช้วิชานินจาดำดินหายตัวออกไปจากสนามประลองทันที!
แต่ทันทีที่นินจาทั้งสองหายตัวไปจากสนามประลองลูกธนูสองดอกก็พุ่งออกจากมือของหลิงหยุนพร้อมๆกันในทันที!
ฟิ้ว..ฟิ้ว..
แม้ว่าทาเคชิและทาเคฮิโกะจะใช้วิชานินจาดำดินหนีออกไปจากลานประลองได้แล้ว แต่ในระหว่างที่กำลังวิ่งหนีอยู่นั้น ลูกธนูของหลิงหยุนก็ยิงเข้าใส่ร่างของนินจาทั้งสองที่อยู่ห่างออกไปราวเจ็ดถึงแปดเมตร และนินจาทั้งสองก็ล้มลงไปกับพื้นทันที
แม้ว่าธนูทั้งสองดอกของหลิงหยุนนั้นจะยิงไม่โดนอวัยวะสำคัญของร่างกาย แต่เพราะพลังหยินที่เย็นยะเยือกซึ่งหลิงหยุนถ่ายเทลงไปที่ลูกธนูนั้น ก็ได้ทำให้ร่างร่างกายครึ่งท่อนของนินจาทั้งสองแข็งไปทันที!
ฟิ้ว..ฟิ้ว.. ฟิ้ว..
หลังจากนั้นหลิงหยุนก็หันคันธนูทองพร้อมลูกธนูเงินเข้าใส่ร่างของโทคุงาวะฮิโรชิ และกระหน่ำยิงลูกธนูใส่ร่างของโทคุงาวะ ฮิโรชิไม่ยั้ง..
โทคุงาวะฮิโรชิกระโดดหนีพร้อมกับซัดฝ่ามือใส่ลูกธนูของหลิงหยุนที่กระหน่ำยิงใส่เป็นสิบๆ ดอกอย่างต่อเนื่อง แม้โทคุงาวะ ฮิโรชิต้องการที่จะสังหารหลิงหยุนให้ได้ในทันที แต่เขาก็ไม่มีโอกาสจู่โจมหลิงหยุนได้อีกเลย เพราะหลิงหยุนนั้นสามารถทำสามสิ่งได้ในเวลาเดียวกัน!
ในระหว่างที่กระหน่ำยิงลูกธนูใส่ร่างของโทคุงาวะฮิโรชินั้น หลิงหยุนก็ยังคงควบคุมโซ่หยิน–หยางให้รัดดาบซามูไรเพลิงไว้แน่น อีกทั้งยังสามารถบังคับควบคุมกระบี่เหินเงาธนูได้ด้วย! ทักษะพลัง และความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของหลิงหยุนนั้น นับว่าน่าหวาดกลัว และน่าเกรงขามยิ่งนัก!
ความจริงแล้วอย่าว่าแต่ทำสามอย่างพร้อมกันเช่นนี้เลยเวลานี้หลิงหยุนสามารถทำได้ถึงเจ็ดอย่างพร้อมกันเลยทีเดียว!
อัจฉริยะเช่นหลิงหยุนนั้นต่อให้ไม่ได้ฝึกฝนวิชา เขาก็สามารถวาดรูปด้วยมือซ้าย และระบายสีด้วยมือขวาไปพร้อมๆกันได้อย่างไม่มีปัญหา!
แต่เพราะหลิงหยุนคือผู้ฝึกบ่มเพาะพลังและเคยผ่านขั้นอมตะมาแล้ว ดวงจิตเดิมของหลิงหยุนจึงนับว่าทรงพลังยิ่งนัก การทำหลายสิ่งหลายอย่างพร้อมๆกันได้ จึงนับว่าเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับหลิงหยุน!
เหตุใดหลิงหยุนจึงเลือกที่จะจู่โจมโทคุงาวะฮิโรชิด้วยธนูอย่างนั้นหรือ นั่นเพราะหลิงหยุนได้เตรียมการ และวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว..
แม้เวลานี้โทคุงาวะทาเคฮิเดะ และโทคุงาวะ ทาเคกิจะสิ้นใจตายไปแล้ว แต่พลังปราณทั้งหมดในร่างกายก็ได้ถูกถ่ายเทไปยังดาบซามูไรเพลิงเล่มนั้น..
เวลานี้โซ่หยิน–หยางของหลิงหยุนไม่เพียงแค่รัดรึงดาบซามูไรเพลิงไว้เท่านั้นแต่หลิงหยุนยังได้ใช้พลังจิตของตนเองควบคุมให้พลังปราณของโซ่หยินหยางนั้นหมุนกลับ และกำลังดูดเอาพลังปราณจากดาบซามูไรเพลิงเข้าไปในร่างกายอย่างรวดเร็ว!
พลังปราณของนินจาทั้งสองคนที่ตายไปนั้นเป็นปราณธาตุไฟและธาตุไม้ที่ทรงพลัง มีหรือที่หลิงหยุนจะยอมให้หลุดรอดเงื้อมือไปได้!
โซ่หยิน–หยางของหลิงหยุนที่ทำหน้าที่แทนฝ่ามือค่อยๆดูดเอาปราณธาตุไฟและธาตุไม้เข้าไปจนกระทั่งเปลวไฟบนดาบซามูไรเล่มยักษ์มอดลง และดับไปในที่สุด
หลังจากที่ดูดเอาพลังปราณทั้งสองชนิดเข้าไปในร่างกายแล้วหลิงหยุนก็สัมผัสได้ว่าจุดตันเถียนของตนในเวลานี้อัดแน่นไปด้วยพลังปราณ ไม่เพียงพลังปราณภายในร่างกายของหลิงหยุนจะฟื้นคืนมาเต็มร้อย แต่จุดตันเถียนของเขาดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยด้วย..
คงเป็นเพราะผลพวงจากพลังปราณในขั้นพลังเหนือธรรมชาติระดับสองของนินจาทั้งสองนั่นเอง!
“ถึงคราวของเจ้าแล้ว!”
พูดจบ..หลิงหยุนก็สั่งให้โซ่หยิน–หยางพุ่งเข้าใส่ร่างของโทคุงาวะ ฮิโรชิทันที!
หลิงหยุนเปลี่ยนจากการโจมตีโทคุงาวะฮิโรชิด้วยลูกธนูมาเป็นโซ่หยิน–หยาง ก็เพราะค้นพบว่าตนสามารถใช้โซ่หยิน–หยางดูดเอาพลังปราณของศัตรูเข้าไปในร่างกายได้ เขาจึงต้องการดูดเอาพลังปราณจากร่างของโทคุงาวะ ฮิโรชิเข้าไปด้วยเช่นกัน!
แต่พลังปราณในขั้นพลังเหนือธรรมชาติระดับสามของโทคุงาวะฮิโรชินั้น แม้จะเป็นพลังปราณที่บริสุทธิ์อย่างยิ่ง แต่ก็แกร่งราวกับโลหะ ทำให้หลิงหยุนไม่สามารถดูดเอามาได้! เมื่อเป็นเช่นนี้..หลิงหยุนจึงต้องเปลี่ยนมาทำให้จุดตันเถียนของตนหมุนกลับแทน และเริ่มใช้วิชาดูดลมปราณเพื่อดูดเอาลมปราณในร่างของโทคุงาวะ ฮิโรชิมาเป็นของตนเองให้ได้!
“แย่แล้ว!”
…….
ในระหว่างที่โทคุงวะฮิโรชิเห็นเปลวไฟบนดาบซามูไรยักษ์นั้นค่อยๆดับลง เขาก็พยายามที่จะใช้พลังจิตควบคุมให้ดาบซามูไรซึ่งเกิดจากพลังปราณนั้นกลับคืนมา แต่มีหรือที่หลิงหยุนจะยอมให้โทคุงาวะ ฮิโรชิทำเช่นนั้นได้ง่ายๆ!
หลิงหยุนใช้โซ่หยินหยางของตนเองรัดดาบใหญ่ไว้แน่นจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้!
“พวกเจ้าสองคนใช้พลังจิตจู่โจมหลิงหยุนเร็วเข้า!”
โทคุงาวะฮิโรชิไม่มีทางเลือกอื่น เมื่อเห็นว่าทาเคชิ และทาเคฮิโกะสามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้แล้ว จึงสั่งให้นินจาทั้งสองใช้พลังเหนือธรรมชาติจัดการกับหลิงหยุนทันที!
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนี้นินจาขั้นเงาทั้งสองจึงได้บังคับให้พลังปราณของตนพุ่งออกจากร่างกาย และเปลี่ยนเป็นพลังเหนือธรรมชาติจู่โจมเข้าใส่หลิงหยุน
ตูม!
ในช่วงเวลาเพียงแค่เสี้ยวนาที..หลิงหยุนก็ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น!
แล้วกระบี่ลมปราณมากมายนับสิบเล่มก็พุ่งขึ้นจากพื้นดินในบริเวณที่หลิงหยุนยืนอยู่ และกำลังพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของเขาอย่างรวดเร็ว..
“แย่แล้ว!”
หลิงหยุนไม่รีรอเขากระโดดหลบกระบี่ลมปราณนับสิบนั้นขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที แต่กระลี่ลมปราณเหล่านั้นก็ยังคงพุ่งตามร่างของเขาขึ้นไปติดๆเช่นกัน!
และในเวลานั้นเอง..ก็เป็นโอกาสของโทคุงาวะ ฮิโรชิ เขาถือดาบซามูไรยาวพุ่งตามร่างของหลิงหยุนขึ้นไปกลางอากาศหมายสังหารในทันที
ในระหว่างที่ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศนั้นหลิงหยุนก็ได้เรียกยันต์เตโชระดับหกออกมา แล้วจัดการซัดใส่กระบี่ลมปราณที่พุ่งตามมา พร้อมกับร้องตะโกนให้ยันต์ออกฤทธิ์ทันที
ตูม!
ยันต์เตโชระดับหกได้ระเบิดกระบี่ลมปราณของนินจาทั้งสองจนสลายหายวับไปกับตา!
“ถอย!”
โทคุงาวะฮิโรชิที่พุ่งตามขึ้นไปหมายสังหารหลิงหยุนเห็นเช่นนั้น ก็รีบถอยกลับออกมาทันที
“สังหารมัน!”
แม้หลิงหยุนจะไม่สามารถพุ่งตามโทคุงาวะฮิโรชิได้ทัน แต่เขาก็ยังมีกระบี่เหินเงาธนู!
หลิงหยุนที่ยังคงอยู่กลางอากาศนั้นได้ใช้พลังจิตควบคุมกระบี่เหินเงาธนูสีเขียวใส ให้พุ่งเข้าใส่ร่างของโทคุงาวะ ทาเคฮิโกะในทันที!
“เจ้าอย่าได้ฝันไปเลย!”
โทคุงาวะฮิโรชิเห็นเช่นนั้น จึงรีบซัดฝ่ามือใส่กระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนทันที ทำให้กระบี่เหินเงาธนูไม่สามารถสังหารทาเคฮิโกะได้..
ชัวะ!!
“อ๊าก..”
แต่ถึงอย่างนั้น..กระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนก็แทงทะเลุเข้าไปที่ไหล่ของทาเคฮิโกะแทน จนกลายเป็นแผลใหญ่ และมีเลือดสีแดงไหลพุ่งออกมา..
และทันทีที่หลิงหยุนกลับลงสู่พื้นดินเขาก็ได้เดินลมปราณหมุนกลับ และพุ่งฝ่ามือออกไปด้านหน้าดูดเอาพลังปราณที่แตกสลายจากกระบี่ลมปราณเข้าไปในร่างกายของตนเองทันที! ทางด้านโทคุงาวะฮิโรชิเห็นทาเคฮิโกะได้รับบาดเจ็บเช่นนั้น จึงรีบเข้าไปสกัดจุดเพื่อห้ามเลือดให้ หลังจากนั้นนินจาทั้งสาม โทคุงาวะ ฮิโรชิ โทคุงาวะ ทาเคชิ และโทคุงาวะ ทาเคฮิโกะ ต่างก็ยืนหันหน้ามองไปทางหลิงหยุน พร้อมกับจ้องมองเขาด้วยสายตาเคียดแค้นเย็นชา!
ก่อนหน้านี้หลิงหยุนเพิ่งจะเป็นฝ่ายถูกดาบซามูไรเพลิงไล่ล่าจนต้องใช้วิชาเงาลวงตาหลบหนีเพื่อเอาชีวิตรอด แต่เพียงแค่พริบตาเดียว หลิงหยุนก็ใช้พลังเหนือธรรมชาติของตนเองบ้าง และสามารถพลิกกลับมาเป็นฝ่ายจู่โจมดาบซามูไรเพลิง พร้อมทั้งสังหารนินจาขั้นเงาสิ้นใจตายไปถึงสองคน!
“แย่แล้ว!นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
ตี๋ยั่วถังที่จับตาดูการต่อสู้โดยแทบไม่กระพริบตานั้นเวลานี้ตกอกตกใจจนลูกตาแทบทะลักออกมาจากเบ้า เขาร้องอุทานออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง..
“นี่มัน..”
ไม่เพียงแค่ตี๋ยั่วถังที่อยู่ในอาการตกใจและตกตะลึง คนอื่นๆที่เฝ้ามองการต่อสู้อย่างไม่ละสายตา ก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เช่นกัน!
เพราะทันทีที่หลิงหยุนจู่โจมกลับไปนั้นเขาก็ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย เมื่อได้จังหวะลงมือกับคู่ต่อสู้ หลิงหยุนก็ไม่รีรอที่จะสังหารนินจาทั้งสองคนด้วยพลังเหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่งกว่าในทันที!
“ทาเคฮิเดะ..ทาเคกิ..”
โทคุงาวะฮิโรชิ เห็นทาเคฮิเดะ และทาเคกิทรุดลงไปกองกับพื้นทันทีเช่นนั้น ดวงตาแดงก่ำของเขาก็เบิกโพลงจนแทบถลนออกมาจากเบ้า พร้อมกับร้องตะโกนเรียกชื่อนินจาทั้งสองออกมาทันที!
จะไม่ให้โทคุงาวะฮิโรชิกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจได้อย่างไรกัน ในเมื่อทั้งคู่ต่างก็เป็นนินจาขั้นเงาที่เก่งกาจของตระกูลโทคุงาวะ แต่กลับมาถูกหลิงหยุนสังหารตายภายในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตาเช่นนี้ และไม่อาจรักษาชีวิตกลับไปแดนเกิดได้!
โทคุงาวะทาเคชิ และโทคุงาวะ ทาเคฮิโกะเองก็ถึงกับตกใจจนแทบคลุ้มคลั่ง พวกเขาทั้งสองคนมีหน้าที่ปกป้องนินจาทั้งสาม แต่กลับทำได้เพียงแค่มองนินจาทั้งสองทรุดลงไปกองกับพื้นต่อหน้าต่อตา หนำซ้ำหนึ่งในนั้นยังถูกฟันศรีษะขาดออกจากร่างอย่างน่าสังเวชอีกด้วย!
อย่าว่าแต่จะเข้าไปป้องกันนินจาทั้งสองเลย..ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนทาเคชิ และทาเคฮิโกะนั้น ไม่เห็นด้วยซ้ำว่านินจาทั้งสองนั้นถูกสังหารตายได้อย่างไร
“พวกเจ้าระวังตัวให้มาก!”
หลังจากได้สติ..โทคุงาวะ ฮิโรชิก็ร้องตะโกนบอกนินจาสองคนที่เหลือให้ระมัดระวังหลิงหยุนอีกครั้ง!
และแน่นอนว่าการต่อสู้ที่แท้จริงนั้นยังไม่จบสิ้นแต่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น!
หลังจากที่สังหารนินจาขั้นเงาไปถึงสองคนแล้วกระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนก็ยังคงไม่จู่โจมโทคุงาวะ ฮิโรชิ แต่กลับหันเหไปทางทาเคชิ และพุ่งเข้าใส่ศรีษะของเขาทันที!
“ห๊ะ!”
กระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนนั้นเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วเกินกว่าที่จะสามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้!
โทคุงาวะทาเคชิถูกกระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนพุ่งเข้าใส่ด้วยความรวดเร็วเช่นนั้น จึงทำได้เพียงแค่หลับตาลง..
ขั้นของโทคุงาวะทาเคชิ และโทคุงาวะ ทาเคฮิโกะนั้น ยังนับว่าต่ำกว่านินจาขั้นเงาทั้งสองคนที่ตายไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย เมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนเข้า จึงยากที่จะหลบหนีได้ทันท่วงที!
ตูม!
โทคุงาวะฮิโรชิเห็นเช่นนั้น จึงรีบรวบรวมลมปราณซัดใส่กระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนไปหนึ่งฝ่ามือ และพลังปราณที่รุนแรงของโทคุงาวะ ฮิโรชิก็ซัดกระบี่เหินเงาธนูให้พุ่งผ่านใบหน้าของโทคุงาวะ ทาเคชิไปได้อย่างเฉียดฉิว!
เวลานั้นโทคุงาวะทาเคชิสัมผัสได้เพียงพลังงานความร้อนที่พุ่งผ่านใบหน้าของตนไปอย่างรวดเร็ว เขาลืมตาขึ้นมองด้วยความตกใจ ในขณะที่หูนั้นอื้อจนไม่สามารถได้ยินอะไรได้อีก..
จากนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงชิ้นเนื้อทางซีกหน้าด้านขวาตั้งแต่หางตาลงไปจนถึงใบหูนั้นถูกกระบี่เหินเงาธนูตัดหลุดออกเป็นชิ้น และเลือดสีแดงสดก็กำลังไหลอาบศรีษะซีกขวาของตนเองอยู่!
“เร็วเข้า!พวกเจ้ารีบใช้วิชานินจุทสึหายตัวออกไปจากที่นี่ก่อน!”
โทคุงาวะฮิโรชิเห็นนินจาทั้งสองคนที่ได้แต่ยืนตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก ก็รีบร้องเตือนด้วยความโมโห และกระวนกระวายใจ!
กระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนนั้นเคลื่อนที่ได้รวดเร็วราวกับภูติผีวิญญาณเช่นนี้หากปล่อยให้นินจาทั้งสองอยู่ในสนามประลองต่อไป โทคุงาวะ ฮิโรชิก็ไม่รู้ว่าจะสามารถปกป้องพวกเขาทั้งคู่ไปได้อีกนานเพียงใด
ทันทีที่ได้ยินเสียงร้องเตือนของโทคุงวะฮิโรชิ ทั้งทาเคชิ และทาเคฮิโกะก็ได้สติ และรีบใช้วิชานินจาดำดินหายตัวออกไปจากสนามประลองทันที!
แต่ทันทีที่นินจาทั้งสองหายตัวไปจากสนามประลองลูกธนูสองดอกก็พุ่งออกจากมือของหลิงหยุนพร้อมๆกันในทันที!
ฟิ้ว..ฟิ้ว..
แม้ว่าทาเคชิและทาเคฮิโกะจะใช้วิชานินจาดำดินหนีออกไปจากลานประลองได้แล้ว แต่ในระหว่างที่กำลังวิ่งหนีอยู่นั้น ลูกธนูของหลิงหยุนก็ยิงเข้าใส่ร่างของนินจาทั้งสองที่อยู่ห่างออกไปราวเจ็ดถึงแปดเมตร และนินจาทั้งสองก็ล้มลงไปกับพื้นทันที
แม้ว่าธนูทั้งสองดอกของหลิงหยุนนั้นจะยิงไม่โดนอวัยวะสำคัญของร่างกาย แต่เพราะพลังหยินที่เย็นยะเยือกซึ่งหลิงหยุนถ่ายเทลงไปที่ลูกธนูนั้น ก็ได้ทำให้ร่างร่างกายครึ่งท่อนของนินจาทั้งสองแข็งไปทันที!
ฟิ้ว..ฟิ้ว.. ฟิ้ว..
หลังจากนั้นหลิงหยุนก็หันคันธนูทองพร้อมลูกธนูเงินเข้าใส่ร่างของโทคุงาวะฮิโรชิ และกระหน่ำยิงลูกธนูใส่ร่างของโทคุงาวะ ฮิโรชิไม่ยั้ง..
โทคุงาวะฮิโรชิกระโดดหนีพร้อมกับซัดฝ่ามือใส่ลูกธนูของหลิงหยุนที่กระหน่ำยิงใส่เป็นสิบๆ ดอกอย่างต่อเนื่อง แม้โทคุงาวะ ฮิโรชิต้องการที่จะสังหารหลิงหยุนให้ได้ในทันที แต่เขาก็ไม่มีโอกาสจู่โจมหลิงหยุนได้อีกเลย เพราะหลิงหยุนนั้นสามารถทำสามสิ่งได้ในเวลาเดียวกัน!
ในระหว่างที่กระหน่ำยิงลูกธนูใส่ร่างของโทคุงาวะฮิโรชินั้น หลิงหยุนก็ยังคงควบคุมโซ่หยิน–หยางให้รัดดาบซามูไรเพลิงไว้แน่น อีกทั้งยังสามารถบังคับควบคุมกระบี่เหินเงาธนูได้ด้วย! ทักษะพลัง และความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของหลิงหยุนนั้น นับว่าน่าหวาดกลัว และน่าเกรงขามยิ่งนัก!
ความจริงแล้วอย่าว่าแต่ทำสามอย่างพร้อมกันเช่นนี้เลยเวลานี้หลิงหยุนสามารถทำได้ถึงเจ็ดอย่างพร้อมกันเลยทีเดียว!
อัจฉริยะเช่นหลิงหยุนนั้นต่อให้ไม่ได้ฝึกฝนวิชา เขาก็สามารถวาดรูปด้วยมือซ้าย และระบายสีด้วยมือขวาไปพร้อมๆกันได้อย่างไม่มีปัญหา!
แต่เพราะหลิงหยุนคือผู้ฝึกบ่มเพาะพลังและเคยผ่านขั้นอมตะมาแล้ว ดวงจิตเดิมของหลิงหยุนจึงนับว่าทรงพลังยิ่งนัก การทำหลายสิ่งหลายอย่างพร้อมๆกันได้ จึงนับว่าเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับหลิงหยุน!
เหตุใดหลิงหยุนจึงเลือกที่จะจู่โจมโทคุงาวะฮิโรชิด้วยธนูอย่างนั้นหรือ นั่นเพราะหลิงหยุนได้เตรียมการ และวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว..
แม้เวลานี้โทคุงาวะทาเคฮิเดะ และโทคุงาวะ ทาเคกิจะสิ้นใจตายไปแล้ว แต่พลังปราณทั้งหมดในร่างกายก็ได้ถูกถ่ายเทไปยังดาบซามูไรเพลิงเล่มนั้น..
เวลานี้โซ่หยิน–หยางของหลิงหยุนไม่เพียงแค่รัดรึงดาบซามูไรเพลิงไว้เท่านั้นแต่หลิงหยุนยังได้ใช้พลังจิตของตนเองควบคุมให้พลังปราณของโซ่หยินหยางนั้นหมุนกลับ และกำลังดูดเอาพลังปราณจากดาบซามูไรเพลิงเข้าไปในร่างกายอย่างรวดเร็ว!
พลังปราณของนินจาทั้งสองคนที่ตายไปนั้นเป็นปราณธาตุไฟและธาตุไม้ที่ทรงพลัง มีหรือที่หลิงหยุนจะยอมให้หลุดรอดเงื้อมือไปได้!
โซ่หยิน–หยางของหลิงหยุนที่ทำหน้าที่แทนฝ่ามือค่อยๆดูดเอาปราณธาตุไฟและธาตุไม้เข้าไปจนกระทั่งเปลวไฟบนดาบซามูไรเล่มยักษ์มอดลง และดับไปในที่สุด
หลังจากที่ดูดเอาพลังปราณทั้งสองชนิดเข้าไปในร่างกายแล้วหลิงหยุนก็สัมผัสได้ว่าจุดตันเถียนของตนในเวลานี้อัดแน่นไปด้วยพลังปราณ ไม่เพียงพลังปราณภายในร่างกายของหลิงหยุนจะฟื้นคืนมาเต็มร้อย แต่จุดตันเถียนของเขาดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยด้วย..
คงเป็นเพราะผลพวงจากพลังปราณในขั้นพลังเหนือธรรมชาติระดับสองของนินจาทั้งสองนั่นเอง!
“ถึงคราวของเจ้าแล้ว!”
พูดจบ..หลิงหยุนก็สั่งให้โซ่หยิน–หยางพุ่งเข้าใส่ร่างของโทคุงาวะ ฮิโรชิทันที!
หลิงหยุนเปลี่ยนจากการโจมตีโทคุงาวะฮิโรชิด้วยลูกธนูมาเป็นโซ่หยิน–หยาง ก็เพราะค้นพบว่าตนสามารถใช้โซ่หยิน–หยางดูดเอาพลังปราณของศัตรูเข้าไปในร่างกายได้ เขาจึงต้องการดูดเอาพลังปราณจากร่างของโทคุงาวะ ฮิโรชิเข้าไปด้วยเช่นกัน!
แต่พลังปราณในขั้นพลังเหนือธรรมชาติระดับสามของโทคุงาวะฮิโรชินั้น แม้จะเป็นพลังปราณที่บริสุทธิ์อย่างยิ่ง แต่ก็แกร่งราวกับโลหะ ทำให้หลิงหยุนไม่สามารถดูดเอามาได้! เมื่อเป็นเช่นนี้..หลิงหยุนจึงต้องเปลี่ยนมาทำให้จุดตันเถียนของตนหมุนกลับแทน และเริ่มใช้วิชาดูดลมปราณเพื่อดูดเอาลมปราณในร่างของโทคุงาวะ ฮิโรชิมาเป็นของตนเองให้ได้!
“แย่แล้ว!”
…….
ในระหว่างที่โทคุงวะฮิโรชิเห็นเปลวไฟบนดาบซามูไรยักษ์นั้นค่อยๆดับลง เขาก็พยายามที่จะใช้พลังจิตควบคุมให้ดาบซามูไรซึ่งเกิดจากพลังปราณนั้นกลับคืนมา แต่มีหรือที่หลิงหยุนจะยอมให้โทคุงาวะ ฮิโรชิทำเช่นนั้นได้ง่ายๆ!
หลิงหยุนใช้โซ่หยินหยางของตนเองรัดดาบใหญ่ไว้แน่นจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้!
“พวกเจ้าสองคนใช้พลังจิตจู่โจมหลิงหยุนเร็วเข้า!”
โทคุงาวะฮิโรชิไม่มีทางเลือกอื่น เมื่อเห็นว่าทาเคชิ และทาเคฮิโกะสามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้แล้ว จึงสั่งให้นินจาทั้งสองใช้พลังเหนือธรรมชาติจัดการกับหลิงหยุนทันที!
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนี้นินจาขั้นเงาทั้งสองจึงได้บังคับให้พลังปราณของตนพุ่งออกจากร่างกาย และเปลี่ยนเป็นพลังเหนือธรรมชาติจู่โจมเข้าใส่หลิงหยุน
ตูม!
ในช่วงเวลาเพียงแค่เสี้ยวนาที..หลิงหยุนก็ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น!
แล้วกระบี่ลมปราณมากมายนับสิบเล่มก็พุ่งขึ้นจากพื้นดินในบริเวณที่หลิงหยุนยืนอยู่ และกำลังพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของเขาอย่างรวดเร็ว..
“แย่แล้ว!”
หลิงหยุนไม่รีรอเขากระโดดหลบกระบี่ลมปราณนับสิบนั้นขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที แต่กระลี่ลมปราณเหล่านั้นก็ยังคงพุ่งตามร่างของเขาขึ้นไปติดๆเช่นกัน!
และในเวลานั้นเอง..ก็เป็นโอกาสของโทคุงาวะ ฮิโรชิ เขาถือดาบซามูไรยาวพุ่งตามร่างของหลิงหยุนขึ้นไปกลางอากาศหมายสังหารในทันที
ในระหว่างที่ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศนั้นหลิงหยุนก็ได้เรียกยันต์เตโชระดับหกออกมา แล้วจัดการซัดใส่กระบี่ลมปราณที่พุ่งตามมา พร้อมกับร้องตะโกนให้ยันต์ออกฤทธิ์ทันที
ตูม!
ยันต์เตโชระดับหกได้ระเบิดกระบี่ลมปราณของนินจาทั้งสองจนสลายหายวับไปกับตา!
“ถอย!”
โทคุงาวะฮิโรชิที่พุ่งตามขึ้นไปหมายสังหารหลิงหยุนเห็นเช่นนั้น ก็รีบถอยกลับออกมาทันที
“สังหารมัน!”
แม้หลิงหยุนจะไม่สามารถพุ่งตามโทคุงาวะฮิโรชิได้ทัน แต่เขาก็ยังมีกระบี่เหินเงาธนู!
หลิงหยุนที่ยังคงอยู่กลางอากาศนั้นได้ใช้พลังจิตควบคุมกระบี่เหินเงาธนูสีเขียวใส ให้พุ่งเข้าใส่ร่างของโทคุงาวะ ทาเคฮิโกะในทันที!
“เจ้าอย่าได้ฝันไปเลย!”
โทคุงาวะฮิโรชิเห็นเช่นนั้น จึงรีบซัดฝ่ามือใส่กระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนทันที ทำให้กระบี่เหินเงาธนูไม่สามารถสังหารทาเคฮิโกะได้..
ชัวะ!!
“อ๊าก..”
แต่ถึงอย่างนั้น..กระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนก็แทงทะเลุเข้าไปที่ไหล่ของทาเคฮิโกะแทน จนกลายเป็นแผลใหญ่ และมีเลือดสีแดงไหลพุ่งออกมา..
และทันทีที่หลิงหยุนกลับลงสู่พื้นดินเขาก็ได้เดินลมปราณหมุนกลับ และพุ่งฝ่ามือออกไปด้านหน้าดูดเอาพลังปราณที่แตกสลายจากกระบี่ลมปราณเข้าไปในร่างกายของตนเองทันที! ทางด้านโทคุงาวะฮิโรชิเห็นทาเคฮิโกะได้รับบาดเจ็บเช่นนั้น จึงรีบเข้าไปสกัดจุดเพื่อห้ามเลือดให้ หลังจากนั้นนินจาทั้งสาม โทคุงาวะ ฮิโรชิ โทคุงาวะ ทาเคชิ และโทคุงาวะ ทาเคฮิโกะ ต่างก็ยืนหันหน้ามองไปทางหลิงหยุน พร้อมกับจ้องมองเขาด้วยสายตาเคียดแค้นเย็นชา!