Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร - บทที่ 1165 : ขังไว้ในค่ายกล!
หลิงหยุนใช้กระบี่ในมือฟันเข้ากับคฑาทองคำของหลวงจีนจื้อกงเพื่อเปิดทางก่อนจะกระโดดหลบปลายทวนม่วงทองของเฉินจิ้งเฉวียน และพุ่งไปข้างหน้าคล้ายกับตั้งใจจะไล่ล่าตี๋ยั่วถัง..
เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในชั่วเวลาเพียงแค่พริบตาและทุกคนต่างก็ทำได้เพียงแค่ป้องกันตัวเองเท่านั้น ในระหว่างที่ทุกคนต่างก็กำลังรับมือกับเงาของหลิงหยุนอยู่นั้น ร่างที่แท้จริงของเขาก็พุ่งเข้าหาจื่อยู่วทันที!
หลิงหยุนตวัดกระบี่โลหิตแดนใต้เข้าใส่ร่างของจื่อยู่วด้วยความรวดเร็วจนกลายเป็นม่านสีดำคมกริบที่พุ่งประชิดร่างของจื่อยู่วอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงได้..
“ห๊ะ!”
จื่อยู่วถึงกับตกใจอย่างมากและรีบยกกระบี่ในมือของตนขึ้นปัดป้องกระบี่ที่รวดเร็วและรุนแรงดั่งพายุของหลิงหยุน จนเกิดเป็นประกายไฟขึ้นจากการกระทบกันอย่างรุนแรงของกระบี่สองเล่ม!
แต่ถึงกระนั้น..กระบี่ของจื่อยู่วก็ยังไม่อาจต้านทานกระบี่โลหิตแดนใต้ที่แข็งแกร่งของหลิงหยุนได้
หากจะพูดไปแล้ว..จื่อยู่วนั้นยังนับว่าแข็งแกร่งน้อยกว่าหลิงหยุน แม้จะสามารถรับกระบี่ของหลิงหยุนไว้ได้ แต่ก็ถูกพลังปราณจากกระบี่กระแทกเข้าจนได้รับบาดเจ็บภายใน และลมปราณภายในร่างกายของจื่อยู่วก็เริ่มไหลเวียนติดขัด!
“นวสังหาร!”
กระบี่โลหิตแดนใต้ในมือของหลิงหยุนเงื้อขึ้นสูงอีกครั้งและฟาดเข้าใส่ร่างของจื่อยู่วอย่างรวดเร็ว จื่อยู่วรู้ตัวว่าตนไม่สามารถต้านทานพลังปราณจากกระบี่ของหลิงหยุนได้แน่ จึงรีบกระโดดถอยออก และหนีไปทันที!
“คิดจะหนีงั้นรึ!” หลิงหยุนกำลังจะไล่ตามจื่อยู่วไปแต่จู่ๆ ปลายทวนของาของเฉินจิ้งเฉวียนก็พุ่งเข้ามาทางด้านหน้า และแทงเข้าที่หน้าอกของเขาทันที!
ต้องยอมรับว่ายอดฝีมือทั้งห้าคนเมื่อร่วมมือกันต่อสู้กับหลิงหยุนแล้วนั้นทุกคนดูเหมือนจะผสานมือกันได้อย่างลงตัวและรู้ใจ แม้หลิงหยุนจะพยายามที่จะสังหารจื่อยู่วให้ได้ แต่ก็ถูกทวนม่วงทองของเฉินจิ้งเฉวียนมาขวางไว้ได้ทันท่วงที!
‘พวกมันสามารถร่วมมือกันได้ดียิ่งนัก!’
หลิงหยุนนึกโมโหแต่ในระหว่างนั้นแม้จะรู้ว่าด้านหลังของตนเองมีคฑาทองคำของหลวงจีนจื้อกงอยู่ แต่หลิงหยุนก็จำเป็นต้องกระโดดถอยหลังเพื่อหลบปลายทวนของเฉินจิ้งเฉวียนที่พุ่งเข้ามา..
ในขณะเดียวกันนั้นเอง..คฑาทองคำที่พุ่งเข้ามาทางด้านหลังนั้น ก็กำลังฟาดลงกลางศรีษะของหลิงหยุน แต่ด้วยจิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนนั้น ทำให้เขามองเห็นการจู่โจมจากศัตรูได้รอบด้าน
หลิงหยุนยิ้มรออย่างใจเย็นและเมื่อคฑาทองคำฟาดลงมาใกล้จะถึงศรีษะของตนแล้ว หลิงหยุนก็ได้เอี้ยวร่างหลบไปทางขวาเล็กน้อย แล้วจึงขยับเท้าถอยหลังพุ่งเข้าไปยืนอยู่ทางด้านข้างของหลวงจีนจื้อกงทันที!
ปัง!
ในเวลานั้น..หลวงจีนจื้อกงมั่นใจว่าตนต้องเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน จึงได้ฟาดคฑาทองคำลงใส่ร่างของหลิงหยุนอย่างสุดกำลัง แต่เมื่อหลิงหยุนเอี้ยวหลบ คฑาทองคำจึงฟาดเข้าใส่พื้นด้านล่างแทน และยากที่จะหลบการจู่โจมของหลิงหยุนได้ทัน!
แต่ถึงกระนั้น..หลวงจีนจื้อกงก็ไม่ใช่ผู้ไร้ประสบการณ์ในสนามต่อสู้ เขารีบซัดฝ่ามือข้างซ้ายเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนทันทีเช่นกัน!
“เจ้าเสร็จข้าแล้ว!”
หลิงหยุนยิ้มกริ่มและใช้นิ้วชี้มือซ้ายของตนทิ่มเข้ากับฝ่ามือวชิระของหลวงจีนจื้อกง “ดัชนีสายฟ้า!”
หลิงหยุนปลดปล่อยอสุนีบาตที่อยู่ตามเส้นลมปราณและจุดตันเถียนของตนเข้าใส่ร่างของหลวงจีนจื้อกงทันที!
นับเป็นความชาญฉลาดของหลิงหยุนที่เลือกใช้สายฟ้าภายในร่างกายจู่โจมเข้าใส่หลวงจีนจื้อกงซึ่งคิดว่าตนเองกำลังเป็นฝ่ายเหนือกว่า..
“ห๊ะ!”
ทันทีที่ร่างของหลวงจีนจื้อกงถูกดัชนีสายฟ้าของหลิงหยุนเข้าไปร่างกายของเขาก็ถึงกับสั่นสะท้านขึ้นมาทันที
ต่อให้เป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจมากเพียงใดก็ยังต้องหวาดหวั่นต่อกระแสไฟฟ้าที่รุนแรง แต่หากยอดฝีมือผู้นั้นได้เดินลมปราณปกป้องไว้ได้ทันก็คงจะไม่เป็นอะไรมากนัก เพราะอย่างน้อยพลังปราณในร่างกายก็ยังสามารถปกป้องคุ้มครองร่างกายไว้ได้
แม้ว่าดัชนีสายฟ้าของหลิงหยุนจะไม่สามารถทำให้ยอดฝีมือขั้นพลังเหนือธรรมชาติเป็นอันตรายอะไรได้มากนักแต่สิ่งที่หลิงหยุนต้องการนั้นก็ไม่ใช่การได้รับบาดเจ็บสาหัสจากดัชนีสายฟ้าของตน..
“หมัดปีศาจเถียนกัง!”
หลังจากที่ดัชนีสายฟ้าของหลิงหยุนทำให้ร่างของหลวงจีนจื้อกังชะงักและสั่นสะท้านนั้น มืออีกข้างของเขาก็ส่งหมัดปีศาจเถียนกังเข้าใส่หน้าอกของหลวงจีนจื้อกงทันที
หลวงจีนจื้อกงเห็นหมัดของหลิงหยุนพุ่งเข้ามาเช่นนั้นจึงรีบกัดฟันพร้อมกับร้องตะโกนออกไปทันที
“กายวชิระ!”
หมัดปีศาจเถียนกังที่แข็งแกร่งของหลิงหยุนที่พุ่งเข้าใส่หน้าอกของหลวงจีนจื้อกงนั้นราวกับปะทะเข้ากับภูเขาหินที่แข็งแกร่ง ร่างของหลวงจีนจื้อกงถูกแรงกระแทกจากหมัดของหลิงหยุน กระเด็นลอยละลิ่วออกไปไกลกว่ายี่สิบเมตร และร่วงหล่นลงกับพื้นในท่ายืน! แต่ในที่สุด..หลวงจีนจื้อกงก็ไม่อาจทนต่อไปได้อีก และกระอักเลือดออกมาทันที เวลานี้หลวงจีนจื้อกงได้รับบาดเจ็บเพราะหมัดปีศาจเถียนกังของหลิงหยุน!
แต่หากหลวงจีนจื้อกงไม่ใช้วิชากายวชิระปกป้องร่างกายของตนไว้ได้ทันหมัดของหลิงหยุนคงต้องทำให้ซี่โครงของหลวงจีนผู้นี้หักไปไม่น้อยกว่าสิบซี่แน่ และคงต้องสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปอย่างสิ้นเชิง!
ในระหว่างที่หลิงหยุนมุ่งมั่นที่จะจัดการกับจื่อยู่วและหลวงจีนจื้อกงนั้นการบังคับควบคุมกระบี่เหินเงาธนูก็ลดประสิทธิภาพลงไปด้วย ทำให้ดาบเทียนชี่ของนักบวชเลี่ยหั่วสามารถฝ่าด่านมาได้ และกำลังพุ่งเข้าใส่ศรีษะของหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว!
แต่ครั้งนี้หลิงหยุนไม่กล้าใช้โล่ลมปราณเพราะเกรงว่าจะไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของดาบเทียนชี่ได้ จึงได้ยกกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือขึ้นรับแทน!
เคร้ง..เคร้ง.. แต่ในวินาทีที่หลิงหยุนใช้กระบี่โลหิตแดนใต้ในมือของตนต้านดาบเทียนชี่ไว้นั้นเขาก็ได้ใช้พลังจิตควบคุมกระบี่เหินเงาธนูให้พุ่งเข้าใส่ร่างของนักบวชเลี่ยหั่วด้วยเช่นกัน
และนับว่าเป็นการตอบโต้ที่ชาญฉลาดอีกครั้งของหลิงหยุน..นั่นเพราะหากนักบวชเทียนหั่วต้องรับมือกับกระบี่เหินเงาธนู เขาก็ย่อมสูญสิ้นความสามารถในการบังคับดาบเทียนชี่ที่กำลังจู่โจมหลิงหยุนไป..
เพราะใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำหลายสิ่งได้ในเวลาเดียวกันดังเช่นหลิงหยุน!
และเมื่อเห็นกระบี่เหินเงาธนูกำลังพุ่งจู่โจมเข้าใส่ตนเองเช่นนั้นนักบวชเลี่ยหั่วจึงยุติการจู่โจมหลิงหยุน และสั่งให้ดาบเทียนชี่บินกลับมาปกป้องตนเองแทน!
เคร้ง..เคร้ง.. เคร้ง..
หลังจากที่รับมือกับทวนของเฉินจิ้งเฉวียนที่พุ่งเข้าใส่ร่างของตนสามครั้งติดต่อกันแล้วหลิงหยุนก็กระโดดเข้าไปหาตี๋ยั่วถังเป็นรายต่อไป! ตี๋ยั่วถังเห็นเช่นนั้นถึงกับตกใจจนทำอะไรไม่ถูกจึงไม่ทันได้กระโดดถอยหนีไป..
ในระหว่างนั้น..จื่อยู่วที่ได้รับบาดเจ็บก็กำลังเดินลมปราณอยู่ ส่วนหลวงจีนจื้อกงเองก็ได้รับบาดเจ็บ และกำลังเดินลมปราณอยู่เช่นกัน ในขณะที่นักบวชเลี่ยหั่วก็วุ่นวายอยู่กับการรับมือกับกระบี่เหินเงาธนู มีเพียงเฉินจิ้งเฉวียนเท่านั้นที่ยังคงพุ่งทวนยาวไล่ตามหลิงหยุนไป
ในระหว่างที่ตี๋ยั่วถังกำลังหวาดกลัวอย่างที่สุดนั้น..
“ออกมาให้หมด!”
สิ้นคำสั่งของหลิงหยุน..ลูกเหล็กมากมายนับไม่ถ้วนทั้งใหญ่ และเล็กต่างก็พุ่งออกมาจากแหวนจักรวาลของหลิงหยุน เขาไม่รอให้ลูกเหล็กจำนวนมากเหล่านั้นหล่นลงกับพื้น และรีบใช้พลังจิตของตนเองบังคับควบคุมให้ลูกเหล็กทั้งหมดพุ่งออกไปด้านหน้าราวสิบกว่าเมตร..
“ค่ายกลวราหก!” ภายใต้การควบคุมด้วยพลังจิตของหลิงหยุนลูกเหล็กขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่กลางอากาศนั้น ก็ได้แยกออกเป็นสามสิบหกกลุ่มอยู่กลางอากาศ
“ร่วงลง!”
สิ้นคำสั่งของหลิงหยุน..ลูกเหล็กทั้งหมดหนึ่งร้อยสี่สิบสี่ลูกก็ร่วงลงสู่พื้นดินกลายเป็นค่ายกลวราหกทั้งหมดสี่ค่าย และหมอกสีขาวสี่กลุ่มก็ครอบคลุมร่างของยอดฝีมือจากหน่วยนภาทั้งสี่ไว้ทันที เว้นแต่เฉินจิ้งเฉวียนเพียงผู้เดียวเท่านั้น!
……
“นั่น..นั่นมันค่ายกลอะไรกัน! เหตุใดจึงได้มีอานุภาพเช่นนี้?!”
เหนือพื้นดินขึ้นไปราวสามกิโลเมตรหลงฮ่าวหลานที่กำลังจ้องมองการต่อสู้ที่พื้นดินด้านล่างอยู่นั้น ถึงกับร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นหลิงหยุนสร้างค่ายกลขึ้นมาเช่นนั้น.. นั่นเพราะทันทีที่กลุ่มหมอกสีขาวทั้งสี่ปรากฏขึ้นแม้แต่จิตหยั่งรู้ของหลงฮ่าวหลานเอง ก็ยังไม่สามารถมองทะลุกลุ่มควันสีขาวเหล่านั้นเข้าไปได้!
จากนั้นหลงฮ่าวหลานก็พึมพำออกมา“ไม่แปลกเลยที่เด็กผู้นี้กล้าที่จะมาประลองด้วยตัวคนเดียว เพราะเขามีไพ่ในมือมากมายเช่นนี้นี่เอง!”
ไม่แปลกที่หลงฮ่าวหลานจะรู้สึกตกใจ..เพราะในการต่อสู้ในยกที่สี่นี้ หลิงหยุนมีทั้งโล่ลมปราณที่แข็งแกร่ง ดัชนีสายฟ้าที่ทรงพลัง และค่ายกลวราหกที่ทรงอานุภาพ
หลงฮ่าวหลานได้แต่นึกสงสัยว่าแท้ที่จริงแล้วหลิงหยุนอยู่ในขั้นใดแล้วกันแน่!เพราะจากโล่ลมปราณที่แข็งแกร่งซึ่งแม้แต่กระบี่เทียนซานยังไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้นั้น ทำให้หลงฮ่าวหลานคาดว่าพลังปราณของหลิงหยุนนั้น ไม่น่าจะต่ำกว่าระดับสี่ขั้นพลังเหนือธรรมชาติ
แต่หลังจากนั้น..หลิงหยุนก็ทำให้หลงฮ่าวหลานถึงกับงุนงงอีกครั้ง เมื่อเขาใช้ดัชนีสายฟ้า ซึ่งจนถึงตอนนี้หลงฮ่าวหลานเองก็ยังไม่เข้าใจว่าสายฟ้าเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร หรือภายในร่างกายของหลิงหยุนจะมีสายฟ้าเหล่านี้อยู่อย่างนั้นหรือ?!
แต่ยังไม่ทันไร..หลิงหยุนก็จัดการวางค่ายกลวราหกอีก! แม้หลงฮ่าวหลานจะพอรู้มาบ้างว่า หลิงหยุนนั้นมีความรู้เรื่องค่ายกลเป็นอย่างดี แต่ก็คิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะสามารถสร้างค่ายกลที่ทรงอานุภาพได้ถึงเพียงนี้!
เพราะค่ายกลชนิดนี้..แม้แต่หลงฮ่าวหลานเองก็ยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน
ยิ่งไปกว่านั้น..หลงฮ่าวหลานยังคิดไม่ถึงว่าวัตถุพื้นที่ของหลิงหยุนนั้น จะสามารถบรรจุลูกเหล็กขนาดใหญ่ไว้ได้มากมายถึงเพียงนี้ ภายในของวัตถุพื้นที่จะต้องกว้างใหญ่มากเพียงใดอย่างนั้นหรือ
ระหว่างที่ครุ่นคิดอยู่นั้น..ดวงตาของหลงฮ่าวหลานก็ปรากฏร่องรอยของความริษยาขึ้นมาอย่างไม่อาจปกปิดได้ นั่นเพราะวัตถุพื้นที่นั้น เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากได้มาครอบครองทั้งสิ้น!
และหากหลงฮ่าวหลานได้รู้ว่า..ทุกคนรอบตัวหลิงหยุนก็ล้วนแล้วแต่มีแหวนพื้นที่กันทั้งสิ้น ไม่รู้ว่าหลงฮ่าวหลานจะทำสีหน้าเช่นใดกันแน่
“ดูท่าเด็กหลิงหยุนจะไม่เพียงแข็งแกร่งมากแต่ยังมีไพ่ในมืออยู่อีกนับไม่ถ้วน!”
หลงฮ่าวหลานยืนเอามือไขว้หลังพร้อมกับส่ายหน้าไปมาและพูดขึ้นว่า “ดูท่ายอดฝีมือจากหน่วยนภาทั้งห้าคน คงต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ทีเดียว!”
ทางด้านเย่ชิงซินที่กำลังจ้องมองกระบี่เหินเงาธนูด้วยความเพลิดเพลินนั้นก็ได้ยิ้มออกมา และถามขึ้นว่า
“หลงฮ่าวหลาน..เวลานี้ท่านยังกล้าพูดอีกหรือไม่ว่า หากได้ประมือกับหลิงหยุน ท่านจะเป็นฝ่ายชนะ”
หลงฮ่าวหลานแสร้างทำเป็นสนอกสนใจการต่อสู้ด้านล่างจนไม่ได้ยินคำถามของเย่ชิงซิน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามของนาง
เย่ชิงซินจึงจงใจพูดไปว่า“หากให้ข้าคาดเดาจากที่ได้เห็นหลิงหยุนต่อสู้ในครั้งนี้ ข้าว่าเขาน่าจะอยู่ในระดับห้าขั้นพลังเหนือธรรมชาติ และหากจะเอาชนะท่านก็คงไม่ใช่เรื่องยาก..”
……
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”
เฉินจิ้งเฉวียนที่พุ่งทวนม่วงทองในมือเข้าหมายสังหารหลิงหยุนอยู่นั้นภายในเวลาเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียว จู่ๆ รอบตัวเขากับหลิงหยุนก็มีกลุ่มหมอกสีขาวปรากฏขึ้นทั้งสี่ด้านเช่นนั้น มีหรือที่เขาจะไม่ตกอกตกใจ!
และเวลานี้ยอดฝีมือทั้งสี่คนก็ถูกหลิงหยุนขังไว้ในหมอกสีขาวเหล่านั้น!
ในคืนก่อนวันประลองสามวันนั้นหลิงหยุนได้สั่งให้เหล่ากุ่ยนำลูกเหล็กจำนวนมากมายมาไว้ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิง และหลิงหยุนตั้งใจที่จะมาวางค่ายกลไว้ที่สนามประลองก่อนล่วงหน้า แต่พบว่ามันเด่นชัด และโจ่งแจ้งมากจนเกินไป
ต่อให้หลิงหยุนจะซ่อนค่ายกลไว้ได้ดีมากเพียงใดในเวลาสามวันก่อนการประลอง เขาเชื่อว่าคนของตระกูลซันและตระกูลเฉินจะต้องสำรวจพบ และทำลายทิ้งอยู่ดี..
เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลิงหยุนจึงเปลี่ยนใจเก็บลูกเหล็กไว้ในแหวนจักรวาลแทนเพราะหากมีความจำเป็นต้องสร้างค่ายกลกะทันหันขึ้นมา จะได้สามารถเรียกออกมาใช้งานได้ทันที!
“หึ..ตอนนี้ยังจะมีใครช่วยเจ้าได้อีกบ้าง”
“เตรียมตัวตายได้แล้ว!”
หลังจากที่สร้างค่ายกลเรียกร้อยแล้วหลิงหยุนก็ไม่รอช้า และรีบใช้เงาลวงตาพุ่งเข้าจู่โจมเฉินจิ้งเฉวียน พร้อมกับใช้เพลงกระบี่นวสังหารที่ดุดันเข้าไล่ล่าเอาชีวิตของเฉินจิ้งเฉวียนทันที!
“แย่แล้ว!”
เฉินจิ้งเฉวียนตกใจสุดขีดและรีบยกทวนม่วงทองในมือขึ้นรับกระบี่ของหลิงหยุนไว้ได้ทันท่วงที ในเวลาเดียวกันนั้นก็ไม่ลืมที่จะเดินลมปราณขั้นสุด เพื่อป้องกันพลังปราณที่แข็งแกร่งจากปลายกระบี่ของหลิงหยุนไว้!
เคร้ง..เคร้ง..
หลิงหยุนใช้พลังปราณขั้นสุดและเพลงกระบี่นวสังหารที่โหดเหี้ยม ทำให้เฉินจิ้งเฉวียนถึงกับกระอักเลือดออกมา และเมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงรีบกระโดดถอยหนีทันที!
แต่หลิงหยุนเองก็ไม่รอช้าเขาถือกระบี่ไว้ด้วยสองมือพร้อมกับกระโดดตัวลอยขึ้นกลางอากาศ และฟันกระบี่ลงใส่ร่างของเฉินจิ้งเฉวียนอย่างรวดเร็ว
เฉินจิ้งเฉวียนเห็นกระบี่สีดำที่ฟาดใส่ร่างตนเองอย่างรวดเร็วจนเห็นเป็นเพียงแค่เส้นสีดำพุ่งเข้าใส่ร่างของตนเองเช่นนั้น จึงรวบรวมลมปราณทั่วร่างสร้างเกราะป้องกันขึ้นทันที..
“ระฆังทองคุ้มกาย!”
ในวินาทีแห่งความเป็นความตายนั้นเฉินจิ้งเฉวียนทำได้เพียงแค่สร้างระฆังทองคุ้มกายขึ้นมาปกป้องร่างกายของตนเองไว้
หลิงหยุนเห็นลมปราณที่มีลักษณะคล้ายระฆังสีทองกำลังหมุนจากเท้าขึ้นมาที่ศรีษะด้วยความรวดเร็ว และค่อยๆครอบร่างของเฉินจิ้งเฉวียนไว้!
ในระหว่างที่ระฆังทองคุ้มกายค่อยๆครอบร่างของเฉินจิ้งเฉวียนจากด้านล่างขึ้นมานั้นร่างสูงใหญ่ก็เอี้ยวตัวไปมาพร้อมกับควงทวนยาวหลบกระบี่ของหลิงหยุน!
แต่ถึงกระนั้น..เพลงกระบี่นวสังหารของหลิงหยุนนั้นก็นับว่าเป็นเพลงกระบี่ที่เหี้ยมโหด ใช้มุ่งสังหารคู่ต่อสู้เท่านั้น และหากใช้เพลงกระบี่นี้เข้าสังหารคู่ต่อสู้ ก็ยากที่คู่ต่อสู้จะหลบหลีกได้ เว้นแต่ว่าคู่ต่อสู้จะมีวิชาตัวเบาที่ล้ำเลิศ และมีพลังปราณที่แข็งแกร่งกว่าหลิงหยุน จึงจะสามารถต้านทานเพลงกระบี่นวสังหารของเขาได้!
เคร้ง..
เฉินจิ้งเฉวียนรีบยกทวนในมือขึ้นเหนือศรีษะและกระบี่ของหลิงหยุนก็ปะทะเข้ากับทวนม่วงทองของเฉินจิ้งเฉวียน และเป็นจังหวะที่ระฆังทองคุ้มกายได้ปกคลุมทั่วร่างของเฉินจิ้งเฉวียนแล้ว!
กระบี่ของหลิงหยุนเกือบจะฟันเข้าสามารถทะลุทะลวงเข้าไปในรฆังทองคุ้มกายของเฉินจิ้งเฉวียนได้
แต่ถึงกระนั้น..เฉินจิ้งเฉวียนก็กระอักเลือดออกมา และได้รับบาดเจ็บภายในสาหัส
“ข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อน!”
หลิงหยุนกระโดดตรงไปที่ค่ายกลวราหกซึ่งขังร่างของจื่อยู่วไว้ด้านใน..
แน่นอนว่าหลิงหยุนเลือกที่จะสังหารผู้ที่อ่อนด้อยที่สุดก่อนและเวลานี้จื่อยู่วก็ได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว หลิงหยุนจึงเลือกที่จะจัดกการกับจื่อยู่วเป็นคนแรก! อีกทั้งหลิงหยุนเคยประมือกับมือกระบี่คุนหลุนมาก่อนแล้วเขาจึงค่อนข้างเข้าใจพื้นฐานเพลงกระบี่ และความแข็งแกร่งของสำนักคุนหลุนดี
ในเวลานั้น..จื่อยู่วที่ถูกขังอยู่ในหมอกสีขาวนั้น ก็รู้ดีว่าตนได้ถูกค่ายกลครอบไว้ แต่ยังไม่สามารถหนีหลุดรอดออกไปได้!
หลิงหยุนกระโดดเข้าไปหาจื่อยู่วที่อยู่ในค่ายกลและเวลานี้จื่อยู่วก็ไม่สามารถมองเห็นหลิงหยุน แต่หลิงหยุนนั้นสามารถมองเห็นจื่อยู่วได้อย่างชัดเจน
เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในชั่วเวลาเพียงแค่พริบตาและทุกคนต่างก็ทำได้เพียงแค่ป้องกันตัวเองเท่านั้น ในระหว่างที่ทุกคนต่างก็กำลังรับมือกับเงาของหลิงหยุนอยู่นั้น ร่างที่แท้จริงของเขาก็พุ่งเข้าหาจื่อยู่วทันที!
หลิงหยุนตวัดกระบี่โลหิตแดนใต้เข้าใส่ร่างของจื่อยู่วด้วยความรวดเร็วจนกลายเป็นม่านสีดำคมกริบที่พุ่งประชิดร่างของจื่อยู่วอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงได้..
“ห๊ะ!”
จื่อยู่วถึงกับตกใจอย่างมากและรีบยกกระบี่ในมือของตนขึ้นปัดป้องกระบี่ที่รวดเร็วและรุนแรงดั่งพายุของหลิงหยุน จนเกิดเป็นประกายไฟขึ้นจากการกระทบกันอย่างรุนแรงของกระบี่สองเล่ม!
แต่ถึงกระนั้น..กระบี่ของจื่อยู่วก็ยังไม่อาจต้านทานกระบี่โลหิตแดนใต้ที่แข็งแกร่งของหลิงหยุนได้
หากจะพูดไปแล้ว..จื่อยู่วนั้นยังนับว่าแข็งแกร่งน้อยกว่าหลิงหยุน แม้จะสามารถรับกระบี่ของหลิงหยุนไว้ได้ แต่ก็ถูกพลังปราณจากกระบี่กระแทกเข้าจนได้รับบาดเจ็บภายใน และลมปราณภายในร่างกายของจื่อยู่วก็เริ่มไหลเวียนติดขัด!
“นวสังหาร!”
กระบี่โลหิตแดนใต้ในมือของหลิงหยุนเงื้อขึ้นสูงอีกครั้งและฟาดเข้าใส่ร่างของจื่อยู่วอย่างรวดเร็ว จื่อยู่วรู้ตัวว่าตนไม่สามารถต้านทานพลังปราณจากกระบี่ของหลิงหยุนได้แน่ จึงรีบกระโดดถอยออก และหนีไปทันที!
“คิดจะหนีงั้นรึ!” หลิงหยุนกำลังจะไล่ตามจื่อยู่วไปแต่จู่ๆ ปลายทวนของาของเฉินจิ้งเฉวียนก็พุ่งเข้ามาทางด้านหน้า และแทงเข้าที่หน้าอกของเขาทันที!
ต้องยอมรับว่ายอดฝีมือทั้งห้าคนเมื่อร่วมมือกันต่อสู้กับหลิงหยุนแล้วนั้นทุกคนดูเหมือนจะผสานมือกันได้อย่างลงตัวและรู้ใจ แม้หลิงหยุนจะพยายามที่จะสังหารจื่อยู่วให้ได้ แต่ก็ถูกทวนม่วงทองของเฉินจิ้งเฉวียนมาขวางไว้ได้ทันท่วงที!
‘พวกมันสามารถร่วมมือกันได้ดียิ่งนัก!’
หลิงหยุนนึกโมโหแต่ในระหว่างนั้นแม้จะรู้ว่าด้านหลังของตนเองมีคฑาทองคำของหลวงจีนจื้อกงอยู่ แต่หลิงหยุนก็จำเป็นต้องกระโดดถอยหลังเพื่อหลบปลายทวนของเฉินจิ้งเฉวียนที่พุ่งเข้ามา..
ในขณะเดียวกันนั้นเอง..คฑาทองคำที่พุ่งเข้ามาทางด้านหลังนั้น ก็กำลังฟาดลงกลางศรีษะของหลิงหยุน แต่ด้วยจิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนนั้น ทำให้เขามองเห็นการจู่โจมจากศัตรูได้รอบด้าน
หลิงหยุนยิ้มรออย่างใจเย็นและเมื่อคฑาทองคำฟาดลงมาใกล้จะถึงศรีษะของตนแล้ว หลิงหยุนก็ได้เอี้ยวร่างหลบไปทางขวาเล็กน้อย แล้วจึงขยับเท้าถอยหลังพุ่งเข้าไปยืนอยู่ทางด้านข้างของหลวงจีนจื้อกงทันที!
ปัง!
ในเวลานั้น..หลวงจีนจื้อกงมั่นใจว่าตนต้องเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน จึงได้ฟาดคฑาทองคำลงใส่ร่างของหลิงหยุนอย่างสุดกำลัง แต่เมื่อหลิงหยุนเอี้ยวหลบ คฑาทองคำจึงฟาดเข้าใส่พื้นด้านล่างแทน และยากที่จะหลบการจู่โจมของหลิงหยุนได้ทัน!
แต่ถึงกระนั้น..หลวงจีนจื้อกงก็ไม่ใช่ผู้ไร้ประสบการณ์ในสนามต่อสู้ เขารีบซัดฝ่ามือข้างซ้ายเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนทันทีเช่นกัน!
“เจ้าเสร็จข้าแล้ว!”
หลิงหยุนยิ้มกริ่มและใช้นิ้วชี้มือซ้ายของตนทิ่มเข้ากับฝ่ามือวชิระของหลวงจีนจื้อกง “ดัชนีสายฟ้า!”
หลิงหยุนปลดปล่อยอสุนีบาตที่อยู่ตามเส้นลมปราณและจุดตันเถียนของตนเข้าใส่ร่างของหลวงจีนจื้อกงทันที!
นับเป็นความชาญฉลาดของหลิงหยุนที่เลือกใช้สายฟ้าภายในร่างกายจู่โจมเข้าใส่หลวงจีนจื้อกงซึ่งคิดว่าตนเองกำลังเป็นฝ่ายเหนือกว่า..
“ห๊ะ!”
ทันทีที่ร่างของหลวงจีนจื้อกงถูกดัชนีสายฟ้าของหลิงหยุนเข้าไปร่างกายของเขาก็ถึงกับสั่นสะท้านขึ้นมาทันที
ต่อให้เป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจมากเพียงใดก็ยังต้องหวาดหวั่นต่อกระแสไฟฟ้าที่รุนแรง แต่หากยอดฝีมือผู้นั้นได้เดินลมปราณปกป้องไว้ได้ทันก็คงจะไม่เป็นอะไรมากนัก เพราะอย่างน้อยพลังปราณในร่างกายก็ยังสามารถปกป้องคุ้มครองร่างกายไว้ได้
แม้ว่าดัชนีสายฟ้าของหลิงหยุนจะไม่สามารถทำให้ยอดฝีมือขั้นพลังเหนือธรรมชาติเป็นอันตรายอะไรได้มากนักแต่สิ่งที่หลิงหยุนต้องการนั้นก็ไม่ใช่การได้รับบาดเจ็บสาหัสจากดัชนีสายฟ้าของตน..
“หมัดปีศาจเถียนกัง!”
หลังจากที่ดัชนีสายฟ้าของหลิงหยุนทำให้ร่างของหลวงจีนจื้อกังชะงักและสั่นสะท้านนั้น มืออีกข้างของเขาก็ส่งหมัดปีศาจเถียนกังเข้าใส่หน้าอกของหลวงจีนจื้อกงทันที
หลวงจีนจื้อกงเห็นหมัดของหลิงหยุนพุ่งเข้ามาเช่นนั้นจึงรีบกัดฟันพร้อมกับร้องตะโกนออกไปทันที
“กายวชิระ!”
หมัดปีศาจเถียนกังที่แข็งแกร่งของหลิงหยุนที่พุ่งเข้าใส่หน้าอกของหลวงจีนจื้อกงนั้นราวกับปะทะเข้ากับภูเขาหินที่แข็งแกร่ง ร่างของหลวงจีนจื้อกงถูกแรงกระแทกจากหมัดของหลิงหยุน กระเด็นลอยละลิ่วออกไปไกลกว่ายี่สิบเมตร และร่วงหล่นลงกับพื้นในท่ายืน! แต่ในที่สุด..หลวงจีนจื้อกงก็ไม่อาจทนต่อไปได้อีก และกระอักเลือดออกมาทันที เวลานี้หลวงจีนจื้อกงได้รับบาดเจ็บเพราะหมัดปีศาจเถียนกังของหลิงหยุน!
แต่หากหลวงจีนจื้อกงไม่ใช้วิชากายวชิระปกป้องร่างกายของตนไว้ได้ทันหมัดของหลิงหยุนคงต้องทำให้ซี่โครงของหลวงจีนผู้นี้หักไปไม่น้อยกว่าสิบซี่แน่ และคงต้องสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปอย่างสิ้นเชิง!
ในระหว่างที่หลิงหยุนมุ่งมั่นที่จะจัดการกับจื่อยู่วและหลวงจีนจื้อกงนั้นการบังคับควบคุมกระบี่เหินเงาธนูก็ลดประสิทธิภาพลงไปด้วย ทำให้ดาบเทียนชี่ของนักบวชเลี่ยหั่วสามารถฝ่าด่านมาได้ และกำลังพุ่งเข้าใส่ศรีษะของหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว!
แต่ครั้งนี้หลิงหยุนไม่กล้าใช้โล่ลมปราณเพราะเกรงว่าจะไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของดาบเทียนชี่ได้ จึงได้ยกกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือขึ้นรับแทน!
เคร้ง..เคร้ง.. แต่ในวินาทีที่หลิงหยุนใช้กระบี่โลหิตแดนใต้ในมือของตนต้านดาบเทียนชี่ไว้นั้นเขาก็ได้ใช้พลังจิตควบคุมกระบี่เหินเงาธนูให้พุ่งเข้าใส่ร่างของนักบวชเลี่ยหั่วด้วยเช่นกัน
และนับว่าเป็นการตอบโต้ที่ชาญฉลาดอีกครั้งของหลิงหยุน..นั่นเพราะหากนักบวชเทียนหั่วต้องรับมือกับกระบี่เหินเงาธนู เขาก็ย่อมสูญสิ้นความสามารถในการบังคับดาบเทียนชี่ที่กำลังจู่โจมหลิงหยุนไป..
เพราะใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำหลายสิ่งได้ในเวลาเดียวกันดังเช่นหลิงหยุน!
และเมื่อเห็นกระบี่เหินเงาธนูกำลังพุ่งจู่โจมเข้าใส่ตนเองเช่นนั้นนักบวชเลี่ยหั่วจึงยุติการจู่โจมหลิงหยุน และสั่งให้ดาบเทียนชี่บินกลับมาปกป้องตนเองแทน!
เคร้ง..เคร้ง.. เคร้ง..
หลังจากที่รับมือกับทวนของเฉินจิ้งเฉวียนที่พุ่งเข้าใส่ร่างของตนสามครั้งติดต่อกันแล้วหลิงหยุนก็กระโดดเข้าไปหาตี๋ยั่วถังเป็นรายต่อไป! ตี๋ยั่วถังเห็นเช่นนั้นถึงกับตกใจจนทำอะไรไม่ถูกจึงไม่ทันได้กระโดดถอยหนีไป..
ในระหว่างนั้น..จื่อยู่วที่ได้รับบาดเจ็บก็กำลังเดินลมปราณอยู่ ส่วนหลวงจีนจื้อกงเองก็ได้รับบาดเจ็บ และกำลังเดินลมปราณอยู่เช่นกัน ในขณะที่นักบวชเลี่ยหั่วก็วุ่นวายอยู่กับการรับมือกับกระบี่เหินเงาธนู มีเพียงเฉินจิ้งเฉวียนเท่านั้นที่ยังคงพุ่งทวนยาวไล่ตามหลิงหยุนไป
ในระหว่างที่ตี๋ยั่วถังกำลังหวาดกลัวอย่างที่สุดนั้น..
“ออกมาให้หมด!”
สิ้นคำสั่งของหลิงหยุน..ลูกเหล็กมากมายนับไม่ถ้วนทั้งใหญ่ และเล็กต่างก็พุ่งออกมาจากแหวนจักรวาลของหลิงหยุน เขาไม่รอให้ลูกเหล็กจำนวนมากเหล่านั้นหล่นลงกับพื้น และรีบใช้พลังจิตของตนเองบังคับควบคุมให้ลูกเหล็กทั้งหมดพุ่งออกไปด้านหน้าราวสิบกว่าเมตร..
“ค่ายกลวราหก!” ภายใต้การควบคุมด้วยพลังจิตของหลิงหยุนลูกเหล็กขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่กลางอากาศนั้น ก็ได้แยกออกเป็นสามสิบหกกลุ่มอยู่กลางอากาศ
“ร่วงลง!”
สิ้นคำสั่งของหลิงหยุน..ลูกเหล็กทั้งหมดหนึ่งร้อยสี่สิบสี่ลูกก็ร่วงลงสู่พื้นดินกลายเป็นค่ายกลวราหกทั้งหมดสี่ค่าย และหมอกสีขาวสี่กลุ่มก็ครอบคลุมร่างของยอดฝีมือจากหน่วยนภาทั้งสี่ไว้ทันที เว้นแต่เฉินจิ้งเฉวียนเพียงผู้เดียวเท่านั้น!
……
“นั่น..นั่นมันค่ายกลอะไรกัน! เหตุใดจึงได้มีอานุภาพเช่นนี้?!”
เหนือพื้นดินขึ้นไปราวสามกิโลเมตรหลงฮ่าวหลานที่กำลังจ้องมองการต่อสู้ที่พื้นดินด้านล่างอยู่นั้น ถึงกับร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นหลิงหยุนสร้างค่ายกลขึ้นมาเช่นนั้น.. นั่นเพราะทันทีที่กลุ่มหมอกสีขาวทั้งสี่ปรากฏขึ้นแม้แต่จิตหยั่งรู้ของหลงฮ่าวหลานเอง ก็ยังไม่สามารถมองทะลุกลุ่มควันสีขาวเหล่านั้นเข้าไปได้!
จากนั้นหลงฮ่าวหลานก็พึมพำออกมา“ไม่แปลกเลยที่เด็กผู้นี้กล้าที่จะมาประลองด้วยตัวคนเดียว เพราะเขามีไพ่ในมือมากมายเช่นนี้นี่เอง!”
ไม่แปลกที่หลงฮ่าวหลานจะรู้สึกตกใจ..เพราะในการต่อสู้ในยกที่สี่นี้ หลิงหยุนมีทั้งโล่ลมปราณที่แข็งแกร่ง ดัชนีสายฟ้าที่ทรงพลัง และค่ายกลวราหกที่ทรงอานุภาพ
หลงฮ่าวหลานได้แต่นึกสงสัยว่าแท้ที่จริงแล้วหลิงหยุนอยู่ในขั้นใดแล้วกันแน่!เพราะจากโล่ลมปราณที่แข็งแกร่งซึ่งแม้แต่กระบี่เทียนซานยังไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้นั้น ทำให้หลงฮ่าวหลานคาดว่าพลังปราณของหลิงหยุนนั้น ไม่น่าจะต่ำกว่าระดับสี่ขั้นพลังเหนือธรรมชาติ
แต่หลังจากนั้น..หลิงหยุนก็ทำให้หลงฮ่าวหลานถึงกับงุนงงอีกครั้ง เมื่อเขาใช้ดัชนีสายฟ้า ซึ่งจนถึงตอนนี้หลงฮ่าวหลานเองก็ยังไม่เข้าใจว่าสายฟ้าเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร หรือภายในร่างกายของหลิงหยุนจะมีสายฟ้าเหล่านี้อยู่อย่างนั้นหรือ?!
แต่ยังไม่ทันไร..หลิงหยุนก็จัดการวางค่ายกลวราหกอีก! แม้หลงฮ่าวหลานจะพอรู้มาบ้างว่า หลิงหยุนนั้นมีความรู้เรื่องค่ายกลเป็นอย่างดี แต่ก็คิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะสามารถสร้างค่ายกลที่ทรงอานุภาพได้ถึงเพียงนี้!
เพราะค่ายกลชนิดนี้..แม้แต่หลงฮ่าวหลานเองก็ยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน
ยิ่งไปกว่านั้น..หลงฮ่าวหลานยังคิดไม่ถึงว่าวัตถุพื้นที่ของหลิงหยุนนั้น จะสามารถบรรจุลูกเหล็กขนาดใหญ่ไว้ได้มากมายถึงเพียงนี้ ภายในของวัตถุพื้นที่จะต้องกว้างใหญ่มากเพียงใดอย่างนั้นหรือ
ระหว่างที่ครุ่นคิดอยู่นั้น..ดวงตาของหลงฮ่าวหลานก็ปรากฏร่องรอยของความริษยาขึ้นมาอย่างไม่อาจปกปิดได้ นั่นเพราะวัตถุพื้นที่นั้น เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากได้มาครอบครองทั้งสิ้น!
และหากหลงฮ่าวหลานได้รู้ว่า..ทุกคนรอบตัวหลิงหยุนก็ล้วนแล้วแต่มีแหวนพื้นที่กันทั้งสิ้น ไม่รู้ว่าหลงฮ่าวหลานจะทำสีหน้าเช่นใดกันแน่
“ดูท่าเด็กหลิงหยุนจะไม่เพียงแข็งแกร่งมากแต่ยังมีไพ่ในมืออยู่อีกนับไม่ถ้วน!”
หลงฮ่าวหลานยืนเอามือไขว้หลังพร้อมกับส่ายหน้าไปมาและพูดขึ้นว่า “ดูท่ายอดฝีมือจากหน่วยนภาทั้งห้าคน คงต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ทีเดียว!”
ทางด้านเย่ชิงซินที่กำลังจ้องมองกระบี่เหินเงาธนูด้วยความเพลิดเพลินนั้นก็ได้ยิ้มออกมา และถามขึ้นว่า
“หลงฮ่าวหลาน..เวลานี้ท่านยังกล้าพูดอีกหรือไม่ว่า หากได้ประมือกับหลิงหยุน ท่านจะเป็นฝ่ายชนะ”
หลงฮ่าวหลานแสร้างทำเป็นสนอกสนใจการต่อสู้ด้านล่างจนไม่ได้ยินคำถามของเย่ชิงซิน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามของนาง
เย่ชิงซินจึงจงใจพูดไปว่า“หากให้ข้าคาดเดาจากที่ได้เห็นหลิงหยุนต่อสู้ในครั้งนี้ ข้าว่าเขาน่าจะอยู่ในระดับห้าขั้นพลังเหนือธรรมชาติ และหากจะเอาชนะท่านก็คงไม่ใช่เรื่องยาก..”
……
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”
เฉินจิ้งเฉวียนที่พุ่งทวนม่วงทองในมือเข้าหมายสังหารหลิงหยุนอยู่นั้นภายในเวลาเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียว จู่ๆ รอบตัวเขากับหลิงหยุนก็มีกลุ่มหมอกสีขาวปรากฏขึ้นทั้งสี่ด้านเช่นนั้น มีหรือที่เขาจะไม่ตกอกตกใจ!
และเวลานี้ยอดฝีมือทั้งสี่คนก็ถูกหลิงหยุนขังไว้ในหมอกสีขาวเหล่านั้น!
ในคืนก่อนวันประลองสามวันนั้นหลิงหยุนได้สั่งให้เหล่ากุ่ยนำลูกเหล็กจำนวนมากมายมาไว้ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิง และหลิงหยุนตั้งใจที่จะมาวางค่ายกลไว้ที่สนามประลองก่อนล่วงหน้า แต่พบว่ามันเด่นชัด และโจ่งแจ้งมากจนเกินไป
ต่อให้หลิงหยุนจะซ่อนค่ายกลไว้ได้ดีมากเพียงใดในเวลาสามวันก่อนการประลอง เขาเชื่อว่าคนของตระกูลซันและตระกูลเฉินจะต้องสำรวจพบ และทำลายทิ้งอยู่ดี..
เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลิงหยุนจึงเปลี่ยนใจเก็บลูกเหล็กไว้ในแหวนจักรวาลแทนเพราะหากมีความจำเป็นต้องสร้างค่ายกลกะทันหันขึ้นมา จะได้สามารถเรียกออกมาใช้งานได้ทันที!
“หึ..ตอนนี้ยังจะมีใครช่วยเจ้าได้อีกบ้าง”
“เตรียมตัวตายได้แล้ว!”
หลังจากที่สร้างค่ายกลเรียกร้อยแล้วหลิงหยุนก็ไม่รอช้า และรีบใช้เงาลวงตาพุ่งเข้าจู่โจมเฉินจิ้งเฉวียน พร้อมกับใช้เพลงกระบี่นวสังหารที่ดุดันเข้าไล่ล่าเอาชีวิตของเฉินจิ้งเฉวียนทันที!
“แย่แล้ว!”
เฉินจิ้งเฉวียนตกใจสุดขีดและรีบยกทวนม่วงทองในมือขึ้นรับกระบี่ของหลิงหยุนไว้ได้ทันท่วงที ในเวลาเดียวกันนั้นก็ไม่ลืมที่จะเดินลมปราณขั้นสุด เพื่อป้องกันพลังปราณที่แข็งแกร่งจากปลายกระบี่ของหลิงหยุนไว้!
เคร้ง..เคร้ง..
หลิงหยุนใช้พลังปราณขั้นสุดและเพลงกระบี่นวสังหารที่โหดเหี้ยม ทำให้เฉินจิ้งเฉวียนถึงกับกระอักเลือดออกมา และเมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงรีบกระโดดถอยหนีทันที!
แต่หลิงหยุนเองก็ไม่รอช้าเขาถือกระบี่ไว้ด้วยสองมือพร้อมกับกระโดดตัวลอยขึ้นกลางอากาศ และฟันกระบี่ลงใส่ร่างของเฉินจิ้งเฉวียนอย่างรวดเร็ว
เฉินจิ้งเฉวียนเห็นกระบี่สีดำที่ฟาดใส่ร่างตนเองอย่างรวดเร็วจนเห็นเป็นเพียงแค่เส้นสีดำพุ่งเข้าใส่ร่างของตนเองเช่นนั้น จึงรวบรวมลมปราณทั่วร่างสร้างเกราะป้องกันขึ้นทันที..
“ระฆังทองคุ้มกาย!”
ในวินาทีแห่งความเป็นความตายนั้นเฉินจิ้งเฉวียนทำได้เพียงแค่สร้างระฆังทองคุ้มกายขึ้นมาปกป้องร่างกายของตนเองไว้
หลิงหยุนเห็นลมปราณที่มีลักษณะคล้ายระฆังสีทองกำลังหมุนจากเท้าขึ้นมาที่ศรีษะด้วยความรวดเร็ว และค่อยๆครอบร่างของเฉินจิ้งเฉวียนไว้!
ในระหว่างที่ระฆังทองคุ้มกายค่อยๆครอบร่างของเฉินจิ้งเฉวียนจากด้านล่างขึ้นมานั้นร่างสูงใหญ่ก็เอี้ยวตัวไปมาพร้อมกับควงทวนยาวหลบกระบี่ของหลิงหยุน!
แต่ถึงกระนั้น..เพลงกระบี่นวสังหารของหลิงหยุนนั้นก็นับว่าเป็นเพลงกระบี่ที่เหี้ยมโหด ใช้มุ่งสังหารคู่ต่อสู้เท่านั้น และหากใช้เพลงกระบี่นี้เข้าสังหารคู่ต่อสู้ ก็ยากที่คู่ต่อสู้จะหลบหลีกได้ เว้นแต่ว่าคู่ต่อสู้จะมีวิชาตัวเบาที่ล้ำเลิศ และมีพลังปราณที่แข็งแกร่งกว่าหลิงหยุน จึงจะสามารถต้านทานเพลงกระบี่นวสังหารของเขาได้!
เคร้ง..
เฉินจิ้งเฉวียนรีบยกทวนในมือขึ้นเหนือศรีษะและกระบี่ของหลิงหยุนก็ปะทะเข้ากับทวนม่วงทองของเฉินจิ้งเฉวียน และเป็นจังหวะที่ระฆังทองคุ้มกายได้ปกคลุมทั่วร่างของเฉินจิ้งเฉวียนแล้ว!
กระบี่ของหลิงหยุนเกือบจะฟันเข้าสามารถทะลุทะลวงเข้าไปในรฆังทองคุ้มกายของเฉินจิ้งเฉวียนได้
แต่ถึงกระนั้น..เฉินจิ้งเฉวียนก็กระอักเลือดออกมา และได้รับบาดเจ็บภายในสาหัส
“ข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อน!”
หลิงหยุนกระโดดตรงไปที่ค่ายกลวราหกซึ่งขังร่างของจื่อยู่วไว้ด้านใน..
แน่นอนว่าหลิงหยุนเลือกที่จะสังหารผู้ที่อ่อนด้อยที่สุดก่อนและเวลานี้จื่อยู่วก็ได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว หลิงหยุนจึงเลือกที่จะจัดกการกับจื่อยู่วเป็นคนแรก! อีกทั้งหลิงหยุนเคยประมือกับมือกระบี่คุนหลุนมาก่อนแล้วเขาจึงค่อนข้างเข้าใจพื้นฐานเพลงกระบี่ และความแข็งแกร่งของสำนักคุนหลุนดี
ในเวลานั้น..จื่อยู่วที่ถูกขังอยู่ในหมอกสีขาวนั้น ก็รู้ดีว่าตนได้ถูกค่ายกลครอบไว้ แต่ยังไม่สามารถหนีหลุดรอดออกไปได้!
หลิงหยุนกระโดดเข้าไปหาจื่อยู่วที่อยู่ในค่ายกลและเวลานี้จื่อยู่วก็ไม่สามารถมองเห็นหลิงหยุน แต่หลิงหยุนนั้นสามารถมองเห็นจื่อยู่วได้อย่างชัดเจน