CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร - บทที่ 1409 : หลิงหยุนช่วยฉินจิวยื่อ (2)

  1. Home
  2. Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร
  3. บทที่ 1409 : หลิงหยุนช่วยฉินจิวยื่อ (2)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 1409 : หลิงหยุนช่วยฉินจิวยื่อ (2)

   หลิง..หลิงหยุน.. ลูกชายของข้างั้นรึ 

  หลังจากที่ฉินจิวยื่อกัดยาพิษในปากแล้วพิษก็ได้ปะปนกับเลือดสีแดงในปากของนางที่กลืนลงไปสู่ภายในท้องน้อย พิษกว่าครึ่งได้ซึมเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล และได้แพร่กระจายสู่เส้นเลือดทั่วทั้งรางกาย และยาพิษชนิดนี้ก็ออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว!

  เวลานี้ร่างของฉินจิวยื่อเริ่มแข็งเกร็งแววตาเริ่มเหม่อลอย แต่ถึงอย่างนั้นจิตใจของนางก็ยังคงแข็งแกร่ง ฉินจิวยื่อพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายของตนเปิดเปลือกตาขึ้น เพื่อที่จะได้มองหลิงหยุนได้ชัดเจน ภาพของหลิงหยุนที่อยู่ตรงหน้านางในเวลานี้ช่างเลือนลางเต็มที ใบหน้าและสายตาที่สงบนิ่งของฉินจิวยื่อ พลันปรากกฏรอยยิ้มที่เปี่ยมสุขขึ้น..

  ต่อให้หลิงหยุนไม่เปิดเผยฐานะของตนเองฉินจิวยื่อย่อมต้องรู้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้คือหลิงหยุนอยู่ดี แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่นางเองก็มีลูกเพียงแค่สองคนเท่านั้นคือหลิงหยุนกับหนิงหลิงยู่ นอกเหนือจากสองคนนี้แล้ว ยังจะมีผู้ใดเรียกนางว่าท่านแม่อีกเล่า..

  ยิ่งไปกว่านั้น..ก่อนหน้านี้ตี๋เสี่ยวเจินที่ไม่ต่างจากคนคลุ้มคลั่ง ก็ได้บอกเล่าความแข็งแกร่งของหลิงหยุนให้นางล่วงรู้ก่อนแล้ว!

   ใช่แล้วท่านแม่!ข้าคือหลิงหยุนลูกชายของท่าน! ท่านแม่.. ลูกไร้ความสามารถยิ่งนัก เวลาผ่านไปเนิ่นนาน แต่กลับมาช่วยท่านแม่ในเวลานี้ ทำให้ท่านแม่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากมาย! 

  หลิงหยุนจ้องมองสภาพของฉินจิวยื่อเวลานี้ด้วยดวงตาที่แดงก่ำฟันของเขาขบเข้าหากันแน่นอย่างอดกลั้น และในใจของเขาเวลานี้ก็มีไฟโทสะลุกโชน!

  ก่อนหน้านี้หลิงหยุนก็พอที่จะคิดได้ว่าทันทีที่ฉินจิวยื่อก้าวเท้าเข้าสู่สำนักกระบี่เทียนซานนั้น นางจะต้องได้รับความทุกข์ทรมานเป็นแน่ แต่เขาก็คิดว่าอย่างน้อยยังมีหนิงเทียนหยาอยู่ที่นี่ด้วย อย่างมากฉินจิวยื่อก็คงได้รับเพียงแค่ความทุกข์ทรมานทางใจ ซึ่งเกิดจากการถูกเหยียดหยามจากคนของสำนักกระบี่เทียนซานเท่านั้น..

  แต่เขาไม่คิดไม่ฝันว่าตี๋เสี่ยวเจินจะไร้ซึ่งความเป็นคนถึงเพียงนี้นางไม่เพียงไม่ใยดีต่อความเป็นความตายของหนิงเทียนหยาผู้เป็นสามี แต่ภายในเวลาเพียงแค่ครึ่งปี นางกลับทรมานฉินจิวยื่อทั้งทางร่างกายและจิตใจ จนนางต้องมีสภาพน่าเวทนาอย่างที่เห็น!

  ทันทีที่เข้าสู่เขตของยอดเขาเทียนเฟิงจิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนก็ได้สำรวจพบฉินจิวยื่อซึ่งอยู่ในสภาพที่น่าหดหู่และเวทนานี้ ทำให้เขาโกรธแค้นอย่างมาก และรีบตรงเข้ามาที่นี่เพื่อช่วยฉินจิวยื่อในทันที

  แต่เมื่อมาถึงฉินจิวยื่อก็ได้กลืนยาพิษลงไป และทำการผนึกลำคอเรียบร้อยแล้ว และหากเขามาช้ากว่านี้เพียงแค่ก้าวเดียว หรือเพียงแค่เศษเสี้ยวลมหายใจ พิษที่ร้ายแรงเช่นนี้ ต่อให้เป็นเซียนก็ยากที่จะช่วยชีวิตของฉินจิวยื่อไว้ได้..

   หลิง..หลิงหยุน.. ยาพิษที่ข้ากลืนเข้าไปนั้น.. เป็นพิษที่ร้ายแรงยิ่งนัก.. ข้า.. ข้าไม่มีทางรอดแล้ว.. เจ้ารีบออกไปจากที่นี่ พวกมันวางกับดักเพื่อรอให้เจ้ามาช่วยข้า พวกมันจะได้ทำการสังหารเจ้า.. 

  ฉินจิวยื่อมีจิตใจของความเป็นมนุษย์ที่สูงส่งนางหาได้ห่วงใยชีวิตของตนเองไม่ แต่กลับเป็นห่วงความปลอดภัยของหลิงหยุนมากกว่า

   ท่านแม่..ท่านวางใจได้ หากข้าอยู่ที่นี่ ท่านจะต้องไม่ตายแน่นอน! 

  ทันทีที่มาถึงนั้นหลิงหยุนได้ใช้ดัชนีห้าธาตุทำการสะกัดพิษที่กระจายเข้าสู่เส้นเลือดภายในร่างของฉินจิวยื่อไว้ได้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นแล้ว.. เวลานี้นางคงจะไม่สามารถปริปากพูดออกมาได้แม้แต่คำเดียวแน่!

  ระหว่างที่สองแม่ลูกกำลังสนทนากันอยู่นั้นหลิงหยุนก็ไม่ลืมที่จะถ่ายเทพลังปราณเข้าไปภายในร่างของฉินจิวยื่อด้วย เพื่อทำการขับพิษออกจากร่างกายของนางไปในตัว..

  ในวินาทีนั้นไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าชีวิตของฉินจิวยื่ออีกแล้ว หลิงหยุนจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยชีวิตของนางไว้ให้จงได้ เขาจึงไม่สนใจที่จะไล่ตามไปสังหารตี๋เสี่ยวเจินให้ตายคามือ..

  ไม่เช่นนั้นแล้วเวลานี้ตี๋เสี่ยวเจินคงต้องตายไปนับสิบๆครั้งแล้ว!

  แต่หลังจากที่เห็นสภาพที่น่าเวทนาของฉินจิวยื่อหลิงหยุนจึงได้หยุดความคิดที่จะฆ่าตี๋เสี่ยวเจิน เพราะความตายนั้นนับว่าเป็นการเมตตาเกินไปสำหรับผู้หญิงที่มีใจคอโหดเหี้ยมเช่นนาง!

  ฉินจิวยื่อต้องได้รับทุกข์ทรมานทั้งกายและใจสาหัสถึงเพียงนี้หลิงหยุนจะต้องให้ตี๋เสี่ยวเจินชดใช้กลับมาเป็นร้อยเท่าพันทวี!

  และในระหว่างที่หลิงหยุนกำลังช่วยชีวิตฉินจิวยื่ออยู่นั้นทั่วทั้งสำนักกระบี่เทียนซานก็กำลังโกลาหลวุ่นวายกันอย่างมาก!   นั่นเพราะทันทีที่ตี๋เสี่ยวเจินถูกหลิงหยุนชกเข้าใส่ร่างจนลอยกระเด็นละลิ่วออกไปไกลกว่าหนึ่งพันเมตรนั้น แม้นางจะได้ใช้พลังปราณปกป้องร่างกายไว้ แต่ก็นับว่าได้รับบาดเจ็บไม่น้อยทีเดียว

  แต่แทนที่ตี๋ชิงโหวจะรีบไปช่วยตี๋เสี่ยวเจินเขากลับเหาะหนีออกไปยังเขาปฐพี และร้องตะโกนออกไปเสียงดัง

   หลิงหยุนมาถึงที่นี่แล้ว! 

  และนี่คือประโยคแรกที่ตี๋ชิงโหวร้องตะโกนออกไปหลังจากที่เหาะหนีออกมาได้..

  ส่วนสาวใช้ที่เหลือซึ่งรออยู่นอกกระท่อมนั้นเมื่อเห็นได้เห็นหมัดอันทรงพลังของหลิงหยุน ทุกคนต่างก็พากันวิ่งหนีเอาตัวรอดกันจนหมด

  ทันทีที่เสียงร้องตะโกนของตี๋ชิงโหวดังขึ้นความโกลาหลวุ่นวายก็เกิดขึ้นทันที ในระหว่างนั้นร่างแปดร่างก็เหาะจากยอดเขาปฐพีมายังยอดเขาเทียนเฟิงอย่างรวดเร็ว และด้วยความเร็วในการเหาะของยอดฝีมือทั้งแปดนั้น ระยะทางเจ็ดกิโลเมตรจากยอดเขาปฐพีมาถึงยอดเขาเทียนเฟิงนั้น ทั้งหมดก็สามารถเหาะมาถึงได้อย่างรวดเร็ว!

  เหนือยอดเขาทั้งสามภายในสำนักกระบี่เทียนซานเวลานี้นอกจากเสียงร้องตะโกนแล้ว ก็ยังมีเสียงเหล่ายอดฝีมือเหาะมากลางอากาศอีกมากมาย ทำให้เขาที่เคยเงียบสงัด กลับกลายเป็นเสียงดังหนวกหูขึ้นในทันที!

  ที่รอบนอกของยอดเขาทั้งสามมีระลอกคลื่นHeavenly Sword Sect ที่ปกป้องการก่อตัวของภูเขาได้เปิดขึ้น นี่คืออาเรย์ดาบสามสังหาร หลังจากมีการเปิดตัวกฎหมายนี้ได้ปิดกั้นโลกภายนอกทันทีและเปลี่ยนเป็นโลกใบเล็กที่แยกจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง!

  บริเวณรอบนอกของยอดเขาทั้งสามเวลานี้ได้เกิดเป็นระลอกคลื่นขึ้น และเวลานี้ค่ายกลภายในสำนักกระบี่เทียนซานก็เริ่มทำงาน และนี่คือค่ายกลสามกระบี่สังหาร

  และทันทีที่ค่ายกลนี้เริ่มทำงานก็จะปิดกั้นพื้นที่เล็กๆนี้ออกจากโลกภายนอกทันที!   แน่นอนว่า..นี่คือกับดัก!

   ฮ่าๆๆเจ้าโจรโฉดหลิงหยุน! สวรรค์มีเจ้ากลับไม่ไป แต่กลับเดินเข้าสู่ประตูนรก ในเมื่อเจ้ากล้ามาถึงที่นี่ สำนักกระบี่เทียนซานก็จะเป็นที่สำหรับฝังร่างของเจ้า! 

  หนึ่งในแปดยอดฝีมือที่เหาะอยู่กลางอากาศเวลานี้ร้องตะโกนลงมา..

   ห๊ะ! 

  แต่ยังไม่ทันที่คนผู้นั้นจะพูดจบประโยคดี..เขาก็เห็นผืนดินเบื้องล่างบริเวณที่หลิงหยุนอยู่นั้น ได้มีหมอกสีขาวพวยพุ่งขึ้นมา และกระจายตัวปกคลุมพื้นที่บริเวณนั้นอยู่เต็มไปหมด ทำให้ไม่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่อยู่ภายในกลุ่มหมอกได้

  ไม่เพียงไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแม้แต่จิตหยั่งรู้ยังไม่อาจมองทะลุได้อีกด้วย!

   นี่คือค่ายกลอย่างนั้นรึ! 

  ยอดฝีมือทั้งแปดซึ่งลอยอยู่บนท้องฟ้าอันมืดมิดนั้นจ้องมองลงมายังผืนดินเบื้องล่างด้วยสีหน้างุนงง และทุกคนต่างก็อยู่ในอาการตกตะลึง

  และนี่คือค่ายกลวราหก!

  เวลานี้..แม้จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งมากเพียงใด หลิงหยุนก็จะไม่หนีไปไหนแน่!

  หากการมาครั้งนี้หลิงหยุนพบว่าฉินจิวยื่อไม่ได้อยู่ในสภาพที่เลวร้ายเช่นนี้ เขาก็คงจะพานางแอบหนีออกไปจากที่นี่ หรือไม่อย่างน้อยก็ต้องพานางไปฝากให้เย่ซิงเฉินดูแล แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปใจแล้ว..

  เขาจะไม่เพียงแค่รักษาฉินจิวยื่อให้หายแต่จะให้นางได้เห็นเขาสังหารศัตรูของนางด้วยตาตัวเอง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่หายแค้นแน่!

  ภายในค่ายกลวราหก..

  หลิงหยุนกำลังเดินลมปราณถ่ายเทพลังปราณเข้าไปในร่างของฉินจิวยื่อและนางก็กระอักโลหิตสีดำออกมาถึงสามกอง เวลานี้พิษในร่างของนางได้ถูกหลิงหยุนขับออกแล้ว..

   หลิงหยุนเหตุใดยังต้องพยายามช่วยข้าด้วย.. 

  หลังจากที่พิษในร่างถูกขับออกหมดแล้วฉินจิวยื่อก็ค่อยๆฟื้นคืนสภาพ แม้นางจะเป็นห่วงหลิงหยุน แต่ก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ เพราะนางเองก็รู้จักนิสัยใจคอของหลิงหยุนดี..

  หลิงหยุนใช้จิตหยั่งรู้ของตนเองสำรวจไปทั่วร่างของฉินจิวยื่อและเมื่อมั่นใจว่าพิษภายในร่างของนางนั้นได้ถูกขับออกจนหมดแล้ว เขาจึงค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาได้บ้าง..

   ท่านแม่..ท่านเป็นแม่ของข้า จะปล่อยให้ท่านตายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไรกันเล่า ท่านแม่ลูกมาช้าไป ท่านแม่ได้โปรดตำหนิลูกเถิด.. 

  ระหว่างนั้นหลิงหยุนก็เรียกน้ำแร่ออกมาจากแหวนจักรวาลหนึ่งขวดและส่งให้ฉินจิวยื่อพร้อมกับร้องบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน   ท่านแม่..ท่านบ้วนปากเสียหน่อย! 

  เวลานี้ฉินจิวยื่ออยู่ภายใต้การคุ้มครองของหลิงหยุนแม้จะล้อมรอบไปด้วยศัตรูที่แข็งแกร่ง แต่หลิงหยุนกลับไม่มีท่าทีตื่นตระหนก เขายังคงทำตัวสบายๆราวกับว่ากำลังอยู่ที่บ้านของตน

   ข้าจะตำหนิเจ้าได้อย่างไรกัน..แต่เจ้ามาเพียงลำพังคนเดียวเช่นนี้ สภาพของข้าเวลานี้ไม่สามารถช่วยอะไรเจ้าได้.. 

  หลังจากที่ฉินจิวยื่อพูดจบนางก็ได้แต่กำขวดน้ำแร่ในมือนิ่ง ในขณะที่ดวงตาแดงก่ำทั้งสองข้างนั้น จ้องมองไปยังร่างแข็งเย็นของหนิงเทียนหยาที่นอนราบอยู่บนเตียงไม้ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด

  แม้เมื่อครู่พลังปราณของหลิงหยุนจะทำให้กระท่อมเล็กหลังนี้ปลิวกระจาย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อฉินจิวยื่อและหนิงเทียนหยา บริเวณที่ทั้งคู่อยู่นั้นยังคงไม่มีสิ่งใดเสียหาย..

   ท่านแม่ท่านอย่าได้กังวลใจไปเลย ข้าหาได้มาที่นี่เพียงลำพังไม่ คนของข้าที่อยู่ด้านนอกยังมีอีกมาก แต่ละคนล้วนแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าศิษย์สำนักกระบี่เทียนซานเลย..

  แม้หลิงหยุนจะได้ทำการขับพิษออกจากร่างของฉินจิวยื่อจนหมดแล้วแต่ฝ่ามือของเขายังคงแนบอยู่ที่แผ่นหลังของนางอยู่เช่นนั้น และได้ทำการถ่ายเทพลังปราณเข้าไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำการเปิดเส้นลมปราณที่ถูกสะกัดไว้ อีกทั้งยังช่วยโคจรลมปราณไปทั่วทั้งร่างของนางอีกด้วย

  และกระบี่ลมปราณที่ตี๋เสี่ยวเจินใส่เข้าไปในร่างของฉินจิวยื่อเพื่อใช้ทรมานนางอยู่นานหลายเดือนนั้น ก็ได้ถูกหลิงหยุนใช้พลังหยินและหยางทำลายทิ้งไปแล้ว

  และที่หลิงหยุนบอกกับฉินจิวยื่อไปเช่นนั้นก็เพื่อให้นางคลายความกังวลใจเท่านั้นเอง นั่นเพราะภายนอกสำนักกระบี่เทียนซานเวลานี้ มีเพียงแค่เย่ซิงเฉินคนเดียวเท่านั้น ส่วนตี้เสี่ยวอู๋ หวังชงเซียว และคนอื่นๆนั้น ยังคงต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าที่จะเดินทางมาถึงที่นี่..    งั้นรึ!ถ้าเช่นนั้นก็ดี.. 

  ฉินจิวยื่อได้เห็นพลังหมัดของหลิงหยุนที่ชกเข้าใส่ร่างของตี๋เสี่ยวเจินได้เห็นกระบี่เหินทั้งสองเล่มซึ่งหลิงหยุนใช้สังหารสาวใช้ของนาง อีกทั้งค่ายกลวราหกของหลิงหยุนเวลานี้ ก็ทำให้ศัตรูไม่สามารถบุกเข้ามาได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง นางจึงพอที่จะคลายกังวลได้บ้าง..

  ในช่วงระยะเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่นาทีนี้หลิงหยุนก็ได้ขับพิษ ทำลายกระบี่ลมปราณภายในร่าง และฟื้นฟูจุดตันเถียนกับเส้นลมปราณทั่วร่างให้กับฉินจิวยื่อจนกลับมาสมบูรณ์ดังเดิมได้

  แต่สำหรับเรื่องน้ำหนักที่ลดลงไปมากและร่างกายที่ผ่ายผอมนี้ หากจะให้ฟื้นฟูกลับมาเป็นเช่นเดิมได้ ก็คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ และคงไม่สามารถรีบร้อนได้

   หลิงหยุน..เจ้าพอได้แล้ว ข้าดีขึ้นมากแล้ว! 

  หลังจากที่ฉินจิวยื่อรู้สึกว่าจุดตันเถียนของตนที่ถูกผนึกไว้ได้ถูกเปิดออกอีกครั้งนางจึงเริ่มเดินลมปราณภายในร่างด้วยตนเอง และรู้สึกว่าลมปราณสามารถหมุนเวียนไปทั่วร่างได้อย่างสะดวก ทำให้นางสามารถทนต่อความหนาวเย็นได้แล้ว และเวลานี้นางก็เข้าสู่ระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-1

  เดิมทีฉินจิวยื่ออยู่ในระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-2และมีพลังอมตะอยู่ในร่างกายจำนวนมาก แต่เป็นเพราะถูกตี๋เสี่ยวเจินทรมานมาเป็นเวลานาน และพลังอมตะนั้นก็ถูกหญิงชั่วร้ายผู้นี้ดูดไป ทำให้ฉินจิวยื่อยังไม่สามารถฟื้นฟูพลังกลับสู่ขั้นเดิมได้

  อีกทั้งด้วยสภาพร่างกายที่ยังอ่อนแอมากของฉินจิวยื่อเวลานี้หลิงหยุนจึงยังไม่ช่วยให้นางพัฒนาขั้นไปมากกว่านี้

   ท่านแม่..ได้โปรดอย่าคิดทำเช่นนี้อีกจะได้หรือไม่ 

  หลิงหยุนเห็นฉินจิวยื่อยังคงถือขวดน้ำแร่ไว้ในมือแน่นิ่งและสายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างของหนิงเทียนหยา พร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรากเช่นนั้น เขาจึงได้แต่กระซิบถามออกมาเบาๆ

  แต่จู่ๆฉินจิวยื่อก็ลุกขึ้นยืน และหันไปมองหลิงหยุนด้วยสีหน้าที่ทั้งซาบซึ้งใจ และเสียใจ..

   หลิงหยุน..ในเมื่อเจ้าตั้งใจมาช่วยข้าเช่นนี้ ต่อให้ข้าจะเสียใจมากเพียงใด ข้าก็ไม่คิดที่จะตามท่านลุงหนิงของเจ้าไปอีกแน่! 

  ระหว่างที่พูดนั้นฉินจิวยื่อก็เอื้อมมือที่ผ่ายผอมเหลือเพียงแค่กระดูกนั้น ออกไปลูบไล้ศรีษะของหลิงหยุนอย่างแผ่วเบา พร้อมกับย้ำหนักแน่นว่า

   เจ้าไม่ต้องห่วงว่าข้าจะทำเช่นนั้นอีกแล้ว.. 

  หลิงหยุนแอบพินิจพิจารณาดวงหน้าของฉินจิวยื่ออย่างละเอียดและพบว่านางไม่ได้มีความต้องการที่จะตายตามหนิงเทียนหยาไปอีกแล้วจริงๆ

  หลิงหยุนลูบไล้ฝ่ามือของฉินจิวยื่อที่เวลานี้หยาบกร้านอย่างมากด้วยความอ่อนโยนพร้อมกับพูดขึ้นว่า

   ท่านแม่..ข้าต้องการสังหารพวกมันให้หมด! 

   ได้!เจ้าลงมือสังหารพวกมัน แม่จะคอยดู! 

  ฉินจิวยื่อตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ…

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ " บทที่ 1409 : หลิงหยุนช่วยฉินจิวยื่อ (2)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์