dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 576: สิ้นสุดการทดสอบด้านปรุงยา
บทที่ 576: สิ้นสุดการทดสอบด้านปรุงยา
“เจ้าพูดว่าเป็นไปไม่ได้อย่างงั้นรี มองดูรอบๆตัวเจ้า เจ้าเป็นเพียงคนเดียวที่นี่ที่ลืมตาขึ้น” ซูหยางกล่าวกับเขา และกล่าวต่อไปอีกว่า “อย่างไรก็ตามถ้าเจ้ามิพอใจกับผลลัพธ์ พวกเราก็จะมีการแข่งขันด้านการปรุงยากันอีกต่อ ถ้าเจ้าชนะ ข้าก็จักให้เจ้าผ่านคิดว่าเป็นอย่างไร”
“ข. ข้ายอมรับผลการทดสอบ…” เพราะว่าไม่กล้าที่จะล่วงเกินซูหยาง ผู้เข้าร่วมการแข่งขันได้แต่พึมพัมด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะออกไปจากที่แห่งนั้น
“นี่ท่าน ท่านเพิ่งลบความทรงจําชายคนนั้นไปใช่ไหม” หวังชูเหรินถามเขาหลังจากนั้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตระหนก
เขาพยักหน้าแล้วกล่าว “แล้วถ้าข้ามิลบล้างความทรงจําของเขา จิตใจของเขาจักทนทุกข์ทรมาณจากการบาดเจ็บภายในจิตใจ”
“เมื่อมาคิดว่าท่านสามารถแม้กระทั่งลบความทรงจําของผู้คน สมแล้วกับการเป็นเซียน มีอะไรอีกบ้างที่ท่านทําไม่ได้ ซูหยาง” เธอถามเขา
“เพราะว่าข้ามักจะท่องเที่ยวอยู่เป็นนิจ ข้าจึงมีประสบการณ์หลายอย่างในชีวิตก่อน ดังนั้น จึงมีเพียงไม่กี่อย่างที่ข้าไม่รู้ ว่าไปแล้วข้าเองก็ยังมิสมบูรณ์แบบ ดังนั้นจึงยังมีอีกหลายอย่างที่แม้กระทั่งข้าเองก็ยังทําไม่ได้”
“อย่างงั้นรี” ดวงตาของหวังซูเหรินเปล่งประกายไปด้วยความสนใจ แต่อนิจจา เท่าที่รู้จักซูหยาง แน่นอนว่าเขาต้องไม่บอกเธอเรื่องจุดอ่อนของตัวเขาเองอย่างแน่นอน
ในเวลานั้นภายในใจของผู้เข้าร่วมการทดสอบ พวกเขาส่วนใหญ่นั้นยังคงพยายามที่จะทําความเข้าใจสถานการณ์แม้ว่าจะใช้เวลาไปหลายเดือนภายในภาพมายาแล้ว
“ท่านผู้อาวุโสได้พาข้ามาที่ไหนกันนี่ ข้ากําลังจะบ้า”
“อาาา มีใครอยู่ที่นี่บ้างไหม สวัสดี”
“ได้โปรด ข้ามสามารถที่จะอยู่ที่แห่งนี้ได้นานกว่านี้อีกต่อไป ยังมีที่ที่ข้าต้องไป”
สามสิบนาทีในการทดสอบรอบสุดท้าย มีมากกว่าครึ่งของผู้เข้าร่วมการแข่งขันถูกบีบให้ที่ตื่นขึ้นโดยซูหยาง ในเมื่อพวกเขาไม่สามารถที่จะทนภาระต่อจิตใจของพวกเขานานกว่านี้ได้
หลังจากที่ตื่นขึ้น ซูหยางก็จะทําการลบความทรงจําของพวกเขาก่อนที่จะปล่อยให้พวกเขาจากไป
“แค่ก”
ซูซุนตื่นขึ้นมาเมื่อเวลาเดินไปถึงนาทีที่สี่สิบ และถึงกับไอออกมาเป็นเลือดหลังจากนั้น
“ก-เกิดอะไรขึ้นกับข้า” ซูซุนมองไปรอบๆด้วยสายตาสับสน
“เจ้าได้ล้มเหลวในการทดสอบ” ซูหยางกล่าวกับเขา
“อย่างนั้น
ช่างน่าเสียดาย” ซูซุนถอนหายใจ
“อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเจ้าเป็นพ่อของซูหยาง ข้าจักมอบของขวัญให้แก่เจ้าก่อนที่เจ้าจักจากไป…”
ซูหยางกล่าวกับเขาก่อนที่จะนําเอาโอสถเหนือสวรรค์ออกมายื่นส่งให้กับเขา
“แม้ว่าเม็ดยานี้อาจจะมิมีผลใดกับตัวเจ้า แต่ข้ามั่นใจว่าเจ้าจักหาวิธีใช้ประโยชน์จากมันได้”
“ข-ขอบคุณ ท่านผู้อาวุโสนักปรุงยา” ซูซุนรีบคํานับเขา
ด้วยโอสถเหนือสวรรค์ในมือ ซูซุนไม่รู้สึกหมดกําลังใจสําหรับความล้มเหลวในการทดสอบอีกต่อไป ทั้งยังรู้สึกโดดเด่นกว่าคนอื่น
หลังจากที่ออกไปจากหอประชุมแล้ว ซูซุนก็มองดูเม็ดยาแล้วคิดในใจว่า “ในเมื่อซูหยางได้ก้าวเข้าสู่เขตอัมพรวิญญาณไปเรียบร้อยแล้ว ข้าก็ควรจักให้เม็ดยานี้กับซูหยิน ซึ่งยังคงอยู่ที่เขตปฐพีวิญญาณ แม้ว่าพวกเขาจะมีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นลูกของข้า ทั้งยังเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อีกด้วย”
สองสามนาทีหลังจากที่ซูซุนออกไปจากหอประชุม ผู้เข้าร่วมการทดสอบอีกสองสามคนก็ตื่นขึ้น
เมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งเหลือเพียงห้านาทีของการทดสอบ ก็มีคนเหลืออยู่เพียงสี่คนในการทดสอบครั้งนี้ ผู้อาวุโสเจิ้ง โหลวอี้เชียว ไค่เอียน และที่น่าประหลาดใจก็คือไป่ลี่ฮัว
“นี่เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดอย่างแท้จริง ข้ามิคิดว่าท่านเจ้าสํานักไปจะอยู่ได้นานถึงขนาดนี้” หวังซูเหรินพลันกล่าวขึ้น
ซูหยางพยักหน้า “กระทั่งข้าเองก็มิได้คาดคิดเช่นนี้เช่นกัน”
“ท่านคิดว่าใครจักเป็นผู้ชนะในที่สุด ข้าวางเดิมพันไว้กับผู้อาวุโสเจิ้ง เจ้าสํานักไป่ และโหลวเซียว” หวังชูเหรินกล่าว
“ตาแก่นี่มิไหวแน่” ถึงหลิงชีพลันกล่าวขึ้น
“คือ อะไรที่ทําให้ท่านคิดเช่นนั้น” หวังซูเหรินถามเธอ
“เป็นเพียงแค่ลางสังหรณ์” เธอกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
“ลางสังหรณ์ ท่านว่างนรี”
เมื่อตอนที่เหลือเวลาอยู่เพียงอีกหนึ่งนาที่ในการทดสอบ ซูหยางก็ไปยืนตรงหน้าผู้อาวุโสเจิ้งด้วยสายตาครุ่นคิด
ไม่กี่วินาทีให้หลัง ซูหยางก็ส่ายหน้าและตบหน้าผู้อาวุโสเจิ้งให้ตื่นขึ้น
“คือ เกิดอะไรขึ้น ข้าอยู่ที่ไหนกัน”
ผู้อาวุโสเจิ้งเริ่มเกิดความตื่นตระหนกขึ้นในทันใด
อย่างไรก็ตามซูหยางก็ได้ทําการตบหน้าเขาอีกสองสามที แล้วกล่าวว่า “ใจเย็นผู้เฒ่า เจ้าอยู่ในหอประชุม
“ห-หอประชุมรึ โอ ใช่ การทดสอบ ข้าได้เข้าร่วมการทดสอบเมื่อตอนข้าถูกจับโยนเข้าไปในสถานที่ลึกลับนั้นอย่างกระทันหัน ที่ซึ่งข้าได้ใช้เวลาถึงสิบปีในการอยู่อย่างโดดเดี่ยว” ความทรงจําของผู้อาวุโสเจิ้งพลันกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว
“สิ่งที่เจ้าประสบนั้นเป็นเพียงแค่ภาพมายา ความฝัน หากพูดไปแล้ว ข้าได้ลบความทรงจําของผู้เข้าร่วมการแข่งขันคนอื่นที่ได้ล้มเหลวในการทดสอบนี้ แต่ข้าจักยอมให้เจ้าเก็บไว้กับตัว ในเมื่อมันจักเป็นประโยชน์กับเจ้า”
“ขอบคุณ ท่านผู้อาวุโส” ผู้อาวุโสเจิ้งคํานับเขา
จากนั้นเขาก็หันไปมองดูโหลวอี้เชียว ผู้ที่ยังนั่งอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าสงบระงับ
“ขอบคุณสวรรค์ที่เธอยังมิได้ล้มเหลว…” เขาแอบถอนหายใจโล่งอก
“ท่านผู้อาวุโส ท่านคิดว่าศิษย์ของข้าจักผ่านการทดสอบนี้หรือไม่” เขาถามซูหยาง
“เราจักรู้กันในอีกไม่กี่วินาที” เขาตอบ
อีกสิบวินาทีให้หลัง ซูหยางก็สะบัดชายเสื้อของเขา จนทําให้เกิดลมพัดเบาๆผ่านใบหน้าของผู้เข้าร่วมการทดสอบ และพวกเธอก็เริ่มตื่นขึ้นมาภายในไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น
“หือออ”
“เกิดอะไรขึ้น”
“ที่นี่ที่ไหน”
สามหญิงสาวพากันตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าสับสน แต่พวกเธอไม่ได้เกิดความตื่นตระหนกเหมือนกับที่คนอื่นเป็น
“ขอแสดงความยินดีที่ได้ผ่านการทดสอบ พวกเจ้าทั้งสาม ยังคงจดจําข้าได้อยู่หรือไม่” เสียงของซูหยางนั้นทําให้พวกเธอทั้งสามคนนั้นหันไปมองเขาอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ท่านคือ.. ท่านผู้อาวุโสนักปรุงยา”
“ท่านผู้อาวุโส เกิดอะไรขึ้นกับข้า ก่อนที่ข้าจะทันรู้ตัว ข้าก็ถูกย้ายไปยังเทือกเขาที่ไม่มีขอบ เขต ซึ่งข้าได้ติดค้างอยู่ที่นั่นเป็นเวลาตั้งหลายปี” ไปลี่ฮัวถามเขา
ซูหยางยิ้มเบื้องหลังหน้ากาก และเขาก็ทําการอธิบายให้กับพวกเธอฟังถึงสถานการณ์
“โอสถกาลนิรันดร์งั้นรี เมื่อมาคิดว่ามีเม็ดยาที่ลึกล้ําเช่นนี้ปรากฏขึ้นในโลกใบนี้ ” ผู้อาวุโสจงมีสีหน้าตกใจถึงที่สุดหลังจากที่ได้รับรู้ถึงการคงอยู่ของเม็ดยานี้
“เช่นนั้นทุกสิ่งที่พวกเราได้ประสบในที่แห่งนั้นก็เป็นสิ่งที่อยู่ในใจของพวกเราเท่านั้น มันมิได้เป็นความจริง” ไปลี่ฮัวถามเขา
“ถูกต้อง อย่างไรก็ตามเจ้าก็สามารถพูดได้ว่ามันเป็นความจริงเช่นกันเพราะว่าความเข้าใจต่างๆที่เจ้าได้รับในขณะที่อยู่ในสภาพนั้น ก็จักยังคงอยู่ในใจเจ้าตลอดไป” ซูหยางพยักหน้า