dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 587 การรุกรานของสํานักสุวรรณสิงห์ 7
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- บทที่ 587 การรุกรานของสํานักสุวรรณสิงห์ 7
บทที่ 587 การรุกรานของสํานักสุวรรณสิงห์ 7
“เจ้าต้องการให้ข้าร่วมมือกับเจ้าปกครองทวีปตะวันออก” ซูหยางเลิกคิ้ว ดูเหมือนจะประหลาดใจกับการที่ผู้นําเลยนั้นหน้าด้านมากจนกล้าที่จะถามคําถามเช่นนั้นกับเขาต่อหน้าตระกูลซี
“อย่าฟังคําพูดไร้สาระของเขา” ซีหวังส่ายหน้า
อย่างไรก็ตาม
กล่าวว่า “ข้าจักได้อะไรหากว่าร่วมมือกับเจ้า”
“เจ้า…” ชีหวังมองดูเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
ผู้นําเวียดวงตาเป็นประกายด้วยความหวังในสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ เขาจึงรีบกล่าวขึ้นว่า “ทุกสิ่งข้าสามารถให้เจ้าอะไรก็ได้ที่เจ้าต้องการ ถ้าเจ้าต้องการเงิน ข้าจักให้เงินแก่เจ้ามากเสียจนกระทั่งเจ้ามิสามารถใช้มันหมดลงไปได้ ถ้าเจ้าต้องการชื่อเสียง ข้าก็จักทําให้เจ้ามีชื่อเสียงมากที่สุดในทวีปตะวันออกนี้ และถ้าซีชิงฟางยังมิดีพอสําหรับเจ้า หรือว่าเจ้าเบื่อเธอแล้ว ข้าก็สามารถที่จะทําให้หญิงทุกคนในทวีปตะวันออกนี้เชื่อฟังเจ้าทุกคําสั่ง”
“โห นั่นค่อนข้างเป็นข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจอยู่ แต่ทว่า หากข้าพูดว่าข้ามิได้ต้องการแค่ทวีปตะวันออกนี้ หากว่าข้าต้องการที่จะครอบครองทุกทวีปในโลกนี้ล่ะ” ซูหยางกล่าว
“จ-เจ้าต้องการที่จะครอบครองโลก” ผู้นําเลยมองดูเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง ในเมื่อเขาเองนั้นไม่คาดว่าซูหยางจะมีความทะเยอทะยานเช่นนั้น
“อะไร อย่าบอกข้านะว่าเจ้ามิสามารถที่จะช่วยข้าครอบครองโลกได้ ทั้งที่เจ้าเองนั้นพูดว่าเจ้าจักให้ข้าทุกอย่าง” ซูหยางส่ายหน้าด้วยความไม่พึงใจ
“ด-เดี๋ยวก่อน ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เจ้าต้องการ ข้าก็จักจัดหาให้ ครั้นเมื่อเราครอบครองทวีปตะวันออกแล้วพวกเราก็จักเริ่มทํากับทวีปอื่นและในที่สุดพวกเราก็จักปกครองแม้กระทั่งทวีปศักดิ์สิทธิ์กลาง” ผู้นําเว่ยกล่าวโดยไม่คิด
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ซูหยางระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ก่อนที่จะหันไปดูชีหวังแล้วกล่าวขึ้นว่า “ท่านให้คนโง่เง่าเช่นนั้นเป็นนายพลจริงๆนะ”
จากนั้นเขาก็หันไปหาผู้นําเลยและกล่าวต่อว่า “มิมีสิ่งใดที่เจ้าเสนอมาที่ข้ามสามารถที่จะหามาได้ด้วยตัวเองชื่อเสียง นั่นมิได้มีความหมายใดต่อข้า ความร่ํารวย สิ่งที่ข้าต้องการนั้นมิอาจหาซื้อได้ด้วยเงินผู้หญิงรีข้านั้นมีสาวสวยหลายคนที่ช่วยทําให้ข้ารื่นเริงไปนับพันปีส่วนสําหรับการครอบครองโลกนั้นแม้ว่าจะฟังดูน่าสนใจ แต่ข้ามีเรื่องราวที่สําคัญมากกว่าในชีวิตที่ต้องกังวลและถ้าข้าเองนั้นหากต้องการครอบครองโลกในสักวัน ข้ามั่นใจว่าข้ามต้องการความช่วยเหลืออันใด”
ไม่เพียงแต่ผู้นําเลย แต่กระทั่งชีหวังและซีซิงฟางเองก็ตาม ต่างก็พากันงงงันไปกับคําพูดของซู หยาง ในเมื่อเขาทําเหมือนกับว่าไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เขาหามาไม่ได้
“เอาล่ะในเมื่อตอนนี้การต่อรองได้จบสิ้นลงแล้ว เจ้าจักทําอะไรต่อไป” ซูหยางหันไปมองดูผู้นําเลยด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ด-เดี๋ยวก่อน เจ้าต้องการสมบัติวิญญาณที่สามารถส่งคนไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์กลางมิใช่ร์ ถ้าเจ้าปล่อยข้าไป ข้าจักให้มันแก่เจ้า” เขารีบตอบ
“หรือข้าก็เพียงแค่ฆ่าเจ้าเสียตอนนี้และน้ํามันออกมาจากศพของเจ้า โดยมิต้องวุ่นวายอะไร”
“ขอให้โชคดี เพราะข้ามิได้นําสมบัตินี้ติดตัว และข้าก็ได้ซุกซ่อนมันไว้อย่างดีในที่ซึ่งเจ้ามิมีวันที่จะหาพบ”
“อย่างงั้นรี” จากนั้นซูหยางก็หันไปมองยังท้องฟ้าที่ยานบินล่องหน
“เชี่ยวหรงลงมาที่นี่สักครู่” เขากล่าวกับเธอ
วินาทีถัดไป ร่างเล็กๆของเซี่ยวหรงก็ปรากฏขึ้นข้างกายเขาราวกับภูติผี สร้างความต ระหนกให้กับทุกคนที่นั่น
“ถ้าข้าจํามิผิดแมวจอมภูติเก่งเป็นพิเศษในด้านการหาสมบัติ ดูซิว่าเจ้าจักหาสมบัติขอ งชายคนนี้ได้ไหม มันควรจะเปล่งกระแสพลังวิญญาณแบบเดียวกับเขาในเมื่อเขาได้ใช้มันก่อนหน้านี้” ซูหยางชี้มือไปที่ผู้นําเล่ย ผู้ซึ่งยังมีท่าทางงงงันบนใบหน้า
เชี่ยวหรงพยักหน้าแล้วหันไปเพ่งความสนใจมองผู้นําเลย
“?!?!”
ผู้นําเลยรู้สึกเหมือนกับว่าเสื้อผ้าทุกชิ้นของเขาตลอดจนกระทั่งผิวหนังของเขานั้นถูกพลิกต่อหน้าสายตาคมปราบของเซียวหรง
หลังจากที่จ้องมองผู้นําเลยไปชั่วขณะ เชี่ยวหรงก็ปลดปล่อยพลังเขตตํานานของเธอออกกวาดไปทั่วทั้งทวีปตะวันออกภายในไม่กี่วินาที
“เชี่ยวหรงพบแล้ว เดี๋ยวกลับมา”
เชี่ยวหรงพลันหายวับไปจากฉากนั้น
หลังจากที่รอไปอีกชั่วขณะ ร่างของเซี่ยวหรงก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งข้างกายซูหยาง และในมือของเธอนั้นก็คือยันต์สีเหลืองที่ดูธรรมดา
เมื่อผู้นําเลยเห็นยันต์สีเหลืองนี้ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ คางของเขาล่วงลงไปถึงพื้น
“อะไรกัน เป็นไปไม่ได้ ด-ได้ยังไง” เขาอุทานออกมาด้วยเสียงหวาดกลัว ราวกับว่าเขากําลังมองเห็นผี
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของผู้นําเลย ซูหยางก็รู้ว่าเซี่ยวหรงได้พบกับสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เขาจึง พูดด้วยรอยยิ้มว่า “มีอะไรดูจากปฏิกิริยาของเจ้า ข้าค่อนข้างมั่นใจว่ายันต์สีเหลืองนี้เป็นสิ่งที่ข้าตามหาจริงๆ”
ผู้นําเล่ยเงียบไป ในเมื่อเขายังคงตกใจจนพูดไม่ออกกับสิ่งที่ได้เกิดขึ้น
กระทั่งชีหวังและซีชิงฟางก็ยังมองเชี่ยวหรงด้วยท่าทางงงงัน ในเมื่อพวกเขายังไม่สามารถที่จะทําความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นได้
ด้วยพลังจิตที่เข้มแข็งแกร่งกล้า แมวภูติสามารถที่จะใช้สัมผัสวิญญาณในระยะทางไกลจนเหลือเชื่อ ยิ่งอย่าได้กล่าวไปถึงเซี่ยงหรงที่มีพลังการฝึกปรือในเขตตํานาน ยิ่งไปกว่านั้นเชี่ยวหรงยังเป็นแมวจอมภูติที่มีพรสวรรค์และความสามารถที่เหนือกว่า และในสถานที่เล็กๆอย่างทวีปตะวันออกนี้ เธอสามารถค้นหาทั่วทั้งทวีปได้ด้วยสัมผัสวิญญาณของเธออย่างง่ายดาย
นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทําไมแมวภูติจึงถูกตามหา ในเมื่อความสามารถในการหาสมบัติวิญญาณของเธอนั้นยอดเยี่ยมที่สุดแม้กระทั่งในสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เองก็ตาม
“ตอนนี้ในเมื่อข้ามีสิ่งที่ข้าต้องการแล้ว ก็มิมีเหตุผลใดที่จักต้องเก็บชีวิตของเจ้าไว้อีกต่อไป ใช่ไหม” ซูหยางพูดแล้วเขาก็หันไปมองดูชีหวัง
“ท่านสามารถทําทุกอย่างที่ท่านต้องการกับเขาได้แล้วตอนนี้ ข้าจักกลับไปที่ยานแล้ว” หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็สร้างค่ายกลดักดาบเสี้ยวจันทร์อีกครั้ง ก่อนที่จะกลับไปที่ยานพร้อมกับเชี่ยวหรง