dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - ตอนที่ 297
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - ตอนที่ 297
Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน – ตอนที่ 297
DC บทที่ 297: การอบรมครั้งสุดท้าย
อีกสองสัปดาห์ผ่านไปนับตั้งแต่โหลวหลานจีได้มาสังเกตการณ์การอบรมของซูหยางกับศิษย์รุ่นเยาว์
อย่างไรก็ตามแม้กระทั่งถึงตอนจบการอบรมครั้งที่หก ก็ไม่มีศิษย์รุ่นเยาว์คนไหนที่สามารถปลุกจุดสำคัญของซูหยางได้
“เหลือเพียงแค่อาทิตย์เดียว เฮ้อ…”
เหล่าศิษย์รุ่นเยาวต่างรู้สึกว่าการบรรลุเป้าหมายเช่นนั้นเป็นไปไม่ได้
“เจ้าคิดว่าอย่างไรน้องชี เจ้าเป็นคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดกับวิชานี้จากพวกเราทั้งหมด เจ้าคิดว่าเจ้ามีโอกาสที่จะกระตุ้นจุดสำคัญของศิษย์พี่ชายหรือไม่”
ศิษย์รุ่นเยาว์หันไปมองชีเยว่ ความหวังเดียวของพวกเขาในการล้มซูหยาง
ชีเยว่ไม่ได้ตอบรับในทันทีแต่คิดชั่วขณะก่อนที่จะพูดว่า “แม้ว่าข้าจะมิมั่นใจนักแต่ข้าก็รู้สึกว่าข้าเกือบกระตุ้นจุดสำคัญของศิษย์พี่ชายได้ในวันนี้ กั้นไว้เพียงเส้นผม”
“เช่นนั้นเจ้าคงมั่นใจว่าจักกระตุ้นมันได้ในอาทิตย์หน้าและได้รับรางวัลพิเศษนี้”
“ข้าหวังไว้เช่นนั้น…” ชีเยว่ถอนหายใจ คิดถึงตนเองว่าถ้าเธอมีเวลาอีกเดือนหนึ่งในการฝึก เช่นนั้นเธอย่อมมั่นใจว่าสามารถกระตุ้นจุดสำคัญของซูหยางได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเวลามีจำกัดและเธอก็มีเวลาเหลือเพียงอาทิตย์เดียวก่อนที่การอบรมของซูหยางจะจบสิ้น
ว่าไปแล้วแม้ว่าจะมีโอกาสเพียงเล็กน้อย ชีเยว่ก็ฝึกฝนตลอดเวลาตลอดทั้งอาทิตย์จนกระทั่งถึงเวลาสำหรับการอบรมครั้งที่เจ็ดและเป็นการอบรมครั้งสุดท้าย
หนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น
“การอบรมวันนี้จักเป็นครั้งสุดท้าย” ซูหยางกล่าวขณะที่เขาปรากฏตัวขึ้นในห้องอบรม
“…”
เหล่าศิษย์รุ่นเยาว์ในวันนี้ดูเหมือนไม่ค่อยตื่นเต้นกับการอบรมครั้งนี้ ในเมื่อนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเขา
“ศิษย์พี่ชาย ท่านต้องหยุดหลังจากวันนี้เหรอ ข้าต้องการให้ท่านเป็นผู้อบรมพวกเราต่อไป”
หนึ่งในเหล่าศิษย์รุ่นเยาว์แสดงความปรารถนาของเธอออกมา และศิษย์รุ่นเยาว์คนอื่นต่างก็เห็นด้วยกับเธอ
ซูหยางยิ้มและกล่าวว่า “บอกเจ้าตามตรง เหตุผลเดียวที่ข้ากลายมาเป็นผู้สอนให้กับพวกเจ้าตั้งแต่แรกก็เพราะว่าผู้นำนิกายได้ตัดสินใจที่จะลงโทษข้าสำหรับความผิดพลาดที่ข้าได้ทำไว้ อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ก่อนที่จะได้รับการลงโทษ ข้าก็ต้องการที่จะทิ้งความรู้ของข้าบางอย่างไว้เบื้องหลังให้กับพวกเจ้า ศิษย์รุ่นเยาว์ ซึ่งจักเป็นอนาคตของที่แห่งนี้ต่อไป”
ซูหยางเปิดเผยความจริงต่อพวกเขา
อย่างไรก็ตามบรรดาศิษย์รุ่นเยาว์ดูเหมือนไม่สนใจในเรื่องที่ว่าเขากลายเป็นผู้อบรมได้อย่างไร ที่พวกเขาต้องการตอนนี้ก็คือให้เขายังคงอยู่
“แม้ว่าข้าจักมิได้เป็นผู้สอนพวกเจ้าหลังจากวันนี้เป็นต้นไป ถ้าเจ้ามีคำถามอะไร อย่าลังเลที่จะไปหาข้า ตราบเท่าที่ข้ายังคงอยู่ในที่นี้ ข้าจักช่วยเจ้า”
ซูหยางทำเหมือนกับว่าเขาจะไม่ได้อยู่ที่นี่ไปตลอด และเหล่าศิษย์รุ่นเยาว์ก็สังเกตพบ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้ถามคำถามอะไรเพียงแค่พยักหน้า
“ในเมื่อวันนี้เป็นครั้งสุดท้าย ข้าจักมิรับการท้าทายใดๆไปจนกว่าจะจบการอบรม และต่อให้พวกเจ้ามีความมั่นใจว่าเจ้ามิสามารถที่จะกระตุ้นจุดสำคัญของข้า แต่ข้าก็ต้องการให้ทุกคนได้ลองกับตัวข้า”
ซูหยางเริ่มการอบรมหลังจากนั้นไม่นาน
และต่อจากนั้นสองสามชั่วโมงถัดไป ซูหยางก็ได้ให้คำแนะนำกับศิษย์รุ่นเยาว์ทุกคนเป็นรายบุคคล หลังจากที่ดูพวกเขามาเกือบสองเดือน เขาก็ได้จับจุดแข็งและจุดอ่อนของพวกเขาเป็นรายคนในวิชานี้ ดังนั้นเขาจึงรู้วิธีช่วยพวกเขาปรับปรุงวิชาตลอดไปจนถึงสิ่งอื่นๆที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฝึกฝนวิชายุทธ
หลังจากที่ให้คำแนะนำกับศิษย์รุ่นเยาว์ทั้งเจ็ดสิบคน ด้วยคำแนะนำเฉพาะแต่ละคนแล้ว ซูหยางก็ปรบมือและกล่าวว่า “ข้าต้องการให้ทุกคนยืนเข้าแถวและมาลองท้าข้า”
ไม่นานหลังจากนั้นเหล่าศิษย์รุ่นเยาว์ก็เข้าแถวและเริ่มใช้ดรรชนีสมปรารถนากับซูหยาง อย่างไรก็ตามเพราะรู้ว่าการอบรมจะจบลงหลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ จึงไม่มีศิษย์รุ่นเยาว์คนไหนมีความสุข
หลายชั่วโมงหลังจากนั้น ครั้นเมื่อทุกคนยกเว้นศิษย์รุ่นเยาว์คนหนึ่งได้ท้าทายซูหยางหมดแล้ว ศิษย์คนสุดท้ายก็ได้ท้าทายเขา ชีเยว่ก้าวขึ้นไปบนเวที
แน่นอนว่าไม่มีศิษย์รุ่นเยาว์คนไหนที่ขึ้นไปก่อนชีเยว่สามารถที่จะกระตุ้นจุดสำคัญของซูหยางได้ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ฝึกมานานกว่าเจ็ดสัปดาห์ พวกเขาทุกคนอย่างน้อยสามารถเห็นจุดสำคัญของซูหยางได้
“เจ้าพร้อมหรือยัง”
ซูหยางถามชีเยว่ซึ่งยืนอยู่ด้านหลังเขาด้วยท่าทางจริงจัง
“อื้อ”
ซูหยางเริ่มจับเวลาหลังจากที่เห็นชีเยว่พยักหน้า
“เจ้าเริ่มได้แล้ว”
เพียงวินาทีเดียวหลังจากที่ซูหยางพูดคำพูดเหล่านั้น ชีเยว่ก็พบจุดสำคัญเขาเรียบร้อยแล้วและเตรียมตัวที่จะกระตุ้นมัน
อย่างไรก็ตามชีเยว่ไม่ได้พยายามที่จะกระตุ้นจุดสำคัญของเขาในทันทีและยังคงยืนนิ่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบเชียบเตรียมตัว
หลังจากที่ยืนนิ่งอยู่หลายนาที จนกระทั่งห้านาทีนั้นเกือบจะหมดไป ดวงตาชีเยว่ก็เป็นประกายลึกล้ำ และเธอก็จิ้มไปยังจุดสำคัญของซูหยางด้วยการเคลื่อนนิ้วอย่างปราดเปรียวและแม่นยำ
“…”
ทั้งสถานที่เงียบสงัด ทุกคนต่างพากันมองดูปฏิกิริยาของซูหยางด้วยดวงตากลมโตในเวลานั้น
อย่างไรก็ตามในเมื่อซูหยางไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดแม้จะผ่านไปหลายอึดใจหลังจากนั้น ศิษย์รุ่นเยาว์ต่างพากันถอนหายใจยอมแพ้
“นี่หมายความว่าพวกเรามิสามารถที่จะกระตุ้นจุดสำคัญของศิษย์พี่ชายได้จนถึงท้ายสุด…”
“ช่างน่าสมเพช…”
“มิมีอะไรที่พวกเราสามารถทำได้อีกแล้ว”
ชีเยว่ย้ายนิ้วของเธอออกจากหลังของซูหยางในเวลาถัดมา ใบหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยความผิดหวัง
เธอคิดว่าเธอสามารถกระตุ้นจุดสำคัญของซูหยางได้แน่นอนหลังจากที่เธอได้ฝึกฝนมาจนหมด แต่อนิจจา ดูเหมือนว่าเธอได้ประเมินซูหยางต่ำไป
ขณะที่ชีเยว่เริ่มเดินออกไปจากเวทีด้วยสายตาเศร้าสลด ซูหยางก็ได้ยิ้มขึ้นและกล่าวว่า “แม้ว่ามันจะเพียงเล็กน้อย แต่ข้าก็ได้รู้สึกเสียวซ่านในร่างข้า”
“!?”
ชีเยว่พลันหันกลับไปและจ้องมองไปยังเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“ขอแสดงความยินดีในการกระตุ้นจุดสำคัญของข้า”
ซูหยางกล่าวกับเธอและพูดต่อว่า “สำหรับรางวัลของเจ้า ตราบเท่าที่ข้าสามารถทำได้ เจ้าสามารถขออะไรก็ได้จากข้า”
ค่อนข้างตื่นตะลึงกับผลลัพธ์ที่ไม่คาดหมาย ชีเยว่ยืนนิ่งอยู่ที่นั่นเป็นเวลาชั่วขณะ
“อืมม… เช่นนั้น ถ้ามิเป็นการขอร้องมากเกินไป ข้าพอจะขอให้ศิษย์พี่ชายอบรมพวกเราต่อไปได้หรือไม่ มิจำเป็นจะต้องสัปดาห์ละครั้งก็ได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเดือนละครั้ง ข้าก็ยังดีใจ”
ซูหยางหัวเราะหึๆและกล่าวว่า “แน่นอนว่าเจ้าสามารถขออะไรแบบนั้นได้ อย่างไรนั่นก็มิใช่สิ่งที่ข้าจะมิได้คาดคิดไว้เช่นกัน เอาล่ะ ข้าจักให้การอบรมพวกเจ้าต่อไปทุกสัปดาห์”
เมื่อได้ยินข่าวนี้ ศิษย์รุ่นเยาว์ต่างพากันพลุ่งพล่านไปด้วยความตื่นเต้นเป็นสุข