dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 416 การยอมรับ
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 416 การยอมรับ
บทที่ 416 การยอมรับ
“เจ้าพูดว่าเป็นเรื่องซับซ้อนรึ” ซูซุนคำรามออกมาด้วยความโกรธกับ
การตอบสนองอย่างเฉยชาของอีกฝ่าย “เจ้าโชคดีที่ข้ามิได้ฆ่าเจ้า
ในทันทีและทิ้งศพเจ้าไว้ในป่ าให้สัตว์กิน”
ซูหยางยักไหล่ ใช่ว่าเขาจะบอกซูซุนได้ว่าเขากลับมาเกิดใหม่แต่
ความทรงจำทั้งหมดยังไม่กลับมาจนกระทั่งเขาเข้าสู่นิกายกุสุมาลย์
พ้นพิสัยและซูหยางคนเดิมนั้นไม่มีอีกต่อไป
“ท่านพ่อ มิมีคำอธิบายอื่นที่ต้องการอีกอีกนอกจากความจริงที่ว่า
พวกเรารักกัน” ซูหยินพลันก้าวเข้ามาและพูดด้วยน้ำเสียงกล้าหาญ
“ยอมลงนรกเพื่อรัก ถึงแม้ว่าเจ้าจะพูดเช่นนั้น แต่ก็ยังมีขีดจำกัด” ซู
ซุนไม่ได้ยอมรับคำอธิบายเช่นนั้น
“ความรักมิมีขีดจำกัด” ซูหยินแค่นเสียง
“เจ้า…”
“เฮ้” ซูหยางพลันขัดขึ้น
“มีอะไรรึ” ซูซุนขมวดคิ้ว
“ทำไมท่านจึงปฏิเสธความคิดที่ว่าพี่น้องเป็นคู่กันมากมายเช่นนี้ แม้ว่า
จะเป็นค่านิยมที่ไม่ปกติ ข้าก็รู้ว่ามีคนมากมายที่เริ่มต้นครอบครัว
ด้วยความเป็นพี่น้อง” ซูหยางกล่าว
“จ-จริงรึ” ซูหยินดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นหลังจากที่ได้
ยินคำพูดของเขา
“เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กเมื่อพี่น้องตั้งครรภ์ พวก
เขากลายเป็นคนพิการมากกว่าปกติ นั่นเป็นเหตุที่ว่าทำไมจึงถือว่า
เป็นเรื่องต้องห้ามในโลกนี้” ซูซุนกล่าวกับอีกฝ่าย
“โอออ… นั่นเป็นเหตุผลที่ท่านสติแตกในเรื่องบางอย่างที่มิสำคัญ”
ซูหยางพยักหน้าราวกับว่าเขาเข้าใจบางอย่าง
“เจ้าพูดอะไรออกไป มิสำคัญรึ เจ้ากล้าดีอย่างไร” ซูซุนคำราม
ซูหยางส่ายหน้าและกล่าวต่อว่า “แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงที่เหตุการณ์
เช่นนั้นจะเกิดขึ้นได้และเป็นเรื่องที่โชคร้าย แต่นั่นก็เพียงใช้ได้กับ
เพียงคนธรรมดาที่มิได้ฝึกวิชา เมื่อกล่าวถึงผู้ฝึกวิชา เพราะว่าพลัง
วิญญาณภายในร่างจึงมีโอกาสน้อยที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น ยิ่งไป
กว่านั้นหากเมื่อผู้ฝึกวิชาเข้าถึงเขตอัมพรวิญญาณ เหตุการณ์ที่จะ
เกิดขึ้นแบบนั้นไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นพี่น้องจึงสามารถที่จะเชื่อใจได้
โดยมิจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเด็กของพวกเขาจะพิการ”
“จริงรึ” ซูหยินไม่อยากเชื่อหูตนเอง เมื่อความกลัวที่เลวร้ายที่สุดของ
เธอได้ถูกคลี่คลายออกไป
“นี่เป็นเรื่องไร้สาระประเภทไหนกัน…”
ก่อนที่ซูซุนจะสามารถได้ทันพูด ซูหยางก็พูดต่อว่า “เนื่องมาจากขาด
ผู้ฝึกวิชาในเขตอัมพรวิญญาณในที่แห่งนี้ แน่นอนว่าท่านจึงมิมี
ตัวอย่างให้เห็น”
“ในเมื่อมิมีตัวอย่าง ทำไมเจ้าจึงมั่นใจในคำพูดของตนเองนัก”
ซูหยางยิ้มและกล่าวว่า “เพราะว่าข้ามีประสบการณ์มากกว่าท่านใน
เรื่องของการฝึกฝนและ “เรื่องนั้น”
“เจ้า…”
แม้ว่าเขาไม่ต้องการยอมรับ แต่ในเมื่อซูหยางได้เข้าถึงเขตอัมพร
วิญญาณตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนั้น อีกฝ่ายย่อมมีคุณสมบัติมากกว่าเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการฝึกวิชาคู่
“พี่ชาย นั่นหมายความว่าถ้าข้าเข้าถึงเขตอัมพรวิญญาณ ข้าก็จักสามารถ
ที่จะอุ้มท้องเด็กให้ท่านได้” ซูหยินถามเขาด้วยสายตาคาดหวัง
“เอ๋…เรื่องนั้นเอาไว้วันอื่น” ซูหยางกล่าวกับเธอ
“อย่างไรก็ตามตอนนี้เมื่อความกังวลใจหลัก ๆ ของท่านหมดลงแล้ว
ท่านยังคงมีปัญหาอื่นอีกกับความสัมพันธ์ของพวกเราอยู่หรือไม่” ซู
หยางถามเขาด้วยเสียงเยือกเย็นแจ่มใส ราวกับว่าเขาได้ใช้ประโยคนี้
มาหลายครั้งในชีวิต
“ม-มันมิได้ง่ายดายเช่นนั้น เจ้าคิดบ้างหรือไม่ว่าโลกจักคิดเกี่ยวกับ
เรื่องนี้อย่างไรครั้นเมื่อพวกเขารู้ความจริง” ซูซุนกล่าว
“เช่นนั้นก็มิเป็นไรตราบเท่าที่พวกเขามิพบเจอใช่ไหม” ซูหยินถาม
“นี่…” ซูซุนพูดไม่ออก เขาไม่อาจที่จะหาเรี่ยวแรงมาโต้แย้งกับอีก
ฝ่ายได้อีกและรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขามีทางออกทุกปัญหาที่เขามี
ต่อพวกเขา
หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ ซูซุนก็นวดขมับและกล่าวด้วยเสียงถอน
ใจ “ข้ามิสนอีกแล้ว พวกเจ้าทั้งคู่ล้วนเป็นผู้ใหญ่แล้วตอนนี้ ดังนั้น
เจ้าสามารถทำอะไรก็ได้ที่เจ้าต้องการ”
“จ-จริงรึ” ซูหยินดูอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อ เธอไม่เคยคิดว่าพ่อของเธอจัก
ยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเธอได้จริง ๆ แม้จะผ่านไปนับล้านปี
บ้าไปแล้ว เธอเตรียมตัวที่จะออกจากตระกูลซูถ้าหากว่าเขายังคง
ปฏิเสธ
“อย่างไรก็ตามถ้าข้าได้ยินสักคำเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเจ้า
ภายนอกตระกูล ข้าจักตัดความสัมพันธ์กับพวกเจ้าทั้งคู่ทันที” ซูซุน
กล่าวต่อ
“ข้าได้ออกจากตระกูลไปแล้ว ดังนั้นท่านจึงมิสามารถที่จะตัดความ
สัมพันธ์ข้าได้อีกต่อไป” ซูหยางกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
“หุบปาก ข้ามิต้องการที่จะได้ยินคำพูดอะไรออกมาจากปากเจ้าอีก”
ซูซุนกล่าวก่อนที่จะเดินกระทืบเท้าออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว เมื่อ
เขาไม่ต้องการที่จะให้อีกฝ่ายมีโอกาสได้พูดโต้ตอบอีกต่อไป
“ทุกสิ่งเรียบร้อยดีไหม ผู้อาวุโสซู” โหลวหลานจีถามเขาด้วยหน้าตา
กังวลหลังจากที่เห็นเขาออกมาอย่างเร่งรีบ
“ข้าก็หวังเช่นนั้น” เขาถอนใจและกล่าวต่อว่า “อย่างไรก็ตามข้าต้อง
การที่จะถือโอกาสนี้ขอบคุณอย่างมากที่ดูแลเด็กของข้า เขาต้องเป็น
ตัวปัญหาแน่ใช่ไหม ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าท่านมิรับเขาไว้”
โหลวหลานจีพลันส่ายหน้าและกล่าวว่า “ไม่ ไม่ ไม่ ข้าควรจะเป็น
คนที่ขอบคุณท่าน หากปราศจากซูหยาง นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยคง
มิคงอยู่อีกต่อไปในตอนนี้”
“อย่างไรก็ตามข้ารู้ว่าข้ามิมีฐานะที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุระของตระกูล
ท่าน แต่จริงแล้วก็มิถึงกับเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับพี่น้องที่จะ… ท่าน
คงรู้ เมื่อเป็นผู้นำนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยมาชั่วระยะเวลาหนึ่งถึง
ตอนนี้ ข้าได้เห็นดัวยตนเองที่พี่น้องหลายคู่อยู่ร่วมกัน ดังนั้นข้าจึง
หวังว่าท่านจักให้โอกาสพวกเขา”
แม้ว่าเธอไม่ได้ยินการสนทนาของพวกเขา แต่เมื่อรู้จักตัวตนของซู
หยางและพฤติกรรมของซูหยินเมื่ออยู่ข้างเขา จึงเป็นเรื่องที่แจ่มแจ้ง
เหมือนกลางวันถึงปัญหาของพวกเขาปัจจุบัน
“อย่ากังวล ข้าจักมิเข้าไปยุ่งกับพวกเขาอีกต่อไป” ซูซุนถอนใจด้วยสี
หน้าพ่ายแพ้
“หมายความว่าท่านเห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของพวกเขารึ” โหลว
หลานจีประหลาดใจอยู่บ้าง
“ไม่ แทนที่จะถือว่าเห็นด้วย มันเหมือนกับการยินยอมมากกว่า ข้า
ตระหนักว่าหลังจากการสนทนาเมื่อกี้นี้ ไม่ว่าข้าจะกล่าวอะไรกับ
เธอ ซูหยินก็ยังคงรักพี่ชายเธอ”
“แม้ว่ามันจะฟังดูเหมือนเป็นเรื่องน่าอาย แต่ความรักก็เป็นอย่างนั้น”
โหลวหลานจีกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
“อย่างนั้นรึ… เช่นนั้น โปรดดูแลพวกเขาต่อไปด้วย ข้าจักยังคง
สนับสนุนนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยต่อไป”
“จ-จริงรึ” โหลวหลานจีมองดูเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“ข้าได้ยินว่าสำนักหงส์สวรรค์และนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยร่วมเป็น
พันธมิตรงั้นรึ ตระกูลซูจักสนับสนุนทั้งสองแห่ง นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย
ที่ข้าพอจะสามารถทำได้ในฐานะบิดาของพวกเขา”
“ข-ขอบคุณ ท่านผู้อาวุโสซู” โหลวหลานจีคำนับเขา