dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 432 ทูตชนเผ่ามังกร
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 432 ทูตชนเผ่ามังกร
บทที่ 432 ทูตชนเผ่ามังกร
“ยินดีต้อนรับการกลับมา ท่านแขกผู้ทรงเกียรติ ข้าหวังว่าพวกท่านคง
จะพักผ่อนอย่างสบายใจเมื่อคืนนี้” หนึ่งในชนพื้นเมืองกล่าวทักทาย
พวกเขาที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน
“หือ แล้วหัวหน้าของพวกเจ้าไปไหนล่ะ” ชิวเยว่ถามเธอ
“อือ…” ชนพื้นเมืองพลันแสดงท่าทางกังวลใจ กล่าวว่า “หัวหน้า…
ตอนนี้เธอกำลังพบปะกับทูตจากชนเผ่ามังกรที่มาถึงมินานนัก”
“โอ ชนเผ่ามังกรอยู่ที่นี่รึ มิใช่ว่าพวกนี้เป็นเพื่อนกับชนเผ่าเสือโคร่ง
ที่พยายามโจมตีที่แห่งนี้มินานมานี้” ซูหยางรู้สึกถึงอุบายของการมา
เยี่ยมเยือนโดยเจตนาของอีกฝ่าย
“ข-ข้าก็มิทราบถึงเจตนาการมาเยี่ยมของพวกนั้น” เด็กสาวชนพื้นเมือง
ส่ายหน้า
“อย่างไรก็ตามพวกนั้นได้เข้าไปอยู่ด้านในนานพอสมควรแล้วใน
ตอนนี้ ดังนั้นพวกเขาควรจะออกมาในเร็ว ๆ นี้”
เพียงแค่เด็กสาวชนพื้นเมืองกล่าวเช่นนั้น ชินเหลียงหยูก็เดินออกมา
จากกระท่อมหลังใหญ่ที่สุดหลังหนึ่งด้วยสีหน้าสับสน
เมื่อเธอสังเกตเห็นซูหยางและพวกยืนอยู่ที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน ก็ทำ
ให้เธอยิ้มออกมาได้ในทันที
“ผ-ผู้อาวุโสซู” ชินเหลียงหยูรีบวิ่งไปหาพวกเขา “ท่านมาได้เวลา
ประจวบเหมาะ ชนเผ่ามังกร พวกเขา…”
“พวกนั้นมาอยู่ที่นี่ในตอนนี้ ใช่ไหม” ซูหยางขัด
“ช-ใช่… ถูกต้องแล้ว” ชินเหลียงหยูพยักหน้า “ทูตจากชนเผ่ามังกร
ได้มาถึงมินานมานี้และพวกนั้นได้นำของขวัญบางอย่างมาด้วย”
ชินเหลียงหยูชี้ไปยังยี่สิบร่างที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เกวียนขนาดใหญ่บรรทุก
เนื้อวิญญาณ และพูดต่อไปว่า “คนรับใช้ยี่สิบคน ชายหนุ่มสิบคน
สำหรับใช้งาน และสิบหญิงสาวพรหมจรรย์สำหรับให้นักรบพวกเรา
ได้ตักตวงหาความสุข และสุดท้ายเนื้อวิญญาณอีกห้าร้อยกิโลกรัม”
“…”
ซูหยางหรี่ตาลงเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น
“ช่างขัดใจนัก” เขาพึมพำออกมาในอึดใจถัดมา
“ข-ขอประทานอภัย” ชินเหลียงหยูแสดงสีหน้างงงัน “มีอะไรที่มิ
ถูกใจท่านผู้อาวุโสซูหรือไม่”
“ข้ามิรู้ว่าชนเผ่าที่นี่ดำเนินชีวิตกันอย่างไร แต่การทำกับมนุษย์เหมือน
กับว่าพวกเขาเป็นสัตว์เลี้ยงในทุ่งนั้น… เป็นอะไรที่ข้ามิอยากจะเห็น”
ซูหยางกล่าว
“!!!”
ชินเหลียงหยูเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าทำไมซูหยางจึงไม่ยินดีและเริ่ม
อธิบายในทันที “เมื่อชนเผ่าหนึ่งเอาชนะชนเผ่าอื่น ผู้ชนะจะเอาทุก
สิ่งทุกอย่างที่ต้องการจากผู้แพ้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือว่าผู้คน ผู้แพ้
มิอาจขัดขืนได้ ซึ่งนั่นมักจะนำมาสู่การล้างเผ่าพันธุ์ของตนเอง ใน
กรณีส่วนใหญ่ผู้ชายจักถูกบังคับให้เป็นแรงงานและผู้หญิงจักถูกใช้
เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรของชนเผ่า ซึ่งนี่เป็นไปได้มากที่สุดสำหรับ
สถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้”
แต่อย่างไรก็ตามซูหยางส่ายหน้าและกล่าวว่า “มิใช่ว่าข้ามิเข้าใจ ข้า
เคยไปหลายสถานที่ซึ่งมีวิถีชีวิตรูปแบบคล้ายคลึงกันนี้และข้าก็เป็น
เพียงแค่แขกที่นี่ ดังนั้นเจ้ามิจำเป็นต้องสนใจข้า ข้าเพียงแค่พูด
ออกมาเท่านั้น”
“….”
ชินเหลียงหยูพูดไม่ออก แม้ว่าซูหยางพูดว่าไม่ต้องสนใจเขา เธอก็ไม่
สามารถที่จะยอมให้สิ่งเหล่านี้ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจะทำให้เกิดความไม่
พอใจแก่แขกผู้ทรงเกียรติของพวกเธอเกิดขึ้นได้
สองสามอึดใจจากนั้น ชินเหลียงหยูเรียกหนึ่งในคนของตนเองมา
และกล่าวว่า “คนยี่สิบคนที่ถูกนำตัวมาที่นี่จากชนเผ่ามังกร พวกเขา
ในตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของชนเผ่าหมูป่ าของพวกเรา และมิใช่คนรับ
ใช้แต่เป็นครอบครัว ข้าต้องการให้เจ้าจัดการในตอนนี้เลย”
“เอ๋”
เด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าชินเหลียงหยูงุนงง ทำไมพวกเขาจึงยอมรับ
คนแปลกหน้าพวกนี้ที่ถูกพามาให้พวกเขาจากศัตรูเข้ามาเป็น
ครอบครัว พวกเขาจะได้อะไรจากการทำสิ่งเหล่านั้น
“ข้ามิต้องการที่จะทวนคำสั่ง ไปทำให้สำเร็จ” ชินเหลียงหยูหรี่ตา ทำ
ให้เด็กสาวพลันสั่นสะท้าน
“ด-ได้เจ้าค่ะ หัวหน้าชิน”
ขณะที่เด็กสาวชนพื้นเมืองลนลานจากไป ซูหยางก็พูดขึ้น “ก็เหมือน
กับที่ข้าพูดไว้ เจ้ามิจำเป็นต้องสนใจข้า ข้าเพียงแค่อยู่ที่นี่ในฐานะแขก
เจ้ามิจำเป็นต้องทำสิ่งต่าง ๆ ที่บางทีอาจจะสร้างความไม่สะดวกให้กับ
ทั้งหมู่บ้านเพียงเพื่อข้าคนเดียว”
ชินเหลียงหยูส่ายหน้าและกล่าวว่า “ข้าเข้าใจเรื่องนั้น แต่ในฐานะ
หัวหน้าหมู่บ้าน ข้ามิสามารถที่จะยอมให้แขกของข้ารู้สึกมิสบายใจ
เมื่อพวกเขายังอยู่ในหมู่บ้านของพวกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแขกผู้
ทรงเกียรติอย่างเช่นพวกท่าน”
“อย่างไรก็ตามข้าควรพูดเรื่องนี้ตั้งแต่แรก แต่ทูตของชนเผ่ามังกร….
เขาขอพบกับท่านเทพธิดาเป็นการเฉพาะเจาะจง” เธอพลันกล่าว
ขณะที่มองไปยังชิวเยว่
“หืม ทำไมชนเผ่ามังกรจึงมีธุระกับข้า” ชิวเยว่เลิกคิ้ว
“ข้ามิรู้อะไรไปนอกจากว่าเขาร้องขอพบกับท่าน” ชินเหลียงหยูส่าย
หน้า
ชิวเยว่หันไปมองดูซูหยางซึ่งพยักหน้ารับ
“ก็ดี เรามาดูกันว่าทูตคนนี้ต้องการอะไรจากข้า”
ชินเหลียงหยูจึงนำพวกเขาไปยังกระท่อมที่เธอออกมาเมื่อไม่กี่นาที
ก่อน
ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในกระท่อม ซูหยางก็เห็นคนสองคนกำลังจ้อง
มองพวกเขา
หนึ่งในนั้นเป็นนักรบจากชนเผ่าหมูป่ า เขามีร่างกายกำยำและหน้าตา
ดุร้าย ในขณะที่อีกคนในห้องเป็นชายชราที่มีร่างกายผอมหนังติด
กระดูก แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะดูบอบบางแต่กลิ่นอายที่เขาปลด
ปล่อยออกมานั้นน่าหวาดหวั่นที่เหนือกว่าทุกคนในชนเผ่าหมูป่ า เขา
เป็นจอมยุทธในเขตราชันวิญญาณ
แน่นอนว่าซูหยางสามารถรับรู้ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้แม้กระทั่ง
ก่อนที่เขาจะมาถึงเผ่าหมูป่ า ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจที่เห็นจอมยุทธผู้
นี้ที่นี่
อย่างไรก็ตามที่ทำให้เขารู้สึกว่ามีอุบายก็เพราะความจริงที่ว่าชนเผ่า
มังกรส่งคนที่อยู่ในเขตราชันวิญญาณ ตัวตนที่ถือว่าอยู่ในระดับ
สูงสุดของการฝึกวิชาในโลกนี้ มายังที่แห่งนี้เพื่อเป็นเพียงแค่ทูต
“พวกคนหนุ่มเหล่านี้เป็นใครกัน แม้ว่าพวกเขาจะมีศักยภาพที่น่า
ตระหนก แต่ข้ามาที่นี่วันนี้เพื่อเทพธิดา” ชายชรากล่าวเมื่อเขาเพียง
เห็นซูหยางและถังหลินชีเข้ามาภายในห้อง
“สองคนนี้มาด้วยกันกับข้า เจ้ามีปัญหาอะไรเรื่องนี้รึ” ชิวเยว่กล่าว
ขณะที่เธอเข้ามาในห้องเป็นคนสุดท้าย
“ท-ท่านคือ”
ชายชราดวงตาเบิกกว้างด้วยความตระหนกเมื่อเขาเห็นชิวเยว่ แม้ว่า
มันจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายร้อยปีก่อน นั่นก็ทำให้เขาใช้เวลาเหลือบ
มองแวบเดียวไปยังความสวยและรัศมีพ้นโลกของเธอในการที่ทำให้
เขามั่นใจว่าเธอเป็นเทพธิดาคนเดียวกันกับที่เขาเคยเห็นด้วยตนเอง
ว่าได้สังหารมหาวิบัติเมื่อพันปีก่อน