dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 438 ชนเผ่าหิ่งห้อย
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 438 ชนเผ่าหิ่งห้อย
บทที่ 438 ชนเผ่าหิ่งห้อย
หนึ่งร้อยกิโลเมตรห่างออกไปจากชนเผ่าหมูป่ าเป็นที่ตั้งของชนเผ่า
หิ่งห้อย
เปรียบเทียบกับประชากรจำนวนมากของชนเผ่าหมูป่า หมู่บ้านของ
ชนเผ่าหิ่งห้อยถือว่าเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กที่มีขนาดพื้นที่ไม่กี่พัน
ตารางเมตรและมีจำนวนประชากรไม่ถึงหนึ่งร้อยคนในหมู่บ้าน
และพวกเขาจัดอยู่ในลำดับที่ 364 ในกลุ่มชนเผ่าขนาดเล็กในทวีปใต้
“หัวหน้าชิน อะไรที่ชักนำหัวหน้าของชนเผ่าหมูป่ามาเยี่ยมสถานที่
ซอมซ่อแห่งนี้”
ชายวัยกลางคนที่อยู่ในระดับสูงสุดของเขตปฐพีวิญญาณต้อนรับ
พวกเขาที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน
“สวัสดีหัวหน้าหลี่ นับเป็นเวลาพักใหญ่แล้วที่พวกเราได้พบกันเป็น
ครั้งสุดท้าย ข้ามีแขกผู้ทรงเกียรติมากับข้าด้วยในวันนี้ซึ่งพวกเขา
ต้องการที่จะรู้เรื่องกระจกนิลกาฬให้มากกว่าเดิม แต่ชนเผ่าหมูป่า
ของข้ามิสามารถที่จะจัดหาข้อมูลเหล่านั้นให้ได้ ดังนั้นพวกเราจึงมา
ที่นี่หวังว่าชนเผ่าหิ่งห้อยจะสามารถช่วยเหลือพวกเราได้” หัวหน้า
ชินกล่าวกับเขาด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
“แขกผู้ทรงเกียรติรึ…”
หัวหน้าหลี่มองดูชายหนุ่มที่หล่อเหลาถึงที่สุดและหญิงสาวสวยที่ยืน
อยู่ด้านหลังหัวหน้าชิน และนั่นใช้เวลาเขาเพียงแค่ชายตามองครั้ง
เดียวก็รู้ถึงสง่าราศีและความภาคภูมิใจในกลิ่นอายที่แปลกแยก
ออกไปจากพวกเขาราวกับว่าเขากำลังมองไปยังเชื้อพระวงศ์
“พวกเรามิอยู่ที่นี่นานนัก ดังนั้นเจ้ามิต้องกังวลในเรื่องถูกรบกวน”
ซูหยางพูดกับเขาด้วยรอยยิ้ม
“ไร้สาระ มิมีทางที่พวกเราจักถูกรบกวนด้วยแขกผู้ทรงเกียรติของ
ชนเผ่าหมูป่า ต้องนับเป็นเกียรติที่มีท่านมาที่นี่ที่ชนเผ่าหิ่งห้อย แม้ว่า
ท่านประสงค์ที่จะอยู่ที่นี่ตลอดไป พวกเราก็มิมีข้อติติงใด ๆ ทั้งสิ้น
ฮ่าฮ่าฮ่า” หัวหน้าหลี่กล่าวพร้อมกับเสียงหัวเราะ
ชนเผ่าหมูป่าเป็นอันดับสามในสิบแปดชนเผ่าหลักในขณะที่ชนเผ่า
หิ่งห้อยของพวกเขาอยู่เพียงแค่อันดับที่ 364 ถึงแม้ว่าจะเป็นคนรับใช้
จากชนเผ่าหมูป่ามา ชนเผ่าหิ่งห้อยก็จะต้องปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนกับ
ว่าพวกเขาเป็นแขกผู้ทรงเกียรติ อย่าว่าแต่หัวหน้าเผ่าหมูป่ าและคนที่
ถือว่าเป็น “แขกผู้ทรงเกียรติ”
“โปรดติดตามข้าไปยังห้องสมุด ม้วนคัมภีร์ทั้งหมดของเราถูกเก็บอยู่
ที่นั่น”
หัวหน้าหลี่จึงพาพวกเขาสามคนไปยังกระท่อมหลังหนึ่ง
“คนที่อยู่เบื้องหลังหัวหน้าชินเป็นใครกัน”
“ผิวของพวกเขาช่างเนียนเรียบและขาว… ข้ามิเคยเห็นอะไรแบบนี้
มาก่อน…”
ยามเมื่อซูหยางและถังหลินชีเข้าไปในหมู่บ้านชนเผ่าหิ่งห้อย รูปลักษณ์
และความสวยที่พิเศษเฉพาะของพวกเขาได้สร้างความสนใจให้กับ
ผู้คนที่นั่น ราวกับว่าพวกเขาได้มองเห็นดวงจันทร์เป็นครั้งแรก
ผู้ชายในหมู่บ้านจ้องใบหน้าสวยและรูปร่างที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของ
ถังหลินชี ในขณะที่หญิงสาวที่นั่นจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาและ
กลิ่นอายที่มีเสน่ห์ของซูหยาง รู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาหลงเสน่ห์
ของรูปร่างหน้าตาและกลิ่นอายของพวกเขา
“แม้ว่ามันจะค่อนข้างเล็กไปบ้าง แต่นี่ก็เป็นห้องสมุดซอมซ่อของพวก
เรา โปรดใช้เวลาของท่านตามที่ต้องการได้ภายในนี้” หัวหน้าหลี่
กล่าวกับพวกเขา
“ขอบคุณ” ซูหยางกล่าวกับเขาก่อนที่จะเข้าไปในกระท่อมกับถัง
หลินชี
หลังจากที่พวกเขาไปแล้วหัวหน้าหลี่ก็เข้าไปหาหัวหน้าชินและ
กล่าวว่า “หัวหน้าชิน ข้าสามารถถามอะไรท่านสักอย่างได้หรือไม่”
“อะไรรึ” เธอเลิกคิ้ว
“เป็นความจริงรึที่เทพธิดาจากตำนานได้กลับคืนมายังทวีปใต้ คนที่
ถือว่าได้ฆ่ามหาพิบัติ ข้ายังคงได้ยินมาว่าเธออยู่ที่ชนเผ่าหมูป่ าอีก
ด้วย”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา หัวหน้าชินก็เชิดอกด้วยท่าทางภูมิใจและยิ้ม
“ใช่แล้วท่านเทพธิดาได้อยู่กับพวกเรามามินานมานี้ แต่ว่าเจ้ารู้ได้
อย่างไร เธอเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน”
“คำพูดเดินทางได้รวดเร็วเมื่อมันเกี่ยวข้องกับชนเผ่าสิงโตอยู่แล้ว”
หัวหน้าหลี่ถอนใจ “ข้าดีใจที่ชนเผ่าหมูป่ ายังมิได้ก้มหัวให้กับความ
โลภของพวกนั้น พวกนั้นได้ออกอาละวาดเมื่อไม่นานมานี้ โจมตีชน
เผ่าอื่น ๆ เกือบทุกวัน”
“พวกนั้นเป็นกลุ่มที่มีความทะเยอทะยานมาโดยตลอด แต่ว่าพวกนั้น
มิเคยทำเกินเลยไป แต่ทว่านับตั้งแต่พวกนั้นได้เป็นเพื่อนกับชนเผ่า
มังกร พวกนั้นก็หมดความยับยั้งชั่งใจ เหมือนกับกลุ่มโจรป่ า”
หัวหน้าหลี่กล่าวต่อว่า “หัวหน้าชินท่านคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่ท่าน
จักขอร้องท่านเทพธิดาให้ช่วยพวกเราจัดการกับชนเผ่าสิงโต หาก
เป็นเช่นนี้ต่อไปข้าเกรงว่าจักมีชนเผ่าอีกมากที่จักถูกทำลายภายใต้
เงื้อมมือของพวกนั้น”
“…”
ชินเหลียงหยูไม่ได้ตอบกลับในทันใดแต่เงียบไป
อึดใจถัดไปเธอก็พูดขึ้นว่า “เป็นความจริงที่ชนเผ่าสิงโตได้ทำเกินไป
ในระยะหลังนี้ แต่ข้ามิคิดว่าจะเป็นเรื่องดีที่จะไปให้ท่านเทพธิดามา
มีส่วนร่วมกับเรื่องทางโลกของพวกเรา นี่ก็เหมือนกับขอร้องให้ช้าง
ช่วยตอกไข่ให้กับพวกเรา”
“อืมม… ข้าเข้าใจดีว่าหัวหน้าชินนั้นเป็นมาอย่างไร แต่ชนเผ่าสิงโต
นั้นเกือบหยุดมิได้แล้วในตอนนี้ นอกจากว่าทุกชนเผ่ามาร่วมมือกัน
จัดการกับพวกนั้น พวกเราคงมิสามารถเอาชนะพวกนั้นได้ และท่าน
ควรรู้ว่านี่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากแค่ไหน”
“ข้ารู้… แต่ว่ายัง… ข้ามิอาจขอร้องท่านเทพธิดาให้ช่วยสนับสนุน
แบบนี้ได้ ซึ่งนั่นมีโอกาสที่เธออาจจะมิต้องการที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับ
เรื่องราวทางโลกประเภทนี้ด้วยเช่นกัน พวกเรามิอาจจะล่วงเกินเธอ
ได้”
หลังจากที่เงียบอย่างอึดอัดไปชั่วอึดใจ หัวหน้าหลี่ก็พูดขึ้นว่า “แล้ว
ถ้าเป็นสองคนที่อยู่ภายในห้องสมุดล่ะ ข้าสามารถรู้สึกได้ถึงกลิ่น
อายอันยากหยั่งถึงจากพวกเขา พวกเขาต้องมีกองหนุนที่แข็งแกร่ง
จะเป็นอย่างไรถ้าพวกเราขอร้องให้พวกเขาช่วยเหลือเรา แน่นอนว่า
พวกเรามิขอร้องให้พวกเขาช่วยโดยมิมีค่าตอบแทน”
“นั่น…” ชินเหลียงหยูขมวดคิ้ว
แม้ว่าการเข้าไปหาซูหยางเพื่อให้ช่วยนั้นจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการ
เข้าไปหาเทพธิดาอย่างแน่นอน แต่เธอก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องสำหรับ
พวกเขาในการขอร้องให้ช่วยในขณะที่พวกเขาเพิ่งพบกันไม่กี่ครั้ง
อย่างไรก็ตามพวกเขาย่อมไม่สามารถที่จะหยุดความบ้าคลั่งของชน
เผ่าสิงโตถ้าพวกเขาไม่ร้องขอความช่วยเหลือ ในเมื่อมันย่อมเป็นไป
ไม่ได้สำหรับชนเผ่าที่จะมารวมตัวกันถึงด้วยว่าพวกเขาอาจจะพินาศ
ไปเพราะว่าความดูถูกเหยียดหยามซึ่งกันและกัน
“ตกลง… ข้าจักถามพวกเขาทีหลัง” ชินเหลียงหยูพยักหน้าหลังจากที่
พิจารณาเรื่องนี้ชั่วระยะหนึ่ง
“นั่นยอดเยี่ยมมาก เช่นนั้นข้าจักปล่อยทุกอย่างไว้ที่ท่าน หัวหน้าชิน
และถ้าท่านต้องการความช่วยเหลืออะไร ท่านสามารถตรงมาที่ชน
เผ่าหิ่งห้อยได้ แม้ว่าพวกเราอาจจะมิสามารถทำอะไรได้มากนัก พวก
เราก็จักทำทุกสิ่งตามอำนาจที่พวกเรามีในการหยุดยั้งชนเผ่าสิงโต
จากการกดขี่”